Alchemy Emperor of the Divine Dao 1680 ล่อใจด้วยรางวัล

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1680 ล่อใจด้วยรางวัล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ใบหน้าของติงหู่บูดบึ้งน่าเกลียด

ในฐานะนิรันดร์ระดับโลกียนิพพาน เป็นเวลานานมาแล้วที่ไม่มีใครทำให้เขาอารมณ์เสีย แต่ตอนมดปลวกระดับสร้างสรรพสิ่งตัวจ้อยกลับทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมากจนอยากจะสังหาร

เขาเปิดปากกล่าว “ใครที่ได้ตำแหน่งผู้นำกลุ่มในการทดสอบครั้งนี้ ข้าจะมอบศิลาดวงดาวให้สิบก้อนเป็นรางวัล”

ศิลาดวงดาวคือสิ่งที่มีเพียงแค่ในดินแดนแห่งเซียน มันถูกหลอมมาจากอุกกาบาตที่อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้าขึ้นไป

มีคำกล่าวว่าแม้แต่ราชานิรันดร์ก็อาจจะไม่สามารถขึ้นไปเหนือชั้นฟ้าได้ เพราะงั้นศิลาดวงดาวจึงสามารถหาได้จากอุกกาบาตที่ตกลงมาเท่านั้น มันคือสมบัติที่ช่วยเพิ่มระดับความเข้าใจในพลังให้แก่จอมยุทธได้อย่างยอดเยี่ยม

หากเข้าร่วมกองกำลังธุลีจันรทรา ทหารชั่วคราวแต่ละคนในกองกำลังจะได้รับค่าตอบแทนเป็นศิลาดวงดาวหนึ่งก้อนต่อปี ในขณะที่หัวหน้ากลุ่มจะได้รับสองก้อนต่อปี   ศิลาดวงดาวที่ติงหู่เสนอมาจึงเป็นรางวัลที่ล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก

แต่เจตนาของติงหู่คืออะไรนั้นทุกคนย่อมรู้ดี เขาคิดจะใช้เงินซื้อคนให้ทำการท้าประลองหลิงฮัน

สำหรับติงหู่ การจะแจกจ่ายศิลาดวงดาวร้อยก้อนนั้นเป็นเรื่องเล็ก จำนวนศิลาดวงดาวเท่านี้คือทรัพยากรเพียงเดือนเดียวของตัวตนระดับนิรันดร์

เมื่อมีศิลาดวงดาวสิบก้อนมาล่อเป็นรางวัล ใครลองคนก็คิดจะท้าประลองทันที

ไม่ว่าอย่างไรกองกำลังชั่วคราวเช่นพวกเขาก็ต้องถูกคัดออกหนึ่งคนทุกๆปีอยู่แล้ว หากถูกคัดออกตั้งแต่ปีแรกพวกเขาก็ไม่ได้ทรัพยากรอะไรเลยสิ ด้วยเหตุนี้รางวัลศิลาดวงดาวสิบก้อนจึงล้ำค่าต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก

‘ตุบ’ ร่างของใครบางคนทะยานขึ้นลานประลองไปยืนด้านหน้าหลิงฮัน

ร่างนั้นเป็นบุรุษที่รูปลักษณ์ค่อนข้างอัปลักษณ์ เขาผสานมือคารวะหลิงฮันและกล่าว “น้องชาย ข้าไม่อยากทำให้บาดเจ็บไปมากกว่านี้ เจ้าช่วยยอมแพ้ได้หรือไม่?”

แววตาของหลิงฮันส่องประกายโหดเหี้ยม เขาจำเป็นต้องสุภาพกับคนที่คิดฉวยโอกาสลงมือกับเขาในตอนที่บาดเจ็บสาหัส?

“ไสหัวไป!” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส

“ไม่ใยดีความหวังดีของข้า?” ชายผู้นั้นแสยะยิ้มก่อนจะทะยานร่างโจมตีเข้าใส่หลิงฮัน ในความคิดของเขา ด้วยบาดแผลสาหัสของหลิงฮันในตอนนี้ เพียงแต่โจมตีเบาๆหลิงฮันก็พ่ายแพ้แล้ว

เพราะงั้นเขาจึงต้องระวังให้ดีเพื่อไม่ให้เผลอสังหารหลิงฮัน

หลิงฮันคว้ามือไปยังคอของอีกฝ่ายและทุ่มลงพื้น ‘ปัง’ ร่างของชายผู้นั้นกระแทกเข้ากับพื้นอย่างรุนแรง หลิงฮันใช้เท้าเหยียบศีรษะของอีกฝ่ายโดยไม่รอให้มีโอกาสลุกขึ้นยืน

“ยกเท้าออกไป!” ชายผู้นั้นโอดครวญด้วยความอับอายและพยายามใช้มือดันพื้นลุกขึ้นยืน

หลิงฮันไม่สนใจ เขามองไปยังติงหู่ที่นั่งอยู่บนลานสูงก่อนจะกดเท้าลงเล็กน้อย ‘ตูม’ ศีรษะของชายที่นอนอยู่บนพื้นกระแทกเข้าใส่ลานประลองที่อันทนทาน

อย่างที่รู้ว่าภูมิประเทศของดินแดนแห่งเซียนนั้นแข็งทนทานมากและไม่สามารถทำลายได้ด้วยพลังระดับสร้างสรรพสิ่ง เมื่อถูกหลิงฮันกระทืบศีรษะกระแทกพื้นชายผู้นี้ก็สลบเมือดทันที

หลิงฮันเหยียบย่ำศีรษะของชายผู้นี้เอาไว้ใต้เท้าในขณะที่ดวงตาจดจ้องอยู่ที่ติงหู่ราวกับกำลังแสดงเจตนายั่วยุว่า ไม่ว่าเจ้าจะใช้ลูกไม้แบบไหนข้าก็พร้อมจะเล่นด้วย

ติงหู่มือสั่น เขายังโมโหไปมากกว่านี้เขาคงไม่อาจควบคุมความคิดที่จะสังหารของตัวเองได้อีกต่อไป แต่หากลงมือสังหารผู้เข้าทดสอบ เขาก็จะตกเป็นเป้าหมายของตระกูลต้วนและตระกูลล้ง เป็นไปไม่ได้เลยที่ทั้งสองตระกูลจะไม่เรียกร้องให้เขารับผิดชอบ

ในหมู่สามตระกูลใหญ่ไม่มีความเป็นมิตรไมตรีต่อกัน โดยเฉพาะกับตระกูลติงที่เคยมีประวัติเคยสังหารหมู่ตระกูลหูมาก่อน ไม่มีทางที่ทั้งสองตระกูลจะไม่ระมัดระวังตัวต่อพวกเขา

เมื่อเคยมีประวัติมาแล้วครั้งหนึ่งก็มีโอกาสที่ประวัติจะซ้ำรอย!

ติงหู่เค้นเสียงในใจและปิดตาลง เขาไม่สนใจการยั่วยุจากหลิงฮันอีกต่อไป ที่จริงเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้ หากไม่ใช่เพราะเขารู้สึกไม่สบอารมณ์หลิงฮันตั้งแต่แรกเห็น เขาจะทำให้อัจฉริยะศักยภาพสามดาวครึ่งตั้งตนเป็นศัตรูกับตระกูลติงทำไม?

บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังที่มีต่อตระกูลติงจากสายตาของหลิงฮัน

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้ทดสอบโลภมากอีกคนก็ท้าประลองหลิงฮัน ผลลัพธ์ก็เป็นเช่นเดิม ผู้ท้าประลองถูกเขาเหยียบย่ำกระแทกใส่พื้นหิน

ด้วยอำนาจทีน่ายำเกรงเช่นนี้จึงไม่มีใครท้าประลองเขาอีก

สามวันผ่านไปในที่สุด หัวหน้ากลุ่มทั้งสิบถูกติดสินและถึงเวลาจัดแจงสมาชิกของกลุ่มทั้งสิบกลุ่ม

ผู้ทดสอบทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะติดตามผู้นำคนไหน ผู้นำเองก็มีสิทธิ์เลือกเช่นกันว่าจะรับเข้ากลุ่มหรือไม่ เมื่อทุกคนเลือกกลุ่มเสร็จสิ้นแล้ว ใครที่ยังไม่ได้กลุ่มก็จะถูกสุ่มรวมไปอยู่กลุ่มที่ยังมีสมาชิกไม่ครบร้อยคนโดยไม่สนว่าเจ้าตัวจะต้องการหรือไม่

หลิงฮันยืนโดยที่เลือดยังไหลออกมาจากหน้าอกไม่หยุด เจตจำนงยุทธ์ของนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานกำลังไหลอาละวาดอยู่ในกล้ามเนื้อและโลหิตของเขา ด้วยระดับพลังที่ห่างชั้นทำให้คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ไม่สามารถขจัดมันออกไปได้

เขายืนอย่างหมาป่าเดียวใดที่มีบาดแผลและโลหิต

แน่นอนว่าจักรพรรดินีย่อมไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมกลุ่มของเขา แต่นอกจากนางแล้ว คนอื่นๆไม่มีใครเลยที่เข้ามาใกล้เขา

ใครจะกล้าล่วงเกินติงหู่?

หากใครยินดีที่จะติดตามหลิงฮันก็หมายความว่าคนผู้นั้นไม่ไว้หน้าติงหู่ไม่ใช่รึไง?

ไม่มีใครกล้าหักหน้านิรันดร์ระดับโลกียนิพพาน!

เทียบกับผู้นำคนอื่นๆแล้ว ทางด้านของหลิงฮันเงียบสงบเป็นอย่างมาก หลิงฮันยิ้มเจื่อน เขาแค่อยากสร้างตัวตนในดินแดนแห่งเซียนถึงได้เข้าร่วมกับกองกำลังธุลีจันรทรา ไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์จะกลายมาเป็นเช่นนี้

ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องจัดการภารกิจลบล้างตระกูลติงให้ลุล่วงโดยไวที่สุด

เมื่อผู้นำอีกเก้ากลุ่มรับสมาชิกครบ ผู้ทดสอบอีกเก้าสิบแปดคนที่เหลือก็ถูกบังคับให้มาอยู่ภายใต้คำสั่งของหลิงฮัน

หลังจากผ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ผู้ทดสอบไม่ได้ถูกเรียนด้วยหมายเลขอีกต่อไป ทุกคนทำการลงทะเบียนกองทัพด้วยชื่อและสถานะของตนเอง

หลิงฮันได้รับรู้ในตอนนี้เองว่าเด็กหนุ่มที่ใช้ดาบและโหดเหี้ยมราวกับนักฆ่ามีชื่อว่าเว่ยโปว สตรีที่ใช้ความมืดกัดกร่อนมีชื่อว่าฉินเฮิ่น และชายชราที่ปกคลุมร่างของตนเองด้วยเกล็ดทมิฬมีชื่อว่าหลัวซินหยาง

ด้วยการที่หลิงฮันต้องรับสมาชิกจากผู้ทดสอบที่เหลืออยู่ พลังของสมาชิกของเขาจึงจัดอยู่ในกลุ่มที่อ่อนแอที่สุด ทุกคนในกลุ่มต่างถอนหายใจ ดูเหมือนว่ากว่าจะถึงร้อยปีข้างหน้า พวกเขาคงถูกกลุ่มอื่นรังแกเป็นแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด