Alchemy Emperor of the Divine Dao 1834 ความกล้าของข้า

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1834 ความกล้าของข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหอเส่าหลินไม่ใช่ราชาแห่งยุค เพราะงั้นจึงกล่าวได้ว่า การที่จะได้ทุบตีราชาแห่งยุคอย่างฟู่เกาหยุน คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิต

เขามองไปยังฟู่เกาหยุนด้วยท่าทางองอาจ หากอีกฝ่ายฝ่ายถูกเขาทุบตีจนเสียหน้าล่ะก็ ต่อให้ในอนาคตฟู่เกาหยุนบรรลุเป็น ตัวตนระดับแบ่งแยกวิญญาณหรือระดับขอบเขตตำหนัก ความอัปยศในวันนี้ก็จะไม่มีวันเลือนหายไป

“ฮ่าๆ วันนี้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ ไม่คาดคิดว่าโลกนี้จะมีอันธพาลที่ต่ำช้าขนาดนี้อยู่ด้วย” หลิงฮันส่ายหัวและก้าวเดินขึ้นหน้า

จักรพรรดินียืนพาดมือไว้ด้านหลังอย่างนิ่งเฉย สายตาของนางไม่ได้แยแสผู้คนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย

“หลิงฮัน ไม่ต้องรีบร้อนไป ตอนนี้ยังไม่ถึงตาของเจ้า!”เป่ยเสวียนหมิงแสยะยิ้ม เจ้าคิดรึว่าข้าจะยอมปล่อยเจ้าไป?

“พอดีข้ารอไม่ไหวแล้ว!” หลิงฮันก้าวเดินต่อไปเนื่องจากเขาไม่สนใจจะดูการแสดงที่น่ารังเกียจจากเป่ยเสวียนหมิง  เหนือสิ่งอื่นใดคือ ถึงแม้เขาจะตัดสายสัมพันธ์กับฟู่เกาหยุนแล้ว แต่อีกฝ่ายก็เฉยช่วยเหลือเขามาก่อน อย่างน้อยเกราะโลหิตมังกรที่จักรพรรดินีสวมใส่อยู่ก็เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้

นอกจากนั้นฟู่เกาหยุนก็ไม่ใช่คนนิสัยแย่อะไรด้วย

“หยุด!” ผู้ติดตามคนหนึ่งด้านหลังเป่ยเสวียนหมิงก้าวเดินออกมา และยกหมัดโจมตีใส่หลิงฮัน ทั้งๆที่ลิ่วล้ออยู่ตรงนี้แท้ๆ แต่หากต้องให้เจ้านายออกหน้า ลิ่วล้ออย่างพวกเขาจะไปเหลือความสำคัญอะไร?

‘ครืนนน’ หมัดถูกปลดปล่อยออกไปด้วยพลังทำลายอันน่าสะพรึง พร้อมกับตราประทับแห่งเต๋าที่ค่อยๆพรั่งพรูออกมา

ผู้ติดตามคนนี้คือนิรันดร์สามนิพพานสูงสุด ในความเป็นจริง ถึงแม้เขาจะอ่อนแอกว่าเหอเส่าหลิน แต่พลังต่อสู้ของเขาก็แข็งแกร่งกว่าเป่ยเสวียนหมิงเสียอีก

ด้วยหนึ่งหมัดนี้ หลิงฮันจะต้องถูกบดขยี้แน่นอน

หลิงฮันลงมือตอบโต้ เขายกมือขึ้นอย่างลวกๆและคว้าจับไปที่ข้อมือของผู้ติดตามคนนั้น ทำให้การโจมตีหยุดชะงักลง

เป่ยเสวียนหมิงตกตะลึงจนอ้าปากค้างทันที เท่าที่เขาจำความได้ หลิงฮันนั้นเป็นเพียงนิรันดร์หนึ่งนิพพานเท่านั้น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาดขนาดไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่รับการโจมตีของนิรันดร์สามนิพพานได้

สามนิพพาน!

เป่ยเสวียนหมิงรู้สึกราวกับถูกตบหน้าอย่างจัง หลิงฮันบรรลุเป็นนิรันดร์สามนิพพานแล้ว!

เป็นไปได้อย่างไรกัน… เวลาเพิ่งผ่านมาเท่าไหร่เอง แต่พลังบ่มเพาะของหลิงฮันกลับบรรลุระดับสามนิพพาน ซึ่งเหนือกว่าเขาไปแล้ว ในโลกนี้มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

“การทุบตีคนอื่นมันมีความสุขมากรึไง?” หลิงฮันเอ่ยถามผู้ติดตามที่ปล่อยหมัดใส่เขาด้วยสีหน้าเมินเฉย

‘เพี๊ยะ!’

หลิงฮันดึงแขนของอีกฝ่ายเข้าหาตัวและใช้มืออีกข้างตบเข้าที่ใบหน้า “ว่ายังไง? มีความสุขรึเปล่า?” เมื่อเอ่ยถามออกไป เขาก็ทำการตบอีกครั้ง

ผู้ติดตามผู้นี้ถูกตบจนใบหน้าฟกช้ำแต่หลิงฮันก็ยังไม่หยุด หลังจากตบต่อไปได้อีกสักพัก กล้ามเนื้อใบหน้าของอีกฝ่ายก็ฉีกขาด ฟันแต่ละซี่ค่อยๆแตกหักและมีกระดูกโผล่ออกมา

กับคนที่ตั้งใตสังหารเขาด้วยหมัดแล้ว หลิงฮันไม่คิดจะปรานี

“หยุดมือ!” เป่ยเสวียนหมิงคำราม

ถ้าหากคนของเขาถูกทุบตีแล้วเขาไม่เคลื่อนไหวล่ะก็ ในอนาคตใครจะอยากมาติดตามเขา?

‘เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ’ หลิงฮันตบใบหน้าของผู้ติดตามผู้นี้ต่ออีกสักพัก ก่อนจะลากร่างผู้ติดตามในมือเดินเข้าไปหาเป่ยเสวียนหมิง เผื่อบอกเป็นนัยๆว่าคนต่อไปคือเจ้า

“เหอเส่าหลิน!” เป่ยเสวียนหมิงรีบส่งเสียงขอความช่วยเหลือ

เหอเส่าหลินพยักหน้าและรีบกระโดดกลับมายืนหน้าเป่ยเสวียนหมิง เขาแสยะยิ้มพร้อมกับกล่าว “ราชาในระดับสามนิพพานงั้นรึ? เหอๆ ต่อหน้าข้า พลังของเจ้าไม่ต่างอะไรจากการผายลม!”

หลิงฮันลากผู้ติดตามในตรงไปหาเหอเส่าหลินโดยไม่กล่าวอะไร ในสายตาของเขา เหอเส่าหลินเป็นเพียงก้อนอากาศธาตุเท่านั้น ซึ่งไม่มีความจำเป็นให้เขาต้องเก็บมาใส่ใจ

“โอหัง!” เหอเส่าหลินเค้นเสียงคำรามอย่างเย็นชา และปล่อยหมัดขวาเข้าใส่ใบหน้าหลิงฮัน

‘ฟุบ’ หลิงฮันใช้อีกมือจับข้อมือของเหอเส่าหลินเอาไว้

สีหน้าของเหอเส่าหลินกลายเป็นแข็งค้าง

เป็นไปได้อย่างไร?

เป่ยเสวียนหมิงเองก็แสดงสีหน้าโง่งม เหอเส่าหลินคือจอมยุทธที่มีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับผู้สืบทอดของขุมอำนาจทรงพลังในระดับสี่นิพพานสูงสุด เป็นไปได้อย่างไรที่การโจมตีของเขาจะถูกหลิงฮันหยุดเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย?

นี่มันราวกับว่าพลังต่อสู้ของทั้งสองต่างกันราวฟ้ากับเหว

“เจ้าเองก็อยากถูกทุบตีอย่างมีความสุขเหมือนกันสินะ?” หลิงฮันกล่าวพร้อมกับดึงร่างของเหอเส่าหลินเข้ามาใกล้

เหอเส่าหลินรีบโคจรพลังทั้งหมดเพื่อต่อต้านแต่ก็ไม่เป็นผล และถูกหลิงฮันใช้มือข้างเดียวกับที่ดึงเขาเข้าไปตบเข้าที่ใบหน้าอย่างรุนแรง

นอกจากจะเจ็บปวดแล้ว ยังน่าอับอายเป็นอย่างมากด้วย ที่ต้องถูกตบต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้

เมื่อสมใจแล้ว หลิงฮันก็สะบัดข้อมือทั้งสองข้าง ‘พรึบ พรึบ’ ร่างของเหอเส่าหลินและผู้ติดตามอีกคน ถูกโยนไปยังเป่ยเสวียนหมิงด้วยสภาพไร้สติ

เป่ยเสวียนหมิงเผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว และสีหน้ากลายเป็นมืดมน

ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ผู้สืบทอดของนิกายอาญาสิ้นแสงเพียงคนเดียวที่เข้ามาที่นี่ แต่ด้วยการที่ผู้สืบทอดแต่ละคนเป็นศัตรูกัน มีรึที่เขาจะไปขอความช่วยเหลือได้?

สิ่งที่เขาทำได้คือทำเหมือนฟู่เกาหยุนเมื่อครู่นี้

“…ข้าขอยอมแพ้!” เป่ยเสวียนหมิงกัดฟันแค้นจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดบวม

หลังจากกล่าวประโยคนี้จบ เขาก็สะบัดมือส่งสัญญาณให้ผู้ติดตามคนอื่นๆ แบกร่างเหอเส่าหลินกับผู้ติดตามอีกคนที่หมดสติอยู่ขึ้นมา

“คิดจะหนีรึ?” หลิงฮันเค้นเสียงและกล่าว

“แล้วเจ้าต้องการอะไร?” เป่ยเสวียนหมิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงมืดมน เขาเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าคงไม่สามารถจากไปได้ง่ายๆ

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถึงเรื่องที่ข้าล่วงเกินจื่อเหอปิงอวิ๋นสินะ? เหอๆ ข้าจะบอกอะไรให้ฟัง เมื่อกี่วันที่ผ่านมานี้ ข้าด้สังหารจื่อเหอปิงอวิ๋นไปแล้ว!”

‘ครืน’ สมองของเป่ยเสวียนหมิงตกตะลึงจนภายในหัวเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

โกหก… ต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ!

หากหลิงฮันแค่บาดหมางกับจื่อเหอปิงอวิ๋น ตระกูลจื่อเหอคงไม่ทำอะไร แต่ถ้าจื่อเหอปิงอวิ๋นถูกสังหารล่ะก็ สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อถึงตอนนั้น เกรงกว่าทุกคนในที่สุดคงติดร่างแหซวยไปกับหลิงฮันด้วย!

“จะ… เจ้าต้องพูดล้อเล่นแน่ๆ!”

หลิงฮันเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม “กับสวะไร้ค่าเช่นเจ้า ทำไมข้าจะต้องเสียเวลาไปพูดเล่นด้วย? เจ้าบอกสินะว่าข้าช่างกล้าจริงๆ? ฮ่าๆ เดี๋ยวข้าจะแสดงให้เห็นเองว่าข้านั้นกล้าขนาดไหน”

เขาสะบัดนิ้ว ‘ฉัวะ’ ปราณดาบพุ่งทะลุกลางกะโหลกของเป่ยเสวียนหมิง พร้อมกับวนกลับมาเฉือนเข้าที่หลังลำคอ

‘ตุบ’ ขาของเป่ยเสวียนหมิงไร้เรี่ยวแรงและล้มลงกับพื้นในทันที ดวงตาของเขาค่อยๆหม่นแสงลงอย่างรวดเร็ว

ฟู่เกาหยุนและคนอื่นๆที่มองดูอยู่ตกตะลึงจนร่างแข็งค้าง จู่ๆฟู่เกาหยุนก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ครั้งหนึ่ง หลิงฮันเคยเอ่ยถามเขาว่า ‘ข้าขอสังหารเป่ยเสวียนหมิงได้หรือไม่’ ในตอนนั้นเขาคิดเพียงว่าหลิงฮันแค่พูดเล่นๆ แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขาถึงรู้ว่าในตอนนั้นหลิงฮันตั้งใจจะสังหารเป่ยเสวียนหมิงจริงๆ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด