Alchemy Emperor of the Divine Dao 1655 ตระกูลช่วงบนของแม่น้ำ

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1655 ตระกูลช่วงบนของแม่น้ำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันตัดสินใจเลือกอ้อมไปทางอื่น เพราะไม่อยากเสียเวลาเจรจาต่อรอง

แต่ผ่านไปไม่นานเขาก็พบว่าการอ้อมเส้นทางนั้นไม่อาจทำได้

หลังจากมาถึงช่วงกลางของแม่น้ำ พื้นที่รอบด้านของแม่น้ำนั้นได้ถูกประกบไว้ด้วยภูเขาสูงและที่ตั้งของตระกูลต่างๆ หากต้องการอ้อมพวกเขาก็ต้องไปยังภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยแรงกดดันอันหนักหน่วงจนแทบจะก้าวเดินไม่ออก แถมบนภูเขายังเป็นที่ซ่อนตัวของสัตว์อสูรระดับราชาเซียนสูงสุดด้วย

ดูเหมือนตระกูลช่วงกลางไม่คิดจะให้ตระกูลที่ต่ำกว่าผ่านแม่น้ำช่วงกลางไปได้เลย

คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบุกผ่านไปตรงๆ

หลิงฮันกำชับเสี่ยวกู่ว่าห้ามพูดเลียนแบบ ต่อหน้าจอมยุทธที่แข็งแกร่งเทียบเท่าราชาเซียนสูงสุดการพูดเลียนแบบก็เปรียบเสมือนกับการดูถูกเหยียดหยาม

ตระกูลแรกที่พวกเขาพบเจอคือตระกูลเยวี่ย

พวกหลิงฮันเดินมาถึงรูปแบบอาคมคุ้มกันที่ถูกติดตั้งเอาไว้ด้านหน้าอาณาเขตตระกูลเยวี่ย

“พวกเจ้าตามหลังข้าไว้” หลิงฮันกล่าว พลังของรูปแบบอาคมนี้มีพลังเทียบเท่าได้กับราชาเซียนระดับต้นซึ่งพวกสตรีนกอมตะและคนอื่นๆไม่มีทางต้านทานได้แน่นอน โชคดีที่เสี่ยวกู่ไม่มีท่าทีคิดจะโจมตีใดๆ ไม่เช่นนั้นก่อนที่พวกเขาจะได้เจรจา พวกเขาคงถูกทั้งตระกูลเยวี่ยล้อมโจมตีและต้องปะทะสถานเดียว

หลงเซียงเยว่เข้าไปอยู่ในอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ กลุ่มของพวกเขามีหลิงฮันเดินนำหน้าและมีเสี่ยวกู่เดินอยู่หลังสุด พลังของมันแข็งแกร่งเพียงพอที่จะคุ้มครองคนอื่นๆได้หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

หลิงฮันเอื้อมมือออกไปเปิดช่องว่างระหว่างรูปแบบอาคมและเดินเข้าไปอย่างสงบนิ่ง

ตอนนี้พลังต่อสู้ของหลิงฮันเทียบเท่าได้กับราชาเซียนสูงสุด ต่อให้รูปแบบอาคมถูกสร้างขึ้นจากศาสตร์วรยุทธที่แตกต่าง เขาก็ไม่จำเป็นต้องหาจุดอ่อนใดๆของมันและสามารถใช้พลังบดขยี้ได้โดยตรง

ภายใต้อำนาจอันทรงพลังที่หลิงฮันปลดปล่อยออกมา พลังของรูปแบบอาคมถูกผลักให้อยู่ห่างจากตัวพวกเขาราวๆสองถึงสามฟุต โดยที่ไม่สามารถเข้าถึงตัวพวกเขาได้แม้แต่น้อย

“ฮึ่ม ใครกล้าบุกรุกตระกูลเยวี่ยของข้า?” เสียงอันเย็นชาดังกึกก้องทะลุเข้าสู่ห้วงจิตวิญญาณของทุกคน

หลิงฮันยิ้มและกล่าวอย่างเป็นมิตร “สหาย พวกข้าเพียงต้องการขอผ่านทางไปเท่านั้น ได้โปรดให้ความร่วมมือด้วย”

“คนนอก?” เสียงอันเย็นชาหยุดชะงัก หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่เสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ข้าอนุญาติให้พวกเจ้าเดินเลียบแม่น้ำได้อย่างเดียว หากล้ำเส้นเข้ามายังตระกูลเยวี่ยแม้แต่ก้าวเดียวอย่าได้หาว่าข้าไม่สุภาพ!”

ความหมายของเขาก็คือยอมให้ผ่านไปได้

หลิงฮันพยักหน้า ที่อีกฝ่ายยอมนั้นไม่ใช่ว่าเป็นคนพูดจาว่าง่าย แต่เพราะพลังที่เขาแสดงออกมานั้นแข็งแกร่งมากพอจนอีกฝ่ายไม่ต้องการมีปัญหาด้วย หากลองเปลี่ยนผู้เจรจาเป็นสตรีนกอมตะหรือคนอื่นๆ เกรงว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดจะแยแสแม้แต่นิดเดียว

พวกหลิงฮันเดินหน้าต่อ ในระหว่างนั้นอำนาจของรูปแบบอาคมก็อ่อนแอลง ดูเหมือนว่าคนของตระกูลเยวี่ยผู้นั้นได้ทำการควบคุมรูปแบบอาคมเพื่อปล่อยให้พวกเขาผ่าไปแต่โดยดี

“ขอบคุณสหายมาก” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม

อีกฝ่ายเงียบไม่ตอบใดๆกลับมา

หลังจากผ่านไปครึ่งก้านธูป พวกเขาก็เดินผ่านออกมาจากรูปแบบอาคม ทิวทัศเบื้องหน้าปรากฏเป็นที่ราบอันกว้างใหญ่ ที่ราบนี้คืออาณาเขตของตระกูลเยวี่ย เนื่องจากรูปแบบอาคมเมื่อครู่มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลจากแม่น้ำช่วงล่างขึ้นมาได้เท่านั้น ที่ราบแห่งนี้จึงไม่มีรูปแบบอาคมใดๆคอยคุ้มกัน

หากออกจากอาณาเขตของตระกูลเยวี่ยและมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบเห็นรูปแบบอาคมที่ถูกติดตั้งเอาไว้เหมือนกัน ซึ่งมีไว้ป้องกันไม่ให้ตระกูลเยวี่ยขึ้นไปยังช่วงแม่น้ำที่สูงขึ้น

“เสี่ยวกู่ เจ้าทำได้ดีมาก” หลิงฮันหยุดเดินและกล่าวชมเสี่ยวกู่

“ฮึ่ม ใครกล้าบุกรุกตระกูลเยวี่ยของข้า?”

“สหาย พวกข้าเพียงต้องการ…”

ทันทีที่หลิงฮันเปิดปากชม มันก็ทนไม่ไหวและเลียนแบบบทสนทนาระหว่างหลิงฮันกับคนของตระกูลเยวี่ยทันที หลิงฮันและคนอื่นๆระเบิดเสียงหัวเราะ ดูเหมือนว่าเสี่ยวกู่จะอัดอั้นเป็นอย่างมากที่ถูกสั่งให้ปิดปากห้ามพูดเลียนแบบ

หลังจากพูดเลียนแบบเสร็จ เสี่ยวกู่ก็จ้องมองพวกหลิงฮันด้วยสีหน้ามึนงง พวกเจ้าหัวเราะอะไร? มันเอียงหัวสับสนก่อนจะหัวเราะออกมาด้วย “ยี่ ยา ย่า!”

หนึ่งวันผ่านไป รูปแบบอาคมคุ้มกันอาณาเขตก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

พวกเขาเดินผ่านรูปแบบอาคมเข้าไป อาณาเขตนี้เป็นของตระกูลถง โชคดีที่พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดการปะทะจึงยินให้ผ่านไปโดยหลังจากที่หลิงฮันกล่าวเจรจาด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใจกว้างเหมือนกับตระกูลเยวี่ยที่ลดพลังอำนาจของรูปแบบอาคมให้

หลังจากนั้นพวกเขาก็โชคดีมากที่หากเจรจาด้วยดีๆ ตระกูลต่างๆก็ยอมให้พวกเขาผ่านไปได้ แต่เมื่อมาถึงช่วงบนของแม่น้ำ แค่ตระกูลแรกก็พบเจอปัญหาทันที

“ไสหัวไป!” เมื่อพวกเขาเข้าไปยังรูปแบบอาคม เสียงอันเย็นชาก็ขับไล่พวกเขาอย่างไร้เยื้อใย

หลิงฮันขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าด้วยทัศนคติอันหยิ่งยโสของตระกูลช่วงบน การเจรจาคงทำได้ยากเสียแล้ว!

“สหาย พวกข้าแค่ขอผ่านทางเท่านั้น!” เขากล่าว

“ข้าบอกให้ไสหัวไปไม่ได้ยินรึไง?” เสียงของคนผู้หนึ่งกล่าวอย่างอวดดี

“เหอๆ ขออภัยด้วย แต่ข้าคงไม่ไสหัวไปไหน!” หลิงฮันก้าวเดินต่อไปด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์

“บังอาจ!” คนผู้นั้นเค้นเสียง ‘ครืนน’ ทันใดนั้นเองรูปแบบอาคมก็ระเบิดพลังอำนาจออกมา สัตว์อสูรร่างดำปรากฏตัวและจู่โจมพวกหลิงฮัน สัตว์อสูรตนนี้มีรูปร่างเหมือนกันราชสีห์ขนาดมหึมา แต่บนหัวของมันปรากฏเขาคู่หนึ่งและมีหางถึงเก้าหาง

เห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นได้กระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคมเพื่อโจมตีพวกเขา

หลิงฮันชี้นิ้ว ‘ครืน’ ปราณดาบที่ส่องประกายแสงเจิดจ้าไปถึงเก้าชั้นฟ้าถูกปล่อยออกไป ร่างของสัตว์อสูรราชสีห์ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนทันที แต่เนื่องจากมันเป็นสัตว์อสูรที่เกิดจากรูปแบบอาคมมันจึงไม่มีวันตาย ในทางกลับกันยิ่งดูดซับพลังของรูปแบบอาคมมากขึ้นเท่าไหร่ พลังของมันก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

“ฮ่าๆ ยิ่งเจ้าต่อต้านก็ยิ่งทำให้รูปแบบอาคมปลดปล่อยพลังที่มากยิ่งขึ้น ช่างรนหาที่ตาย!” คนผู้นั้นแสยะยิ้ม “พวกคนนอกแสนน่ารังเกียจ พวกเจ้าทุกคนจะต้องตาย!”

ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีความแค้นเคืองต่อคนนอกเป็นอย่างมาก บางทีเขาอาจจะเคยได้รับความอัปยศบางอย่างจากคนนอกมาก่อนเลยพาลเกลียดพวกหลิงฮันไปด้วย

หลิงฮันปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์กวาดผ่านทั่วทั้งรูปแบบอาคม

ที่นี่ไม่ใช่เขาวงกลเพราะงั้นเขาจึงสามารถระบุตำแหน่งของผู้ควบคุมรูปแบบอาคมได้อย่างง่ายดาย อีกฝ่ายเป็นชายร่างกำยำที่ร่างท่อนบนเปลือยเปล่าและสวมมงกุฎขนนก เนื่องจากเขาใช้พลังของตนเองควบคุมรูปแบบอาคมอยู่ ลวดลายสีดำบนร่างของเขาจึงปรากฏให้เห็น

ลวดลายที่เก้ายังไม่เป็นสีดำสนิท คาดเดาได้ว่าพลังบ่มเพาะของอีกฝ่ายคงอยู่ที่ราวๆเซียนระดับสูงขั้นกลาง

“ฮึ่ม กล้าแม้กระทั่งปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ในที่แห่งนี้? เจ้าคิดว่าความตายยังเข้าหาเจ้าไม่เร็วพองั้นรึ?” ชายคนนั้นสัมผัสได้ถึงการจ้องมองจากหลิงฮัน เขากำหมัดและปล่อยกำปั้นเข้าใส่สัมผัสสวรรค์ของหลิงฮัน

‘พรึบ’ หลิงฮันสลายสัมผัสสวรรค์ทันทีและกล่าว “ข้ากำลังจะไปหาเจ้า!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด