Alchemy Emperor of the Divine Dao 1499

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1499 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ข้าขอคัดค้าน! ข้าไม่ยอมรับ!

หลิงฮันฮันกล่าวอย่างหนักแน่นราวกับขุนเขา

ทุกคนจ้องมอง แม้หลิงฮันจะยืนโดดเดี่ยว แต่อำนาจของเขาก็ทรงพลังราวว่าต่อให้มีศัตรูอยู่ตรงหน้านับพันเขาก็ไม่หวาดหวั่น!

เหล่าศิษย์ได้รับผลกระทบจากอำนาจของเขาจนแน่นิ่งไม่เอ่ยกล่าวอะไร

“เจ้าไม่ยอมรับ? แล้วมันจะทำไม!” จูซิ่วเอ๋อกล่าวอย่างเหยียดหยาม อย่าว่าแต่เหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ที่นี่เลย ต่อให้เซียนทั้งเก้ามาที่นี่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะหักหน้านาง

“งั้นข้าขอถาม ใครคิดว่าข้าสมควรพ่ายแพ้บ้าง?” หลิงฮันกวาดสายตามอง ศิษย์คนอื่นๆในตอนนี้ล้วนแต่ก้มหัวไม่กล้าสบตากับเขา

“ข้าไม่ยอมรับ!” จักรพรรดินีเป็นคนแรกที่ก้าวเดินขึ้นมายังลานประลอง กล้าดีอย่างไรมาสบประมาทสามีของข้า?

“ข้าไม่ยอมรับ!”

“ข้าไม่ยอมรับ!”

“ข้าไม่ยอมรับ!”

สตรีนกอมตะ จักรพรรดิพิรุณ จิ่วเยาว์ ติงผิงและคนอื่นๆก้าวเดินขึ้นมาบนลานประลอง ไม่ใช่แค่สหายของหลิงฮันแต่ราชาระดับสามอย่างซื่อเฉินเฟิง เทียนเซี่ยตี้เอ้อและหลงเซียงเยว่ก็ก้าวขึ้นมาด้วย

สำหรับสุดยอดราชาเช่นพวกเขา หากเป็นการชัยชนะที่ตัดสินด้วยพลังพวกเขาคงไม่คัดค้านอะไร แต่ผลการตัดสินด้วยอำนาจเช่นนี้พวกเขาไม่อาจยอมรับได้!

การประลองจำเป็นต้องยุติธรรม ใครแข็งแกร่งกว่าคนนั้นก็คือผู้ชนะ!

“ข้าไม่ยอมรับ!” ศิษย์อีกคนหนึ่งก้าวขึ้นมาบนลานประลอง เขาไม่ใช่สหายของหลิงฮันหรือราชาระดับสาม หลิงฮันไม่รู้จักศิษย์คนนี้ด้วยซ้ำ

“หลิงฮันคือผู้ชนะ!”

“ขอให้มีการตัดสินใหม่!”

ศิษย์คนอื่นๆเริ่มก้าวโห่ร้อง จำนวนศิษย์ใหม่ในครั้งนี้คือเก้าร้อยคน บนลานประลองได้มีศิษย์ก้าวขึ้นมาเกินกว่าร้อยคนแล้ว แต่ก็ยังมีศิษย์ส่วนหนึ่งที่โห่ส่งเสียงจากด้านข้าง

“เหอะ พวกเจ้าทุกคนคิดจะต่อต้านข้า?” จูซิ่วเอ๋อกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าจะนับถึงสาม หากใครยังไม่ลงไปจากลานประลองข้าจะขับไล่คนผู้นั้นออกจากสำนัก!”

นางมีอำนาจที่จะทำอย่างที่พูดจริงๆ แม้แต่เซียนทั้งเก้าก็ไม่กล้าขัดขืน

แต่ที่นางไม่คาดคิดคือเมื่อกล่าวประโยคนั้นออกไป ศิษย์ที่ก้าวขึ้นมาบนลานประลองกลับมีมากขึ้น

“ขอให้ทำการตัดสินใหม่!”

“หากเรื่องแค่นี้ยังไม่มีความยุติธรรม พวกเราจะอยู่ที่สำนักแห่งนี้ต่อไปเพื่ออะไร?”

“ใช่แล้ว หากข้าอยู่เฉยทำเป็นไม่เห็น เหตุการณ์ในวันนี้จะต้องกลายเป็นมารกัดกินจิตใจของข้าและไม่หลงเหลือความหวังในการเป็นเซียนในอนาคต”

ทุกคนเอ่ยกล่าว

พวกเขาเข้าร่วมสำนักละอองดาราเพื่ออะไร?

ไม่ใช่ว่าเพื่อเป็นเซียนหรอกรึ?

ไม่งั้นแล้วเหล่าศิษย์มากมายที่มีเซียนเป็นผู้หนุนหลังอยู่แล้วจะเสียเวลามาที่นี่ทำไม?

หากมีมารอยู่ในจิตใจความหวังที่จะได้เป็นเซียนก็คงไม่หลงเหลือ เมื่อหนึ่งปีก่อนพวกเขาก็ถูกบังคับให้คลานลอดผ่านช่องวสุนัขครั้งหนึ่งแล้ว ใครบ้างที่ภายในจิตใจจะไม่คับแค้นไปด้วยความขมขื่น พอมาเจอเหตุการณ์ในวันนี้ความรู้สึกที่ว่าก็ได้ปะทุออกมา

ราชาเช่นพวกเขา… ไม่อาจยออมรับความอัปยศได้!

สองร้อยคน สามร้อยคน สี่ร้อยคน ห้าร้อยคน… ศิษย์แทบจะทุกคนก้าวขึ้นมาบนลานประลอง

ใบหน้าของจูซิ่วเอ๋อเปลี่ยนเป็นเย็นชา ในเมื่อคนเหล่านี้ไม่คิดจะเชื่อฟังแต่โดยดีนางก็ไม่คิดจะปล่อยเอาไว้ พวกเจ้าคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่มาจากไหน? นางแสยะยิ้มและกำลังจะเอ่ยกล่าว แต่ทันใดนั้นเองแรงกดดันก็ได้ถาโถมเข้ามาจนนางอ้าปากไม่ได้

“ผู้ชนะการประลองครั้งนี้คือหลิงฮัน!” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างทรงพลังราวกับเป็นเจตจำนงแห่งสวรรค์และปฐพี

เซียนซิงฉา!

จูซิ่วเอ๋อมีสีหน้ามืดมน นางไม่คาดคิดว่าสามีของนางจะหักหน้านางเช่นนี้ แต่ถึงนางจะไม่พอใจแค่ไหนนางก็ไม่กล้าคัดค้าน

ทั้งสถานะและอำนาจของนางมาจากเซียนซิงฉา เพียงแค่คำพูดของเซียนซิงฉาประโยคเดียวย่อมสามารถทำให้สถานะของนางสลายหายไปได้

ในเมื่อเซียนซิงฉาเป็นคนกล่าวเองย่อมไม่มีใครมีข้อกังขา หลิงฮันคือผู้ชนะ

ศิษย์ทุกคนโห่ร้องด้วยความยินดี การที่เซียนซิงฉาออกหน้าสนับสนุนพวกเขาเช่นนี้ทำให้พวกเขาปราบปลื้มเป็นอย่างมาก

ใบหน้าของกู่ต้าวอี้และเหล่าผู้อาวุโสกลายเป็นบูดบึ้ง

“หลิงฮัน! หลิงฮัน! หลิงฮัน!” ทุกคนจตะโกนชื่อของหลิงฮันออกมาพร้อมกัน

หลิงฮันยิ้มและรู้สึกขอบคุณทุกคน

เขาไม่รู้ว่าหากไม่มีการสนับสนุนจากศิษย์คนอื่นๆเซียนซิงฉาจะยอมยืนมือเข้ามาแทรกแซงรึไม่ แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้เขาโหยหาพลังมากยิ่งขึ้น

หลิงฮันมองไปยังจูซิ่วเอ๋อด้วยความเกรี้ยวกราดก่อนจะกวาดสายตามองกู่ต้าวอี้และผู้อาวุโสคนอื่น ถึงแม้ชัยชนะจะกลับคืนมาเป็นของเขาแต่ปัญหาที่จูซิ่วเอ๋อก่อขึ้นก็ทำให้เขาต้องล่วงเกินผู้อาวุโสทุกคน

แต่ต่อให้ล่วงเกินไปแล้วก็ช่าง จะอย่างไรเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับผู้อาวุโสเหล่านี้อยู่แล้ว

หลิงฮันไม่รีรอและกลับสำนักย่อยที่แปดกับจักรพรรดินี เหล่าผู้อาวุโสไม่ได้ยินดีกับชัยชนะของเขาอยู่แล้ว ทำไมจะต้องมัวรอเสียเวลากลับพร้อมกับพวกเขา?

พวกเขากลับมาสำนักย่อยที่แปดอย่างเงียบๆ หลิงฮันมุ่งหน้าไปยังห้องตำราเพื่อเลือกรูปแบบอาคมใหม่ หากเขาพบเจอกู่ต้าวอี้อีกครั้ง เขาจะไม่เปิดๆโอกาสให้อีกฝ่ายตอบโต้และลงมือสังหารทันที

สตรีนกอมตะก็ตามเขามาที่สำนักย่อยที่แปดด้วย เพราะอย่างไรจอมยุทธก็ต้องปลีกตัวพบเพาะพลังอยู่แล้ว การจะไม่อยู่สำนักย่อยของตนเองเป็นเวลาร้อยกว่าปีย่อมไม่มีปัญหาอะไร

หลิงฮันครุ่นคิดอยู่นานจนในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกรูปแบบอาคมอีกาโลหิต

ในหมู่รูปแบบอาคมระดับสิบห้ามันคือรูปแบบอาคมชั้นที่ทรงพลังอันดับต้นๆ พลังทำลายของมันสามารถเทียบได้กับระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงชั้นสูงสุด หากกระตุ้นใช้งานพร้อมกันสิบอันแม้จะไม่ทรงพลังถึงระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดชั้นสูงสุด แต่ก็คงมีพลังทำลายขั้นสูงสุดชั้นกลางหรือชั้นสูงเป็นอย่างน้อย

เขากลับมายังที่พักแล้วเข้าไปในหอคอยทมิฬพร้อมกับศึกษารูบแบบอาคมใต้ต้นสังสารวัฏ

เจ็ดวันต่อมา เหวยเชินได้นำกลุ่มศิษย์ใหม่กลับมายังสำนักย่อยที่แปด

เหล่าศิษย์เก่ารอคอยมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พอพวกเขามุ่งหน้าไปยังกลุ่มศิษย์ใหม่กลับไม่พบร่างของหลิงฮัน

ที่แท้หลิงฮันก็แอบกลับมาก่อน

เมื่อผลการต่อสู้รอบสุดท้ายของหลิงฮันกับกู่ต้าวอี้และเรื่องที่จูซิ่วเอ๋อเข้ามาแทรกแทรกผลการประลองถูกแพร่กระจายออกไป เหล่าศิษย์เก่าต่างรู้สึกจิตวิญญาณเดือดพล่าน

ถึงแม้พวกเขาจะไม่สามารถล้มเลิกวัฒนธรรมของสำนักให้กับหลิงฮันได้แต่พวกเขาก็ต้องยกนิ้วโป้งชมเชย

หากหลิงฮันเป็นคนยอมใครง่ายๆ ในวันแรกที่เข้าร่วมสำนักเขาจะคัดขืนไม่ยอมคลานลอดผ่านช่องสุนัขรึไง?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด