Alchemy Emperor of the Divine Dao 1363

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1363 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันเก็บอุปกรณ์มิติจากร่างของปรมาจารย์ทั้งแปดก่อนที่จะจากไปโดยไม่สำรวจของภายในแม้แต่น้อย

การที่เขาสังหารจอมยุทธระดับดาราทั้งแปดนี้จะต้องก่อให้เกิดคลื่นความโกลาหลครั้งใหญ่ในเมืองวายุผสานแน่นอน คติของหลิงฮันนั้นง่ายมาก หากใครต้องการสังหารเขา เขาก็จะสังหารกลับโดยไม่พล่ามอะไรให้เสียเวลา

เวลาผ่านไปไม่กี่วันหลิงฮันก็มาถึงเมืองต้าหยิง

อุปกรณ์มิติที่ได้มาจากปรมาจารย์ระดับดาราทั้งแปดนั้นมั่งคั่งเป็นอย่างมาก รวมๆกันแล้วเขาได้ผลึกก่อเกิดมาราวๆสองถึงสามล้านผลึก หลิงฮันรู้สึกพึงพอใจ จากขโมยแย่งชิงเป็นหนทางหาเงินที่รวดเร็วที่สุดจริงๆ

เขานำคนอื่นๆออกมาจากหอคอยทมิฬ หลังจากหมดธุระที่นี่แล้วพวกเขาถึงจะกลับดาวเหอหนิง

ยิ่งระดับพลังของหลิงฮันสูงขึ้น เขาก็ยิ่งไม่หวาดกลัวที่จะเปิดเผยว่าเขามีอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ แต่นั่นก็ในกรณีที่ความสามารถของหอคอยทมิฬไม่ถูกเปิดเผย ไม่งั้นแม้แต่ขุมอำนาจจากดินแดนแห่งเซียนก็คงเคลื่อนไหว

หลิงฮันมุ่งหน้าไปยังตำหนักเป่าหลิน เขาสัญญากับหานซินเหยียนไว้ว่าจะสอนนางหลอมเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งให้สำเร็จ ตอนนี้เวลาผ่านไปสิบปีแล้วไม่รู้ว่านางเรียนรู้ไปถึงไหนแล้ว

อย่ามองว่าเวลาสิบปีเป็นเวลาที่ยาว เม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดไม่ได้จะหลอมสำเร็จด้วยเวลาเพียงเท่านี้

แม้แต่หลิงฮันที่มีต้นสังสารวัฏก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน หากเป็นโลกภายนอกแม้จะไม่ถึงร้อยปีก็คงเป็นหลักสิบปี

หลิงฮันเป็นถึงจักรพรรดิปรุงยา ขนาดเขายังใช้เวลามากขนาดนั้นไม่ต้องกล่าวถึงคนอื่นเลย

เวลาสิบปีสำหรับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่นับว่านานอะไร ผู้คนส่วนใหญ่มีอายุขัยที่ยาวนาน เวลาเพียงเท่านี้ไม่ได้ทำให้ผมหงอกงอกขึ้นบนหัวพวกเขาด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อหลิงฮันมาถึงตำหนักเป่าหลิน ใครบางคนก็จำเขาได้ทันที

“ปรมาจารย์หลิง!” ใครบางคนอุทานออกมา หลิงฮันโค่นล้มนักปรุงยามากฝีมือทุกคนของตำหนักเป่าหลินได้ ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้รับความเคารพจากทุกคน

หลิงฮันพยักหน้า เขาเดินผ่านหน้าตำหนักเข้าไปหาหลินอวีฉีที่สวนขนาดย่อม

สตรีผู้นี้ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวน นางกวาดสายตามองหลิงฮันและแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาอย่างปิดไม่มิด “สิบปีก่อน เจ้ายังเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้นแท้ๆ!”

“แต่ตอนนี้เจ้ากลับบรรลุระดับดาราแล้ว!”

“ข้ารู้” หลิงฮันพยักหน้า ตัวเขาย่อมรู้ระดับพลังของตนเองดีกว่าใคร

และเนื่องจากบรรลุระดับดาราแล้วทำให้หลิงฮันสามารถมองเห็นพลังบ่มเพาะของหลินอวีฉี… นางเองก็เป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นต้น

หลินอวีฉีกลายเป็นไร้คำพูด นางใช้เวลาสักพักกว่าจะลบสีหน้าตกตะลึงออกจากใบหน้าได้และกลับมามีท่าทียั่วยวนดังเดิม นางจงใจเขยิบเข้ามาใกล้เพื่อให้หลิงฮันได้กลิ่นหอมจากเรือนร่างของนาง

“หนุ่มน้อยรูปหล่อ บอกพี่สาวหน่อยสิว่าทำอย่างไรเจ้าถึงบรรลุระดับดาราได้เร็วเพียงนี้?”

หลิงฮันก้าวถอนหลังและกล่าว “เจ้าก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่รึว่าข้าหลอมเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งได้?”

“ฮึ่ม คิดว่าพี่สาวคนนี้หลอกง่ายเช่นนั้น?” หลินอวีฉีเค้นเสียง “เม็ดยาปราณโลหิตคลั่งแต่ละเม็ดต้องเว้นระยะกินอย่างน้อยสามปี ถ้ากินติดต่อกันเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นยาพิษ ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าว่าสิบปีที่ผ่านมาเจ้ากินเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งไปกี่เม็ดกัน?”

แม้คนอื่นจะไม่สามารถก็ใช่ว่าเขาจะทำไม่ได้ หอคอยทมิฬเป็นสมบัติของดินแดนแห่งเซียน ฮูหนิวสามารถบรรลุระดับเซียนได้ในระยะเวลาห้าปี ตัวเขานั้นนับว่าช้ามากแล้ว

หลิงยิ้มโดยไม่กล่าวอะไร นี่คือความลับของเขา แน่นอนว่าไม่มีความจำเป็นต้องบอกคนนอก

“เหอะ คิดว่าพี่สาวเป็นคนนอกเลยไม่พูดอะไรงั้นรึ?” หลินอวีฉีมีน้ำโห สิบปีที่ผ่านมาหลิงฮันไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย เขายังคงไม่สนใจเสน่ห์ของนาง

“เช่นนั้น… เปลี่ยนพี่สาวจากคนนอกเป็นผู้หญิงของเจ้าหน่อยเป็นไง?” นางพ่นลมหายใจอันอ่อนหวานยั่วยวน

“ได้อยู่แล้ว” หลิงฮันยิ้ม ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการหยอกล้อเขาก็จะเล่นด้วย “เช่นนั้นเจ้าก็เป็นภรรยาคนที่สิบเก้าของข้า!”

“ฮึ่ม!” หลินอวีฉีรีบหันหลันด้วยท่าทางฉุนเฉียว นางชื่นชอบการเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น เป็นธรรมดาที่จะไม่สบอารมณ์เมื่อหลิงฮันหยอกล้อนาง

หลิงฮันเมินเฉยและกล่าว “หานซินเหยียนหลอมเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งสำเร็จรึยัง?”

“ยัง” หลินอวีฉีส่ายหัวและแสดงสีหน้าผิดหวัง แต่ทันใดนั้นเองแววตาของนางก็ส่องประกายและกล่าว “จริงสิพ่อรูปหล่อ เจ้าอยากพบเจอวาสนาล้ำค่ารึไม่?”

“วาสนาอันใด?” หลิงฮันไม่ได้แสดงท่าทางปฏิเสธหรือตกลง

“ในเมื่อเจ้าเองก็เป็นนักปรุงยา เจ้าต้องสนใจแน่” หลินอวีฉีกล่าวด้วยความมั่นใจ นางแน่นิ่งชั่วขณะก่อนจะกล่าว “ตำหนักเป่าหลินถูกปกครองด้วยตระกูลใหญ่สี่ตระกูลซึ่งก็คือตระกูลหลิน ตระกูลซือ ตระกูลหานและตระกูลหวง ทั้งสี่ตระกูลล้วนแต่ทะเยอทะยานที่จะเอาชนะซึ่งกันและกัน”

“ตำหนักเป่าหลินคือขุมอำนาจแห่งการปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเขตดวงดาวแสงคงกระพัน และเพราะเหตุนั้น…”

นางหยุดพูดและมองท่าทีของหลิงฮัน “พวกเราจึงครอบครองดินแดนลี้ลับโบราณที่สามารถเก็บเกี่ยวเม็ดยาหรือสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ แต่ดินแดนลี้ลับแห่งนี้จะเปิดออกทุกๆแสนปีและจำนวนคนที่เข้าไปได้ก็มีจำกัด”

“แต่ละตระกูลจะได้รับสิทธิ์เข้าเขตแดนกี่สิทธิ์นั้นแตกต่างกันออกไปซึ่งจะตัดสินกันด้วยการแข่งขัน”

“เพียงแต่ว่าการเข้าเขตแดนลี้ลับแห่งนี้มีข้อจำกัดในด้านอายุคืออายุขัยที่แท้จริงห้ามเกินหนึ่งล้านปี คนที่มีคุณสมบัตินี้เท่านั้นถึงจะสามารถลงแข่งขันเพื่อตัดสินว่าตระกูลใดจะได้สิทธิ์เข้าร่วมกี่สิทธิ์”

“แม้หานซินเหยียนจะแซ่หาน แต่นางเติบโตในตระกูลหลิน ทางตระกูลหลินจึงคาดหวังกับนางเอาไว้สูงมาก แต่การที่นางยังไม่สามารถหลอมเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งได้สำเร็จเกรงว่าในการแข่งขันคงยากที่จะทำผลลัพธ์ได้ดี”

“หากเข้าลงแข่งขันเพื่อตระกูลหลินของข้าและติดสิบอันดับแรก ข้าจะมอบสิทธิ์การเข้าเขตแดนลี้ลับโบราณให้เจ้า ไม่ว่าเม็ดยาหรือสมุนไพรอะไรที่เจ้าพบจะเป็นของเจ้าทั้งสิ้น เจ้าคิดว่าไง?”

หลิงฮันไม่ตอบตกลงในทันทีทันใดและเอ่ยถาม “เขตแดนลี้ลับที่ว่าจะเปิดออกเมื่อใด?”

“หนึ่งปีกว่าๆ”

“ก็ได้ ข้าตกลง!” หลิงฮันพยักหน้า

หลินอวีฉียิ้มและกล่าว “เจ้าเป็นคนฉลาด พี่สาวคนนี้รู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องตกลง หลังจากนี้อีกครึ่งปีพวกเราจะออกเดินทางไปยังสาขาหลักของตำหนักเป่าหลิน เตรียมตัวให้พร้อมด้วยล่ะ”

“อืม” หลิงฮันพยักหน้า

“เจ้าไปดูหานซินเหยียนด้วย หากนางสามารถพัฒนาความสามารถได้พวกเราก็จะสิทธิ์เข้าร่วมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้แล้วพรุ่งนี้เจ้ากลับมาหาข้าที่นี่ด้วย พี่สาวจะทดสอบเจ้าเสียหน่อย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด