Alchemy Emperor of the Divine Dao 1754 วิหารบรรพบุรุษพบเจอภัยพิบัติอีกครั้ง

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1754 วิหารบรรพบุรุษพบเจอภัยพิบัติอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้าตัวบัดซบ หยุดมือเดี๋ยวนี้!” ติงจุ้นคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ทุกครั้งที่หลิงฮันลงมือ สมาชิกตระกูลติงจะถูกสังหารไปหลายสิบคน บางคนในหมู่สมาชิกที่ตายไปเป็นทายาทของเขาด้วยซ้ำ

เขาทะยานร่างปล่อยการโจมตีใส่หลิงฮัน

“ผู้อาวุโสผู้เกรียงไกร!”

“ผู้อาวุโสของพวกเราไร้เทียมทานที่สุด!”

“สังหารผู้บุกรุกให้สิ้นซาก!”

เหล่าสมาชิกตระกูลติงที่ยังเหลือรอดโห่ร้อง

ติงจุ้นทำการปลดปล่อยทักษะกาลเวลา การโจมตีใดๆที่พุ่งมาหาเขาจะถูกลดทอนอายุจนสลายไป ซึ่งเขาจะใช้โอกาสนั้นในการสังหารศัตรู

ดวงตาของหลิงฮันส่องประกายเย็นชายิ่งกว่าเดิม “วันนี้ ข้าจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับตระกูลหู”

‘ครืนน’ จิตวิญญาณของติงจุ้นสั่นสะท้านราวกับฟ้าผ่าพร้อมกับอุทานออกมา “จะ… เจ้าเป็นผู้เหลือรอดของตระกูลหู่!”

ถึงว่าทำไมหลิงฮันถึงได้ต่อต้านตระกูลติงนัก อีกฝ่ายถึงขนาดเสี่ยงชีวิตลากตระกูลหานเข้ามาเกี่ยวข้อง จนวิหารบรรพบุรุษตระกูลติงถูกทำลาย ที่แท้เจ้าหนูบัดซบตัวนี้ก็เป็นผู้สืบทอดของตระกูลหูนี่เอง!

หลิงฮันไม่กล่าวอธิบายใดๆ ติงจุ้นจะเข้าใจผิดไปแบบไหนก็ช่าง เพราะไม่ว่าอย่างไรสุดท้าย อีกฝ่ายก็ต้องถูกเขาสังหารอยู่ดี

เขาเอื้อมมือไปคว้าลำคอของติงจุ้นที่พุ่งเข้ามา

ร่างของอีกฝ่ายที่ถูกมือของเขาบีบเอาไว้แน่นพยายามดิ้นทุรนทุราย โดยไม่หลงเหลือภาพพจน์ของนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานอีกต่อไป

พลังของทั้งสองฝ่ายต่างกันดั่งฟ้ากับเหว!

หลิงฮันออกแรงบิดที่มือ ‘แกร่ก’ กระดูกลำคอของติงจุ้นแตกหักอย่างง่ายดาย พร้อมกับแขนขาทั้งสี่ข้างที่ห้อยดิ่งลงกับพื้น

ติงจุ้นตายแล้ว… ร่างของเขาไม่หลงเหลือพลังชีวิตอีกต่อไป แม้กระทั่งดวงวิญญาณก็ถูกอำนาจแห่งกฎเกณฑ์จากมือของหลิงฮันบดขยี้ โดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะลอยหนีออกมาจากกายหยาบ

หลิงฮันโยนร่างของติงจุ้นทิ้งอย่างไม่แยแส ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะปล้นชิงอุปกรณ์มิติของอีกฝ่ายมาด้วย

ผู้คนรอบด้านกลายเป็นนิ่งเงียบไร้คำพูด

นิรันดร์ระดับโลกียนิพพานอย่างติงจุ้นถูกสังหารอย่างง่ายดายราวกับหมูหมา โดยที่ไม่มีโอกาสแลกเปลี่ยนกระบวนท่าเลยแม้แต่กระบวนท่าเดียว?

ขาของทุกคนสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว แม้พวกเขาจะต้องการหลบหนี แต่ก็ก้าวขาไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว

หลิงฮันไร้ความปรานี ‘ปัง’ เขาปล่อยหมัดออกไปหนึ่งหมัดเพื่อส่งสมาชิกตระกูลติงหลายสิบคนไปยังปรโลก

“โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!” สมาชิกบางคนที่จิตใจอ่อนแอ ทำการคุกเข่าร้องขอความเมตตาจากหลิงฮัน

ซึ่งแน่นอนว่าหลิงฮันไม่สนใจแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของเขาคือ วันนี้ตระกูลจะต้องพินาศ

เขาโจมตีอย่างไม่แยแส จนสมาชิกตระกูลติงรอบด้านถูกสังหารไม่เหลือ

หลิงฮันและจักรพรรดินีเดินหน้าต่อ เนื่องจากตัวเขาเองก็ไม่ได้คุ้นเคยกับเส้นทางภายในตระกูลติงนัก หลิงฮันจึงเลือกที่จะมุ่งหน้าไปยังวิหารบรรพบุรุษที่เขาเคยไปมาก่อน

“นั่นมันเจ้าบัดซบ!”

“รีบไปแจ้งให้ท่านประมุขทราบเร็วเข้า!”

“อ้ากกก!”

ตลอดเส้นทางของหลิงฮัน ไม่มีสมาชิกตระกูลติงคนใดเลยที่รอดชีวิต เวลาผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองคนก็มาถึงวิหารบรรพบุรุษของตระกูลติงในที่สุด

ตั้งแต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเวลาก็ผ่านพ้นไปแล้วสองปี แน่นอนว่าวิหารบรรพบุรุษย่อมถูกบูรณะสร้างใหม่อีกครั้งเป็นที่เรียบร้อย กำแพงวิหารสีทองส่องประกายเจิดจรัสอย่างสง่างาม

“พวกเดรัจฉานที่ทำชั่วในขณะที่ยังมีชีวิต มีสิทธิ์อะไรที่จะได้รับเกียรติทั้งๆที่ตายไปแล้ว?” หลิงฮันแสยะยิ้มพร้อมกับปล่อยหมัดเริ่มการทำลายล้าง

‘ครืน ครืน ครืน’ ทั่วทั้งวิหารบรรพบุรุษสั่นสะเทือนแต่ก็ไม่พังทลาย

เหตุผลก็เพราะสถานที่แห่งนี้มีรูปแบบอาคมคุ้มกันติดตั้งเอาไว้ และหลิงฮันก็ไม่ได้มีพลังโจมตีที่รุนแรงเทียบเท่าหานลู่ที่เป็นถึงนิรันดร์สี่นิพพาน  แต่ทันทีที่หลิงฮันโคจรเพลิงเก้า วารีพลังหยินเร้นลับ และทักษะอัสนีบาตชำระล้างโลกา  พลังทำลายล้างของการโจมตีของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นพรวดพราด

ตามหลักแล้ว พลังทำลายของเพลิงเก้าสวรรค์และวารีพลังหยินเร้นลับนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับพลังของพวกมัน ตราบใดที่พลังทั้งสองสัมผัสโดนเป้าหมาย อำนาจแห่งกฎเกณฑ์อันทรงพลังก็จะบดขยี้ทุกอย่างจนสิ้นซาก!

ในความเป็นจริงอำนาจของอัสนีบาตชำระล้างโลกาก็ทรงพลังมากเช่นกัน เนื่องจากอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนีนั้นเป็นอำนาจที่มีพลังทำลายล้างรุนแรงที่สุดในโลก แม้ในตอนแรกอำนาจของอัสนีบาตชำระล้างโลกาจะถูกจำกัดเอาไว้เพียงแค่ในระดับสูงสุดของโลกบรรพกาล แต่หลังจากหลิงฮันเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียน ขีดจำกัดของทักษะก็ถูกเปิดออกและสามารถยกระดับขึ้นไปได้อีก หากได้รับการขัดเกลาจากพลังของสวรรค์และปฐพีในดินแดนแห่งเซียน

“เกิดอะไรขึ้นกับวิหารบรรพบุรุษ!!”

“นี่ตระกูลติงของพวกเราไปทำบาปอะไรไว้กันแน่ เหตุการณ์เช่นนี้ถึงได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง?”

ใครหลายคนที่กำลังคารวะบรรพบุรุษอยู่ในวิหารบรรพบุรุษร้องโอดครวญก่อนจะปรากฏตัวออกมาและจ้องมองไปยังหลิงฮัน ดวงตาของพวกเขาแต่ละคนส่องประกายโหดเหี้ยมราวกับต้องการจะฉีกกระชากหลิงฮันเป็นชิ้นๆ

“เจ้าตัวบัดซบ!” ปรมาจารย์ที่ทรงพลังคนหนึ่งก้าวออกมา

เขาคือติงซวง นิรันดร์ระดับหนึ่งนิพพาน

ติงซวงผู้นี้คือสมาชิกตระกูบติงที่มีพรสวรรค์โดดเด่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาบรรลุเป็นนิรันดร์ได้รวดเร็วกว่าจอมยุทธทั่วไป รูปลักษณ์ของเขาจึงคงสภาพอยู่ในช่วงอายุสี่สิบปีเท่านั้น

ติงเซี่ยวเฉินเองก็ปรากฏตัว สายตาของเขาจดจ้องไปยังหลิงฮันที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก

ศัตรูคู่ชีวิตของเขาตรงหน้ามีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งเกินจนเขาทำได้เพียงแหงนมอง ความเกลียดชังที่มีเขาทำได้เพียงแค่ระบายอยู่ในใจ โดยไม่กล้าแสดงออกมาให้อีกฝ่ายเห็น เนื่องจากทุกครั้งที่แสดงออกมา เขาจะต้องถูกหลิงฮันทุบตีจนหมดสภาพ

หลิงฮันโคจรพลังในใจและกล่าว “อสูรสงคราม จงออกมา!”

‘พรึบ’ ทันใดนั้นเอง คลื่นแสงสามคลื่นก็ลอยพุ่งออกมาจากร่างของเขา

คลื่นแสงสีขาวควบแน่นแปรสภาพกลายเป็นพยัคฆ์ คลื่นแสงสีแดงควบแน่นกลายเป็นวิหค คลื่นแสงสีฟ้าควบแน่นกลายเป็นอสูรอาชาอัสนี

สัตว์อสูรเหล่านี้คือสิ่งที่เกิดจาก ‘ทักษะสิบอสูรสงคราม’ ทักษะระดับราชานิรันดร์ที่เขาได้รับจากความทรงจำของราชานิรันดร์ว่านโซ่ว!

เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาฝึกฝนบางส่วนของทักษะสิบอสูรสงครามได้สำเร็จ และสามารถเรียกสัตว์อสูรสงครามออกมาได้สามตัว ซึ่งเขาได้ใช้เพลิงเก้าสวรรค์ วารีพลังหยินลี้ลับ และอำนาจสายฟ้าของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เป็นแก่นพลังงาน

ทันทีที่สัตว์อสูรสงครามทั้งสามตัวปรากฏออกมา พวกมันก็ส่งเสียงคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า จนทำให้เหล่าจอมยุทธที่อ่อนแอเยี่ยวไหลรดกางเกง

ติงซวงตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขามีความรู้ว่าไม่ว่าสัตว์อสูรตนใดในสามตนนี้จะลงมือ เขาก็ไม่อาจหนีพ้นความตายไปได้

เขาจ้องมองสำรวจหลิงฮันอยู่นานครู่หนึ่ง ก่อนที่ใบหน้าจะเผยให้เห็นถึงความตกตะลึงอย่าปิดไม่มิด “ระดับโลกียนิพพาน! จะ… จะ… เจ้าบรรลุเป็นนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานแล้ว!”

สวรรค์ช่างไม่มีตา! เหตุใดตัวบัดซบที่สมควรตายหลายพันรอบเช่นนี้ ถึงบรรลุระดับโลกียนิพพานได้สำเร็จกัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด