Alchemy Emperor of the Divine Dao 1732 วารีบรรพบุรุษ

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1732 วารีบรรพบุรุษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันไม่ได้ยอมถูกทุบตีอยู่ฝ่ายเดียว ‘ครืนน’ เพลิงเก้าสวรรค์ถูกโคจรและระเบิดออกมาแผดเผาเผาไปทั่วท้องฟ้า

ชายชราระดับโลกียนิพพานรู้สึกได้ว่าหากสัมผัสโดนเปลวเพลิงนี้เข้า ร่างของเขาจะต้องถูกเผาเป็นเถ้าถ่านแน่นอน เขารีบล่าถอยออกมาหนึ่งพันฟุตและใช้สายตาจดจ้องไปยังเปลวเพลิง

หลังจากตั้งสติให้ดีและตรวจสอบอย่างแน่ชัดเขาก็เกิดความรู้สึกสับสน ทั้งๆที่เปลวเพลิงตรงหน้านี้ไม่ได้ทรงพลังพอที่จะแผดเผาพลังป้องกันของเขาได้แท้ๆ แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่รุนแรง

แต่เมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว จิตใจของชายชราระดับโลกียนิพพานก็สั่นสะท้านทันที

เพลิงบรรพบุรุษ!

ตามตำนานที่เล่าขาน ในดินแดนแห่งเซียนมีเพลิงบรรพบุรุษอยู่ทั้งหมดเก้ารูปแบบ พลังของพวกมันสามารถเปรียบได้ว่าเป็นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงที่ทรงพลังที่สุด

หรือเปลวเพลิงตรงหน้าของเขาจะเป็นเพลิงบรรพบุรุษ? หากไม่ใช่ล่ะก็เพียงแค่จอมยุทธระดับโลกียนิพพานจะปลดปล่อยเปลวเพลิงที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร?

เจ้าหนูคนนี้นับว่าโชคดีอย่างแท้จริงที่สามารถผสานรวมกับเพลิงบรรพบุรุษได้!

ดวงตาของชายชราระดับโลกียนิพพานแดงฉานด้วยความริษยา สมบัติแห่งสวรรค์และปฐพีอันล้ำค่าที่แม้แต่ราชานิรันดร์ก็ไม่อาจมีอยู่ในครอบครองกลับตกอยู่ในมือของจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งตัวจ้อย

เขาจะต้องแย่งชิงวาสนาตรงหน้ามาให้ได้

“ฮ่าๆๆ มอบมันมาให้ข้า!” ชายชราระดับโลกียนิพพานคว้ามือไปยังหลิงฮัน มือปราณก่อเกิดของเขาพัวพันไปด้วยตราประทับแห่งเต๋าซึ่งสามารถใช้ต้านทานอำนาจของเพลิงสวรรค์ได้

หลิงฮันถอนหายใจ นิรันดร์ระดับโลกียนิพพานทุกคนที่มาที่นี่ล้วนแต่มีพลังแข็งแกร่งพอที่จะทะลวงผ่านเป็นสองนิพพาน เพราะงั้นต่อให้เขาจะเป็นราชาในหมู่ราชาของระดับสร้างสรรพสิ่งก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้ ความแตกต่างของระดับพลังพระเจ้ากับระดับพลังนิรันดร์มีมากเกินไป

“ฮ่าๆๆ คราวนี้พอเท่านี้แล้วกัน เอาไว้เจอกันอีกครั้งเมื่อไหร่ข้าจะตัดหัวสุนัขของเจ้าให้หลุดออกจากบ่า!” หลิงฮันโยนแพไม้ลงแม่น้ำและคว้าจับมือจักรพรรดินีหลบหนีทิ้งชายชราระดับโลกียนิพพานทิ้งไว้ด้านหลัง

ต่อให้อีกฝ่ายอยากจะไล่ตามมา แต่ด้วยอำนาจอันทรงพลังของสายน้ำในแม่น้ำแห่งนี้ บางทีอาจจะมีเพียงราชานิรันดร์ที่สามารถข้ามผ่านได้โดยไม่พึ่งพาเรือไม้พิเศษ

“ต้องบรรลุระดับโลกียนิพพานให้เร็วที่สุด” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

จักรพรรดินีพยักหน้าในใจ ถึงแม้นางกับหลิงฮันจะไร้เทียมทานในระดับสร้างสรรค์พสิ่ง แต่การที่ต้องหลบหนีทุกครั้งที่พบเจอกับตัวตนระดับโลกียนิพพานทำให้พวกนางไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

การไหลของคลื่นน้ำรวดเร็วเป็นอย่างมากแต่ผิวน้ำกลับแน่นิ่งไม่มีกระเด็นแม้แต่หยดเดียว และหากสังเกตให้ดีจะพบเห็นตราประทันแห่งเต๋าล่องลอยอยู่ใต้ผืนน้ำ น่าเสียดายที่น้ำเหล่านี้ไม่อาจใช้ดื่มกินได้ ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นสมบัติที่ล้ำค่าเกินพรรณนาสำหรับจอมยุทธที่ฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์วารี

ภายใต้ผืนน้ำไม่มีสัตว์อสูรอยู่แม้แต่ตัวเดียว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะอยู่รอดในแม่น้ำนี้ได้ สัตว์อสูรที่ว่าจำเป็นต้องมีระดับพลังอยู่ที่ราชานิรันดร์

“ไปยังส่วนลึกที่สุดของต้นน้ำให้ได้” จู่ๆหอคอยน้อยก็เอ่ยกล่าว

หลังจากเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียน หอคอยน้อยก็เงียบหายไปและไม่ตอบคำถามใดๆของหลิงฮันแม้แต่คำเดียว จากเหตุผลที่หอคอยน้อยอธิบายก็คือเพราะพลังวิญญาณของดินแดนแห่งเซียนนั้นหนาแน่นเป็นอย่างมาก มันจึงใช้เวลาทั้งหมดไปกับการซ่อนแซมตัวเองและคร้านเกินกว่าจะแยแสหลิงฮัน

ไม่คาดคิดว่าจู่ๆมันจะเป็นฝ่ายเปิดประเด็นพูดขึ้นมาเองเช่นนี้

หลิงฮันกล่าวผ่านห้วงจิตวิญญาณ “เจ้าไม่เป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อนโดยไม่หวังอะไรแน่! ข้าว่าเจ้าคงต้นพบบางสิ่งที่นี่ซึ่งช่วยให้เจ้าซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้นสินะ?”

หอคอยน้อยเค้นเสียงกล่าว “ข้าคิดว่าในบริเวณต้นน้ำของที่นี่จะต้องมีวารีบรรพบุรุษแห่งสวรรค์และปฐพีอยู่ ตอนแรกข้าตั้งใจว่าจะยกมันให้แก่เจ้า แต่ในเมื่อเจ้าบอกแบบนั้นเองข้าก็ยินดีจะรับไว้”

“เดี๋ยวก่อน อะไรคือวารีบรรพบุรุษ?” หลิงฮันถาม

“ในเมื่อสวรรค์และปฐพีมีเพลิงบรรพบุรุษทั้งเก้า ทำไมจะมีวารีบรรพบุรุษด้วยไม่ได้?” หอคอยน้อยกล่าวอย่างเหยียดหยาม

เพลิงบรรพบุรุษ… วารีบรรพบุรุษ… อำนาจแห่งสวรรค์และปฐพีที่ทรงพลังที่สุด!

หลิงฮันสูดหายใจลึกและกล่าว “ข้าสามารถดูดซับวารีบรรพบุรุษมาเป็นพลังของข้าได้?”

“ตามหลักการแล้วก็ใช่” หอคอยน้อยกล่าว “แต่หากไม่มีการช่วยเหลือของข้า สำหรับตัวเจ้าในตอนนี้คงไม่มีทางเป็นไปได้”

หลิงฮันถอนหายใจ “เจ้าช่วยจริงจังหน่อยได้รึไม่?”

หอคอยน้อยเค้นเสียงไม่พอใจสองสามครั้งก่อนจะกล่าว “แม่น้ำสายนี้เป็นไปได้สูงมากที่จะเกิดมาจากวารีบรรพบุรุษ หากเจ้ามุ่งหน้าตามเส้นทางของแม่น้ำไปจนถึงต้นน้ำ ที่นั่นก็สมควรจะมีวารีบรรพบุรุษอยู่”

“แล้วข้าจะครอบครองมันได้อย่างไร?” หลิงฮันเอ่ยถาม “แม้แต่น้ำในแม่น้ำข้าก็ไม่สามารถสัมผัสได้”

หอคอยน้อยเค้นเสียงฮึดฮัดอีกครั้ง “ไม่ใช่เรื่องยาก เจ้าที่ดูดซับเพลิงเก้าสวรรค์เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายได้แล้ว แค่ห่อหุ้มร่างกายของตัวเองเอาไว้ด้วยเพลิงเก้าสวรรค์ เจ้าก็จะไม่รับผลกระทบอันใดนั้นจากวารีบรรพบุรุษ”

“มันจะได้ผลจริงๆ?” หลิงฮันสงสัย เพลิงเก้าสวรรค์ที่ยังมีพลังไม่ถึงระดับโลกียนิพพานจะต้านทานอำนาจของวารีบรรพบุรุษได้?

“โง่จริงๆ ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าใช้เพลิงเก้าสวรรค์ต้านทานวารีบรรพบุรุษตรงๆ หากเพียงแค่ออร่าที่เล็ดรอดออกมาจากวารีบรรพบุรุษ เพลิงเก้าสวรรค์ยังไม่สามารถต้านทานได้ล่ะก็ มันจะถูกเรียกว่าเป็นเพลิงบรรพบุรุษได้อย่างไร?” หอคอยน้อยค้าน

“แต่ข้าจำเป็นต้องทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพาน หากมัวเสียเวลาล่ะก็…” หลิงฮันลังเล หากพลาดโอกาสทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานในครั้งนี้ เขาจำเป็นต้องรอไปอีกสิบล้านปีหรือไม่ก็ต้องหาสถานที่สำหรับทะลวงผ่านแห่งอื่น

บางทีเขาอาจจะเลือกทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานก่อนแล้วค่อยกลับมาเก็บเกี่ยววารีบรรพบุรุษในภายหลัง

“เห้อ ข้ามีเจ้านายที่โง่เช่นเจ้าได้อย่างไรกัน?” หอคอยน้อยถอนหายใจ “สถานที่แห่งนี้สมควรเกิดขึ้นมาได้เพราะอำนาจแห่งสวรรค์และปฐพีจากวารีบรรพบุรุษ หากเจ้าไปยังตำแหน่งที่ตั้งของวารีบรรพบุรุษได้เจ้าก็จะสามารถทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานด้วยอำนาจแห่งสวรรค์และปฐพีที่แข็งแกร่งที่สุดจากที่นั่น”

หลิงฮันรู้สึกโล่งอก หากเป็นเช่นนั้นจริงเขาก็จะไม่เสียเวลารอคอยสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

เพียงแค่เพลิงเก้าสวรรค์อย่างเดียวก็น่าสะพรึงกลัวมากพอแล้ว หากเขาได้ครอบครองวารีบรรพบุรุษที่เป็นอำนาจต้นกำเนิดของสวรรค์และปฐพีอีก พลังต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหน?

เขาเล่าเรื่องนี้ให้จักรพรรดินีและสตรีนกอมตะฟัง ซึ่งก็แน่นอนว่าทั้งสองตกลงที่จะมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกสุดของต้นแม่น้ำเพื่อให้หลิงฮันครอบครองวารีบรรพบุรุษ

ระหว่างทางที่ล่องลอยไปตามแม่น้ำพวกหลิงฮันพบเจอผู้คนมากมายหรือพบเห็นแม้แต่ซากแพไม้ที่พังทลายจากการต่อสู้ ด้วยอำนาจที่ทรงพลังของสายน้ำใครที่ตกลงไปย่อมเสียชีวิตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

เรื่องบังเอิญที่สุดคือพวกเขาพบเจอจางชงและเม่าซูอวี่อย่างไม่คาดคิดจึงได้ทำการไล่ตามทั้งสองคนจากด้านหลัง

ซึ่งการตัดสินใจที่ไล่ตามทั้งสองคนไปของหลิงฮันก็ถูกต้อง พวกจางชงถูกใครบางคนโจมตีเกือบไม่รอดจนหลิงฮันยื่นมือเข้าไปช่วย

เม่าซูอวี่นั้นด้วยแววตาอันเฉียบแหลม นางมองออกทันทีว่าคนที่ยื่นมือมาช่วยพวกนางคือหลิงฮันที่ปกปิดตัวตนอยู่ ส่วนจางชงเองก็รู้สึกผิดและละอายใจเป็นอย่างมากที่ก่อนหน้านี้เคยแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรกับหลิงฮันเอาไว้ แต่กลับถูกอีกฝ่ายช่วยชีวิต

หลิงฮันติดตามทั้งสองคนไปตลอดทางจนเมื่อเวลาผ่านไปสองวันพวกเขาก็มาถึงชายฝั่ง จากตรงนี้ไปจะสามารถเดินไปถึงสถานที่สำหรับทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานได้โดยไม่ต้องใช้เรือ มันคือสถานที่ที่อันตรายที่สุดในหุบเหวสืบสานนิพพานที่ถูกเรียกว่าถ้ำแห่งความตาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด