Alchemy Emperor of the Divine Dao 1638 ไล่ล่าราชาไค่หยุน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1638 ไล่ล่าราชาไค่หยุน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ด้วยการที่การปะทะเป็นการรุมหกต่อหนึ่ง แถมสองในหกยังเป็นราชาเซียนสูงสุด ผลสุดท้ายพวกเขาก็สามารถควบคุมสถานการณ์ให้มาเป็นฝ่ายได้เปรียบได้ ในการปะทะวันที่สิบ หลิงฮันบาดเจ็บหนักจนยากที่จะสู้ต่อไหว

“ฆ่า!” ราชาเซียนทั้งหกคำรามโหดเหี้ยม พวกเขาใช้เวลาสิบวันในที่สุดก็ทำให้หลิงฮันตกอยู่ในสภาพปางตาย หากเจ้าหนูนี่หลบหนีไปได้ล่ะก็ พวกเขาคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว

“ขอโทษที แต่พวกเจ้าคงต้องผิดหวังแล้ว!” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชาพร้อมกับเผาผลาญหยดวารีนิรันดร์ บาดแผลทั้งหมดบนร่างกายถูกฟื้นฟูกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ในพริบตา

นี่มัน!

เซียนทั้งหกแทบจะบ้าคลั่ง พวกเขาพยายามอย่างหนักกว่าจะทำให้หลิงฮันปางตายได้ แต่พริบตาเดียวความพยายามของพวกเขากลับกลายเป็นศูนย์เปล่าอย่างสิ้นเชิง

“เขาต้องฟื้นฟูบาดด้วยทักษะลับบางแน่นอน ความสามารถเช่นนี้หากไม่คงสภาพได้ชั่วคราวก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มหาศาล ไม่มีทางที่เขาจะใช้ทักษะเดิมได้อีกครั้ง”

“ใช้แล้ว ในเมื่อพวกเขาทำให้เขาปางตายได้ครั้งหนึ่ง พวกเราก็ต้องทำได้อีกครั้ง”

“พยายามกว่านี้!”

ราชาเซียนทั้งหกกระหน่ำรุมโจมตีอีกครั้ง หลิงฮันและราชาเซียนทั้งหกแลกเปลี่ยนกันสร้างบาดแผล หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดผ่านไปอีกสิบวัน เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตายอีกครั้ง เพียงแต่สภาพของราชาเซียนทั้งหกก็ย่ำแย่เป็นอย่างมาก ความเร็วของหลิงฮันได้สร้างความลำบากให้แก่พวกเขา

“ตาย!” ราชาเซียนทั้งหกคำรามอย่างเย็นชา ครั้งนี้หลิงฮันไม่มีทางรอดแน่

หลิงฮันโคจรเผาผลาญหยดวารีนิรันดร์อีกครั้ง บาดแผลของเขาฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ราวกับไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน ระยะเวลาสิบวันเพียงพอที่จะทำให้หยดวารีนิรันดร์กลับมามีประสิทธิภาพสมบูรณ์ แต่ปัญหาก็คือตอนนี้เขาเหลือหยดวารีนิรันดร์อีกแค่สิบหยดเท่านั้น

ราชาเซียนทั้งหกหวาดผวา เป็นไปได้อย่างไร! พลังฟื้นฟืนอย่างสมบูรณ์เช่นนี้สมควรใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นไม่ใช่รึ นี่เจ้าเป็นอมตมรึไงกัน?

พวกเขาไม่กล้าเสี่ยงอีกต่อไป บางทีหลิงฮันอาจจะไม่สามารถฟื้นฟูบาดแผลครั้งต่อไปได้แล้ว แต่ปัญหาคือพวกเขาแต่ละคนได้รับบาดเจ็บสาหัสหนทุกคน ก่อนหลิงฮันจะตายอาจจะเป็นพวกเขาที่ตายก่อน

พวกเขาต้องการวาสนาในตัวหลิงฮันก็จริง แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะเอาชีวิตตัวเองไปแลก

“ล่าถอย!”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกล่าว แต่ราชาเซียนทั้งหกรีบหันหลังหนีแทบจะพร้อมกัน

ทางด้านหลิงฮันนั้นไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เขาจดจ้องราชาไค่หยุนและไล่ตามไปทันที

ต่อให้เขาจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วกว่าใครได้ด้วยแสงอัสนี แต่การสังหารราชาเซียนทั้งหกก็ยังเป็นงานที่ยากอยู่ดี เพราะงั้นหากต้องเลือกสังหารใครสักคนย่อมต้องเป็นราชาไค่หยุน

“บัดซบ!” ราชาไค่หยุนสบถ หลิงฮันเลือกไล่ตามเขาแทนที่จะเป็นคนอื่นอย่างไม่ลังเล นี่คิดว่าเขาจะยอมตายง่ายๆรึ?

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังเป็นถึงราชาเซียนสูงสุด!

ราชาไค่หยุนหันกลับมาโจมตีหลิงฮันด้วยทักษะอันทรงพลังเพื่อถ่วงเวลาก่อนจะเผ่นหนีเช่นเดิม

หลิงฮันโคจรแสงอัสนี ร่างของเขาปรากฏอยู่ข้างราชาไค่หยุนในพริบตา

“ฮึ่ม!” ราชาไค่หยุนโคจรอำนาจห้วงเวลา ‘ครืนน’ การไหลของเวลารอบกายเขาเริ่มปั่นป่วนแสดงภาพของอดีต ปัจจุบัน อนาคต หากเซียนระดับสูงสัมผัสโดนห้วงเวลารอบกายเขาร่างของเซียนระดับสูงผู้นั้นจะแหลกเป็นเศษซากทันที

หลิงฮันพุ่งทะยานเข้าไปอย่างไม่หวั่นเกรง ผิวหนังของเขาถูกอำนาจห้วงเวลาฉีกกระชากจนเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หากไม่ใช่เพราะกายหยาบอันไร้เทียมทานเกรงว่าร่างของเขาคงแหลกไม่เหลือ

เขาโคจรอัสนีบาตชำระล้างโลกาเข้าต่อต้านอำนาจห้วงเวลา

ตามหลักแล้วอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห่วงเวลานั้นคือหนึ่งในอำนาจที่ทรงพลังที่สุด แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลาของราชาไค่หยุนนั้นได้รับสืบทอดมาจากสายเลือดซึ่งถูกจำกัดพลังเอาไว้ด้วยพลังบ่มเพาะและความบริสุทธิ์ของสายเลือด

ตอนนี้ระดับพลังของราชาไค่หยุนคือราชาเซียนสูงสุด อำนาจห้วงของเขาจึงทรงพลังที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ แต่อัสนีบาตชำระล้างโลกาก็เป็นทักษะที่ได้รับมาจากหยดสายฟ้าสวรรค์ที่เป็นอำนาจที่ทรงพลังที่สุดในโลกบรรพกาลเช่นกัน เพราะงั้นอำนาจของมันจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าอำนาจห้วงเวลาของราชาไค่หยุน

ร่างของหลิงฮันพุ่งทะยานด้วยอัสนีบาตรชำระล้างโลกา อำนาจห้วงเวลาถูกบดขยี้ออกเป็นเสี่ยงๆ

ทักษะรัตติกาลเงาทมิฬ!

หลิงฮันใช้ทักษะนิรันดร์ต่อเนื่อง ความมืดมิดอันเป็นอนันต์ถูกปลดปล่อยออกมาล้อมร่างของราชาไค่หยุน

“เหอ ทักษะอ่อนหัดเช่นนั้นคิดว่าจะกักขังข้าผู้นี้ได้?” ราชาไค่หยุนแสยะยิ้ม เขาปล่อยฝ่ามือปราณก่อเกิดมหึมาใส่ความมืดมิด แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าความมืดมิดรอบกายเขานั้นหนาแน่นเป็นอย่างมาก แม้จะปัดเป่าส่วนหนึ่งให้หายไปได้ ความมืดมิดคลื่นใหม่ก็จะเข้ามาเติมเต็มส่วนที่หายไป

“ดาบนิรันดร์เก้าชีพจร!” เขาคำรามพร้อมกับนำดาบออกมาปลดปล่อยทักษะ ทันทีที่ทักษะดาบถูกสะบั้นออกไป ความมืดมิดก็ถูกตัดแยกออกจากกันทันที

นี่คือเศษเสี้ยวทักษะนิรันดร์ระดับราชานิรันดร์ที่เขาแย่งชิงมาจากราชันวารีสวรรค์ เขาไม่กล้าใช้ทักษะนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นเพราะกลัวว่าจะตกเป็นเป้าหมายของดินแดนต้องห้ามทั้งหลาย แต่ตอนนี้รอบข้างไม่มีใครอยู่ แถมตัวเขาก็กำลังพบเจอความหายนะครั้งใหญ่ที่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิต แน่นอนว่าเขาต้องใช้ทุกสิ่งที่มีออกมาเพื่อให้ตนเองรอด

หลิงฮันนำดาบไม้ผุพังออกมาเข้าปะทะกับอุปกรณ์ดาบเซียนของราชาไค่หยุน ที่ไม่ใช่ดาบอสูรนิรันดร์เป็นเพราะมันยังเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบเจ็ดเท่านั้น เขาไม่อยากสร้างความเสียหายให้แก่มัน ‘ฉัวะ’ ดาบไม่ผุพังสะบั้นออกด้วยทักษะดาบฟ้าคำราม ทักษะนี้มีผสานเอาไว้ด้วยอัสนีบาตรชำระล้างโลกาและกาลเวลาแปรผันพันปี

ราชาไค่หยุนอยากจะจับตัวหลิงฮันมาดูดซับพลังเสียแต่ตอนนี้ อีกฝ่ายนั้นมีเศษเสี้ยวอำนาจแห่งห้วงเวลาอยู่ ซึ่งจะช่วยยกระดับอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห่วงเวลาในสายเลือดของเขาได้มากทีเดียว แต่ปัญหาคือแม้แต่ราชาเซียนถึงหกคนร่วมมือกันก็ยังเอาชนะหลิงฮันไม่ได้ แค่เขาใช้ทักษะราชานิรันดร์มีรึที่จะสังหารหลิงฮันได้สำเร็จ?

ทักษะระดับราชานิรันดร์ทรงพลังมากก็จริง แต่เขาได้รับมันมาเพียงเศษเสี้ยวและพลังของทักษะก็ถูกกำจัดด้วยพลังบ่มเพาะ

ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด หากเป็นการปะทะตัวต่อตัวกับราชาเซียน หลิงฮันย่อมไม่เสียเปรียบ เขาคำรามดังลั่นพร้อมกับปลดปล่อยพลังต่อสู้ทั้งหมดออกมา

ราชาไค่หยุนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เขาต่อสู้กับหลิงฮันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ พลังต่อสู้ของทั้งสองคนกล่าวได้ว่าแทบจะใกล้เคียงกัน

หลิงฮันแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับราชาไค่หยุนอย่างไม่หวั่นเกรง ข้อได้เปรียบที่เขาเหนือกว่าใครๆคือพลังป้องกันอันไร้เทียมทานและหยดวารีนิรันดร์ที่สามารถฟื้นฟูบาดแผลได้ในพริบตา นอกจากนี้ทักษะกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านก็ยังสามารถทำให้เขาฟื้นคืนจากความตายมาได้หนึ่งครั้ง

เขาคิดจะทำให้ราชาไค่หยุนเผาผลาญพลังของตนเองและร่วงหล่นสู่ความตายอย่างช้าๆ

ในเมื่อพลังต่อสู้เท่ากันก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ราชาเซียนสูงสุดคือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หากพวกเขาถูกสังหารอย่างง่ายดายนี่สิถึงจะเป็นเรื่องแปลก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด