Alchemy Emperor of the Divine Dao 1551

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1551 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ครืน!

ทันใดนั้นเอง จู่ก็มีคลื่นแสงลอยผ่านเข้ามาจากระยะทางที่ห่างไกล ‘ตูม’ คลื่นแสงนั้นตกกระทบที่ปลายยอดเขาส่งผลให้เกิดเสียงดังสนั่น

เมื่อคลื่นแสงสลายไปก็พบกับร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนอยู่อย่างองอาจ เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาแต่กลับมีหูแมวสีเงินงอกออกมาสองข้าง ความน่ารักของหูแมวนั่นเกรงว่าอาจจะทำให้บุรุษบางคนที่ใจแข็งพอรู้สึกหวั่นไหวได้

“บังอาจ!” พริบตานั้นเหล่าจอมยุทธจำนวนหนึ่งคำรามเสียงดัง อีกฝ่ายบังอาจนักที่ไม่ทำตามกฎ ใครก็ตามที่จะมายังยอดเขาแห่งนี้ได้ต้องทดสอบพลังเสียก่อนว่ามีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่

ชายหนุ่มที่ปรากฏตัวนี้ไม่มีคุณสมบัติแน่เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงจอมยุทธระดับดาราเท่านั้น

“ลงไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” จอมยุทธหลายคนลงมือ

“ฮึ่ม!” เสียงคำรามของใครบางคนดังขึ้น ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ร่างของเหล่าจอมยุทธที่ลงมือโจมตีถูกซัดลอยกระเด็นกลับไป หลังจากนั้นร่างของใครอีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัว ร่างนั้นมีเรือนร่างที่ผอมบาง ทั้งเส้นผมและดวงตาของร่างนั้นเป็นสีเงินอันงดงามน่าดึงดูด

ร่างนี้เป็นบุรุษหรือสตรีนั้นไม่มีใครสามารถบอกได้เนื่องจากสวมชุดคลุมหลวมโคร่งที่ทำให้มองไม่เห็นความโค้งเว้าของเรือนร่าง

“ม่อหลี!” เมื่อเห็นร่างที่ปรากฏตัว ใครหลายคนก็อุทานด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน

ที่เขตดวงอรุณสาดส่องแห่งนี้นั้นยังไม่มีข้อสรุปว่าระหว่างจ้าวอสูรป้าเจี้ยนกับจ้าวอสูรขวงล่วนใครแข็งแกร่งกว่ากัน จ้าวอสูรทั้งสองปะทะกันเป็นเวลานานมากแต่ผลลัพธ์ก็ลงเอยที่เสมอกันตลอด

แต่ในระดับวารีนิรันดร์นั้น หากม่อหลีกล่าวว่าตนเองแข็งแกร่งเป็นอันดับสองย่อมไม่มีใครกล้าเอ่ยว่าตนเองเป็นอันดับหนึ่ง

ม่อหลีผู้นี้คือจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ที่ไร้เทียมทานที่สุด อีกฝ่ายมีศักยภาพที่จะกลายเป็นเจ้าอสูรได้สำเร็จเกินกว่าสามในสิบส่วน อย่ามองว่าสามส่วนนั้นเล็กน้อย ตามความเป็นจริง ในหมู่จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์หนึ่งหมื่นคน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้ากล่าวอย่างมั่นใจว่าตนเองจะมีโอกาสกลายเป็นจ้าวอสูรได้แม้แต่หนึ่งส่วน

พรสวรรค์และความแข็งแกร่งของม่อหลีเป็นที่ประจักษ์กันดี

ยิ่งกว่านั้นอีกฝ่ายก็ยังมีสถานะเป็นถึงศิษย์สืบทอดของจ้าวอสูรขวงล่วน

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ม่อหลีจะปรากฏตัวที่นี่ อีกไม่กี่วันจ้าวอสูรป้าเจี้ยนกับจ้าวอสูรขวงล่วนจะทำการปะทะกัน การที่ศิษย์ของเขามาอยู่ที่นี่ด้วยก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึไง?

แววตาของหลิงฮันเปลี่ยนเป็นขึงขังเล็กน้อย ม่อหลีผู้นี้ทำให้เขารู้สึกถึงแรงกดดันที่น่ายำเกรง อีกฝ่ายไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเริ่นเฟยอวิ๋นหรือไช่เหมี่ยว บางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าส่วนหนึ่งด้วยซ้ำ

แต่ที่เขารู้สึกสนใจก็คืออีกฝ่ายเป็นบุรุษหรือสตรีกันแน่

ชายหนุ่มหูแมวก้าวเดินเข้ามาใกล้และเผยรอยยิ้มให้กับจูเซวียน “เจ้าคือจูเซวียน ธิดาของจ้าวอสูรป้าเจี้ยน?”

จูเซวียนมองไปยังอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้า “ไม่ผิด แล้วเจ้าเป็นใคร?”

“ชื่อของข้าคืออูเจวี๋ย บุตรของจ้าวอสูรขวงล่วน” ชายหนุ่มหูแมวกล่าว

ทุกคนเข้าใจทันที ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมม่อหลีถึงลงมือ ที่แท้ชายหนุ่มผู้นี้ก็เป็นบุตรของอาจารย์ของนางนี่เอง

“ข้ามาที่นี่เพื่อดูว่าคู่หมั้นของข้ามีหน้าตาอย่างไร หากคู่หมั้นของข้าอัปลักษณ์ข้าย่อมไม่มีวันยอมแต่งงานด้วยแน่นอน” อูเจวี๋ยจ้องมองจูเซวียนตั้งแต่หัวจรดเท้า “ก็ไม่แย่ แต่ดูเหมือนเอวจะหนาไปหน่อยรึเปล่า?”

ประโยคสุดท้ายเขากล่าวถามกับม่อหลี

ม่อหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงหน้าตายไร้อารมณ์ “ไม่ใช่ว่าเอวของนางหนา แต่เป็นสะโพกของนางที่เล็กเกินไปทำให้ความโค้งเว้าของเอวไม่ค่อยเด่นชัด”

เขาเสียงของม่อหลีเฉื่อยชาไร้อารมณ์ทำให้ดูไม่ออกว่าเป็นเสียงของบุรุษหรือสตรี

พรวด!

ใครหลายคนกลั้นหัวเราะไม่ไหว คำพูดที่กล่าวออกมาจากใบหน้าที่ไร้อารมณ์นั่นทำให้พวกเขารู้สึกขบขันเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน ใบหน้าอันงดงามของจูเซวียนได้เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ มือขวาของเขากำดาบเอาไว้แน่นราวกับต้องการจะสังหารใครบางคน

อูเจวี๋ยพยักหน้าและกล่าว “ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้น!”

“อืม!” ม่อหลีพยักหน้าหนักแน่น

“พวกเจ้าพูดคุยกันพอแล้วรึยัง!” จูเซวียนกัดฟันแค้น

“อย่าโมโหไปเลยน่า” อูเจวี๋ยยิ้มและกล่าว “ข้าผิดเองที่ปากไม่ดี อย่างไรพวกเราก็เป็นคู่หมั้นกันนะ!”

“พูดพล่อยๆ!” จูเซวียนชำเลืองมองไปยังหลิงฮันราวกับกลัวว่าหลิงฮันจะเข้าใจผิดและรีบกล่าวแย้ง “ใครเป็นคู่หมั้นของเจ้ากัน!”

“บิดาของเจ้าแพ้เดิมพันกับบิดาของข้า ซึ่งสิ่งที่บิดาของเจ้าใช้เดินพันก็คือตัวเจ้า” อูเจวี๋ยกล่าวพร้อมกับยักไหล่

แพ้เดิมพัน?

จูเซวียนจิตใจสั่นสะท้าน “อย่าพูดไร้สาระ บิดาของข้าจะแพ้ให้กับผู้อาวุโสขวงล่วนได้อย่างไร!”

ม่อหลีเอ่ยแทรก “ผลลัพธ์เดิมพันยังไม่ถูกตัดสิน การประลองของทั้งสองจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้”

จูเซวียนถอนหายใจโล่งอก ดูเหมือนการต่อสู้ของจ้าวอสูรทั้งสองจะเป็นตัวสินการแต่งงานของนาง แน่ไม่ว่าอย่างไรนางก็มั่นใจว่าบิดาของนางไม่มีทางพ่ายแพ้ นางเค้นเสียงและกล่าว “อย่าได้เพ้อฝัน!”

ม่อหลีกล่าว “แม่นางจู การเดิมพันนี้ผู้อาวุโสป้าเจี้ยนเป็นคนเสนอเอง”

ใบหน้าของจูเซวียนเปลี่ยนเป็นมืดมน ดูเหมือนบิดาของนางจะมั่นใจมากว่าจะชนะการต่อสู้ในครั้งนี้ เขามั่นใจถึงขนาดนำนางไปเป็นสิ่งเดิมพัน!

อูเจวี๋ยอ้าปากหาวก่อนจ้องไปยังหลิงฮันเนื่องจากก่อนหน้าจูเซวียนได้แอบชำเลืองมองไปยังหลิงฮัน โดยปกติแล้วเขาจะไม่คิดสนใจ แต่ใครใช้ให้จูเซวียนเป็นคู่หมั้นของเขากันล่ะ?

หืม?

เขาชะงักทันทีเมื่อเห็นหลิงฮัน เขาจดจ้องอยู่สักพักก่อนจะกล่าว “เจ้า… ช้ารู้สึกคุ้นหน้าเจ้ายังไงชอบกล”

หลิงฮันจ้องมองอีกฝ่ายกลับ เขาไม่เคยมาที่ดินแดนใต้พิภพมาก่อน เข้าจะรู้กับกับบุตรของจ้าวอสูรได้อย่างไร? เขายิ้มและกล่าว “พวกเราเคยพบกันเมื่อไหร่รึ?”

“โดยเฉพาะรอยยิ้มนั่นช่างน่าหงุดหงิดยิ่งนัก! ข้าต้องเคยพบเจอเจ้ามาก่อนแน่อนอน!” อูเจวี๋ยชี้นิ้วใส่หลิงฮันด้วยท่าทีหงุดหงิด

มุมปากของหลิงฮันกระตุก จากท่าทางคำพูดของอีกฝ่ายแล้ว ดูเหมือนว่าอูเจวี๋ยผู้นี้จะรู้จักเขาจริงๆ แต่ก็แปลก เขาไม่เคยพบกับรุ่นเยาว์ผู้นี้เลยแท้ๆ

“ใช่แล้ว! เป็นเจ้า!” อูเจวี๋ยกระโดดพุ่งทะยานปล่อยหมัดเข้าใส่หลิงฮันทันใด

อะไรของเจ้า!

หลิงฮันสะบัดมือผลักร่างของอูเจวี๋ยกลับก่อนจะยิ้มและกล่าว “เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ถ้าจะสู้ก็คนของเจ้ามาสู้แทน”

ท่าทางของอูเจวี๋ยดูตื่นเต้นเป็นอย่างมากถึงได้ผลีผลามพุ่งจู่โจมเช่นนั้น แต่ด้วยการที่มีม่อหลีอยู่ด้วยย่อมไม่หวาดกลัวใคร เขารีบหันกลับไปหล่าว “ม่อหลี แก้แค้นให้ข้า!”

“เขาเคยทำอะไรกับเจ้าไว้?” ม่อหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

อูเจวี๋ยใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอายและไม่กล้าพูดออกไป

หลิงฮันรีบกล่าว “นี่เจ้ามีเรื่องอะไรก็รีบๆพูดออกมา มัวแต่ลีลาและท่าทีเขินอายเช่นนั้นเดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดว่าข้าไปทำอะไรเจ้าไว้!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด