Alchemy Emperor of the Divine Dao 1824 ทะลวงผ่านสามนิพพาน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1824 ทะลวงผ่านสามนิพพาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1824 ทะลวงผ่านสามนิพพาน

ต้องสังหารจื่อเหอปิงอวิ๋นให้ได้… ความมุ่งมั่นนี้ได้กลายเป็นมารที่ครอบงำจิตใจของหลิงฮันไปเรียบร้อยแล้ว

หลิงฮันออกจากหอคอยทมิฬและปลดปล่อยออร่าพลังบ่มเพาะทั้งออกมา พริบตาเดียวกันนั้น ที่เหนือน่านฟ้าเมฆสีดำก็เริ่มก่อตัวรวมกัน

‘ครืนน’ ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ถูกควบแน่นและกระหน่ำผ่าลงมา อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ผสานอยู่ในสายฟ้านั้น น่าเกรงขามถึงขนาดที่ดูราวกับว่า มันต้องการจะบดขยี้มดปลวกทุกตัวที่คิดต่อต้านสวรรค์และปฐพี

หลิงฮันรับมือกับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ด้วยท่าทางสงบนิ่ง

หลังจากที่เข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนมาแล้ว ทัณฑ์สายฟ้าก็ดูเหมือนจะออมมือต่อเขายิ่งกว่าเดิมมาก

บางทีอาจจะเป็นเพราะว่า ในมุมมองของสวรรค์ที่ครอบครองอำนาจอันสูงส่งเพียงหนึ่งเดียวนั้น ในดินแดงแห่งเซียนแห่งนี้ คนที่มีพรสวรรค์ราวกับสัตว์ประหลาดไม่ได้มีแค่หลิงฮันเพียงคนเดียว สวรรค์และปฐพีจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับเขาเท่าไหร่

หลิงฮันสลายพลังป้องกัน และชี้นำสายฟ้าสวรรค์เข้ามาขัดเกลากายหยาบ

“ตัดผ่าน!” ดวงตาของหลิงฮันส่องประกาย แสงจากดวงตาของเขาได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นเสาแห่งแสงสองแท่ง ที่ราวกับกำลังค้ำจุนสวรรค์เอาไว้ พร้อมกันนั้นเองหลิงฮันได้ทำการตั้งมือเป็นดั่งกระบี่และสะบั้นเข้าใส่ท้องฟ้า

หนึ่งกระบี่ที่ตัดขาดสวรรค์และปฐพี!

‘ครืนนน’ แม้มือของเขาจะดูเหมือนสัมผัสไม่โดนอะไร แต่สวรรค์และปฐพีกลับส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

ทันใดนั้น พลังทำลายล้างของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ก็ถูกยกระดับสูงขึ้นหลายเท่าตัว

การตัดขาดสวรรค์และปฐพี จะทำให้การเชื่อมต่อที่มีกับสวรรค์แผ่วบางลง จึงเป็นธรรมดาที่สวรรค์และปฐพีจะรู้สึกไม่พอใจ

หากไม่สามารถต้านทานทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิมได้ จอมยุทธที่คิดตัดขาดกับสวรรค์และปฐพีก็จะถูกบดขยี้จนตาย

หลิงฮันพยักหน้าในใจ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมราชาในหมู่ราชาถึงมีจำนวนน้อยยิ่งกว่าน้อย บางครั้งต่อให้มีจอมยุทธมากพรสวรรค์ถือกำเนิดขึ้น และมีความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์มากพอที่จะตัดขาดกับสวรรค์และปฐพีได้ แต่ก็ใช่ว่าจอมยุทธมากสวรรค์ผู้นั้น จะสามารถต้านทานพลังทำลายล้างของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ที่เพิ่มขึ้นได้

ยิ่งทะลวงผ่านระดับสูงขึ้นก็ยิ่งตัดขาดสวรรค์และปฐพีได้ยากขึ้น ในการตัดขาดสวรรค์และปฐพีครั้งแรก หลิงฮันนั้นแทบจะสามารถเมินเฉยพลังทำลายล้างของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้อย่างสิ้นเชิง ในการตัดขาดครั้งที่สองเขายังพอรู้สึกถึงความยากลำบากอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ในครั้งนี้สามนี้ เขาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามและต้องระมัดระวังให้ดี

ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วการตัดขาดครั้งที่สี่ล่ะจะรุนแรงขนาดไหน?

เหนือสิ่งอื่นใดคือ เขายังต้องทะลวงผ่านเป็นนิรันดร์ห้านิพพานอีกด้วย!

หลิงฮันคิดว่าในการตัดขาดสวรรค์และปฐพีของระดับห้านิพพานนั้น ต่อให้เขาจะบ่มเพาะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่เขาจะมีชีวิตรอด หรือต่อให้ใช้ทักษะกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่าน ทันทีที่เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาก็คงถูกสังหารเหมือนเดิมอยู่ดี

ห้านิพพาน… ไม่ใช่ว่าการทะลวงผ่านระดับพลังนี้คือการฆ่าตัวตายหรอกรึ?

“สวรรค์ย่อมมีทางออกให้อยู่เสมอ” หอคอยน้อยกล่าว “ในขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ที่ยิ่งใหญ่บางแห่ง ตัวตนระดับราชานิรันดร์จะเตรียมสมบัติที่เรียกว่ายันต์ไม้ท้อผูกชะตาเอาไว้ให้ศิษย์ที่มีพรสวรรค์ท้าทายสวรรค์ สมบัติทีว่าจะสามารถช่วยลดทอนความรุนแรงของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้”

จิตใจของหลิงฮันสั่นไหว กล่าวคือหากใช้ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาล่ะก็ ความยากลำบากในการทะลวงผ่านระดับห้านิพพาน ก็จะลดลงมาเหลือเพียงแค่ระดับสี่นิพพานสินะ?

หากเป็นเช่นนั้นล่ะก็เขาก็ยังพอมีความมั่นใจขึ้นมาบ้าง!

แต่ถ้าหากเป็นการทะลวงผ่านแบบปกติล่ะก็ โอกาสที่เขาจะทะลวงผ่านสำเร็จคงมีเพียงแค่หนึ่งในร้อยล้านเท่านั้น โดยที่จักรพรรดินียิ่งแล้วใหญ่ ต่อให้นางจะครอบครองแก่นกำเนิดนิรันดร์และบ่มเพาะทักษะเก้าสวรรค์ดับสูญ ก็ยังมีคุณสมบัติไม่พอที่จะตัดขาดสวรรค์และปฐพีในระดับห้านิพาน

“ยันต์ไม้ท้อผูกชะตางั้นรึ? มันคืออะไรกัน?” หลิงฮันถาม

“หนึ่งในพฤกษาบรรพบุรุษ สมบัติที่อยู่ในระดับเดียวกันกับต้นสังสารวัฏ” หอคอยน้อยกล่าว “เพียงแต่ว่าใบของต้นท้อผูกชะตานั้นช่วยได้แค่ลดความรุนแรงของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้ความเข้าใจเพิ่มสูงขึ้นแต่อย่างได้”

แต่ไม่ว่าอย่างไร เพียงแต่ช่วยลดทอนอำนาจของสวรรค์และปฐพีได้ ก็ถือว่าน่าอัศจรรย์มากแล้ว

“จะหามันได้จากที่ไหน?”

“ที่ตำหนักมัจฉาวายุภักษ์สมควรมี”

ตำหนักมัจฉาวายุภักษ์งั้นรึ?

หลิงฮันเดินทางมายังตระกูลฟู่ก็เพราะต้องการตามหาตำแหน่งที่ตั้งของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ ในเมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ตั้งอยู่ที่ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก แถมการจะทะลวงผ่านเป็นนิรันดร์ห้านิพพานก็จำเป็นต้องใช้ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาด้วย ดูเหมือนว่าเขาคงต้องมุ่งหน้าไปที่นั่นให้เร็วที่สุดเสียแล้ว

เพราะไม่งั้น หลังจากที่บรรลุระดับแบ่งแยกวิญญาณไปแล้ว ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาก็จะไม่มีประโยชน์อีกต่อไป

“อืม หลังจากที่ออกจากเขตแดนลี้ลับแห่งนี้ ข้าจะมุ่งหน้าไปดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกทันที” หลิงฮันกล่าวพร้อมกับปล่อยหมัดขึ้นสู้ท้องฟ้า หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งวัน ถึงแม้สวรรค์และปฐพีจะยังอยากลบตัวตนของหลิงฮันให้หายไปเพียงใด แต่ก็ต้องสลายทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์อย่างไม่มีทางเลือก

บรรลุสามนิพพานสำเร็จ!

หลิงฮันเผยรอยยิ้ม ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ อย่างน้อยถ้าหากพบเจอกับจื่อเหอปิงอวิ๋นอีกครั้ง เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ภายในพันกระบวนท่า

“สามี!” เมื่อเห็นว่ามทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์สลายไป จักรพรรดินีก็เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจในตัวหลิงฮัน

ทางด้านของธิดาโร๋วนั้น นางกำลังอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง นางรู้ว่าก่อนหน้านี้หลิงฮันมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสองนิพพานขั้นกลางเท่านั้น ถึงแม้หลังจากผ่านการทดสอบของตำหนักเฉียนหลงมาได้ พลังบ่มเพาะของทุกคนจะเพิ่มสูงขึ้น แต่พลังบ่มเพาะของหลิงฮันก็สมควรยกระดับขึ้นมาเป็นสองนิพพานสูงสุดเท่านั้น ซึ่งหากต้องการจะทะลวงผ่านระดับสามนิพพานต่อ อีกฝ่ายก็จำเป็นต้องใช้เวลาขัดเกลาพลังอีกนาน

ตัวของนางเคยมีประสบการณ์มาก่อน ขนาดอาจารย์ของนางได้มอบสมบัติลับที่ช่วยในการเร่งระยะเวลาการบ่มเพาะมาให้ นางก็ยังต้องใช้เวลาถึงหนึ่งล้านปีเต็มกว่าจะทะลวงผ่านระดับสามนิพพานมาได้

แต่ภายในเขตเดนลี้ลับแห่งนี้ หลิงฮันนั้นไม่มีเวลาให้ใช้สมบัติเพื่อบ่มเพาะพลังเลยแม้แต่น้อย แถมระยะเวลาครึ่งปีที่ผ่านมา อีกฝ่ายยังใช้เวลาทั้งหมดไปกับการขุดดินด้วยซ้ำ ซึ่งต่อให้ดูดซับสมุนไพรนิรันดร์เข้าไปก็เป็นเป็นไม่ได้ที่จะทะลวงผ่านระดับได้เร็วขนาดนี้

สัตว์ประหลาด! ชายผู้นี้ต้องเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน!

หลิงฮันยิ้มให้จักรพรรดินีและกล่าว “ไปที่ถ้ำกันเถอะ”

ตอนนี้เขามีสมบัติขุนเขาอยู่ในมือแล้ว ซึ่งภายในระยะเวลาสั้นๆ เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จื่อเหอปิงอวิ๋นจะหาสมบัติขุนเขาอีกก้อนพบ เพราะงั้นความเป็นไปได้สูงสุดคือ นางจะต้องแอบซุ่มโจมตีอยู่ใกล้ๆถ้ำ และรอแย่งชิงสมบัติในตอนที่เขาเปิดประตูถ้ำอย่างแน่นอน

หากจื่อเหอปิงอวิ๋นคิดจะทำเช่นนั้นจริง ที่นั่นจะกลายเป็นสุสานของนาง!

พวกหลิงฮันทั้งสามคนมุ่งหน้าไปยังทางไหล่เขาพร้อมกัน หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ถ้ำแห่งหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าพวกเขา ถ้ำแห่งนี้ดูธรรมดาเป็นอย่างมาก โดยที่ปากทางเข้าของถ้ำมีโขดหินอยู่จำนวนหนึ่งปิดตายอยู่

หลิงฮันนำสมบัติขุนเขาออกมาวางลงบนโขดหินตามที่เผ่าคนแคระเคยบอกเอาไว้ และรอคอยอยู่เฉยๆ บางครั้งถ้ำจะเปิดออกหลังจากรอคอยแค่ครึ่งวัน แต่ก็มีบ้างที่บางครั้งอาจจะใช้เวลานานถึงสามวัน

“เจ้าจงไสหัวไปซะ!” ทันใดนั้นเอง จู่ๆร่างหนึ่งก็ปรากฏตัว

ลั่วจ่างเฟิง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด