Alchemy Emperor of the Divine Dao 1901 ฝึกหนัก

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1901 ฝึกหนัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อะไรกัน?

ทุกคนต่างสับสนว่าทำไม

เห็นได้ชัดว่าการที่ปรมาจารย์จื่อเฉิงต้องกำหนด ให้มีการคัดเลือกผู้ขึ้นครองตำแหน่งคนต่อในอีกสามปีนั้น เป็นเพราะเขาถูกลู่จิ้นกดดัน แต่ตอนนี้ลู่จิ้นได้ถูกขจัดออกไปแล้ว หากปรมาจารย์จื่อเฉิงต้องการช่วยให้หลิงฮันได้เปรียบกว่าผู้สืบทอดคนใดล่ะก็ ใครกันจะกล้าคัดค้าน?

หรือไม่งั้น หากเขาต้องการเปลี่ยนระยะเวลาคัดเลือกไปเป็นหลังจากนี้อีกหมื่นปี หรือแสนปีก็ย่อมทำได้ เพราะสำหรับนิรันดร์ ระยะเวลาเพียงเท่านี้ไม่ถือว่ายาวนาน แถมยังเพียงพอที่จะทำให้หลิงฮันเติบโตอีกด้วย

ทั้งๆ ที่สามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ปรมาจารย์จื่อเฉิงก็ยังเลือกที่จะทำตามคำพูดเดิม

นี่ล่ะคือความแตกต่างของปรมาจารย์จื่อเฉิงกับลูจิ้น!

ทุกคนรู้สึกเลื่อมใสปรมาจารย์จื่อเฉิงเป็นอย่างมาก ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ปกครอบเมืองวิถีโอสถมาได้นานแสนนาน และเป็นที่เคารพของผู้คน

หลิงฮันมองไปยังปรมาจารย์จื่อเฉิงที่กำลังยิ้มอย่างลึกลับ

เขารู้ว่าที่ปรมาจารย์จื่อเฉิงทำเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการสร้างแรงกดดันให้แก่เขา

เพียงแต่ดูเหมือนทุกคนจะคิดลึกในเรื่องของปรมาจารย์จื่อเฉิงเกินไปแล้ว หลิงฮ้นสามารถคาดเดาได้อย่างไม่ยากว่า หากในเวลาสามปีเขายังไม่สามารถพัฒนา จนมีความสามารถเทียบเท่าหลู่เซียนหมิง และผู้สืบทอดคนอื่นๆ ได้ล่ะก็ ปรมาจารย์จื่อเฉิงจะต้องยื่นเวลาคัดเลือกผู้สืบทอดออกไปอีกแน่ๆ

หลู่เซียนหมิงรู้สึกโล่งอก เขานึกว่าตนเองจะไปต่อไม่รอดแล้วแท้ๆ แต่ไม่คาดคิดว่าการคัดเลือกผู้สืบทอดที่แท้จริง จะยังเป็นไปตามกำหนดการสามปีเหมือนเดิม

หากเป็นเช่นนี้ ในอีกสามปีให้หลัง เขาก็จะเหยียบย่ำผู้สืบทอดคนอื่น และกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง!

“ดำเนินพิธีต่อได้! ” ปรมาจารย์จื่อเฉิงสะบัดมือ ก่อนจะกลับมานั่งและปิดตาลงด้วยท่าทีเหมือนชายชราที่กำลังอ่อนแรง

งานพิธีดำเนินต่อไป

ตัวแทนจากขุมอำนาจสามดาวและสี่ดาว เรียงรายกันเข้ามาแสดงความยินดีกับหลิงฮันพร้อมกับมอบของขวัญมากมาย ในตอนแรกของขวัญที่พวกเขาเตรียมมานั้นไม่ได้มากมายเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นว่าปรมาจารย์จื่อเฉิงเอ็นดูหลิงฮันเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงเพิ่มจำนวนของสมบัติเข้าไป

กลุ่มแรกที่เขามาแสดงความยินดีคือเหล่าตัวแทนของขุมอำนาจสี่ดาว ก่อนจะถึงคราวของขุมอำนาจสามดาว อย่างนิกายอาญาสิ้นแสง ตระกูลเป่ยหยิ่วและอื่นๆ

ตัวจากขุมอำนาจที่เป็นศัตรูกับหลิงฮัน รู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมากที่ต้องมาปั้นหน้ายิ้มแย้ม แสดงความยินดีให้กับคนที่เป็นศัตรูเช่นนี้

แต่จะให้พวกเขาทำอะไรได้? อีกฝ่ายกลายเป็นผู้สืบทอดของขุมอำนาจสี่ดาวไปแล้ว เพียงแค่ส่งตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้มาหนึ่งคน ขุมอำนาจของพวกเขาก็คงถูกกวาดล้างอย่างง่ายดายแล้ว

พวกเขาทำได้เพียงแค่หวังว่า หลิงฮันจะลืมความบาดหมางก่อนหน้านี้ไปซะ

“หากพวกเจ้ามอบแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ให้ข้ามากกว่านี้ล่ะก็ ข้าอาจจะหลงลืมเรื่องราวบางอย่างก็เป็นได้” หลิงฮันยิ้ม

ตัวแทนของนิกายอาญาสิ้นแสงชะงักทันที ใครจะไปคาดคิดว่าหลิงฮันจะยื่นข้อเสนอ ต่อหน้าผู้คนมากมายอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้?

แต่นั่นก็เป็นเรื่องดี ทีนี้ความบาดหมางระหว่างหลิงฮัน กับพวกเขาจะได้ถูกสะสางเสียที เพราะอย่างไรแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้ล้ำค่ามากมาย เหมือนกับแร่โลหะกึ่งนิรันดร์

เนื่องสถานะของตระกูลฟู่ค่อนข้างต่ำกว่าใคร พวกเขาจึงอยู่รั้งท้ายในการร่วมแสดงความยินดี

“ขอแสดงความยินดีกับผู้สืบทอดหลิงด้วย! ” ฟู่เกาหยุนผสานมือคารวะด้วยความรู้สึกชื่นชม

หลิงฮัน… ช่างเป็นบุรุษที่ยากจะหยั่งถึงนัก

หลิงฮันจงใจเอ่ยทักทายฟู่เกาหยุนสองสามประโยค เพื่อเป็นการไว้หน้าฟู่เกยหยุน

หลังจากที่ฟู่เกาหยุนแสดงความยินดีเสร็จ ผ่านไปไม่นานก็มีผู้คนมากมายเข้ามาล้อมรอบเขา แต่ไถ่ถามคำถามๆ มากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับหลิงฮัน

ด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้ โอกาสที่ในอนาคตฟู่เกาหยุนจะได้ขึ้นบัลลังก์ เป็นประมุขของตระกูลฟู่ย่อมมีมากกว่าเก้าส่วน

เพื่อสหายแล้ว หลิงฮันย่อมยินดีช่วยเหลือเสมอ

งานพิธีดำเนินต่อไปอีกเป็นเวลาสามวัน ซึ่งหลิงฮันรับของขวัญติดต่อกันจนมือไม้อ่อน

หลังจากงานพิธีสิ้นสุด หลิงฮันก็ได้นำแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์หมดให้ดาบอสูรนิรันดร์ดูดกลืน แต่น่าเสียดายที่แม้แร่จะโลหะจะถูกเผาผลาญจนหมด ดาบอสูรนิรันดร์ก็ยังไม่ยกระดับกลายเป็น อุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สี่ดาว

เขาและจักรพรรดินีเริ่มเก็บตัวฝึกฝนอีกครั้ง

พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือ การบรรลุเป็นระดับสี่นิรันดร์สูงสุดเพื่อทะลวงผ่านไปยังห้านิพพาน แต่หลิงฮันยังมีภารกิจอีกอย่างคือ ต้องการพัฒนาฝีมือให้กลายเป็นนักปรุงยาสองดาวภายในสามปี และขัดเกลาทักษะห้วงจิตปรับแต่งให้สมบูรณ์ที่สุด

หากทำได้ เขาก็จะไม่อยู่ในสถานะที่เสียเปรียบผู้สืบทอดคนอื่นๆ อีกต่อไป

หลิงฮันเข้าสู่หอคอยทมิฬ เพื่อศึกษาเม็ดยาสองดาวภายใต้ต้นสังสารวัฏ

เขาใช้เวลาอยู่ในห้วงความคิด ‘สามพันปี’ ก่อนจะออกจากหอคอยทมิฬ และเข้าไปยังห้องบ่มเพาะกาลเวลา

ระหว่างการฝึกฝน หลิงฮันเทียวไปมาไต่ถามปัญหาต่างๆ กับปรมาจารย์จื่อเฉิงอยู่หลายครั้ง และเนื่องจากพัฒนาการของหลิงฮันเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่ไปหา จิตใจของปรมาจารย์จื่อเฉิงจึงเลือดร้อนเดือดพล่าน

ศิษย์ตัวน้อยของเขาผู้นี้มีโอกาสบรรลุเป็นนักปรุงยาสองดาวในสามปีจริงๆ ดูเหมือนว่า เขาจะไม่ต้องกลับคำพูดที่ประกาศออกไปแล้ว

จริงสิ… ต้องทำให้ศิษย์ตัวน้อยของเขาให้กำเนิดบุตรมากมายให้ได้ หากทำเช่นนั้น เขาก็จะสร้างนักปรุงยาที่โดดเด่นออกมาได้อีกหลายคน!

ในระหว่างที่หลิงฮันเก็บตัวฝึกฝนอยู่ ชายชราก็เริ่มทำการคัดเลือกนางสนมให้หลิงฮัน ซึ่งสตรีที่จะมาให้กำเนิดบุตรของหลิงฮัน จำเป็นต้องมีศักยภาพในศาสตร์ปรุงยาที่ยอดเยี่ยมด้วย เพื่อที่เด็กที่เกิดมาจะได้รับสายเลือดมาจากทั้งบิดามารดา

แน่นอนว่าหลิงฮันย่อมไม่รู้เรื่องว่าชายชรากำลังคิดอะไรอยู่ เพราะไม่งั้นเขาคงหลบหนีออกจากเมืองวิถีโอสถแล้ว

ภายในหอคอยทมิฬ ใต้ต้นสังสารวัฏ วันเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากผ่านหนึ่งสองปีครึ่ง ในที่สุดหลิงฮันก็หลอมเม็ดยาสองดาวเม็ดยาได้สำเร็จ

หลังจากบอกเรื่องนี้ให้ปรมาจารย์จื่อเฉิงรับรู้ เขาก็เริ่มขัดเกลาทักษะห้วงจิตปรับแต่งต่อ

ห้วงจิตปรับแต่งขั้นสอง… นี่คือเป้าหมายต่อไปที่เขาก็บรรลุให้ได้

ทางด้านศาสตร์วรยุทธเขาก็ไม่ได้ละเว้นเสียทีเดียว ปรมาจารย์จื่อเฉิงเอ็นดูเขาเป็นอย่างมาก อีกฝ่ายจึงได้ส่งทรัพยากรบ่มเพาะมาให้เขาโดยไม่คิดเงิน

ทรัพยากรที่ว่าไม่ใช่ของเมืองวิถีโอสถ แต่เป็นทรัพยากรที่มาจากกระเป๋าของปรมาจารย์จื่อเฉิงเอง

ความมั่งคั่งที่สั่งสมมาเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนล้านปีของนักปรุงยาสี่ดาวนั้น ยากที่จะจินตนาการได้ว่าจะมีมากมายมหาศาลขนาดไหน!

ความช่วยเหลือจากปรมาจารย์จื่อเฉิง ทำให้พลังบ่มเพาะของหลิงฮันยกระดับเป็นสี่นิพพานขั้นปลาย ในขณะที่พลังบ่มเพาะของจักรพรรดินียกระดับเป็นสี่นิพพานสูงสุด เนื่องจากใช้เวลาทั้งหมดไปกับการบ่มเพาะพลังเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับการทะลวงผ่านไปยังระดับห้านิพพานนั้น เกรงว่าคงต้องรอคอยวาสนาเพียงอย่างเดียว

ซึ่งในเวลานี้เอง ผู้ส่งสารคนหนึ่งก็มาถึงเมืองวิถีโอสถ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด