Alchemy Emperor of the Divine Dao 1668 สะสางหนี้แค้นเก่า

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1668 สะสางหนี้แค้นเก่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์จะหยุดยั้งหลิงฮันได้อย่างไร?

ต่อให้หลิงฮันยื่นมือช่วยจักรพรรดินีข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ ซึ่งตามหลักแล้วอำนาจของมันจะเพิ่มขึ้นสิบเท่า แต่ด้วยอำนาจของมันในตอนนี้ที่ถึงขีดจำกัดของสวรรค์และปฐพีของโลกบรรพกาลแล้ว อำนาจของมันจึงไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป

ครืนน ครืนน ครืนน สวรรค์และปฐพีเกรี้ยวกราด ทว่าสิ่งเดียวที่มันทำได้กลับมีเพียงเพิ่มจำนวนของยักษ์อัสนี

หลิงฮันเมินเฉยไม่แยแส ‘ตูม ตูม ตูม’ ร่างของเขาพุ่งทะลวงเข้าใส่ยักษ์อัสนีจนร่างแหลกกระจุย แม้พวกมันจะสามารถฟื้นสภาพกลับมาเหมือนเดิม ก็ไม่อาจหยุดยั้งหลิงฮันได้อยู่ดี

เขามาถึงส่วนลึกของเมฆสายฟ้าอย่างรวดเร็วและเก็บเกี่ยวหยดสายฟ้าสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย

ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ค่อยๆสลายหายไป

เหล่าผู้คนบนดาวเหอหนิงกลายเป็นนิ่งอึ้งไร้คำพูดอีกครั้ง

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

หรือความจริงแล้วทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์จะชอบข่มเหงคนอ่อนแอและหวาดกลัวคนที่แข็งแกร่ง? เพราะงั้นมันถึงปรากฏมาได้เพียงชั่วครู่จึงสลายไป?

หลิงฮันจ้องมองไปยังจักรพรรดินีที่กำลังใช้ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ขัดเกลาพลังต่อสู้ของตนเอง และในขณะที่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของนางกำลังจะหายไปเขาก็รีบพุ่งร่างของตนเองเข้าไปยังเมฆสายฟ้าของนางเพื่อเก็บเกี่ยวหยดสายฟ้าสวรรค์อีกครั้ง

ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มและจับมือกันกลับดาวเหอหนิง

ทุกคนบนดาวก้มหัวคารวะอย่างไม่รีรอ ความรู้สึกของทุกคนนั้นมีทั้งความตกตะลึงและตื่นเต้น

การมีเซียนถึงสองคนหมายความว่าอย่างไร?

ไม่ใช่แค่ดาวเหอหนิงดวงนี้ แต่ทั่วทั้งเขตดวงดาวหรือแม้แต่เขตดวงดาวใกล้เคียง ทั้งสองก็คือตัวตนที่ทรงพลังที่สุด!

ที่พวกเขาไม่รู้คือหลิงฮันและจักพรรดินีนั้นมีพลังต่อสู้ที่สามารถบดขยี้ราชาเซียนทุกคนได้อย่างง่ายดาย ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะรู้สึกตื่นเต้นจนหมดสติเป็นแน่

“ยินดีกับน้องสะใภ้ด้วย!” เฟิงโปหยุนและสหายคนอื่นๆก้าวเข้ามาแสดงความยินดี

แม้หลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อสนิทชิดเชื้อกับหลิงฮัน แต่ต่อหน้าจักรพรรดินีพวกนางกลับมีท่าทางราวกับเป็นลูกแกะเห็นเสือ พวกนางไม่กล้าแม้จะขยับขาก้าวเดิน

ยังไม่ทันทีงานเลี้ยงจะสิ้นสุด หลิงฮันกับจักรพรรดินีก็ขอตัวแยกออกมา การแยกจากกันถึงสองปีทำให้ทั้งสองคิดถึงกันเป้นอย่างมาก

หนึ่งเดือนผ่านไปในที่สุดการเตรียมพร้อมกับเสร็จสิ้น

หลิงฮันนำคนที่สนิทสนมอย่างพวกเฟิงโปหยุนเข้าสู่หอคอยทมิฬในขณะที่นำคนอื่นๆเข้าสู่อุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปพร้อมกับออกเดินทาง

จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะและจักรวรรดิต้าหลิงฮัน เขาไปมอบหน้าที่การดูแลให้กับพวกผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย หลิงฮันใช้เวลาส่วนหนึ่งติดตั้งรูปแบบอาคมคุ้มกันระดับเซียนเอาไว้แล้ว ตราบใดที่มีรูปแบบอาคมนี้อยู่ แม้แต่เซียนระดับสูงก็ไม่อาจทำอะไรได้

และก็ใช่ว่าหลิงฮันจะไม่กล้ามาเลยเสียเมื่อไหร่ ด้วยอายุขัยอันยาวนานของจอมยุทธในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้เขาจากไปดินแดนแห่งเซียนหนึ่งหมื่นปีและกลับมา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สมควรเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไหร่

อีกเก้าเดือนต่อมา หลิงฮันเดินทางกลับมาถึงดาวมู่ถูและตรงไปยังเขตแดนลี้ลับที่มีรูปแบบบ่มเพาะพลังที่แตกต่าง ตอนนี้สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าเขตแดนลี้ลับต้าเหอตามที่จอมยุทธของที่นี่ใช้เรียกกัน

หลิงฮันนำคนจากภายในอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ออกมา หากบ่มเพาะพลังที่นี่ ความเร็วในการบ่มเพาะจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

เพียงแต่เมื่อกลับเข้ามายังเขตแดนลี้ลับต้าเหอ หลิงฮันก็รู้สึกว่าหากเทียบกับเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ พลังวิญญาณของที่นี่ได้เบาบางลงกว่าเดิมมาก แม้ว่าเทียบโลกภายนอกมันก็ยังถือว่าเป็นพลังวิญญาณที่หนาแน่นก็ตาม

เหตุผลที่เป็นเช่นนี้คงเพราะแต่เดิมเขตแดนลี้ลับแห่งนี้เป็นโลกที่ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เมื่อมันกลายเป็นเขตแดนลี้ลับเปิดกว้างแล้วพลังวิญญาณจึงรั่วไหลออกไป หากยังเป็นแบบนี้สักวันหนึ่งเขตแดนลี้ลับแห่งนี้คงกลายเป็นเพียงเขตแดนลี้ลับทั่วไป ซากศพของยักษ์มหึมาก็เช่นกัน วันหนึ่งพลังของมันคงจะเสื่อมสลายอย่างสมบูรณ์และเหล่าตระกูลภายในเขตแดนที่พึ่งพาพลังของมันก็จะค่อยๆหายไปตามกาลเวลา

หลิงฮันรู้สึกเสียใจเล็กน้อยในขณะที่คนอื่นๆที่เขาพามาล้วนแต่ตกตะลึง พลังวิญญาณของสถานที่แห่งนี้ช่างหนาแน่นเหนือจินตนาการ

สตรีนกอมตะและสหายคนอื่นๆของเขาก็ยังอยู่ที่นี่เพื่อบ่มเพาะรวบรวมปราณก่อเกิด หลังจากที่หลิงฮันมาถึง จอมยุทธหลายก็เดินมากล่าวกับเขาว่าพวกเขากำลังจะทะลวงผ่าน

หลิงฮันสามารถกำราบทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ให้คนอื่นได้เรื่องจากสวรรค์และปฐพีไม่มีอำนาจพอจะคุกคามเขา

จอมยุทธที่ต้องการทะลวงผ่านมีทั้งหมดสิบเอ็ดคน แต่หลังจากแทรกแซงทัณฑ์สายสวรรค์ไปแล้วสิบคนหลิงฮันได้พบว่าทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ไม่ลงมืออะไรกับเขาแล้ว!

แม้แต่เมฆสายฟ้าก็ไม่ปรากฏให้เห็น ราวกับฟ้าสวรรค์และปฐพีรู้ตัวแล้วว่าไม่อาจทำอะไรกับเขาได้จึงคร้านที่จะสนใจ

หลิงฮันพุ่งทะยานเข้าหาเมฆสายฟ้าของจอมยุทธคนที่สิบเอ็ด แต่เขาก็ต้องสลดเนื่องจากเมื่อเห็นว่าหลิงฮันเข้ามาใกล้ เมฆสายฟ้าก็สหายตัวไปในทันที

ทะ… ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เลือกที่จะเผ่นหนี!

จักรพรรดินีและทุกคนตกตะลึงก่อนจะหัวเราะ หลิงฮันเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง แม้แต่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ก็ยังไม่อยากยุ่งกับเขา

หลิงฮันลองอีกหลายครั้งแต่ก็ไร้ผล ตอนนี้หากเขาแทรกแซงทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของใคร ไม่เพียงแค่เขาจะไม่ติดร่างแหโดนทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ไปด้วย แต่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของคนอื่นก็ยังสลายหายไป

เหตุการณ์นี้สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้คนเป็นอย่างมากและทำให้ทุกคนตระหนักเป็นอย่างดีว่าหลิงฮันในตอนนี้ทรงพลังถึงขนาดที่ว่าทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ก็ยังเลือกที่จะหลีกเลี่ยงเขา

หลิงยอมแพ้และเปลี่ยนแผน เอาไว้ตอนไปยังดินแดนใต้พิภพเขาค่อยลองดูอีกครั้ง เพราะอย่างไรสวรรค์และปฐพีของดินแดนทั้งสองก็แบ่งแยกออกจากกัน

หลิงฮันออกเดินทางอีกครั้ง เขายังมีหนี้แค้นที่ต้องสะสางกับเหล่าดินแดนต้องห้ามที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาอยู่อีกมากมาย

ด้วยความโลภที่มีต่อทักษะระดับราชานิรันดร์ ราชาเซียนจำนวนหนึ่งได้รวมหัวกันรุกจัดการเขา ตอนนี้ราชาไค่หยุนถูกสังหารไปแล้วหนึ่งคน คนอื่นๆคิดรึว่าจะหลบหนีไปไหนได้?

ขุมอำนาจแรกที่เขาตั้งใจไปคิดบัญชีแค้นคือดินแดนต้องห้ามแปดศิลา

ที่ดินแดนต้องห้ามแปดศิลายังมีราชาเซียนอยู่อีกคนแต่ไม่ใช่ราชาเซียนสูงสุด แม้แต่ราชาเซียนสูงสุดก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงฮัน แค่ราชาเซียนทั่วไปจะนับเป็นอันใด? หลิงฮันสลายขุมอำนาจดินแดนต้องห้ามแปดศิลาโดยไม่สังหารใคร

ใครอนาคตพวกเขาจะฟื้นฟูขุมอำนาจกลับมาได้หรือไม่ก็อยู่ที่ความสามารถของพวกเขาเอง แต่ตอนนี้ได้ถือว่าความบาดหมางระหว่างพวกเขากับหลิงฮันถูกสะสางแล้ว

และแน่นอนว่าหลิงฮันไม่ลืมที่จะปล้นชิง สมบัติที่เขาได้มาคือวัสดุเซียนสามชิ้น อุปกรณ์เซียนสิบสองชิ้นและสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำสองต้น

ไม่ว่าเป็นวัสดุเซียนหรืออุปกรณ์เซียนหลิงฮันได้นำไปให้ดาบอสูรนิรันดร์กลืนกินทั้งหมด ระดับของดาบอสูรนิรันดร์ในตอนนี้คืออุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบเจ็ด หลิงฮันคาดการณ์เอาไว้ว่าหลังจากปล้นชิงสมบัติของดินแดนต้องห้ามทั้งหมดที่เป็นศัตรูมา ดาบอสูรนิรันดร์คงจะบรรลุสู่ระดับสิบแปด

หากต้องการยกระดับดาบอสูรนิรันดร์ยิ่งขึ้นไปอีกคงต้องเป็นหลังจากที่เข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนแล้ว ด้วยทรัพยากรของที่นั่นคงไม่ใช่เรื่องยากลำบากเกินไป

หลิงฮันเดินหน้าสะสางบัญชีแค้นกับดินแดนต้องห้ามทีละแห่งและเก็บเกี่ยวสมบัติได้มากมาย หลังจากทำลายดินแดนต้องห้ามแห่งที่สิบสามเสร็จสิ้น ในที่สุดดาบอสูรนิรันดร์ก็บรรลุเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบแปด!

หากต้องการให้ดาบอสูรนิรันดร์บรรลุเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบเก้า จำนวนของแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบแปดที่จำเป็นต้องใช้คงเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างน้อยร้อยเท่า

เกรงว่าหากอยู่ในโลกบรรพกาล เขาคงต้องใช้เวลานับหมื่นปีกว่าจะหาครบ

หลังจากสะสางหนี้แค้นเก่าเสร็จสิ้นแล้ว หลิงฮันก็มุ่งหน้าเข้าสู่ดินแดนใต้พิภพ เขาต้องการพาจ้าวอสูรป้าเจี้ยนจ้าวอสูรขวงล่วน โอวหยางไท่ซานและสหายคนอื่นๆเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนไปด้วยกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด