Alchemy Emperor of the Divine Dao 1471

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1471 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่!” เหล่าศิษย์พี่นำมือกุมหัว เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? พวกเขาเป็นศิษย์พี่แท้ๆ ไม่เพียงแค่พวกเขาจะทำภารกิจรับศิษย์ใหม่ไม่สำเร็จ แต่ยังถูกศิษย์ใหม่เอาคืนอีกด้วย

“ข้าไม่ได้ถามความเห็นพวกเจ้า!” หลิงฮันลงมือ ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ เขาหักขาของศิษย์พี่เหล่านั้นและบีบบังคับให้คลานเข้าไปในช่องลอดสุนัข

เมื่อศิษย์พี่คนหนึ่งถูกส่งร่างให้คลานผ่านไป เสียงของศิษย์ใหม่ที่เงียบสงบก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง

“ศิษย์พี่หลิง! ศิษย์พี่หลิง! ศิษย์พี่หลิง!”

ศิษย์ใหม่ทุกคนตะโกนชื่อของหลิงฮันด้วยความตื่นเต้น

ในหมู่พวกเขาใครบ้างไม่ใช่ราชา? แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับต้องถูกบังคับให้รับความอัปยศอย่างไม่อาจขัดขืนด้วยอำนาจของระดับวารีนิรันดร์ ในสำนักละออกดาราแห่งนี้ขุมอำนาจเบื้องหลังของพวกเขาไม่อาจนำมาใช้ประโยชน์ได้เนื่องจากที่นี่มีเซียนอยู่ถึงสิบคน

แต่ผ่านไปพริบตาเดียวเหล่าคนที่กดขี่พวกเขาก็ถูกจัดการและคลานก้มหัวลอดผ่านช่องสุนัขเหมือนกับพวกเขา เพราะงั้นแล้วจิตใจของพวกเขาจึงฮึกเหิมขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

สีหน้าของเหล่าศิษย์พี่ที่ถูกบังคับให้ลอดผ่านช่องสุนัขเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ แต่ในเมื่อพวกเขาเป็นคนริเริ่มยั่วยุก่อนพวกเขาก็ต้องยอมรับผลกรรม

“ถึงตาเจ้าแล้ว!” หลิงฮันมองไปยังอี้เกาหนิง

อี้เกาหนิงรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก ศิษย์เก่าคนอื่นๆนั้นยังไม่เท่าไหร่เพราะพวกเขามีพลังบ่มเพาะระดับดาราเหมือนกับหลิงฮัน แต่ตัวเขาต่างออกไป เขาเป็นตัวตนระดับวารีนิรันดร์!

หากเขาคลานลอดผ่านช่องสุนัขนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการยอมให้ศิษย์เก่าทุกคนถูกตบหน้า ซึ่งเขาไม่อาจรับผิดชอบความผิดเช่นนั้นไหว

“อย่าได้ฝัน!” จิตวิญญาณของเขาเดือดพล่าน เมื่อครู่เพื่อที่จะสลัดให้หลุดพ้นจากสุนัขตัวดำ เขาได้ทำการเผาผลาญพลังชีวิตของตนเอง ตอนนี้ร่างของเขายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ร้อนแรงราวกับเปลวเพลิง

“บังอาจบีบบังคับข้าจนต้องเป็นแบบนี้ เจ้าต้องชดใช้!” อี้เกาหนิงคำรามและเผาผลาญพลังชีวิตอย่างต่อเนื่อง การกระทำที่บ้าบิ่นเช่นนี้ของเขานั้นหากหลังจากนี้ไม่ได้รับการรักษาจากสมบัติล้ำค่าแห่งสวรรค์และปฐพี พลังบ่มเพาะของเขาคงไม่มีความก้าวหน้าใดๆไปอีกหลายล้านปีเป็นอย่างน้อย

ตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถอย่างแท้จริง

เขาต้องจัดการหลิงฮันกับจักรพรรดินีให้สำเร็จ อย่างน้อยก็ต้องกู้ใบหน้ากลับมาให้ได้

“ภรรยาข้า มาจัดการหมอนั่นด้วยกัน!” หลิงฮันยิ้มและกล่าวกับจักรพรรดินี

“อืม!” จักรพรรดินีพยักหน้า

สุดยอดราชาเช่นพวกเขานั้นรังเกียจการรุมคู่ต่อสู้ก็จริง แต่ใครใช้ให้อี้เกาหนิงเป็นตัวตนระดับวารีนิรันดร์กันล่ะ? อย่าว่าแต่ร่วมมือกันสองคนเลย ต่อให้จอมยุทธระดับดาราเช่นพวกเขาร่วมมือกันเป็นร้อยคนก็ไม่มีใครกล่าวว่าอะไร

หลิงฮันปลดปล่อยอำนาจสวรรค์ ต่อให้อี้เกาหนิงจะมีพลังสูงกว่าเขาก็ยังต้องถูกลดพลังต่อสู้ลงสองดาวเนื่องจากตอนนี้เขาบรรลุระดับดาราขั้นสมบูรณ์ชั้นสูงสุด ซึ่งเปรียบเสมือนระดับวารีนิรันดร์ครึ่งก้าว

จักรพรรดินีนำหินต้นกำเนิดสวรรค์ออกมา ก้อนหินชนิดนี้สามารถดูดซับการโจมตีที่มีพลังทำลายต่ำกว่าระดับสร้างสรรพสิ่งได้ทั้งหมด

อี้เกาหนิงที่เผาผลาญพลังชีวิตนั้น ตอนนี้เขามีพลังต่อสู้อยู่ที่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางชั่วคราว แต่เขาได้ถูกอำนาจสวรรค์ลดพลังต่อสู้ไปสองดาวและพลังโจมตีก็ถูกลดทอนอำนาจไปด้วยกาลเวลาแปรผันพันปี ยิ่งกว่านั้นก็ยังมีหินต้นกำเนิดสวรรค์ของจักรพรรดินีอีก

ราชาคนหนึ่งที่มีพลังต่อสู้เหนือกว่าถึงหนึ่งระดับใหญ่แต่กลับไม่สามารถจัดการจอมยุทธระดับดาราได้ แถมยังดูเหมือนจะเสียเปรียบอีกด้วย

ทุกคนไม่เชื่อในสายตาของตนเองและคิดว่ากำลังฝันอยู่

ศิษย์ใหม่ในปีนี้ไม่ใช่แค่ไม่ธรรมดา แต่พวกเขาฝืนสวรรค์อย่างยิ่ง!

หลิงฮันรวมมือโจมตีควบคู่ไปกับจักรพรรดินี ด้วยความเข้าใจในกันและกันของทั้งสองทำให้ผ่านไปไม่นานก็เป็นฝ่ายได้เปรียบอี้เกาหนิง

“เจ้าแน่ใจว่าจะไม่คลานผ่านช่องลอดสุนัขแต่โดยดี?” หลิงฮันถาม

อี้เกาหนิงกัดฟันแน่น เขาไม่มีบางยอมก้มหัวเด็ดขาด

“เจ้าดำน้อย มานี่!” หลิงฮันกล่าว

“ใครเรียกนายท่านหมา?” สุนัขตัวดำที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนปรากฏตัวอยู่ด้านข้างหลิงฮัน มันพาดเท้าหน้าเอาไว้ด้านหลังและกล่าว “เจ้าหนู เจ้าช่างกล้านักที่เรียกนายท่านหมาว่าดำน้อย”

“ถ้างั้นดำใหญ่ล่ะ?” หลิงฮันยิ้ม

“นายท่านดำ!” สุนัขตัวดำกล่าวเน้นย้ำและสะบัดอุ้งเท้า “เจ้าเรียกข้ามาทำไม?”

“มาทำให้หมอนั่นคลานลอดช่องสุนั…”

“ช่องรอดสุนัขน้องสาวเจ้าสิ นั่นมันรูหนู!” สุนัขตัวดำโอดครวญแย้งคำพูดหลิงฮัน

หลิงฮันไม่เถียงและกล่าวต่อ “ช่วยข้าทำให้หมอนั่นคลานผ่านรูนั่นให้ได้!”

สุนัขตัวดำดวงตาส่องประกาย การสร้างความลำบากให้ผู้อื่นคือสิ่งที่มันชื่นชอบที่สุด “ให้เป็นหน้าที่นายท่านหมาเอง!” สุนัขตัวดำตื่นเต้นจนแลบลิ้นน้ำลายไหลย้อยอย่างบ้าคลั่ง

อี้เกาหนิงที่เห็นเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรสั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย

เขาไม่หวาดกลัวหลิงฮันเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่กล้าสังหารเขาในสำนัก ตราบใดที่ถ่วงเวลาเอาไว้ได้นานมากพอศิษย์เก่าคนอื่นๆก็จะมาตรวจสอบสถานการณ์และเรื่องยุ่งยากก็จะถูกสะสางไปเอง

แต่กับเจ้าสุนัขหน้าไม่อายตนนี้ไม่ใช่แบบนั้น คงมีเพียงแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันตั้งใจจะทำอะไร

สุนัขตัวดำจ้องมองไปยังอี้เกาหนิงก่อนจะกล่าว “ถ้าเจ้าไม่ยอมทำตามแต่โดยดี นายท่านหมาจะไปพาหมูตัวเมียมาและวางยาให้เจ้าร่วมรักกับมันที่นี่!”

อี้เกาหนิงเหงื่อตกราวกับหยาดฝน ถ้าหากเขาต้องร่วมรักกับหมูตัวเมียจริงๆ เขาจะยังมีหน้าอยู่ที่สำนักละอองดาราต่อไปอีก? เมื่อใดที่เขาพบเจอผู้คน คนเหล่านั้นคงเรียกเขาว่า ‘อัศวินผู้ขึ้นขี่หมู!’

“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว” จู่ๆสุนัขตัวดำก็ส่ายหัว

อี้เกาหนิงโล่งอก เขารู้สึกว่าหมดเรี่ยวแรงจนอยากจะนอนหมอบลงเสียตรงนี้เลย

สุนัขตัวดำกล่าว “ข้าจะพากระทิงมาทะลวงประตูหลังของเจ้า”

“ไม่!” อี้เกาหนิงอุทานออกมาทันใด เขาจิตตนาการภาพที่ตนเองถูกกระทำเช่นนั้นไม่ออกจริงๆ

ศิษย์คนอื่นๆเองก็ตกตะลึงจนเหงื่อไหลท่วม น่าอัปยศเกินไป… แค่ขึ้นขี่หมูตัวเมียเองก็เสียหน้ามากพอแล้ว ถ้าหากเป็นฝ่ายถูกกระทิงทะลวงประตูหลังล่ะก็จะน่าอนาถขนาดไหน

สุนัขบัดซบตัวนี้ช่างไร้ยางอายหาใครเปรียบ!

“ข้ายอมแล้ว! ข้าจะคลานผ่านช่องลอดสุนัจ!” จิตใจอันหนักแน่นของอี้เกาหนิงพังทลาย

“ช่องลอดสุนัขน้องสาวเจ้าสิ เจ้ากล้าดูหมิ่นนายท่านหมารึ!” สุนัขตัวดำกลายเป็นเกรี้ยวกราดและแผ่กรงเล็บออกมา “ไม่ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะทำให้เจ้าร่วมรักกับหมูตัวเมียร้อยตัวและให้กระทิงร้อยตัวทะลวงประตูหลังเจ้าร้อยครั้ง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด