Alchemy Emperor of the Divine Dao 1658 แลกเปลี่ยน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1658 แลกเปลี่ยน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำหรับจอมยุทธที่แข็งแกร่ง แค่แขนขาดนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากหลิงฮันกล้าที่จะฉีกแขนล่ะก็ทำไมเขาจะไม่กล้าฉีกศีรษะของจากลำคอ!

“เจ้าต้องการอะไร?” ประมุขตระกูลจ้าวเอ่ยถามอย่างเย็นชา ฟังจากน้ำเสียงจะรู้ได้ว่าตอนนี้เขากำลังโกรธอย่างแท้จริง

เมื่อใดที่ได้ตัวประกันกลับมา เขาจะลงมือสังหารหลิงฮันทันที!

เรื่องสงครามกับตระกูลหลางนั้นเอาไว้ว่ากัน ไม่ว่าอย่างไรคนของตระกูลจ้าวก็ไม่อาจถูกทำให้อัปยศ

สมาชิกตระกูลจ้าวคนอื่นๆก็คิดตรงกัน

หลิงฮันครุ่นคิดก่อนจะกล่าว “สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำสิบต้น!”

“เป็นไปไม่ได้!” ประมุขตระกูลจ้าวส่ายหัวอย่างรวดเร็ว บ้ารึเปล่า เจ้าคิดว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำเป็นผักกาดรึไง? ต่อให้พลังวิญญาณของที่นี่จะหนาแน่นจนสามารถปลูกสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำจำนวนขนาดนั้นได้ แต่มันก็ล้ำค่าเกินที่จะมอบให้คนอื่น

หลิงฮันกล่าว “เจ็ดต้น ค่าไถ่ตัวคือหนึ่งต้นต่อหนึ่งคน หรือเจ้าจะบอกว่าตัวตนระดับเซียนมีค่าน้อยกว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ?”

ขุมอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลจ้าวย่อมรู้ถึงความสำคัญของจอมยุทธระดับเก้าลวดลายดี

“หนึ่งต้น!” ประมุขตระกูลจ้าวกล่าวอย่างเด็ดขาด ในตระกูลจ้าวมีสมุนไพรศักดิ์ศิทธิ์ลึกล้ำเพียงแค่สามต้นเท่านั้น

หลิงฮันมองดูสีหน้าของอีกฝ่ายและรับรู้ว่านี่คือจำนวนสูงสุดที่อีกฝ่ายขะยอมให้ได้แล้ว

เขาหัวเราะและกล่าว “สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำหนึ่งต้นถือว่าน้อยเกินไป ต้องเพิ่มวัสดุเซียนอีกหกชิ้น!”

มารดาเจ้าสิ!

จอมยุทธของตระกูลจ้าวเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม ช่างโลภมากยิ่งนัก เจ้าคิดว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำกับวัสดุเซียนเป็นสิ่งที่พบได้ตามข้างทางรึไง?

ประมุขตระกูลจ้าวลังเลเล็กน้อยแต่ก็หยักหน้าตกลง “อืม!”

ที่เขาปฏิเสธจะทำให้สมุนไพรจำนวนมากกับหลิงฮันเป็นเพราะเขากลัวสมุนไพรจะถูกหลิงฮันกิน หากเป็นเช่นนั้นต่อให้สังหารหลิงฮันแล้วผ่าท้อง ก็ไม่อาจนำสมุนไพรคืนมาได้ แต่วัสดุเซียนนั้นต่างออกเพราะมันกินไม่ได้?

ถึงจะมอบให้ไปก็นำกลับมาได้อยู่ดี

เหล่าผู้อาวุโสคนอื่นๆก็คิดเช่นนั้นจึงไม่ได้แย้งอะไร

“มาแลกเปลี่ยน” ประมุขตระกูลจ้าวนำสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำและวัสดุเซียนหกชิ้นออกมาพร้อมกับใช้พลังควบคุมพวกมันให้ลอยไปหาหลิงฮัน

หลิงฮันปล่อยตัวประกันทั้งเจ็ดและโยนร่างพวกเขาให้กับประมุขตระกูลจ้าว

หลิงฮันรีบคว้าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำและวัสเซียนเข้าไปยังหอคอยทมิฬ ด้วยประสิทธิภาพของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ ระยะเวลาที่เขาจะทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับสูงได้จะลดลงหลายเท่าตั้ว

ตราบใดที่เขาบรรลุเป็นเซียนระดับสูง ในโลกบรรพกาลใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้?

“ลงมือ!”

ประมุขตระกูลจ้าวเป็นคนแรกที่โจมตีหลิงฮัน ลวดลายสีดำปรากฏขึ้นทั่วร่างของเขา

“ยี่ ยา ย่า!” เสี่ยวกู่คำรามอย่างเกรี้ยวกราด มันอดกลั้นมานานมากพอแล้ว เมื่อออร่าของศัตรูตามสัญชาตญาณของมันถูกปลดปล่อยออกมา ความอดทนของมันก็ถึงขีดจำกัดทันที

‘พรึบ’ คลื่นแสงมรกตถูกปลดปล่อยเข้าใส่ประมุขตระกูลจ้าว

“คลื่นแสงมรกต!”

“ผู้นำพาภัยพิบัติ!”

ทันทีที่จอมยุทธตระกูลจ้าวเห็น พวกเขาก็อุทานออกมาทันที พวกเขาคิดมาตลอดว่าผู้นำพาภัยพิบัตินั้นเป็นเพียงตำนานไร้สาระจากอดีตกาล แต่ทว่าตอนนี้ตำนานที่ว่าได้เกิดขึ้นจริงตรงหน้าพวกเขาแล้ว

“ฆ่า!” พวกเขาระเบิดจิตสังหารออกมา ตำนานที่เล่าสืบทอดต่อกันมาคือผู้ใช้คลื่นแสงมรกตสีเขียวนั้นจะนำความล่มสลายมาสู่ตระกูลทั้งหมด

“พวกเจ้าถอยไป!” หลิงฮันกล่าวกับพวกสตรีนกอมตะ หากทั้งสามถูกตระกูลจ้าวจับตัวไปคงลำบากแน่

“อืม!” ทั้งสามคนคือเซียน ตราบใดที่เตรียมพร้อมหลบหนีเอาไว้ก่อน นอกจากหลิงฮันที่มีคลื่นแสงอัสนีแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจับเซียนเช่นพวกเขาได้

หลิงฮันและเสี่ยวกู่ร่วมมือกันเข้าปะทะกับเหล่าจอมยุทธตระกูลจ้าว

ครั้งนี้จำนวนจอมยุทธของตระกูลจ้าวมีมากกว่าตระกูลหย่วน พวกเขามีราชาซียนสูงสุดมากกว่ายี่สิบคน

เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกับครั้งที่ปะทะกับตระกูลหย่วนแล้ว หลิงฮันเองก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้สามารถเทียบได้กับราชาเซียนสูงสุด และด้วยการสนับสนุนจากรูปแบบอาคมสังหาร พลังของเขาจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาเซียนสูงสุดทั่วไป

เสียวกู่นำกระดูกผลึกใสที่เป็นร่างจริงของมันออกมากวัดแกว่งโจมตี แต่ถึงแม้จะมีหลิงฮันช่วยสู้ด้วยทั้งสองก็ยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

จำนวนของศัตรูมีมากเกินไป สถานการณ์ค่อยๆย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ

หลิงฮันครุ่นคิดก่อนจะกระโดดล่าถอยและโคจรแสงอัสนีไปหาพวกสตรีนกอมตะ “อย่าต่อต้าน”

คำพูดนี้เขาพูดกับหลงอวี่ซาน

‘พรึบ’ สตรีนกอมตะและเซียนหวู่เซียงหายเข้าไปในหอคอยทมิฬทันทีในขณะที่หลงอวี่ซานยังอยู่ที่เดิมเนื่องจากนางเผลอต่อต้านสัมผัสสวรรค์ของหลิงฮันไปตามสัญชาตญาณ

หลิงฮันไม่พูดพล่ามเสียเวลา เขาลงมือทำให้นางหมดสติก่อนจะนำร่างของหลงเซียงเยว่ออกมาจากอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ และยังไม่ทันที่หลงเซียงเยว่จะได้เปิดปากพูดอะไรเขาก็ทำให้นางหมดสติไปอีกคนก่อนจะนำร่างของทั้งสองคนเข้าไปในหอคอยทมิฬ

หลิงฮันพุ่งทะยานกลับไปที่เดิมและกล่าว “เสี่ยวกู่ อย่าได้ต่อต้าน!”

เขาตั้งใจจะนำเสี่ยวกู่เข้าหอคอยทมิฬไปด้วยแต่กลับไม่อาจทำได้ สัมผัสสวรรค์ใช้กับอีกฝ่ายไม่ได้ผล ราวกับว่าร่างของเสี่ยวกู่นั้นมีหนามแหลมคมอันทรงพลังที่มองไม่เห็นปกคลุมอยู่

เสี่ยวกู่จ้องมองหลิงฮันด้วยสีหน้ามึนงง ‘อย่าได้ต่อต้าน’ หมายความว่าอะไร มันไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

หลิงฮันขมวดคิ้วและกล่าว “เผ่น!”

เสี่ยวกู่คำใจคำพูดนี้ แม้สติปัญญาของมันจะเติบโตยังไม่เต็มที่แต่มันก็ไม่ได้โง่ มันเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างพลังดี หากเอาชนะไม่ได้ก็ค่อยกลับมาทวงคืนชัยชนะใหม่ในภายหลัง

หลิงฮันคว้าร่างของเสี่ยวกู่และโคจรแสงอัสนีพุ่งทะลวงผ่านวงล้อมของเซียนนับร้อย ต่อหน้าความเร็วอันไร้ผู้ใดเทียบ การจะปิดล้อมเขาเอาไว้ด้วยจำนวนคนนั้นไม่มีความหมาย

“ฮึ่ม” เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดของเหล่าจอมยุทธตระกูลจ้าวดังตามหลังพวกเขามา

หลิงฮันแสยะยิ้มในใจ ครั้งนี้เขาอาจะเป็นฝ่ายหลบหนี แต่เมื่อใดที่เขาดูดซับพลังของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำต้นนี้ได้ ระดับพลังบ่มเพาะของเขาจะทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับสูงได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นคอยดูว่าเขาจะกลับมาเอาคืนพวกบัดซบเหล่านี้อย่างไร!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด