Alchemy Emperor of the Divine Dao 1933 ความหน้าด้านที่ไม่มีขีดจํากัด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1933 ความหน้าด้านที่ไม่มีขีดจํากัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1933 ความหน้าด้านที่ไม่มีขีดจํากัด

 

แต่หลิงฮันน่ะ?

 

เจ้าบอกว่าตนเองรับความเจ็บปวดจากคําสาปมาแล้วหลายร้อยครั้ง?

 

อย่างที่รู้กันว่าระยะเวลาเพิ่งผ่านมาเพียงสี่หรือห้าปีเท่านั้น จํานวนครั้งที่คําสาปอสูรทมิฬอาฆาตถูกกระตุ้นให้ทํางานก็น่าจะมีแค่สี่หรือห้าครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าหลายร้อยครั้งงั้นรึ?

 

หากเป็นเช่นนั้นจริง ความเป็นไปได้ก็มีอยู่อย่างเดียว

 

หลิงฮันได้เข้าไปยังห้องบ่มเพาะกาลเวลา เวลาปกติที่สมควรเป็นสี่ถึงห้าปี ถึงกลายเป็นหลายร้อยปีแทน

 

มีคนที่บ้าบินแบบนี้อยู่ได้อย่างไรกัน?

 

ความเจ็บปวดของคําสาปอสูรทมิฬอาฆาตนั้นรุนแรง จนใครก็ตามที่ได้รับคําสาปจะต้องเจ็บปวดทรมานจนร้องโหยหวน เพราะงั้นเขาจึงรู้สึกโล่งใจที่จะยอมให้หลิงฮันเข้าไปยังเมืองวิดีโอสถ และมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องพยายามทําภารกิจที่เขามอบให้ให้สําเร็จ

 

ใครจะไปคาดคิดกันว่า สัตว์ประหลาดตนนี้จะไม่ยอมให้คําสาปอสูรทมิฬอาฆาตค่อยๆ ทํางานเองอย่างช้าๆ แต่เลือกที่เข้าห้องบ่มเพาะกาลเวลาเพื่อเร่งความเจ็บเสียเอง

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตกลายเป็นโง่งมทําอะไรไม่ถูก เขาไม่พบเจอคนอย่างหลิงฮันมาก่อน

 

เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า? เจ้ามันแร่โลหะนิรันดร์ที่อยู่ในร่างของมนุษย์ชัดๆ

 

แต่ในเมื่อเหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้แล้ว งั้นก็ตายไปซะ!

 

ในแววตาของอสูรเฒ่าเงาโลหิตปรากฏความบ้าคลั่งออกมาให้เห็น ในเมื่อเขาไม่สามารถจับกุมหลิงฮันได้และมีโชคชะตาที่จะต้องตาย งั้นเขาก็จะลากหลิงฮันให้ตายตามไปด้วย

 

“ตาย!” มือขวาของเขารวบเข้าหาอากาศที่ว่างเปล่า ราวกับกําลังดึงเส้นด้ายที่มองไม่เห็น

 

ชายชราตั้งใจจะกระตุ้นให้คําสาปอสูรทมิฬอาฆาตทํางานเต็มพลังเพื่อส่งหลิงฮันสู่ความตาย

 

เพียงแต่หลังจากที่คํารามว่า “ตาย” ออกไป สิ่งที่เกิดขึ้นกลับมีเพียงเสียงของสายลมภูเขาที่พัดผ่าน โดยที่หลิงฮันยังคงยืนแน่นิ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

 

การที่เจ้าสามารถต้านทานความเจ็บปวดของคําสาปอสูรทมิฬอาฆาตได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าเจ้ามีพลังใจที่กล้าแกร่งจนน่าสะพรึงกลัว เพียงแต่เมื่อคําสาปลูกกระตุ้นอย่างสมบูรณ์นั้น มันไม่เกี่ยวกับพลังใจอะไรแล้ว แต่จะส่งผลต่อชีวิตของผู้ที่ถูกสาปโดยตรง

 

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุใดเจ้าถึงไม่ตายกัน?

 

หลิงฮันยิ้มพร้อมกับก้าวเท้าขวาเดินขึ้นหน้า เพียงแค่การก้าวเดินก้าวเดียว แมลงโลหิตมากมายบนร่างของเขาก็ถูกสลัดร่วงลงพื้น เพียงแต่ยังไม่ทันที่ร่างของพวกมันจะสัมผัสกับพื้นดิน เหล่าแมลงโลหิตก็ถูกแปรสภาพกลับไปเป็นอํานาจแห่งกฎเกณฑ์และสลายไป

 

“เฒ่าชรา อย่าลืมว่าพลังต่อสู้ของเจ้าในตอนนี้อย่างมากก็แค่ระดับตัดวิญญาณหยินเท่านั้น เจ้าคิดว่าตนเองจะมีพลังเหลือพอให้กระตุ้นอํานาจสมบูรณ์ของคําสาปอสูรทมิฬอาฆาตรีไง?” หลิงฮันตอบอย่างไม่แยแส ด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทาน ทักษะจู่โจมของจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยินจะสังหารเขาได้อย่างไร?

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตลิ้นพันกันจนพูดไม่ออก หากคําสาปอสูรทมิฬอาฆาตถูกฝังเอาไว้ในร่างกาย และระเบิดพลังออกมาจากภายในโดยตรงล่ะก็ ต่อให้เป็นจอมยุทธที่ระดับพลังเท่ากันก็ต้องถูกสังหารอย่างง่ายดาย

 

นี่เขา… ดันไปยั่วยุสัตว์ประหลาดเข้าเสียแล้ว!

 

ชายชราโศกเศร้าเป็นอย่างมาก แต่เดิมแล้วเขายังเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกหลายร้อยปีล้านปีแท้ๆ แต่ตอนนี้นอกจากแก่นพลังชีวิตจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก เขายังใช้พลังชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับการต่อสู้และขุดหลุมฝังตัวเองเสียแล้ว

 

หากพระเจ้ามอบโอกาสให้เขาอีกสักครั้งล่ะก็ เขาจะอยู่ให้ห่างจากหลิงฮัน ไม่สิ เขาจะสังหารหลิงฮันให้แย่งชิงสมบัติในร่างกายอีกฝ่ายมาในทันที!

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตรู้สึกว่าหลิงขั้นจะต้องครอบครองสมบัติที่น่าอัศจรรย์อยู่แน่นอน เพราะไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายคงไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้

 

“แม้แต่ในเวลาเช่นนี้ เจ้ายังก็ยังมีความคิดชั่วร้ายงั้นรี!” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชาและก้าวเดินขึ้นหน้า แมลงโลหิตจํานวนมากหลุดร่วงลงพื้น

 

“ข้าจะส่งเจ้าไปยังยมโลกให้เอง”

 

หลิงฮันคํารามพร้อมกับโคจรเพลิงเก้าสวรรค์ ร่างของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงราวกับเทพอัคคี และพุ่งทะยานเข้าใส่อสูรเฒ่าเงาโลหิต

 

ราชาคือตัวตนที่ไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน ราชาในหมู่ราชาสามารถสู้ข้ามระดับได้หนึ่งระดับแถมยังไร้เทียมทาน ถ้าเช่นนั้นหากเป็นจักรพรรดิล่ะ?

 

ไร้เทียมแม้จะเป็นการสู้ข้ามระดับสองระดับ!

 

“โปรดอย่าสังหารข้า!” อสูรเฒ่าเงาโลหิตโอดครวญ “ข้ามีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่กี่ปีแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเพื่อให้มีเวลาจัดการเรื่องต่างๆ ที่เหลืออยู่เถิด!”

 

หลิงฮันซึ้งจนพูดไม่ออก นี่เฒ่าชราผู้นี้หน้าด้านขนาดไหนกัน?

 

“เพื่อที่ผู้อื่นจะได้ไม่เดือดร้อน คนเช่นเจ้าตายไปเร็วๆ นั่นล่ะดีแล้ว” หลิงฮันปล่อยหมัดออกไปอย่างไร้ความเมตตา

 

“ฮึม ถ้างั้นข้าก็จะสู้กับเจ้าจนตัวตาย!” อสูรเฒ่าเงาโลหิตเผาผลาญแก่นพลังชีวิตสุดท้ายที่เหลืออยู่ เพียงแต่ถึงเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของหลิงฮันได้และพ่ายแพ้อยู่ดี เศษเสียวพลังชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดของเขาค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว

 

“ช่างน่ารังเกียจนัก! ช่างน่ารังเกียจนัก! ช่างน่ารังเกียจนัก!” ชายชราที่รู้ว่าไม่อาจทําอะไรได้อีกต่อไปคํารามขึ้นสู่ท้องฟ้าสามครั้ง “เจ้าเป็นถึงสุดท้ายอัจฉริยะแห่งยุคไม่ใช่รึไง เหตุใดถึงยังคิดสู้กับคนที่ไม่ต้องการสู้ด้วยกัน?”

 

บ้าบออะไรอย่างนี้

 

หลิงฮันคิดว่าความหน้าด้านอันไร้ที่สิ้นสุดก่อนหน้านี้ของเฒ่าชราจะเป็นขีดจํากัดที่มนุษย์จะมีได้แล้วแท้ๆ แต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะทําให้เขาตกตะลึงได้อีกครั้ง

 

เหตุการณ์ตรงหน้านี้ ไม่เพียงแค่หลิงฮันเท่านั้นที่รู้สึกอึ้งจนไร้คําพูด แต่เอี๋ยนเซียนลู่และคนอื่นๆ ก็ไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรเหมือนกัน ชายชราผู้นี้แต่เดิมเป็นถึงปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ที่ทรงพลังแท้ๆ เหตุใดถึงได้หน้าด้านได้เช่นนี้?

 

“ช่างน่าสะอิดสะเอียน!” หลิงฮันปล่อยหมัดเปลวเพลิงออกไป หลังจากกระหน่ำหมัดอยู่สิบครั้ง ร่างของอสูรเฒ่าเงาโลหิตก็แหลกสลายเป็นเศษซาก

 

เศษซากของอสูรเฒ่าเงาโลหิตไม่ได้สลายไปในทันที แต่ลอยอยู่กลางอากาศราวกับยังมีชีวิต เพียงแต่ดวงวิญญาณของอีกฝ่ายได้แหลกสลายไปแล้ว เพราะงั้นเศษซากถึงค่อยๆ จางหาย และกลบล้างไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์ในที่สุด

 

“หลิงฮัน ไปเล่นกันเถอะ!” ฮูหนิววิ่งเข้ามากอดแขนหลิงฮันพร้อมกันยิ้มร่า

 

จักรพรรดินีเองก็เดินตามเข้ามา และกอดแขนอีกข้างของหลิงฮันเพื่อแสดงจุดยืน

 

กับสตรีคนอื่นนั้นจักรพรรดินีมักจะมีท่าที่สงบนิ่งอยู่ตลอด มีเพียงแค่หนิวเท่านั้นที่ทําให้นางรู้สึกกดดัน

 

“จิ้งจอกมาร ปล่อยหลิงฮันเดี๋ยวนี้!” ฮูหนิวกล่าวด้วยความหึงหวง

 

จักรพรรดินีมองซูหนิวด้วยสายตาเหยียดหยามและเลือกที่จะเป็นเฉย นางไม่มีความ สนใจจะต่อปากต่อคําใดๆ กับเด็กสาวผู้นี้

 

“น้องชายหลิงฮัน ดูเหมือนเจ้าจะยุ่งพอสมควรนะ ถ้างั้นข้าจะรอกล่าวรวบรัดสั้นๆ เลยแล้วกัน เขตแดนลี้ลับจะเปิดออกไปในเวลาอีกราวๆ สิบปีก่อนถึงตอนนั้นเจ้าควรเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด และจะดีมากหากก่อนหน้านั้นเจ้าบรรลุเป็นนิรันดร์ห้านิพพานขั้นสูงสุดได้” อู๋เซียนลู่กล่าว

 

“อย่าได้คิดประมาทอัจฉริยะของอาณาเขตสวรรค์กว่างลังเป็นอันขาด เจ้าจะต่อกรกับพวกเขาได้ก็ต่อเมื่อบรรลุระดับห้านิพพานขั้นสูงสุดแล้วเท่านั้น”

 

ก่อนหน้านี้ที่เขาประมือกับหลิงฮันสิบกระบวนท่านั้น เขาคือฝ่ายที่ได้เปรียบ เพราะงั้นขนาดเขาที่ได้เปรียบยังไม่สามารถโค่นล้มซื๋อซิวเหวินได้ หลิงขั้นที่ด้อยกว่าเขาก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้เช่นกัน

 

หลิงฮันพยักหน้า และไม่ได้กล่าวเถียงออกไปว่าตัวเขานั้นนอกจากจะมีกายหยาบที่ไร้เทียมทานแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ใช้อํานาจของเพลิงเก้าสวรรค์ วารีพลังหยินเร้นลับ หรืออํานาจแห่งกฏเกณฑ์ทั้งสามของหอคอยทมิฬออกไปแม้แต่น้อย

 

เพียงแต่สิ่งที่เอี๋ยนเซียนลู่กล่าวก็ถูกต้อง เขาจําเป็นต้องบรรลุระดับห้านิพพานให้เร็วที่สุด เพราะหากเป็นไปได้เขาก็ไม่ต้องการยืมพลังนอกกายที่ไม่ใช่พลังของตนเองมาใช้

 

“ถ้างั้นไว้พบกันใหม่อีกครั้งที่หุบเขาสามบุปผา”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1933 ความหน้าด้านที่ไม่มีขีดจํากัด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1933 ความหน้าด้านที่ไม่มีขีดจํากัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1933 ความหน้าด้านที่ไม่มีขีดจํากัด

 

แต่หลิงฮันน่ะ?

 

เจ้าบอกว่าตนเองรับความเจ็บปวดจากคําสาปมาแล้วหลายร้อยครั้ง?

 

อย่างที่รู้กันว่าระยะเวลาเพิ่งผ่านมาเพียงสี่หรือห้าปีเท่านั้น จํานวนครั้งที่คําสาปอสูรทมิฬอาฆาตถูกกระตุ้นให้ทํางานก็น่าจะมีแค่สี่หรือห้าครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าหลายร้อยครั้งงั้นรึ?

 

หากเป็นเช่นนั้นจริง ความเป็นไปได้ก็มีอยู่อย่างเดียว

 

หลิงฮันได้เข้าไปยังห้องบ่มเพาะกาลเวลา เวลาปกติที่สมควรเป็นสี่ถึงห้าปี ถึงกลายเป็นหลายร้อยปีแทน

 

มีคนที่บ้าบินแบบนี้อยู่ได้อย่างไรกัน?

 

ความเจ็บปวดของคําสาปอสูรทมิฬอาฆาตนั้นรุนแรง จนใครก็ตามที่ได้รับคําสาปจะต้องเจ็บปวดทรมานจนร้องโหยหวน เพราะงั้นเขาจึงรู้สึกโล่งใจที่จะยอมให้หลิงฮันเข้าไปยังเมืองวิดีโอสถ และมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องพยายามทําภารกิจที่เขามอบให้ให้สําเร็จ

 

ใครจะไปคาดคิดกันว่า สัตว์ประหลาดตนนี้จะไม่ยอมให้คําสาปอสูรทมิฬอาฆาตค่อยๆ ทํางานเองอย่างช้าๆ แต่เลือกที่เข้าห้องบ่มเพาะกาลเวลาเพื่อเร่งความเจ็บเสียเอง

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตกลายเป็นโง่งมทําอะไรไม่ถูก เขาไม่พบเจอคนอย่างหลิงฮันมาก่อน

 

เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า? เจ้ามันแร่โลหะนิรันดร์ที่อยู่ในร่างของมนุษย์ชัดๆ

 

แต่ในเมื่อเหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้แล้ว งั้นก็ตายไปซะ!

 

ในแววตาของอสูรเฒ่าเงาโลหิตปรากฏความบ้าคลั่งออกมาให้เห็น ในเมื่อเขาไม่สามารถจับกุมหลิงฮันได้และมีโชคชะตาที่จะต้องตาย งั้นเขาก็จะลากหลิงฮันให้ตายตามไปด้วย

 

“ตาย!” มือขวาของเขารวบเข้าหาอากาศที่ว่างเปล่า ราวกับกําลังดึงเส้นด้ายที่มองไม่เห็น

 

ชายชราตั้งใจจะกระตุ้นให้คําสาปอสูรทมิฬอาฆาตทํางานเต็มพลังเพื่อส่งหลิงฮันสู่ความตาย

 

เพียงแต่หลังจากที่คํารามว่า “ตาย” ออกไป สิ่งที่เกิดขึ้นกลับมีเพียงเสียงของสายลมภูเขาที่พัดผ่าน โดยที่หลิงฮันยังคงยืนแน่นิ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

 

การที่เจ้าสามารถต้านทานความเจ็บปวดของคําสาปอสูรทมิฬอาฆาตได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าเจ้ามีพลังใจที่กล้าแกร่งจนน่าสะพรึงกลัว เพียงแต่เมื่อคําสาปลูกกระตุ้นอย่างสมบูรณ์นั้น มันไม่เกี่ยวกับพลังใจอะไรแล้ว แต่จะส่งผลต่อชีวิตของผู้ที่ถูกสาปโดยตรง

 

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุใดเจ้าถึงไม่ตายกัน?

 

หลิงฮันยิ้มพร้อมกับก้าวเท้าขวาเดินขึ้นหน้า เพียงแค่การก้าวเดินก้าวเดียว แมลงโลหิตมากมายบนร่างของเขาก็ถูกสลัดร่วงลงพื้น เพียงแต่ยังไม่ทันที่ร่างของพวกมันจะสัมผัสกับพื้นดิน เหล่าแมลงโลหิตก็ถูกแปรสภาพกลับไปเป็นอํานาจแห่งกฎเกณฑ์และสลายไป

 

“เฒ่าชรา อย่าลืมว่าพลังต่อสู้ของเจ้าในตอนนี้อย่างมากก็แค่ระดับตัดวิญญาณหยินเท่านั้น เจ้าคิดว่าตนเองจะมีพลังเหลือพอให้กระตุ้นอํานาจสมบูรณ์ของคําสาปอสูรทมิฬอาฆาตรีไง?” หลิงฮันตอบอย่างไม่แยแส ด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทาน ทักษะจู่โจมของจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยินจะสังหารเขาได้อย่างไร?

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตลิ้นพันกันจนพูดไม่ออก หากคําสาปอสูรทมิฬอาฆาตถูกฝังเอาไว้ในร่างกาย และระเบิดพลังออกมาจากภายในโดยตรงล่ะก็ ต่อให้เป็นจอมยุทธที่ระดับพลังเท่ากันก็ต้องถูกสังหารอย่างง่ายดาย

 

นี่เขา… ดันไปยั่วยุสัตว์ประหลาดเข้าเสียแล้ว!

 

ชายชราโศกเศร้าเป็นอย่างมาก แต่เดิมแล้วเขายังเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกหลายร้อยปีล้านปีแท้ๆ แต่ตอนนี้นอกจากแก่นพลังชีวิตจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก เขายังใช้พลังชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับการต่อสู้และขุดหลุมฝังตัวเองเสียแล้ว

 

หากพระเจ้ามอบโอกาสให้เขาอีกสักครั้งล่ะก็ เขาจะอยู่ให้ห่างจากหลิงฮัน ไม่สิ เขาจะสังหารหลิงฮันให้แย่งชิงสมบัติในร่างกายอีกฝ่ายมาในทันที!

 

อสูรเฒ่าเงาโลหิตรู้สึกว่าหลิงขั้นจะต้องครอบครองสมบัติที่น่าอัศจรรย์อยู่แน่นอน เพราะไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายคงไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้

 

“แม้แต่ในเวลาเช่นนี้ เจ้ายังก็ยังมีความคิดชั่วร้ายงั้นรี!” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชาและก้าวเดินขึ้นหน้า แมลงโลหิตจํานวนมากหลุดร่วงลงพื้น

 

“ข้าจะส่งเจ้าไปยังยมโลกให้เอง”

 

หลิงฮันคํารามพร้อมกับโคจรเพลิงเก้าสวรรค์ ร่างของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงราวกับเทพอัคคี และพุ่งทะยานเข้าใส่อสูรเฒ่าเงาโลหิต

 

ราชาคือตัวตนที่ไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน ราชาในหมู่ราชาสามารถสู้ข้ามระดับได้หนึ่งระดับแถมยังไร้เทียมทาน ถ้าเช่นนั้นหากเป็นจักรพรรดิล่ะ?

 

ไร้เทียมแม้จะเป็นการสู้ข้ามระดับสองระดับ!

 

“โปรดอย่าสังหารข้า!” อสูรเฒ่าเงาโลหิตโอดครวญ “ข้ามีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่กี่ปีแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเพื่อให้มีเวลาจัดการเรื่องต่างๆ ที่เหลืออยู่เถิด!”

 

หลิงฮันซึ้งจนพูดไม่ออก นี่เฒ่าชราผู้นี้หน้าด้านขนาดไหนกัน?

 

“เพื่อที่ผู้อื่นจะได้ไม่เดือดร้อน คนเช่นเจ้าตายไปเร็วๆ นั่นล่ะดีแล้ว” หลิงฮันปล่อยหมัดออกไปอย่างไร้ความเมตตา

 

“ฮึม ถ้างั้นข้าก็จะสู้กับเจ้าจนตัวตาย!” อสูรเฒ่าเงาโลหิตเผาผลาญแก่นพลังชีวิตสุดท้ายที่เหลืออยู่ เพียงแต่ถึงเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของหลิงฮันได้และพ่ายแพ้อยู่ดี เศษเสียวพลังชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดของเขาค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว

 

“ช่างน่ารังเกียจนัก! ช่างน่ารังเกียจนัก! ช่างน่ารังเกียจนัก!” ชายชราที่รู้ว่าไม่อาจทําอะไรได้อีกต่อไปคํารามขึ้นสู่ท้องฟ้าสามครั้ง “เจ้าเป็นถึงสุดท้ายอัจฉริยะแห่งยุคไม่ใช่รึไง เหตุใดถึงยังคิดสู้กับคนที่ไม่ต้องการสู้ด้วยกัน?”

 

บ้าบออะไรอย่างนี้

 

หลิงฮันคิดว่าความหน้าด้านอันไร้ที่สิ้นสุดก่อนหน้านี้ของเฒ่าชราจะเป็นขีดจํากัดที่มนุษย์จะมีได้แล้วแท้ๆ แต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะทําให้เขาตกตะลึงได้อีกครั้ง

 

เหตุการณ์ตรงหน้านี้ ไม่เพียงแค่หลิงฮันเท่านั้นที่รู้สึกอึ้งจนไร้คําพูด แต่เอี๋ยนเซียนลู่และคนอื่นๆ ก็ไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรเหมือนกัน ชายชราผู้นี้แต่เดิมเป็นถึงปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ที่ทรงพลังแท้ๆ เหตุใดถึงได้หน้าด้านได้เช่นนี้?

 

“ช่างน่าสะอิดสะเอียน!” หลิงฮันปล่อยหมัดเปลวเพลิงออกไป หลังจากกระหน่ำหมัดอยู่สิบครั้ง ร่างของอสูรเฒ่าเงาโลหิตก็แหลกสลายเป็นเศษซาก

 

เศษซากของอสูรเฒ่าเงาโลหิตไม่ได้สลายไปในทันที แต่ลอยอยู่กลางอากาศราวกับยังมีชีวิต เพียงแต่ดวงวิญญาณของอีกฝ่ายได้แหลกสลายไปแล้ว เพราะงั้นเศษซากถึงค่อยๆ จางหาย และกลบล้างไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์ในที่สุด

 

“หลิงฮัน ไปเล่นกันเถอะ!” ฮูหนิววิ่งเข้ามากอดแขนหลิงฮันพร้อมกันยิ้มร่า

 

จักรพรรดินีเองก็เดินตามเข้ามา และกอดแขนอีกข้างของหลิงฮันเพื่อแสดงจุดยืน

 

กับสตรีคนอื่นนั้นจักรพรรดินีมักจะมีท่าที่สงบนิ่งอยู่ตลอด มีเพียงแค่หนิวเท่านั้นที่ทําให้นางรู้สึกกดดัน

 

“จิ้งจอกมาร ปล่อยหลิงฮันเดี๋ยวนี้!” ฮูหนิวกล่าวด้วยความหึงหวง

 

จักรพรรดินีมองซูหนิวด้วยสายตาเหยียดหยามและเลือกที่จะเป็นเฉย นางไม่มีความ สนใจจะต่อปากต่อคําใดๆ กับเด็กสาวผู้นี้

 

“น้องชายหลิงฮัน ดูเหมือนเจ้าจะยุ่งพอสมควรนะ ถ้างั้นข้าจะรอกล่าวรวบรัดสั้นๆ เลยแล้วกัน เขตแดนลี้ลับจะเปิดออกไปในเวลาอีกราวๆ สิบปีก่อนถึงตอนนั้นเจ้าควรเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด และจะดีมากหากก่อนหน้านั้นเจ้าบรรลุเป็นนิรันดร์ห้านิพพานขั้นสูงสุดได้” อู๋เซียนลู่กล่าว

 

“อย่าได้คิดประมาทอัจฉริยะของอาณาเขตสวรรค์กว่างลังเป็นอันขาด เจ้าจะต่อกรกับพวกเขาได้ก็ต่อเมื่อบรรลุระดับห้านิพพานขั้นสูงสุดแล้วเท่านั้น”

 

ก่อนหน้านี้ที่เขาประมือกับหลิงฮันสิบกระบวนท่านั้น เขาคือฝ่ายที่ได้เปรียบ เพราะงั้นขนาดเขาที่ได้เปรียบยังไม่สามารถโค่นล้มซื๋อซิวเหวินได้ หลิงขั้นที่ด้อยกว่าเขาก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้เช่นกัน

 

หลิงฮันพยักหน้า และไม่ได้กล่าวเถียงออกไปว่าตัวเขานั้นนอกจากจะมีกายหยาบที่ไร้เทียมทานแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ใช้อํานาจของเพลิงเก้าสวรรค์ วารีพลังหยินเร้นลับ หรืออํานาจแห่งกฏเกณฑ์ทั้งสามของหอคอยทมิฬออกไปแม้แต่น้อย

 

เพียงแต่สิ่งที่เอี๋ยนเซียนลู่กล่าวก็ถูกต้อง เขาจําเป็นต้องบรรลุระดับห้านิพพานให้เร็วที่สุด เพราะหากเป็นไปได้เขาก็ไม่ต้องการยืมพลังนอกกายที่ไม่ใช่พลังของตนเองมาใช้

 

“ถ้างั้นไว้พบกันใหม่อีกครั้งที่หุบเขาสามบุปผา”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+