Alchemy Emperor of the Divine Dao 1872 พลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างทัดเทียมกัน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1872 พลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างทัดเทียมกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ที่บนแท่นผู้ชม เสียงโห่ร้องของผู้คนมากมายดังก้องไปทั่วสารทิศ

สำหรับผู้ชมทั่วไปนั้น พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะการประลอง สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ การได้เห็นการปะทะอันดุเดือดแสนเร้าใจ

ที่พวกเขายอมเสียเงินมากมายเข้ามาดู ก็เพราะอยากเห็นโลหิตที่สาดกระจาย!

เพราะงั้นเมื่อเห็นว่าในที่สุดหลิงฮันก็ได้รับบาดเจ็บและมีโลหิตไหลออกมา ความตื่นเต้นของเหล่าผู้ชมจึงพุ่งสูงถึงขีดสุด

“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!” ใครบางคนถึงขนาดดวงตากลายเป็นสีแดงฉาน และแสดงท่าทีโหดเหี้ยมที่ยิ่งกว่าจ้าวชิงเฟิงออกมา

ซุนตงก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาตะโกนส่งเสียงโห่ร้อง ในขณะที่แกว่งมือทั้งสองข้างไปมา

‘เพี๊ยะ’หลู่เซียนหมิงตบหน้าอีกฝ่ายทันที

ร่างของซุนตงถูกตบจนหมุนรอบตัวหนึ่งรอบ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย “นายน้อยหลู่ ท่านตบข้าทำไมกัน?”

หลู่เซียนหมิงเค้นเสียงเย็นชา ด้วยสถานะของเขาที่สูงส่งกว่า จำเป็นด้วยรึที่เขาต้องอธิบายเรื่องราวให้ผู้ติดตามที่ต่ำต้อยกว่าฟัง?

เจ้าที่ดูสถานการณ์ไม่ออก ยังมีคุณสมบัติจะมาเป็นผู้ติดตามคนสนิทของข้าอยู่อีกรึ?

ช่างโง่เง่านัก!

ในขณะเดียวกัน เฉิงเฟิงหยุนเองก็กำลังตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาต้องพบเจอความอัปยศมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเพราะหลิงฮัน ทั้งๆที่เขามีฐานะเป็นถึงนายน้อยของตระกูลเฉิง แต่กลับต้องมาแทะกินโต๊ะ ต้องตบหน้าตัวเอง แถมยังต้องหลบหนีการเดิมพันอีก

ทางด้านของธิดาโร๋วนั้น นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก และอดคิดไม่ได้ว่าทำไมบุรุษอันธพาลผู้นั้นถึงไม่รีบยอมแพ้ไปเสียที เขาไม่ถึงว่าตนเองจะถูกสังหารรึไง?

ไม่ใช่แค่นางเท่านั้น สตรีนกอมตะเองก็เริ่มวิตกกังวล ถึงแม้นางจะมั่นใจในพลังของหลิงฮันแค่ไหน แต่จ้าวชิงเฟิงผู้นี้ก็น่าสะพรึงกลัวเกินไป การโจมตีของอีกฝ่ายสามารถทำให้แม้แต่กายหยาบของหลิงฮันเกิดบาดแผลได้

“พี่ชาย หมอนั่นเริ่มต้านไม่ไหวแล้ว!” ซานเถี้ยนอู๋กล่าวอย่างตื่นเต้น

ถึงแม้เขาจะไม่ยุ่งกับหลิงฮันอีกตามคำสั่งของพี่ชาย แต่ก็ใช่ว่าความเกลียดชังที่มีต่อหลิงฮันจะหายไป

ซานเถี้ยนจิ่วยิ้มด้วยท่าทีนิ่งเฉย เพราะเขาคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว

จ้าวชิงเฟิงแข็งแกร่งขึ้นขนาดที่ ก่อนหน้านี้เขาสามารถกำราบผู้สืบทอดราชานิรันดร์ได้ภายในไม่กี่ลมหายใจ เพราะงั้นหลิงฮันที่น่าจะเป็นผู้สืบทอดราชานิรันดร์เช่นกัน ก็ย่อมต้องพ่ายแพ้ให้กับจ้าวชิงเฟิงเช่นกัน

การที่หลิงฮันสามารถรับมือมาได้นานสองนาน จนเพิ่งได้รับบาดเจ็บตอนนี้ ก็ถือว่าเกินคาดมากแล้ว

“จ้าวชิงเฟิง!”

“จ้าวชิงเฟิง!”

“จ้าวชิงเฟิง!”

เสียงโห่ร้องของเหล่าผู้ชม ดังสนั่นจนราวกับจะสั่นสะท้านไปถึงสวรรค์

จ้าวชิงเฟิงเผยรอยยิ้ม และชี้ปลายดาบไปยังหลิงฮัน “ในเมื่อเจ้าไม่มีสามารถช่วยขัดเกลาศาสตร์วรยุทธให้ข้าได้แล้ว จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร? ตายซะ!”

เขาคำรามและพุ่งโจมตีหลิงฮัน

“ฮึ่ม!” หลิงฮันคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด เขากวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์พร้อมกับโคจรแก่นกำเนิดนิรันดร์ และปลดปล่อยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงออกมา

เนื่องจากก่อนหน้านี้เขามีความรู้สึกว่าจ้าวชิงเฟิงยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด เขาจึงโจมตีด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนี ซึ่งเป็นพลังที่อ่อนแอที่สุดของเขามาโดยตลอด

แต่ตอนนี้เมื่ออีกฝ่ายเผยไพ่ลับในมือออกมาแล้ว ก็ถึงเวลาที่เขาจะแสดงพลังบางส่วนออกมาบ้างเช่นกัน

ตูม!

เมื่อดาบทั้งสองเล่มเข้าปะทะกัน คลื่นพลังอันทรงพลังของดาบก็ไหลทะลักไปทั่วสารทิศ

‘ครืนน’ ที่รอบด้านของลานประลอง รูปแบบอาคมของค่ายกลป้องกันค่อยๆปรากฏขึ้นมา เพื่อปิดทางไม่ให้คลื่นดาบเล็ดรอดออกไป

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เหล่าผู้ชมอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ราวกับวิญญาณกำลังหลุดออกจากร่าง

แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งอะไรอย่างนี้!

นี่ใช้พลังของระดับโลกียนิพพานจริงๆงั้นรึ?

ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือการที่หลิงฮันพลิกสถานการณ์เสียเปรียบกลับขึ้นมาได้ ร่างของเขาในตอนนี้ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงอันเกรี้ยวกราด ราวกับเทพดวงตะวันที่ส่องแสงเจิดจรัสไปทั่วยุทธภพ

ที่บนแท่นผู้ชม เหล่าปรมาจารย์ทุกคนต่างปิดปากเงียบ ทำให้บรรยากาศตกอยู่ในความสงบ

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คนแคระที่ทักเปียเต็มหัวก็เอ่ยขึ้นมา “พลังของเจ้าหนูนั่น ยังอยู่ในระดับสามนิพพานสูงสุดเท่านั้น”

ถึงแม้พลังของหลิงฮันจะไม่อยู่ในสายตาของปรมาจารย์เหล่านี้ แต่การที่พลังต่อสู้ในระดับสามนิพพาน สามารถแข็งแกร่งเกือบจะเทียบเคียงกับระดับแบ่งแยกวิญญาณได้นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง

ถ้าหากบรรลุระดับสี่นิพพาน เจ้าจะไม่ต่อกรกับนิรันดร์ระดับแบ่งแยกวิญญาณได้เลยงั้นรึ?

“เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังเทียบเท่าระดับแบ่งแยกวิญญาณ ขนาดเอี๋ยนเซียนลู่ในระดับสี่นิพพานก็ยังไม่สามารถต่อสู้ทัดเทียมกับนิรันดร์ระดับแบ่งแยกวิญญาณได้ เขาเพียงแค่ไร้เทียมทานในระดับโลกียนิพพานเท่านั้น” ปรมาจารย์ผู้หนึ่งเอ่ยแทรก “นอกเสียจากว่า…”

“จะบรรลุระดับห้านิพพาน!” ปรมาจารย์หลายคนเอ่ยพร้อมกัน

แต่หลังจากที่กล่าวประโยคนี้ออกมา พวกเขาทุกคนก็ต่างส่ายหัว เนื่องจากความเป็นไปได้ที่จะบรรลุระดับห้านิพพานนั้นเรียกว่า แทบจะเท่ากับศูนย์

“เหอๆ หากเจ้าไม่พอใจเจ้าหนูน้อยคนนั้นขนาดนั้น งั้นข้าก็จะขอรับเขาเป็นศิษย์เอง” คนแคระที่ทักเปียเต็มหัวกล่าว

ชายชราร่างสูงคนหนึ่งรีบเอ่ยแทรก “จิ้งจอกเฒ่าหู ข้าเองก็สนใจอยากรับเจ้าหนูนั่นเป็นศิษย์เหมือนกัน!”

“ส่วนข้าไม่ได้อยากรับเขาเป็นศิษย์ แต่ต้องการให้เขามาเป็นเขยของข้า!” ปรมาจารย์อีกคนกล่าว

ทันใดนั้น เหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายก็เริ่มทะเลาะกันทันที

….

“ฮ่าๆๆ นับว่าน่าสนใจไม่เลว!” จ้าวชิงเฟิงไม่ได้ตกตะลึงกับการโจมตีตอบโต้ของหลิงฮัน แต่เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาแทน พลังต่อสู้ของหลิงฮันนั้นแข็งแกร่งพอที่จะ กระตุ้นความรู้สึกอยากสังหารภายใจจิตใจของเขา

“ตาย!” จ้าวชิงเฟิงคำรามและกวัดแกว่งดาบยาวในมือ ปราณดาบหลายร้อยล้านคลื่นถูกปลดปล่อยออกมา และกลืนกินพื้นที่ไปทั่วลานประลอง

ปราณดาบเหล่านี้คือการโจมตีที่ถูกควบแน่นขึ้นมาจากอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ทองคำ และด้วยการที่มันเป็นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ควบคุมโดยนิรันดร์สี่นิพพาน พลังทำลายล้างของมันจึงน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจะจินตนาการ

‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ ปราณดาบทั้งหมดกระหน่ำพุ่งโจมตีพร้อมกันจากทุกทิศทาง จนมองไม่เห็นร่างของหลิงฮัน

“เจ้าหนูนั่นจะตายรึเปล่า?” ที่ด้านบนลานผู้ชม ทุกคนๆคนที่มองดูการประลองอยู่ต่างกลั้นหายใจเอาไว้ การประลองนัดสุดท้ายนี้ดุเดือดเกินไป จนพวกเขาลืมแม้กระทั่งหายใจ

ตูม!

เปลวเพลิงอันร้อนระอุระเบิดออกเป็นวงกว้าง และหลอมละหลายปราณดาบนับไม่ถ้วนจนสลายหายไป พร้อมกับปรากฏร่างของหลิงฮันที่ยังคงยืนแน่นิ่งไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

ฮึ่ม!

เหล่าผู้ชมสูดหายใจลึก หลิงฮันผู้นี้เป็นใครกันแน่? หรือแท้จริงแล้วอีกฝ่ายจะเป็นผู้สืบทอดขุมอำนาจราชานิรันดร์สักแห่ง ที่จงใจปกปิดสถานะของตนเองเอาไว้?

จ้าวชิงเฟิงหัวเราะลั่นและกวัดแกว่งดาบเข้าจู่โจม ความแข็งแกร่งของหลิงฮันทำให้จิตสังหารของเขาเดือดพล่านจนหยุดไม่อยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด