Alchemy Emperor of the Divine Dao 1704 หนึ่งกระบวนท่า

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1704 หนึ่งกระบวนท่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หากถงหลินยังคงรู้สึกตัวหลังความตาย เขาจะต้องหดหู่มากเป็นแน่

ช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก! เหตุใดจ่างซุนเหลียงถึงสังหารเขา?

หลังจากได้สติคืนมาเขาก็พบว่าหลิงฮันกับชายหนุ่มผมแดงกำลังปะทะกันอยู่ เขาจึงรีบนำชุดสำรองออกมาจากอุปกรณ์มิติและรุดหน้ามาที่นี่ทันที

เขาเชื่อว่าจ่างซุนเหลียงจะต้องคืนความยุติธรรมให้แก่เขาแท้ๆ ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายจ่างซุนเหลียงจะสังหารเขาในหนึ่งฝ่ามือโดยไม่เอ่ยกล่าวอะไรสักคำ

ฝนโลหิตจากร่างที่ถูกบดขยี้ของถงหลินเปรอะเปื้อนไปทั่วไปหน้าของหลิวมู่อวี่ นางตั้งสติกลับมาและพบว่าผู้ที่สังหารถงหลินคือจ่างซุนเหลียง

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

หลิวมู่อวี่หวาดผวาจนใบหน้าซีดเผือดและขาสั่นระริก นางกลัวว่าจ่างซุนเหลียงจะลงมือสังหารนางด้วยอีกคน

“ทะ ทายาทโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!” นางรีบคุกเข่าอ้อนวอนร้องขอชีวิต

จ่างซุนเหลียงเผยสีหน้าเหยียดหยาม อีกฝ่ายต้องเป็นสตรีบัดซบที่เป็นคนพลอดรักกับถงหลินในอาณาเขตของเขาเป็นแน่

“ไสหัวไป!” เขาคำราม

“จะ จะ เจ้าค่ะ!” หลิวมู่อวี่ไม่กล้ารีรอและรีบหันหลังเผ่นหนีไปทันที

จ่างซุนเหลียงสูดหายใจลึกและพยายามระงับอารมณ์ เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าเมื่อครู่เขาเผลอลงมือเกินควร ไม่ว่าอย่างไรตระกูลถงก็เป็นขุมอำนาจระดับสี่นิพพาน แต่ในเมื่อสังหารไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ ด้วยนิสัยของเขาย่อมไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ

เขามองไปยังหลิงฮันและเผยรอยยิ้มพร้อมกับปรบมือ “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

ทุกคนนิ่งเงียบไร้คำพูด เจ้าเพิ่งโมโหจนลงมือสังหารถงหลินไปแท้ๆ เหตุใดจู่ๆถึงได้ปรบมือชมเชยหลิงฮันกัน? ช่างเป็นการเอ่ยชมที่ปลอมยิ่งนัก… แต่ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นถึงทายาทของนิกายจันทราหม่นแสง ไม่มีใครกล้าติเตียนเขาอยู่แล้ว

“ใครอยากท้าประลองผู้ชนะรึไม่?” จ่างซุนเหลียงกล่าว

ไม่มีใครกล้าเสนอตัว จากพลังที่แสดงให้เห็นเมื่อครู่ ทุกคนย่อมรับรู้ว่าหลิงฮันนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหยวนซิ่งผิงและตันอวี่จิงแน่นอน ต่อให้เมืองจันทราหม่นแสงจะเป็นเมืองสองดาวและมีจำนวนอัจฉริยะมากกว่าเมืองหนึ่งดาว แต่อัจฉริยะระดับเดียวกับหยวนซิ่งผิงหรือตันอวี่จิงนั้นก็ยังมีเพียงหยิบมือ เหนือสิ่งอื่นใดคือต่อให้เป็นอัจฉริยะระดับนั้นจะเอาชนะหลิงฮันได้รึเปล่าก็ไม่รู้

ใบหน้าของจ่างซุนเหลียงเผยถึงความรู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ไม่มีใครคิดจะท้าประลองเลย?

ด้วยสถานะของตัวเขาย่อมไม่อาจลดตัวลงไปขอท้าประลองกับหลิงฮันด้วยตัวเอง

“ฮ่าๆ แม้ข้าจะไม่ได้มีพรสวรรค์สูงส่งอะไร แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ข้าขอคำชี้แนะจากเจ้าหน่อยแล้วกัน” ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเดินออกมาจากฝูงชน เขาโค้งให้กับจ่างซุนเหลียงเล็กน้อยก่อนจะหันมองหลิงฮัน

สีหน้าของจ่างซุนเหลียงเปลี่ยนมาดีขึ้น ชายหนุ่มผู้นี้คืออัจฉริยะของตระกูลเซี่ยง เซี่ยงเหวินคุน อีกฝ่ายเป็นหนึ่งในจอมยุทธที่เขายอมรับว่าทรงพลัง

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ตกลง ข้าจะชี้แนะเจ้าเอง”

เซี่ยงเหวินคุนแสดงท่าทางไม่สบอารมณ์ ที่เขากล่าวว่า ‘ขอคำชี้แนะ’ นั้นเขาเพียงแค่พูดตามมารยาทเท่านั้น

ฮึ่ม พวกจอมยุทธหลังเขาจากเมืองหนึ่งดาวช่างไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า!

คิดว่าตนเองไร้เทียมทานในเมืองหนึ่งดาวเล็กๆ แล้วจะเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งของโลก?

“งั้นก็มาประลองกัน” เขาคร้านจะพล่ามไร้สาระและกวักนิ้วไปยังหลิงฮัน

หลิงฮันยิ้มและชูหนึ่งนิ้วพร้อมกับกล่าว “หนึ่งกระบวนท่า”

ทุกคนที่ได้ยินต่างสูดหายใจลึก เจ้าคิดจะเอาชนะเซี่ยงเหวินคุนในหนึ่งกระบวนท่า? ช่างอวดดีนัก!

เซี่ยงเหวินคุนเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก เขาระเบิดเสียงหัวเราะและกล่าว “หนึ่งกระบวนท่าก็หนึ่งกระบวนท่า!” สายตาของเขาจับจ้องไปยังหลิงฮันพร้อมกับโคจรปราณก่อเกิด ตราประทับแห่งดาบปรากฏขึ้นที่กลางหน้าผากเหนือคิ้วของเขา ออร่าที่พรั่งพรูออกมาส่งผลให้ทุกคนรอบข้างรู้สึกกดดันไปด้วย

เขาเตรียมพร้อมจะปลดปล่อยทักษะที่ทรงพลังที่สุด อำนาจจากสายเลือดโบราณของเขาเมื่อถูกกระตุ้นจะทำให้พลังต่อสู้ถูกยกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ต้องกำราบในหนึ่งกระบวนท่า!

หลิงฮันพาดมือไว้ด้านหลังและรอคอยให้อีกฝ่ายเตรียมพร้อมใช้กระบวนท่าที่ทรงพลัง เขาไม่คิดจะหลบหลีกหรือขัดขวางการรวบรวมพลังปราณของอีกฝ่าย

บ้าไปแล้ว!

ทุกคนอุทานในใจ คู่ต่อสู้เป็นถึงเซี่ยงเหวินคุนที่แข็งแกร่ง เมื่อเผชิญหน้ากับเขาต่อให้เป็นหยวนซิ่งผิงกับตันอวี่จิงก็ต้องระวังตัวให้ดี หากประมาทแม้แต่นิดเดียวทั้งสองคนย่อมพ่ายแพ้ในพริบตา

“ดาบเหมันต์เทวาเยือกแข็ง!” เซี่ยงเหวินคุนคำรามและยกมือไปสัมผัสกับตราประทับดาบบนหน้าผาก ‘พรึบ’ ปราณอันเย็นยะเยือกปรากฏออกมาจากตราประทับดาบและควบแน่นกลายเป็นดาบน้ำแข็ง ‘ฉึบ’ ดาบน้ำแข็งพุ่งทะยานเข้าใส่หลิงฮันอย่างไม่รีรอ พริบตานั้นเองๆจู่ๆอุณหภูมิรอบด้านก็ลดฮวบ

ทุกคนรู้สึกราวกับโลหิตที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกำลังจะถูกแช่แข็ง บางคนถึงขนาดพบว่าแขนและขาของตนเองถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งหนาแล้ว

น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก เพียงแค่คลื่นพลังที่ปลดปล่อยออกมายังรุนแรงขนาดนี้ หากถูกดาบน้ำแข็งเล่มนั้นทะลวงเข้าใส่ตรงๆ จะยังมีใครรอดชีวิตได้?

หลิงฮันเผยรอยยิ้มและยื่นนิ้วออกมารับดาบน้ำแข็งด้วยท่าทางสบาย

ทุกคนส่ายหน้าอย่างพร้อมเพรียง การรับดาบแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนั้นด้วยมือเปล่านั้น ไม่ต่างอะไรจากแส่หาความตายใส่ตัว

‘ปัง’ ดาบน้ำแข็งแตกสลายเมื่อปะทะกับปลายนิ้ว ในขณะเดียวกันนั้นเอง ออร่าอันเย็นยะเยือกของดาบก็ได้ไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายและแช่แข็งร่างของหลิงฮัน

เซี่ยงเหวินคุนเผยสีหน้าภูมิใจ นี่คือบทสรุปของคนที่กล้าดูถูกและทำให้เขาโกรธ

‘ครืนน’ ร่างของหลิงฮันระเบิดเปลวเพลิงออกมาหลอมละลายน้ำแข็งในพริบตา นิ้วมือของเขาควบแน่นพลังกลายเป็นนิ้วปราณก่อเกิดขนาดเท่าภูเขาพุ่งเข้าใส่เซี่ยงเหวินคุน

เซี่ยงเหวินคุนชะงัก รัศมีของนิ้วมือปราณก่อเกิดนั้นกว้างเกินไปที่เขาจะหลบทันและจำเป็นต้องระเบิดพลังทั้งหมดออกมาเพื่อทำการตอบโต้

‘ปัง ปัง ปัง’ เซี่ยงเหวินคุนกระหน่ำปล่อยหมัดปะทะเข้ากับนิ้วมือปราณก่อเกิดแต่ก็ไม่ได้ผล นิ้วมือปราณก่อเกิดพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของเขาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง ‘ตูม’ ร่างของเซี่ยงเหวินคุนถูกอัดร่วงไปนอนกับพื้น

หนึ่งกระบวนท่าตามที่กล่าวเอาไว้จริงๆ…

ขนาดเซี่ยงเหวินคุนที่มีเวลาสะสมพลังปราณเพื่อปลดปล่อยทักษะที่ทรงพลังที่สุดออกมายังถูกกำราบในหนึ่งกระบวนท่า ความต่างของพลังต้องมีมากมายขนาดไหนกัน? อย่างที่รู้กันว่าทางด้านหลิงฮันนั้นไม่ได้เตรียมตัวใดๆเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาทำมีเพียงยื่นนิ้วออกมาลวกๆ

ครั้งนี้แม้แต่จ่างซุนเหลียงก็จิตใจสั่นสะท้าน

เม่าไต้เคยปรากฏตัวที่เมืองจันทราหม่นแสงและเหยียบย่ำเหล่าอัจริยะรุ่นเยาว์แห่งยุคสมัยจนได้ฉายาว่าอัจฉริยะไร้ที่เปรียบ หากจะให้ข้ากล่าว ตัวของเจ้านั้นทรงพลังยิ่งกว่าเม่าไต้ในตอนอดีตเสียอีก”

คำเอ่ยชมนี้แสดงให้เห็นว่าจ่างซุนเหลียงประเมินหลิงฮันเอาไว้สูงขนาดไหน เม่าไต้นั้นในอดีตเป็นตัวตนที่ยืนอยู่เหนือราชาเซียนทุกคน ความทรงพลังของเขาเป็นตำนานเล่าขานกันมาถึงทุกวันนี้และขนาดตระกูลฟู่ก็ยังต้องการรับตัวเข้าตระกูล เพราะฉะนั้นอนาคตภายภาคหน้าของเม่าไต้จึงไม่มีทางหยุดอยู่ที่นิรันดร์ระดับสี่นิพพานแน่นอน

การที่จ่างซุนเหลียงกล่าวว่าหลิงฮันทรงพลังยิ่งกว่าเม่าไต้อดีตนั้นเป็นคำเอ่ยชมที่เกินจริงไปรึเปล่า?

“เจ้ามีคุณสมบัติพอให้ข้าลงมือ!” จ่างซุนเหลียงกล่าวด้วยน้ำเสียงหยิ่งผยอง เขาคือสุดยอดอัจฉริยะที่ยืนอยู่เหนือราชาเซียนทั้งปวง เมื่อใดที่หุบเหวสืบสานนิพพานเปิดออกและเขาบรรลุเป็นนิรันดร์ระดับโลกียนิพพาน เขาก็ยังมั่นใจว่าตนเองจะยังคงไร้เทียมทามในระดับเดียวกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด