Alchemy Emperor of the Divine Dao 1925 ในที่สุดก็ได้พบฯ

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1925 ในที่สุดก็ได้พบฯ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1925 ในที่สุดก็ได้พบฯ

 

จิตใจของพวกอู๋เซียนลู่ทั้งสามคนรู้สึกหดหู่เกินพรรณนา

 

เมื่อวาสนาของราชานิรันดร์ถูกฮูหนิวดูดขับไปแล้ว ก็จะไม่มีใครอื่นที่สามารถรับวาสนาต่อได้

 

แผ่นหินราชานิรันดร์ส่องประกายแสงเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนเจิดจรัสยิ่งกว่าดวงตะวันที่ราชานิรันครหย่งชางสร้างขึ้นบนท้องฟ้า เพียงแต่หลังจากนั้นส่องแสงเจิดจ้าอยู่ได้ไม่เกินสิบลมหายใจ แสงของแผ่นหินราชานิรันดร์ก็ค่อยๆ กลับมาเลือนราง และหม่นแสงลง

 

แก่นพลังของราชานิรันดร์หย่งชาง กับวาสนาแห่งสวรรค์และปฐพีที่สั่งสมมาหลายยุคสมัยถูกดูดซับเข้าไปในร่างกายของฮูหนิวจนหมดสิ้น

 

“ตุบ” แผ่นหินร่วงหล่นสู่พื้น โดยมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหินธรรมดาทั่วไป

 

“เจ้าหินบัดซบ! เจ้าหินชั่วร้าย!” ฮูหนิวใช้เท้ากระทืบเข้าใส่แผ่นหินอย่างเกรี้ยวกราด

 

“แต่อย่างไรก็เถอะ ดูเหมือนกายหยาบจะพัฒนาขึ้นมาหน่อยๆ แฮะ” ในขณะที่กําลังก ระทืบเท้านางเอียงคอและพึมพํากับตัวเอง

 

พัฒนาขึ้นมาหน่อยๆ งั้นรึ?

 

พวกเอี๋ยนเซียนลู่ทั้งสามคนตกตะลึง แผ่นหินราชานิรันดร์แผ่นนี้ หลังจากที่สั่งสมวาสนาแห่งสวรรค์และปฐพีมาหลายยุคสมัย พลังของมันจึงสามารถทําให้กายหยาบทั่วไป พัฒนากลายเป็นแก่นกําเนิดนิรันดร์ได้เลย

 

ถึงอย่างนั้น นางกลับบอกว่ากายหยาบของนางพัฒนาขึ้นนิดหน่อยงั้นรึ?

 

ถ้าหากฮูหนิวไม่ได้โกหก นั่นหมายความว่ากายหยาบของนางถูกขัดเกลาจนถึงขีดจํากัดสูงสุดอยู่แล้ว จึงแทบไม่มีช่องว่างให้วาสนาของแผ่นหินราชานิรันดร์เข้าไปช่วยเหลือ

 

เพียงแต่ฮูหนิวดูเหมือนเป็นคนพูดโกหกรึไง?

 

ด้วยเหตุนี้ พวกอู๋เซียนลู่ทั้งสามคนจึงตกตะลึง และเข้าใจในที่สุดว่าเหตุใดฮูหนิวถึงแข็งแกร่งเพียงนี้

 

แม้จะเป็นนิรันดร์ห้านิพพานเหมือนกัน แต่กายหยาบที่ทรงพลังก็ย่อมได้เปรียบกว่า โดยเฉพาะสายเลือดของมัจฉาวายุภักษ์ที่เป็นสัตว์อสูรต้นกําเนิดที่ทรงพลังที่สุดภายใต้สวรรค์และปฐพี!

 

“อืม… ฮูหนิวรอหลิงฮันอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน!” ฮูหนิวนั่งลงบนโขดหินก้อนหนึ่ง ด้วยท่าทางงดงามและสงบนิ่ง

 

เพียงแต่หลังจากเวลาผ่านไปได้ไม่นาน นางก็รู้สึกเบื่อและลุกขึ้นมาเตะก้อนหินเล่น จนภาพลักษณ์อันงดงามเมื่อครูไม่หลงเหลืออีกต่อไป

 

…..

 

ในตอนที่ฮูหนิวดูดซับอํานาจจากแผ่นหินราชานิรันดร์จนหมด บรรยากาศทั่วทั้งภูเขาก็ผันผวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสงบนิ่ง

 

ถึงแม้แรงกดดันอันรุนแรงจะยังอยู่ แต่เมฆหมอกก็ไม่ได้กลายมาเป็นร่างความทรงจําอีกต่อไป

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จึงทําให้ความเร็วในการไต่เขาของทุกคนเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า

 

“ดูเหมือนวาสนาจะถูกแย่งชิงไปแล้วนะ” หลิงฮันกล่าวออกมาตามสัญชาตญาณ

 

จักรพรรดินีหยักหน้า นางเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

 

เพียงแต่สําหรับทั้งสองคน การทะลวงผ่านห้านิพพานสําเร็จคือวาสนาที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งอื่นใดแล้ว

 

“บางทีคนที่ได้ครอบครองวาสนานั่น อาจจะเป็นฮูหนิว” หลิงฮันยิ้ม การเคลื่อนที่ของฮูหนิวนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก ต่อให้เขากับจักรพรรดินี้ไม่ได้เข้าไปบ่มเพาะพลังในหอคอยทมิฬ ฮูหนิวก็สามารถไล่ตามพวกเขาทัน เพราะงั้นจึงใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่คนที่ครอบครองวาสนาจะเป็นฮูหนิว

 

หลังจากมุ่งหน้าต่อไปได้อีกครึ่งวัน หลิงฮันกับจักรพรรดินีก็มาถึงยอดเขา

 

“เจ้า!” ทันทีที่มาถึง จู้เสี่ยเกอก็กระโดดเข้ามาและชี้นิ้วใส่หลิงฮัน ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจ จะท้าทายหลิงฮัน แต่ก็ถูกขัดจนต้องไปประมือกับคนอื่นแทนและลืมเรื่องท้าประลองหลิงฮันไปเสียสนิท

 

“มีอะไรงั้นรึ?” หลิงฮันมองไปยังอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม

 

แม้แต่ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ได้หวาดกลัวอีกฝ่าย ยิ่งตอนนี้เขาบรรลุเป็นนิรันดร์ห้านิพพานแล้ว แถมยังมั่นใจด้วยว่าตนสามารถเป็นคู่ต่อสู้กับอู๋เซียนลู่ได้ เพราะงั้นเขาจึงไม่มองจู้เสี่ยเกอผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้อีกต่อไป

 

“เข้ามา!” จู้เสี่ยเกอก็พุ่งทะยานเข้าใส่

 

“หลิงฮัน!” เพียงแต่พร้อมกันนั้นเอง ร่างของสตริงดงามก็พุ่งเข้ามาหาหลิงขั้นราวกับสัตว์ป่า “ไสหัวไป! หลบไปให้พ้น!” ฮูหนิวคําราม

 

“อะไรของเจ้า อ้ากก!” จู้เสี่ยเกอที่กําลังทะยานร่างถูกหมัดซัดลอยกระเด็นกลายเป็นจุดบนท้องฟ้า และหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

“หลิงฮัน!” ฮูหนิวโผกระโดดกอดรัดหลิงฮันราวกับลิงเกาะต้นไม้

 

หลินฮันยิ้มและกอดตอบเด็กสาวตรงหน้าที่ไม่ได้พบเจอกันมาหลายร้อยปี เขาเองก็คิดถึงนางมากเช่นกัน

 

“หลิงฮัน เจ้าคิดถึงหนิวบ้างรึเปล่า?” ฮูหนิวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน โดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง ราวกับที่นี่มีเพียงแค่นางคนเดียว

 

“ข้าต้องคิดถึงหนิวของข้าอยู่แล้ว!” หลิงฮันกล่าว

 

ใบหน้าอันงดงามของซูหนิวยิ้มกว้าง และยื่นปากไปจูบแก้มหลิงฮัน “หลิงฮัน มาทําเด็กกันเถอะ!”

 

เด็กสาวผู้นี้ยังไม่รู้จักคําว่าเขินอายเหมือนเคย

 

“อะแฮ่ม!” จักรพรรดินีกระแอมเล็กน้อย พร้อมกับแสดงสีหน้าที่ดูสูงส่งน่าเกรงขาม

 

“จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!” ฮูหนิวหันไปมองก่อนจะเผยสีหน้ารังเกียจ และแสดงท่าที่เป็นปรปักษ์ “หืม หนิวรู้สึกเหมือนเคยเห็นเจ้ามาก่อน!”

 

จักรพรรดินีที่นางเคยเห็นนั้นเป็นเพียงร่างแยกเท่านั้น ถึงแม้ใบหน้าของร่างแยกในตอนนั้นจะแตกต่างกัน แต่กลิ่นอายที่สัมผัสได้ก็คือกลิ่นอายเดียวกัน

 

“หลิงฮัน จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่น่ารังเกียจผู้นี้คือใครกัน?” ฮูหนิวยังคงเกาะร่างของหลิงฮันเอาไว้แน่นและเอ่ยถาม

 

“ครอบครัวนะ” หลิงฮันยิ้ม

 

“ฮึ่ม หนิวไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันนาง!” ฮูหนิวจ้องมองจักรพรรดินีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

จักรพรรดินีไม่หวาดกลัว และจ้องมองฮูหนิวกลับ

 

ในสายตาของพวกเนาง การได้เป็นคนสําคัญที่สุดของหลิงฮัน คือสิ่งที่อยู่เหนือสิ่งใดทั้งหมด

 

“อะแฮ่ม ในเมื่อทุกคนมาถึงที่นี่แล้ว มานั่งลงและพูดคุยกันก่อนดีกว่า” อู๋เซียนลู่พยายามปรับเปลี่ยนบรรยากาศที่เขาพ่ายแพ้ให้กับฮูหนิวเป็นเพราะข้อได้เปรียบในด้านกายหยาบเท่านั้น เพียงแต่ข้อได้เปรียบของกายหยาบจะมีผลก็เพียงแค่กับระดับพลังก่อนราชานิรันดร์เท่านั้น หลังจากบรรลุเป็นราชานิรันดร์แล้ว อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของทุกคนจะเท่าเทียมกัน

 

เหตุผลที่เขาเรียกเหล่าอัจฉริยะมารวมตัวกัน ไม่ใช่แค่เพราะต้องการกระตุ้นวาสนาของราชานิรันดร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีจุดประสงค์ที่สําคัญอื่นอยู่อีก เพราะงั้นเขาจึงไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เล็กน้อยๆ มาสร้างวุ่นวายกับงานรวมตัวของเขาได้

 

“หุบปาก!” ฮูหนิวและจักรพรรดินีหันหน้าพร้อมกัน และคํารามด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง

 

อู๋เซียนลู่ “…”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1925 ในที่สุดก็ได้พบฯ

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1925 ในที่สุดก็ได้พบฯ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1925 ในที่สุดก็ได้พบฯ

 

จิตใจของพวกอู๋เซียนลู่ทั้งสามคนรู้สึกหดหู่เกินพรรณนา

 

เมื่อวาสนาของราชานิรันดร์ถูกฮูหนิวดูดขับไปแล้ว ก็จะไม่มีใครอื่นที่สามารถรับวาสนาต่อได้

 

แผ่นหินราชานิรันดร์ส่องประกายแสงเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนเจิดจรัสยิ่งกว่าดวงตะวันที่ราชานิรันครหย่งชางสร้างขึ้นบนท้องฟ้า เพียงแต่หลังจากนั้นส่องแสงเจิดจ้าอยู่ได้ไม่เกินสิบลมหายใจ แสงของแผ่นหินราชานิรันดร์ก็ค่อยๆ กลับมาเลือนราง และหม่นแสงลง

 

แก่นพลังของราชานิรันดร์หย่งชาง กับวาสนาแห่งสวรรค์และปฐพีที่สั่งสมมาหลายยุคสมัยถูกดูดซับเข้าไปในร่างกายของฮูหนิวจนหมดสิ้น

 

“ตุบ” แผ่นหินร่วงหล่นสู่พื้น โดยมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหินธรรมดาทั่วไป

 

“เจ้าหินบัดซบ! เจ้าหินชั่วร้าย!” ฮูหนิวใช้เท้ากระทืบเข้าใส่แผ่นหินอย่างเกรี้ยวกราด

 

“แต่อย่างไรก็เถอะ ดูเหมือนกายหยาบจะพัฒนาขึ้นมาหน่อยๆ แฮะ” ในขณะที่กําลังก ระทืบเท้านางเอียงคอและพึมพํากับตัวเอง

 

พัฒนาขึ้นมาหน่อยๆ งั้นรึ?

 

พวกเอี๋ยนเซียนลู่ทั้งสามคนตกตะลึง แผ่นหินราชานิรันดร์แผ่นนี้ หลังจากที่สั่งสมวาสนาแห่งสวรรค์และปฐพีมาหลายยุคสมัย พลังของมันจึงสามารถทําให้กายหยาบทั่วไป พัฒนากลายเป็นแก่นกําเนิดนิรันดร์ได้เลย

 

ถึงอย่างนั้น นางกลับบอกว่ากายหยาบของนางพัฒนาขึ้นนิดหน่อยงั้นรึ?

 

ถ้าหากฮูหนิวไม่ได้โกหก นั่นหมายความว่ากายหยาบของนางถูกขัดเกลาจนถึงขีดจํากัดสูงสุดอยู่แล้ว จึงแทบไม่มีช่องว่างให้วาสนาของแผ่นหินราชานิรันดร์เข้าไปช่วยเหลือ

 

เพียงแต่ฮูหนิวดูเหมือนเป็นคนพูดโกหกรึไง?

 

ด้วยเหตุนี้ พวกอู๋เซียนลู่ทั้งสามคนจึงตกตะลึง และเข้าใจในที่สุดว่าเหตุใดฮูหนิวถึงแข็งแกร่งเพียงนี้

 

แม้จะเป็นนิรันดร์ห้านิพพานเหมือนกัน แต่กายหยาบที่ทรงพลังก็ย่อมได้เปรียบกว่า โดยเฉพาะสายเลือดของมัจฉาวายุภักษ์ที่เป็นสัตว์อสูรต้นกําเนิดที่ทรงพลังที่สุดภายใต้สวรรค์และปฐพี!

 

“อืม… ฮูหนิวรอหลิงฮันอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน!” ฮูหนิวนั่งลงบนโขดหินก้อนหนึ่ง ด้วยท่าทางงดงามและสงบนิ่ง

 

เพียงแต่หลังจากเวลาผ่านไปได้ไม่นาน นางก็รู้สึกเบื่อและลุกขึ้นมาเตะก้อนหินเล่น จนภาพลักษณ์อันงดงามเมื่อครูไม่หลงเหลืออีกต่อไป

 

…..

 

ในตอนที่ฮูหนิวดูดซับอํานาจจากแผ่นหินราชานิรันดร์จนหมด บรรยากาศทั่วทั้งภูเขาก็ผันผวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสงบนิ่ง

 

ถึงแม้แรงกดดันอันรุนแรงจะยังอยู่ แต่เมฆหมอกก็ไม่ได้กลายมาเป็นร่างความทรงจําอีกต่อไป

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จึงทําให้ความเร็วในการไต่เขาของทุกคนเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า

 

“ดูเหมือนวาสนาจะถูกแย่งชิงไปแล้วนะ” หลิงฮันกล่าวออกมาตามสัญชาตญาณ

 

จักรพรรดินีหยักหน้า นางเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

 

เพียงแต่สําหรับทั้งสองคน การทะลวงผ่านห้านิพพานสําเร็จคือวาสนาที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งอื่นใดแล้ว

 

“บางทีคนที่ได้ครอบครองวาสนานั่น อาจจะเป็นฮูหนิว” หลิงฮันยิ้ม การเคลื่อนที่ของฮูหนิวนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก ต่อให้เขากับจักรพรรดินี้ไม่ได้เข้าไปบ่มเพาะพลังในหอคอยทมิฬ ฮูหนิวก็สามารถไล่ตามพวกเขาทัน เพราะงั้นจึงใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่คนที่ครอบครองวาสนาจะเป็นฮูหนิว

 

หลังจากมุ่งหน้าต่อไปได้อีกครึ่งวัน หลิงฮันกับจักรพรรดินีก็มาถึงยอดเขา

 

“เจ้า!” ทันทีที่มาถึง จู้เสี่ยเกอก็กระโดดเข้ามาและชี้นิ้วใส่หลิงฮัน ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจ จะท้าทายหลิงฮัน แต่ก็ถูกขัดจนต้องไปประมือกับคนอื่นแทนและลืมเรื่องท้าประลองหลิงฮันไปเสียสนิท

 

“มีอะไรงั้นรึ?” หลิงฮันมองไปยังอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม

 

แม้แต่ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ได้หวาดกลัวอีกฝ่าย ยิ่งตอนนี้เขาบรรลุเป็นนิรันดร์ห้านิพพานแล้ว แถมยังมั่นใจด้วยว่าตนสามารถเป็นคู่ต่อสู้กับอู๋เซียนลู่ได้ เพราะงั้นเขาจึงไม่มองจู้เสี่ยเกอผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้อีกต่อไป

 

“เข้ามา!” จู้เสี่ยเกอก็พุ่งทะยานเข้าใส่

 

“หลิงฮัน!” เพียงแต่พร้อมกันนั้นเอง ร่างของสตริงดงามก็พุ่งเข้ามาหาหลิงขั้นราวกับสัตว์ป่า “ไสหัวไป! หลบไปให้พ้น!” ฮูหนิวคําราม

 

“อะไรของเจ้า อ้ากก!” จู้เสี่ยเกอที่กําลังทะยานร่างถูกหมัดซัดลอยกระเด็นกลายเป็นจุดบนท้องฟ้า และหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

“หลิงฮัน!” ฮูหนิวโผกระโดดกอดรัดหลิงฮันราวกับลิงเกาะต้นไม้

 

หลินฮันยิ้มและกอดตอบเด็กสาวตรงหน้าที่ไม่ได้พบเจอกันมาหลายร้อยปี เขาเองก็คิดถึงนางมากเช่นกัน

 

“หลิงฮัน เจ้าคิดถึงหนิวบ้างรึเปล่า?” ฮูหนิวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน โดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง ราวกับที่นี่มีเพียงแค่นางคนเดียว

 

“ข้าต้องคิดถึงหนิวของข้าอยู่แล้ว!” หลิงฮันกล่าว

 

ใบหน้าอันงดงามของซูหนิวยิ้มกว้าง และยื่นปากไปจูบแก้มหลิงฮัน “หลิงฮัน มาทําเด็กกันเถอะ!”

 

เด็กสาวผู้นี้ยังไม่รู้จักคําว่าเขินอายเหมือนเคย

 

“อะแฮ่ม!” จักรพรรดินีกระแอมเล็กน้อย พร้อมกับแสดงสีหน้าที่ดูสูงส่งน่าเกรงขาม

 

“จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!” ฮูหนิวหันไปมองก่อนจะเผยสีหน้ารังเกียจ และแสดงท่าที่เป็นปรปักษ์ “หืม หนิวรู้สึกเหมือนเคยเห็นเจ้ามาก่อน!”

 

จักรพรรดินีที่นางเคยเห็นนั้นเป็นเพียงร่างแยกเท่านั้น ถึงแม้ใบหน้าของร่างแยกในตอนนั้นจะแตกต่างกัน แต่กลิ่นอายที่สัมผัสได้ก็คือกลิ่นอายเดียวกัน

 

“หลิงฮัน จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่น่ารังเกียจผู้นี้คือใครกัน?” ฮูหนิวยังคงเกาะร่างของหลิงฮันเอาไว้แน่นและเอ่ยถาม

 

“ครอบครัวนะ” หลิงฮันยิ้ม

 

“ฮึ่ม หนิวไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันนาง!” ฮูหนิวจ้องมองจักรพรรดินีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

จักรพรรดินีไม่หวาดกลัว และจ้องมองฮูหนิวกลับ

 

ในสายตาของพวกเนาง การได้เป็นคนสําคัญที่สุดของหลิงฮัน คือสิ่งที่อยู่เหนือสิ่งใดทั้งหมด

 

“อะแฮ่ม ในเมื่อทุกคนมาถึงที่นี่แล้ว มานั่งลงและพูดคุยกันก่อนดีกว่า” อู๋เซียนลู่พยายามปรับเปลี่ยนบรรยากาศที่เขาพ่ายแพ้ให้กับฮูหนิวเป็นเพราะข้อได้เปรียบในด้านกายหยาบเท่านั้น เพียงแต่ข้อได้เปรียบของกายหยาบจะมีผลก็เพียงแค่กับระดับพลังก่อนราชานิรันดร์เท่านั้น หลังจากบรรลุเป็นราชานิรันดร์แล้ว อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของทุกคนจะเท่าเทียมกัน

 

เหตุผลที่เขาเรียกเหล่าอัจฉริยะมารวมตัวกัน ไม่ใช่แค่เพราะต้องการกระตุ้นวาสนาของราชานิรันดร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีจุดประสงค์ที่สําคัญอื่นอยู่อีก เพราะงั้นเขาจึงไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เล็กน้อยๆ มาสร้างวุ่นวายกับงานรวมตัวของเขาได้

 

“หุบปาก!” ฮูหนิวและจักรพรรดินีหันหน้าพร้อมกัน และคํารามด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง

 

อู๋เซียนลู่ “…”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+