Alchemy Emperor of the Divine Dao 1799 กระต่ายที่เป็นสมุนไพรนิรันดร์

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1799 กระต่ายที่เป็นสมุนไพรนิรันดร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ศิลาโลหิตมังกรคือทรัพยากรล้ำค่าสำหรับการบ่มเพาะพลัง เนื่องจากมันสามารถช่วยให้จอมยุทธรู้แจ้งถึงระดับพลังของตนเองได้อย่างรวดเร็ว

และถึงแม้ศิลาโลหิตมังกรจะอัดแน่นเอาไว้ด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงเป็นหลัก แต่ต่อให้ไม่ใช่จอมยุทธที่ฝึกฝนทักษะเปลวเพลิงก็สามารถใช้ศิลาโลหิตมังกรเพื่อฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้ เพียงแค่ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ดีเท่ากับจอมยุทธที่ฝึกฝนทักษะเปลวเพลิงก็เท่านั้นเอง

แต่ไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธที่ฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ประเภทใด การดูดซับแก่นพลังของศิลาโลหิตมังกรก็ไม่สามารถทำสำเร็จได้ในพริบตาเดียว แต่ต้องค่อยดูดซับมันทีละเล็กน้อยเหมือนกับศิลาดวงดาว

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ล่ะ?

เพียงแค่หลิงฮันใช้มือสัมผัส ศิลาโลหิตมังกรก็สลายกลายเป็นเศษฝุ่นในพริบตา

“ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทักษะควบคุมเปลวเพลิง หรือเพราะเพลิงเก้าสวรรค์กันแน่?” หลิงฮันมองไปยังจักรพรรดินี

“เอาไว้เจอศิลาโลหิตมังกรอีกก้อน เราค่อยทดสอบดู” จักรพรรดินีกล่าว

ทั้งสองคนมุ่งหน้าเดินสำรวจต่อไป หลังจากเวลาผ่านไปราวๆสองชั่วโมง พวกเขาก็โชคดีพบเจอศิลาโลหิตมังกรอีกครั้ง

คราวนี้จักรพรรดินีเป็นคนหยิบศิลาขึ้นมาถือ แต่ศิลาโลหิตมังกรก็ไม่ได้สลายกลายเป็นผุยผงเหมือนกับตอนหลิงฮัน

จักรพรรดินีลองโคจรทักษะควบคุมเปลวเพลิงดู และพบว่าศิลาโลหิตมังกรค่อยๆถูกดูดซับแก่นพลังด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ผ่านไปไม่นานขนาดของศิลาก็หดเล็กลงแต่ก็ยังมีชั้นเปลือกหินหลงเหลืออยู่

ความเร็วในการดูดซับของจักรพรรดินีนั้น เมื่อเทียบกับจอมยุทธทั่วไปแล้วนับว่ารวดเร็วกว่าหลายเท่า แต่ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับหลิงฮัน

“ทีนี้ก็มั่นใจได้แล้วว่า ทุกอย่างภายในสถานที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับราชานิรันดร์คนเดียวกัน” ทั้งสองคนพยักหน้ามั่นใจ

ที่หลิงฮันสามารถดูดซับแก่นพลังได้รวดเร็วกว่า ก็เป็นเพราะเขามีเพลิงเก้าสวรรค์

“ธิดาโร๋วก็อาจจะคาดเดาเรื่องนี้ได้เช่นกัน” หลิงฮันครุ่นคิด ตราบใดที่ธิดาโร๋วเจอศิลาโลหิตมังกรและลองดูดซับแก่นพลังของมันดู นางจะต้องรู้ได้ในทันทีว่าความเร็วในการดูดซับของนางนั้นรวดเร็วกว่าครั้งก่อนๆ

แล้วก็เขตแดนลี้ลับเฉียนหลงคือสถานที่อะไร?

ตามคำเล่าลือ สถานที่แห่งนี้ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของขุมอำนาระดับราชานิรันดร์มาก่อน

ด้วยสติปัญญาระดับนาง หากไม่สามารถคาดเดาจุดเชื่อมโยงระหว่างทักษะควบคุมเปลวเพลิง กับเขตแดนลี้ลับเฉียนหลงได้ล่ะก็ นางก็ไม่สมควรเป็นนิรันดร์แล้ว

หลิงฮันและจักรพรรดินีมุ่งเดินหน้าต่อ ทั้งสองไม่สนใจมองหาศิลาโลหิตมังกรตามทางอีกต่อไป และตั้งใจจะไปเก็บเกี่ยวศิลาโลหิตมังกรที่บริเวณภูเขาไฟแทน

หลิงฮันคือคนที่สามารถเมินเฉยต่ออำนาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงภายในเขตแดนลี้ลับแห่งนี้ได้ เพราะงั้นหากไปยังส่วนลึกของภูเขาไฟ พวกเขาจะต้องพบเจอศิลาโลหิตมังกรจำนวนมากแน่นอน

แถมบางที ที่นั่นอาจจะมีทักษะอื่นๆของราชานิรันดร์คนเดียวกันหลงเหลืออยู่ด้วยก็ได้

“หยุดเดี๋ยวนี้! จงมาอยู่ในชามข้าวของนางท่านหมาซะ!” เสียงคำรามของอะไรสักอย่างดังมาแต่ไกล จนหลิงฮันกับจักรพรรดินีต้องหันหน้าไปมอง

เจ้าสุนัขตัวดำอีกแล้ว!

ในระยะที่ห่างออกไป เงาสีขาวและสีแดงกำลังวิ่งไล่ตามกันด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์ เงาสีขาวที่อยู่ด้านหน้าคือกระต่ายที่ขนทั่วร่างเป็นสีขาว และมีดวงตาสีแดงสดราวกับอัญมณี ในอุ้งมือของมันกำลังถือแครอทแท่งหนึ่งอยู่

ที่ด้านหลังของมันมีสุนัขตัวดำสวมเกราะโลหิตมังกรสีแดงกำลังวิ่งไล่ตามอยู่

“อย่าคิดว่าจะหนีข้าพ้น!” สุนัขตัวดำเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างมิติ ไปปรากฏด้านหน้ากระต่ายขาว

ร่างของกระต่ายขาวรีบหยุดชะงักและหันหลังวิ่งหนีไปอีกทาง

“เจ้าต้องมาเป็นอาหารของนายท่านหมาผู้นี้!” สุนัขตัวดำไล่ตามกระต่ายขาวอีกครั้ง ลิ้นของมันห้อยออกมาจากปาก พร้อมกับน้ำลายที่หยดไหลเป็นทาง

ความเร็วของสุนัขตัวดำนั้นว่องไวเป็นอย่างมาก ในระดับโลกียนิพพานกล่าวได้ว่าความเร็วของมันไร้ผู้ใดเปรียบอย่างแท้จริง หลังจากเคลื่อนที่ผ่านห้วงมิติอย่างต่อเนื่อง มันก็ไล่ตามกระต่ายขาวทันอีกครั้ง

กระต่ายขาวยังคงพยายามหลบหนี แต่สุนัขตัวดำก็ไล่ตามตามมันทันทุกครั้ง จนในที่สุดกระต่ายขาวก็ทนไม่ไหว ดวงตาของมันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธ

ครั้งนี้เมื่อสุนัขตัวดำไล่ตามมันทัน กระต่ายขาวไม่ได้หันหลังหลบหนีและเลือกที่จะอ้าปากแทน

เหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ปากของกระต่ายขาวขยายออกกว้างอย่างน้อยสามสิบเมตรราวกับกลายเป็นหลุมที่ไร้ก้นบึ้ง พริบตาหลังจากนั้นร่างของสุนัขตัวดำก็ถูกดูดเข้าไป

หลังจากกลืนสุนัขตัวดำเข้าไปแล้ว ปากของมันก็กลับสู่สภาพเดิมและแทะกินแครอทในมืออย่างมีความสุข

หลิงฮันและจักรพรรดินีตกตะลึง ทั้งสองไม่คาดคิดมาก่อนว่าจู่ๆสุนัขตัวดำจะถูกกลืนลงไปแบบนั้น

นี่สุนัขตัวดำตายแล้วรึ?

แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นแบบนั้น หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆกระต่ายขาวก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วน มันรีบอ้าปากกว้างอีกครั้งและสำรอกร่างของอะไรบางอย่างออกมา ซึ่งแน่นอนว่าร่างที่ว่าย่อมเป็นสุนัขตัวดำ

หลังจากคายสุนัขตัวดำออกมาแล้ว กระต่ายขาวก็รีบสะบั้นก้นหลบหนีหายไปในพริบตา

“เจ้ากระต่ายบัดซบนั่น อย่าให้นายท่านหมาจับตัวได้แล้วกัน ไม่เช่นนั้นข้าจะนำเจ้าไปต้มอยู่ในหม้อซุป!” สุนัขตัวดำกระทืบเท้า ณ เวลานี้เกราะโลหิตมังกรที่มันสวมใส่อยู่ปรากฏรอยแตกร้าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภายในท้องของกระต่ายขาวตัวเมื่อครู่ มีฤทธิ์กัดกร่อนที่รุนแรงขนาดไหน

หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ดำน้อย หายากนะที่จะได้เห็นเจ้าเป็นฝ่ายโดนกระทำแบบนี้”

“ฮึ่ม นายท่านหมาจะตามไปขุดทำลายถึงรังของมันเลย!” สุนัขตัวดำเค้นเสียงไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหันไปกล่าวกับหลิงฮัน “เจ้าหนู เจ้าสนใจร่วมมือกันข้าไหม?”

หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อย “หรือว่ากระต่ายตัวนั้นจะเป็นสมุนไพรนิรันดร์?”

“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่านายท่านจะยอมเสียเวลาเพื่อจับกระต่ายทั่วไปมาเป็นอาหารรึ?” สุนัขตัวดำเยาะเย้ย

“ในเมื่อเป็นสมุนไพรนิรันดร์ งั้นข้าจะยอมร่วมมือด้วยก็ได้” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงหึกเหิม

พวกหลิงฮันสามคนไล่ตามร่องรอยของกระต่ายขาว จมูกของสุนัขตัวดำนั้นเฉียบคมราวกับเกิดมาเพื่อเป็นหัวขโมยอย่างแท้จริง เวลาผ่านไปเพียงแค่ราวๆเกือบหนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็พบเห็นร่างของกระต่ายขาวกำลังนั่งอยู่บนเนินแห่งหนึ่ง มันใช้อุ้งเท้าหน้าสองข้างถือแครอทเอาไว้และกัดแทะอย่างเอร็ดอร่อย

ที่น่าแปลกก็คือแครอทที่อยู่ในอุ้งเท้าของมัน ก่อนหน้านี้หลิงฮันจำได้ว่าแครอทมีความยาวราวๆหนึ่งฟุต แต่ตอนนี้แครอทก็ยังมีขนาดเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงทั้งๆที่ถูกแทะกินไปแล้ว

“เจ้าโง่รึเปล่า รูปลักษณ์กระต่ายที่เห็นอยู่นั้นเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ร่างที่แท้จริงของมันคือโสมสมุนไพรระดับนิรันดร์” สุนัขตัวดำกล่าวราวกับว่าในโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไรเลยที่มันไม่รู้ “สมุนไพรนั่นมีอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ดูดกลืนที่ทรงพลัง แถมยังสามารถใช้งานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อื่นที่เคยดูดกลืนมาไปพร้อมกันได้ด้วย”

หลิงฮันดวงตาเป็นประกาย  อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ดูดกลืนคืออำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ประเภทนี้สามารถดูดกลืนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อื่นๆได้ทั้งหมดทั้งมวล

“แล้วอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อื่นของมันคืออะไร?” หลิงฮันถาม

“อำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนี” สุนัขตัวดำกล่าว “หากไม่เพราะอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนีล่ะก็ มันจะหลบหนีนายท่านหมาได้นานขนาดนั้นรึ?”

หลิงฮันคร้านจะต่อล้อต่อเถียง “แล้วเจ้ามีแผนการอะไรรึยัง?”

“แน่นอนอยู่แล้ว!” สุนัขตัวดำพยักหน้า “แผนการคือต้องจับมันมาให้ได้!”

บัดซบ คำพูดไร้ประโยชน์นั่นน่ะรึคือแผนการของเจ้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด