Alchemy Emperor of the Divine Dao 1415

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1415 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิโจ้วเทียนเกรี้ยวกราด ตั้งแต่เกิดมาเขาเคยโดนดูถูกขนาดนี้ด้วย?

“รนหาที่ตาย!” เขาพยายามระงับความโกรธ ‘ครืนน’ ออร่าที่ปลดปล่อยออกมาจากทั่วร่างของเขาเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเพลิงที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศก่อนจะค่อยปรากฏเป็นรูปร่างของสัตว์อสูรที่มีทั้ง มังกรเพลิง วิหคเพลิงและกิเลนเพลิง

“เข้ามา!” หลิงฮันกวัดมือท้าทาย “เชื่อหรือไม่ว่าหากข้ามีเวลาสักหนึ่งพันปี ข้าจะบดขยี้เจ้าได้อย่างราบคาบ! แต่ต่อให้ไม่ต้องรอนานขนาดนั้น แค่ภรรยาของข้ากลับออกมานางก็สามารถสังหารเจ้าได้อย่างง่ายดาย”

“ฮึ่ม!” จักรพรรดิโจ้วเทียนลงมือ

การโจมตีนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา จักรพรรดิโจ้วเทียนไม่ได้เป็นเพียงจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุดชั้นสูงสุด แต่ยังเป็นถึงอัจฉริยะสี่ดาว และด้วยสถานะผู้นำแห่งจักรวรรดิ หากจักรวรรดิไม่ล่มสลายและร่างกายของเขาสามารถรับไหว เขาจะสามารถดึงอำนาจแห่งจักรภพมาใช้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

ด้วยอำนาจแห่งจักรภพพลังต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกสองดาวจากสี่!

หลิงฮันจะต้านทานพลังโจมตีที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้ไหว?

ต่อให้หลิงฮันใช้อำนาจของAnchorกาลเวลาแปรผันพันปี ร่างของเขาก็ยังถูกซัดจนกระเด็นไปกระแทกกับประตูหิน ร่างของเขาปรากฏบาดแผลนับไม่ถ้วนจนร่างถูกย้อมไปด้วยโลหิต

“พลังเพียงเท่านี้ยังกล้าคิดชั่วร้ายกับภรรยาของข้า? ระยะเวลาหลายล้านปีที่เจ้าบ่มเพาะพลังมาทำให้เจ้าแข็งแกร่งได้เพียงเท่านี้?” หลิงฮันยังคงสบถคำด่าออกไปไม่หยุด

แม้จักรพรรดิโจ้วเทียนจะโมโหแต่เขาก็ยังตกตะลึง หลิงฮันเป็นเพียงระดับดาราขั้นกลางเท่านั้นแต่กลับแข็งแกร่งขนาดนี้ หากมีเวลาอีกสักหน่อย หลิงฮันไม่จำเป็นต้องบรรลุระดับระดับดาราขั้นสูงสุด ขอแค่อีกฝ่ายบรรลุระดับดาราขั้นสูงได้ เกรงว่าในหมู่จอมยุทธระดับดาราด้วยกันก็คงไม่มีใครสามารถสังหารเขาได้แล้ว

รุ่นเยาว์ผู้นี้… ไม่อาจปล่อยให้มีชีวิตอยู่ต่อไป!

“ฮ่าๆ ขอข้าร่วมวงด้วย!” จักรพรรดิปี้ลั่วหัวเราะและปล่อยหมัดออกไปในเวลาเดียวกัน มังกรวารีปรากฏออกมาจากคลื่นหมัดและพุ่งทะยานเข้าใส่หลิงฮันทันที

‘ครืนนน’ เสียงของคลื่นวารีดังก้องไปนภา พลังของมันน่าสะพรึงกลัวมาก

จักรพรรดิทั้งสองร่วมมือกันเพียงเพื่อต้องการกำจัดรุ่นเยาว์เพียงคนเดียว?

ช่างไร้ยางอายนัก!

แต่ใครจะกล้าพูดอะไร? ด้วยสถานะของพวกเขา จำเป็นด้วยรึที่ต้องเก็บความคิดของผู้อื่นมาใส่ใจ? อย่าแต่ร่วมมือกันกำจัดจอมยุทธระดับดารากันกลางเลย หากพวกเขาร่วมมือกันกำจัดจอมยุทธระดับภูผาวารี ใครจะตำหนิอะไรพวกเขา?

แล้วทีนี้หลิงฮันจะต้านไหวรึไม่?

หลิงฮันนำเม็ดยาเพลิงลอยล่องจำนวนมากออกมา ‘พรึบ พรึบ พรึบ’ เขาสะบัดมือโยนเม็ดยาใส่การโจมตีที่พุ่งเข้ามา

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

เสียงระเบิดดังก้องกังวานอย่างต่อเนื่อง ทุกๆคนหวาดกลัวจนขาสั่น พลังทำลายเช่นนี้ไม่ได้อยู่ในระดับดาราขั้นกลางอีกต่อไป คลื่นระเบิดนับร้อยซ้อนทับกันจนพลังทำลายล้างทะยานขึ้นสูงเสียดฟ้า

หลิงฮันใช้กาลเวลาแปรผันพันปีอีกครั้งและสลายพลังโจมตีของจักรพรรดิทั้งสองได้ในที่สุด

หลังจากได้เห็นพลังทำลายที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างอ้าปากค้างไม่หุบ ต่อให้พวกเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับดารา สิ่งที่พวกเขาเห็นก็น่าตกตะลึงเกินไป

จักรพรรดิทั้งสองร่วมมือโจมตีพร้อมกันก็ยังล้มเพลวในการกำจัดหลิงฮัน การโจมตีของทั้งสองถูกสลายไปอย่างสมบูรณ์!

ไม่ว่าหลิงฮันจะใช้พลังจากสิ่งนอกกายหรือไม่ก็ตาม ทั่วทั้งดาวเหอหนิงดวงนี้ จักรพรรดิโจ้วเทียนกับจักรพรรดิปี้ลั่วนั้นถือว่าเป็นตัวตนอันไร้เทียมทาน เมื่อการโจมตีผสานของทั้งสองไร้ผล การต่อสู้นี้จึงทำให้ชื่อเสียงของหลิงฮันน่าเกรงขามขึ้นไปอีก

น่าเสียดายเหลือเกินที่รุ่นเยาว์อัจฉริยะเช่นนี้จะต้องมีชะตากรรมตกตายอยู่ที่นี่

“ฮึ่ม มาดูกันว่าเจ้าจะมีสมบัติแบบนั้นอยู่มากเพียงใด?” จักรพรรดิปี้ลั่วแสยะยิ้ม

“อย่างน้อยก็มากพอที่จะทำให้เจ้ากลับบ้านเก่า!” หลิงฮันสะบัดมือ เม็ดยาเพลิงลอยล่องจำนวนมากปรากฏขึ้นในมือของเขาอีกครั้ง

อะไรกัน!

จิตใจของจักรพรรดิทั้งสองสั่นสะท้าน เป็นไปได้อย่างไรที่สมบัติอันทรงพลังขนาดนั้นจะมีอยู่จำนวนมาก? นี่เจ้าไปลักลอบขโมยสมบัติมาจากสุสานของตัวตนระดับวารีนิรันดร์รึเปล่า?

แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางรู้ว่านอกจากหลิงฮันจะเป็นจักรพรรดิปรุงยาแล้ว เขายังนำต้นผลเพลิงระเบิดมาปลูกเอาไว้ในหอคอยทมิฬทำให้เขาสามารถหลอมเม็ดยาเพลิงลอยล่องขึ้นมาได้จำนวนมากจนน่าอัศจรรย์

“ทุกคนลงมือ ต้องทำให้เขาใช้สมบัติทั้งหมดออกมาให้เร็วที่สุด!” จักรพรรดิโจ้วเทียนกวาดมือออกคำสั่ง ปรมาจารย์ระดับดาราทั้งหมดก็เตรียมพร้อมตั้งท่าโจมตีทันที

จักรพรรดิปี้ลั่วเองก็ออกคำสั่งแบบเดียวกัน สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือสังหารหลิงฮันแล้วค่อยทำลายประตูหินไปกำราบจักรพรรดินีแห่งดารา

รวมๆแล้วฝั่งพวกเขามีจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุดเก้าคน ระดับดาราขั้นสูงสิบเก้าคน ส่วนจอมยุทธระดับดาราขั้นกลางนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไปเนื่องจากจำนวนเหลือไม่เพียงพอ ยิ่งกว่านั้นจอมยุทธระดับดาราขั้นกลางก็มีพลังไม่เพียงพอจะทำให้หลิงฮันบาดเจ็บด้วย

หลิงฮันหายใจลึก ด้วยการร่วมมือกันของปรมาจารย์จำนวนมากเช่นนี้ เม็ดยาเพลิงลอยล่องคงไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่เท่าไหร่

“พวกเจ้ากำลังบังคับให้ข้าทางเลือกสุดท้าย?” หลิงฮันกล่าวด้วยเสียงบางเบา

“จัดการ!”

จอมยุทธของทั้งสองจักรวรรดิลงมือจู่โจม ด้วยการร่วมมือกันของปรมาจารย์จำนวนมากเช่นนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวหลิงฮัน

“ฮึ่ม พวกเจ้าแต่ละคนอย่าร้องไห้ทีหลังแล้วกัน!” หลิงฮันยกมือขวาขึ้นและโยนร่างของใครบางคนออกมา

“ข้าจะสั่งสอนเจ้า!” ร่างที่ถูกโยนออกมาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซียนหวู่เซียงที่กำลังเกรี้ยวกราด อีกไม่นานเขาก็จะทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราได้อยู่แล้วแต่กลับถูกโยนออกมานอกหอคอยทมิฬกะทันหัน

แต่ทันใดนั้นเองปากของเขาก็ต้องกระตุก

เจ้าหนูคนนี้เป็นดวงดาวแห่งหายนะโดยแท้จริง นี่เจ้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาใดอีกแล้ว?

หากเป็นในชีวิตก่อนเขาคงไม่แยแสจอมยุทธระดับดารามาอยู่ในสายตา แต่ตอนนี้พลังของเขาทำได้เพียงข่มขู่เท่านั้น! หากต้องสู้จริงๆเขาคงหนีไม่พ้นความตาย

“รนหาที่ตาย!” แต่ถึงอย่างนั้นเซียนหวู่เซียงก็ยังเค้นเสียงคำราม ออร่าของตัวตนระดับสร้างสรรพสิ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายเขา

อะไรกัน!

เหล่าปรมาจารย์ระดับดารายั้งมือทันที ใบหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นถึงความตะลึงเนื่องจากออร่าของอีกฝ่าย… แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาจะที่พวกเขาจะจินตนาการ หากอีกฝ่ายคิดจะลงมือโจมตี พวกเขาคงไม่ทางต้านทานได้แม้เพียงเสี้ยววินาที

ระดับวารีนิรันดร์ ต้องเป็นปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ไม่ผิดแน่

พริบตาเดียวทุกคนก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวและไม่สังเกตเลยว่าเซียนหวู่เซียงนั้นแข็งแกร่งเพียงเปลือกนอก

“คารวะผู้อาวุโส!” ไม่ว่าจะจักรพรรดิโจ้วเทียนหรือจักรพรรดิปี้ลั่ว ทุกคนล้วนแสดงท่าทียำเกรง ออร่าของอีกฝ่ายนั้นเป็นระดับที่อยู่เหนือระดับดาราแน่นอน

เซียนหวู่เซียงทำสีหน้านิ่งเฉยและกล่าว “รุ่นเยาว์ผู้นี้มีความเกี่ยวข้องกับข้า พวกเจ้าคิดจะสร้างปัญหาให้แก้เขา?”

ทุกคนชะงักแน่นิ่ง ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมพลังบ่มเพาะของหลิงฮันถึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ที่แท้เขาก็มีปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์คอยชี้แนะอยู่นี้เอง พวกเขาทุกคนต่างรู้สึกอิจฉาริษยา หากพวกเขามีปรมาจารย์เช่นนั้นอยู่เบื้องหลังบ้างล่ะก็…

แต่หากหลิงฮันมีปรมาจารย์เช่นนี้คอยหนุนหลังอยู่ ทำไมหลิงฮันต้องมัวเสียเวลาต่อสู้กับพวกเขาอยู่นานสองนาน?

ทั้งจักรพรรดิโจ้วเทียนและจักรพรรดิปี้ลั่วขมวดคิ้วพร้อมกัน เมื่อครู่พวกเขาหวาดกลัวต่อออร่าของเซียนหวู่เซียง แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่ามีบ้างอย่างไม่ถูกต้อง

เพียงแต่ว่าออร่าของปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขานั้นทรงพลังเกินกว่าจะจินตนาการ

แม้จะสงสัยทั้งสองคนก็ไม่กล้าโจมตี

แต่ที่พวกเขาสงสัยก็ไม่ได้ผิด ตัวตนระดับสุริยันจันทรานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ต่อให้พวกเขาเป็นผู้นำจักรวรรดิอีกฝ่ายก็สามารถสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ

“ผู้อาวุโสโปรดเมตตา!” จักรพรรดิโจ้วเทียนกล่าวในขณะที่กำลังสังเกตเซียนหวู่เวียง

พวกเขาบุกรุกมาจนถึงจุดนี้แล้ว เซียนหวู่เซียงกลับยังไม่สังหารพวกเขาแต่เลือกที่จะกล่าวข่มขู่แทน นี่มันจะไม่น่าสงสัยรึไง?

จอมยุทธที่ใจกว้างขนาดนั้นจะมีอยู่ได้อย่างไร?

เซียนหวู่เซียงมีแววตาที่เฉียบแหลม แน่นอนว่าเขาย่อมมองเห็นว่าจักรพรรดิโจ้วเทียนและคนอื่นๆกำลังรู้สึกสงสัย เขาเค้นเสียงและปลดปล่อยออร่าที่รุนแรงกว่าเดิมออกมา แรงกดดันของออร่านี้หนักหน่วงราวกับถูกภูเขาหล่นทับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด