Alchemy Emperor of the Divine Dao 1939 พี่ชายหญิง ท่านเป็นนักปรุงยาระดับใด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1939 พี่ชายหญิง ท่านเป็นนักปรุงยาระดับใด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1939 พี่ชายหญิง ท่านเป็นนักปรุงยาระดับใด

 

จิตใจของหลิงฮันสั่นสะท้าน

 

แต่เดิมแล้ว ระดับวรยุทธของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งนั้นทัดเทียมกับอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน แต่ในหนึ่งร้อยล้านปีที่ผ่านมา ได้มีการเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง ส่งผลให้ระดับวรยุทธยกระดับขึ้นหลายเท่า

 

เอี๋ยนเซียนลู่นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับอัจฉริยะอันดับที่เก้า

ของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง เพราะงั้นหลิงฮันจึงรู้สึกสนใจเป็นอย่างมากว่าอัจฉริยะของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง จะมีพลังต่อสู้ที่ทรงพลังขนาดไหน

 

“สามี เจ้าไปเถอะ พวกข้าจะรออยู่ที่นี่” สตรีนกอมตะกล่าว

 

ใช่ว่านางไม่อยากเข้าร่วมโอกาสแบบนี้ แต่นางรู้ดีว่าจักรพรรดินี ฮูหนิว และธิดาโร๋วจะต้องนําพาปัญหามาให้หลิงฮันเมื่อพวกนางไปถึงอย่างแน่นอน

 

พวกนางมาที่นี่เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับปรมาจารย์จูเฟิงแล้วก็จะกลับแล้ว จึงไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกินขึ้น

 

จักรพรรดินีไม่แย้งอะไร นางสนใจเพียงแค่หลิงฮันคนเดียวเท่านั้น และไม่คิดจะเก็บเรื่องอื่นมาใส่ใจ เพียงแต่ทางด้านซูหนิวกับธิดาโร๋วนั้นอยากไปด้วย คนหนึ่งต้องการอยู่ติดกับหลิงฮัน ส่วนอีกคนต้องการไปเปิดหูเปิดตา

 

“ต้องขออภัยด้วย ข้าสามารถพาคนไปกับข้าได้แค่คนเดียวเท่านั้น พวกเจ้าคงจะไปด้วยกันไม่ได้” โม่ซวงกล่าวด้วยสีหน้าไร้หนทาง

 

“หนิวจะไปด้วย!” ฮูหนิวท้าวมือทั้งสองไว้ที่เอวด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์

 

โม่ซวงจับแขนหลิงฮัน “พี่สะใภ้ ข้าจะดูแลพี่ชายหลิงให้ดี และจะไม่ให้มีเรื่องสตรีเข้ามาเกี่ยวข้องเด็ดขาด ท่านวางใจได้” เมื่อกล่าวประโยคทิ้งท้ายเสร็จ เขาก็พาหลิงฮันออกจากที่พักทันที

 

“เหตุใดถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วย?” หลิงฮันยิ้ม

 

“พี่ชายหลิง ข้ามีข่าวใหญ่มาบอก!” โม่ซวงกระซิบข้างหูหลิงฮัน “ท่านรู้รึเปล่าว่าทําไม ผู้สืบทอดหลิวถึงได้จัดงานชุมนุมขึ้นในวันนี้? เหอๆ นั้นเพราะธิดาหลิวหานจะปรากฏตัวในวันนี้ไงล่ะ”

 

“โอ้?” หลิงฮันชะงักเล็กน้อย ใครคือหลิวหานกัน

 

“อะไรกัน พี่ชายหญิงไม่รู้จักแม้กระทั่งธิดาหลิวหานงั้นรึ?” โม่ซวงตกตะลึง

 

“ทําไมต้องถึงต้องรู้จักนางด้วย?” หลิงฮันเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ข้าล่ะเชื่อเลยจริงๆ!” โม่ซวงยกมือขึ้นเพื่อออกท่าออกทาง “ธิดาหลิวหานคือน้องสาวแท้ๆ ของหลิวเจี๋ย นางเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์ ที่เข้าร่วมกับนิกายเหมันต์เร้นลับ”

 

“ธิดาหลิวหานนั้นไม่ได้แค่เป็นสุดยอดอัจฉริยะในศาสตร์วรยุทธ แต่ยังมีความงดงามราวกับเทพธิดา ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นสตรีงดงามอันดับสองของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง”

 

“อันดับสองงั้นรึ?” หลิงฮันยิ้ม เหตุใดถึงมีผู้คนมากมาย ทําเรื่องน่าเบื่ออย่างการจัดอันดับสาวงามกัน

 

“สตรีที่งดงามอันดับหนึ่งคือแม่นางซูหย่าหรง แห่งสํานักอัคคีทมิฬมืด โอ้ แต่ว่าเสน่ห์ของนางนั้นก็ไม่สามารถเทียบกับพี่สะใภ้ฮูหนิวได้อยู่ดี ความงดงามของนางน่าจะพอๆ กับพี่สะใภ้โร๋วเท่านั้น” โม่ซวงกระซิบกระซาบ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล

 

กับสตรีที่งดงามขนาดนั้น ไม่ว่าบุรุษคนใดก็ต้องชื่นชอบ

 

“พี่ชายหลิง ท่านมีศักยภาพเป็นถึงจักรพรรดิ แถมยังเป็นถึงศิษย์ของน้องปรมาจารย์จูเฟิงอีก ข้าว่าท่านน่าจะลองเข้าหาธิดาหลิวหานดูนะ”

 

หลิงฮันกลายเป็นไร้คําพูด และส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย “ข้าขอผ่านดีกว่า แต่เจ้าเองนั่นล่ะ ทําไมไม่ลองเข้าหานางดูล่ะ”

 

“ท่านมองข้าแล้วคิดว่าข้ามีคุณสมบัติเหมาะสมงั้น!” โม่ซวงถอนหายใจ หลิวหานคืออัจฉริยะในระดับจักรพรรดิ เพราะงั้นคนที่จะครอบครองหัวใจนางก็คือสมควรเป็นอัจฉริยะระดับหลิงฮัน

 

“ตราบใดที่ทุ่มเทมากพอ ต่อให้เป็นแท่งเหล็กก็สามารถถูกเหลาให้กลายเป็นเข็มได้ อีกอย่าง ใครเป็นคนบอกกันว่าสตรีจะไม่ชอบบุรุษที่อ่อนแอว่าตนเอง?” หลิงฮันให้กําลังใจโม่ซวง “ข้าจะช่วยเจ้าเอง อืม…. ถ้าหากจุดเด่นในศาสตร์วรยุทธยังไม่พอ ก็ต้องใช้ศาสตร์ปรุงยาเข้ามาช่วย”

 

“พี่ชายหญิง ท่านจะสอนศาสตร์ปรุงยากับข้างั้นรึ?” ดวงตาของโม่ซวงส่องประกาย หลิงฮันเป็นถึงศิษย์น้องของปรมาจารย์จูเฟิง เพราะงั้นอีกฝ่ายจะต้องเป็นนักปรุงยายอดฝีมือแน่นอน

 

หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ไม่ใช่ว่าข้าอยากทําลายความรู้สึกของเจ้านะ แต่ตัวเจ้าน่ะอย่างมากก็คงบรรลุได้แค่ผู้ช่วยนักปรุงยาระดับสูงเท่านั้น”

 

โม่ซวงชะงักทันที ที่หลิงฮันกล่าวมานั้นถูกต้องอย่างมาก เหตุผลที่ทําเช่นนั้นก็เพราะเขายังไม่สามารถทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณได้ จึงใช้เวลาไปกับศาสตร์ปรุงยาแทน ถึงแม้จากระดับผู้ช่วยนักปรุงยาแรกเริ่มไปเป็นผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นกลาง เขาจะใช้เวลาไม่เท่าไหร่ แต่จากระดับผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นกลางไปเป็น ผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นสูงนั้น เขาใช้ทุ่มเทความไปมากจริงๆ

 

และหลังจากที่บรรลุเป็นผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นสูงแล้ว เขาก็ไม่มีการพัฒนาใดๆ อีกเลยแม้แต่น้อย

 

“เพียงแต่ ก็ไม่เสมอไปที่ผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นสูง จะไม่สามารถหลอมเม็ดยานิรันดร์ได้” หลิงฮันกล่าวต่อ

 

ใบหน้าของโม่ซวงแสดงออกถึงความตกตะลึง หากจะหลอมเม็ดยานิรันดร์ ข้อจํากัดก็คือต้องเป็นนักปรุงยาหนึ่งดาวไม่ใช่งั้นรึ? สิ่งนี้คือความแตกต่างของนักปรุงยากับผู้ช่วยนักปรุงยา เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นสูงจะสามารถหลอมเม็ดยานิรันดร์ได้ ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนั้นมันขัดกับหลักเกณฑ์สามัญสํานึกสุดๆ เลยหรอก?

 

หลิงฮันยิ้ม “ข้าสามารถทําให้เจ้ากลายเป็นนักปรุงยาได้ในช่วงเวลาสองสามวัน”

 

โม่ซวงสั่นสะท้านทันที

 

“ถ้าเช่นนั้นก็รีบไปกันเลย” เขารู้สึกตื่นเต้นและรีบเร่งเร้าหลิงฮัน

 

ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังค่ายกลอาคมเคลื่อนย้าย

 

ด้วยการที่เมืองที่เป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์นั้นกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก หากไม่ใช่ค่ายกลอาคมเคลื่อนย้าย กว่าพวกเขาจะไปถึงจุดหมายคงใช้เวลาหลายสิบวัน

 

ที่พักของผู้สืบทอดหลิวเจี้ยนั้นยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก มันเป็นตําหนักสีทองอร่ามที่โอ่อ่าและตกแต่งได้อย่างงดามเกินพรรณนา เพียงแค่ยืนมองจากระยะที่ห่างไกลก็ทําให้รู้สึกขนลุกแล้ว

 

โม่ซวงที่ดูไม่เคยหวาดกลัวนั้น หลังจากที่มาถึงที่นี่ก็ลดแรงของฝีเท้าลง ราวกับกําลังเดินด้วยความระมัดระวัง

 

ผู้คนของที่นี่นั้น ไม่ว่าใครก็ต่างรู้สึกยําเกรงของหลิวเจี๋ยน เหมือนกับที่รุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน ยําเกรงต่ออู่เซียนลู่

 

ณ เวลานี้แขกจํานวนหนึ่งได้มาถึง และรอคอยอยู่ที่ด้านกันแล้ว บ้างก็เป็นกลุ่มคนสองคน บ้างก็เป็นกลุ่มคนสามถึงห้าคนที่กําลังจับกลุ่มคุยกัน

 

“โม่เจ็ด” ทันใดนั้นเอง รุ่นเยาว์ผู้นี้ก็รีบเดินเข้ามาใกล้พวกเขา “ไม่ได้พบกันเสียนานนะ”

 

โม่ซวงเผยสีหน้าหงุดหงิดทันที มือของเขารวบกําหมัดแน่นและกัดฟันโกรธ “หยางต้า!”

 

รุ่นเยาว์ผู้นี้เป็นคนของตระกูลหยาง เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นผู้นํารุ่นเยาว์ของตระกูลหยาง โม่ซวง จึงเรียกอีกฝ่ายว่าหยางต้า *ต้า =ใหญ่ ซึ่งชื่อจริงๆ ของอีกฝ่ายก็คือหยางเจีย ตระกูลหยางกับตระกูลโม่นั้นเป็นคู่อริกัน เพราะงั้นรุ่นเยาว์ของทั้งสองตระกูลจึงไม่ชอบหน้ากันไปโดยปริยาย

 

เหตุผลที่โม่ซวงเข้าสู่ศาสตร์ปรุงยาและกลายเป็นผู้ช่วยนักปรุงยาแรกเริ่ม ก็เพราะหยางเจียผู้นี้ เริ่มฝึกฝนศาสตร์ปรุงยาก่อนโม่ชวงจึงต้องการแข่งขันกับอีกฝ่าย

 

“จริงสิ ข้าขอแนะนําคนผู้หนึ่งให้เจ้ารู้จัก” หยางเจียกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “นี่คือสหายที่เป็นพี่ชายของข้า ชื่อของเขาคือเยี่ยนเว่ย” เขาชี้นิ้วไปยังรุ่นเยาว์อีกคนที่โผล่มาจากด้านหลัง อีกฝ่ายเป็นรุ่นเยาว์ที่ดูอายุน้อยมาก แต่กลับแสดงท่าทางยิ่งทะนงออกมาอย่างออกหน้าออกตา

 

“อย่ามองว่าพี่ชายของข้าเยาว์วัย ข้าจะบอกให้ว่าเขานั้นบรรลุเป็นนักปรุงยาสองดาวแล้ว แถมยังใช้ทักษะห้วงจิตปรับแต่งได้ถึงสองขั้น!” หยางเจียกล่าวเสริมด้วยท่าที่ยั่วยุ

 

เจ้าล่ะว่าอย่างไง ข้ามีสหายที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แล้วเจ้าล่ะมีรึเปล่า?

 

โม่ซวงไม่คิดจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขารีบกล่าวตอบโต้ “นี่คือพี่ชายหลิงของข้า เขาเป็นนักปรุงยาเช่นกัน…” เขาแน่นิ่งไปชั่วขณะก่อนจะกระซิบกับหลิงฮัน “พี่ชายหลิง ท่านเป็นนักปรุงยากดาวนะ?”

 

พรวด!

 

หยางเจียหัวเราะจนสําลักทันที นี่เจ้ากําลังเล่นตลกรีไงกัน แม้แต่สหายของตนเป็นนักปรุงยากี่ดาวก็ยังไม่รู้ แต่กลับกล้าจะโอ้อวดเนี่ยนะ

 

ช่างบ้ายิ่งนัก!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1939 พี่ชายหญิง ท่านเป็นนักปรุงยาระดับใด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1939 พี่ชายหญิง ท่านเป็นนักปรุงยาระดับใด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1939 พี่ชายหญิง ท่านเป็นนักปรุงยาระดับใด

 

จิตใจของหลิงฮันสั่นสะท้าน

 

แต่เดิมแล้ว ระดับวรยุทธของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งนั้นทัดเทียมกับอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน แต่ในหนึ่งร้อยล้านปีที่ผ่านมา ได้มีการเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง ส่งผลให้ระดับวรยุทธยกระดับขึ้นหลายเท่า

 

เอี๋ยนเซียนลู่นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับอัจฉริยะอันดับที่เก้า

ของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง เพราะงั้นหลิงฮันจึงรู้สึกสนใจเป็นอย่างมากว่าอัจฉริยะของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง จะมีพลังต่อสู้ที่ทรงพลังขนาดไหน

 

“สามี เจ้าไปเถอะ พวกข้าจะรออยู่ที่นี่” สตรีนกอมตะกล่าว

 

ใช่ว่านางไม่อยากเข้าร่วมโอกาสแบบนี้ แต่นางรู้ดีว่าจักรพรรดินี ฮูหนิว และธิดาโร๋วจะต้องนําพาปัญหามาให้หลิงฮันเมื่อพวกนางไปถึงอย่างแน่นอน

 

พวกนางมาที่นี่เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับปรมาจารย์จูเฟิงแล้วก็จะกลับแล้ว จึงไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกินขึ้น

 

จักรพรรดินีไม่แย้งอะไร นางสนใจเพียงแค่หลิงฮันคนเดียวเท่านั้น และไม่คิดจะเก็บเรื่องอื่นมาใส่ใจ เพียงแต่ทางด้านซูหนิวกับธิดาโร๋วนั้นอยากไปด้วย คนหนึ่งต้องการอยู่ติดกับหลิงฮัน ส่วนอีกคนต้องการไปเปิดหูเปิดตา

 

“ต้องขออภัยด้วย ข้าสามารถพาคนไปกับข้าได้แค่คนเดียวเท่านั้น พวกเจ้าคงจะไปด้วยกันไม่ได้” โม่ซวงกล่าวด้วยสีหน้าไร้หนทาง

 

“หนิวจะไปด้วย!” ฮูหนิวท้าวมือทั้งสองไว้ที่เอวด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์

 

โม่ซวงจับแขนหลิงฮัน “พี่สะใภ้ ข้าจะดูแลพี่ชายหลิงให้ดี และจะไม่ให้มีเรื่องสตรีเข้ามาเกี่ยวข้องเด็ดขาด ท่านวางใจได้” เมื่อกล่าวประโยคทิ้งท้ายเสร็จ เขาก็พาหลิงฮันออกจากที่พักทันที

 

“เหตุใดถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วย?” หลิงฮันยิ้ม

 

“พี่ชายหลิง ข้ามีข่าวใหญ่มาบอก!” โม่ซวงกระซิบข้างหูหลิงฮัน “ท่านรู้รึเปล่าว่าทําไม ผู้สืบทอดหลิวถึงได้จัดงานชุมนุมขึ้นในวันนี้? เหอๆ นั้นเพราะธิดาหลิวหานจะปรากฏตัวในวันนี้ไงล่ะ”

 

“โอ้?” หลิงฮันชะงักเล็กน้อย ใครคือหลิวหานกัน

 

“อะไรกัน พี่ชายหญิงไม่รู้จักแม้กระทั่งธิดาหลิวหานงั้นรึ?” โม่ซวงตกตะลึง

 

“ทําไมต้องถึงต้องรู้จักนางด้วย?” หลิงฮันเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ข้าล่ะเชื่อเลยจริงๆ!” โม่ซวงยกมือขึ้นเพื่อออกท่าออกทาง “ธิดาหลิวหานคือน้องสาวแท้ๆ ของหลิวเจี๋ย นางเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์ ที่เข้าร่วมกับนิกายเหมันต์เร้นลับ”

 

“ธิดาหลิวหานนั้นไม่ได้แค่เป็นสุดยอดอัจฉริยะในศาสตร์วรยุทธ แต่ยังมีความงดงามราวกับเทพธิดา ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นสตรีงดงามอันดับสองของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง”

 

“อันดับสองงั้นรึ?” หลิงฮันยิ้ม เหตุใดถึงมีผู้คนมากมาย ทําเรื่องน่าเบื่ออย่างการจัดอันดับสาวงามกัน

 

“สตรีที่งดงามอันดับหนึ่งคือแม่นางซูหย่าหรง แห่งสํานักอัคคีทมิฬมืด โอ้ แต่ว่าเสน่ห์ของนางนั้นก็ไม่สามารถเทียบกับพี่สะใภ้ฮูหนิวได้อยู่ดี ความงดงามของนางน่าจะพอๆ กับพี่สะใภ้โร๋วเท่านั้น” โม่ซวงกระซิบกระซาบ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล

 

กับสตรีที่งดงามขนาดนั้น ไม่ว่าบุรุษคนใดก็ต้องชื่นชอบ

 

“พี่ชายหลิง ท่านมีศักยภาพเป็นถึงจักรพรรดิ แถมยังเป็นถึงศิษย์ของน้องปรมาจารย์จูเฟิงอีก ข้าว่าท่านน่าจะลองเข้าหาธิดาหลิวหานดูนะ”

 

หลิงฮันกลายเป็นไร้คําพูด และส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย “ข้าขอผ่านดีกว่า แต่เจ้าเองนั่นล่ะ ทําไมไม่ลองเข้าหานางดูล่ะ”

 

“ท่านมองข้าแล้วคิดว่าข้ามีคุณสมบัติเหมาะสมงั้น!” โม่ซวงถอนหายใจ หลิวหานคืออัจฉริยะในระดับจักรพรรดิ เพราะงั้นคนที่จะครอบครองหัวใจนางก็คือสมควรเป็นอัจฉริยะระดับหลิงฮัน

 

“ตราบใดที่ทุ่มเทมากพอ ต่อให้เป็นแท่งเหล็กก็สามารถถูกเหลาให้กลายเป็นเข็มได้ อีกอย่าง ใครเป็นคนบอกกันว่าสตรีจะไม่ชอบบุรุษที่อ่อนแอว่าตนเอง?” หลิงฮันให้กําลังใจโม่ซวง “ข้าจะช่วยเจ้าเอง อืม…. ถ้าหากจุดเด่นในศาสตร์วรยุทธยังไม่พอ ก็ต้องใช้ศาสตร์ปรุงยาเข้ามาช่วย”

 

“พี่ชายหญิง ท่านจะสอนศาสตร์ปรุงยากับข้างั้นรึ?” ดวงตาของโม่ซวงส่องประกาย หลิงฮันเป็นถึงศิษย์น้องของปรมาจารย์จูเฟิง เพราะงั้นอีกฝ่ายจะต้องเป็นนักปรุงยายอดฝีมือแน่นอน

 

หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ไม่ใช่ว่าข้าอยากทําลายความรู้สึกของเจ้านะ แต่ตัวเจ้าน่ะอย่างมากก็คงบรรลุได้แค่ผู้ช่วยนักปรุงยาระดับสูงเท่านั้น”

 

โม่ซวงชะงักทันที ที่หลิงฮันกล่าวมานั้นถูกต้องอย่างมาก เหตุผลที่ทําเช่นนั้นก็เพราะเขายังไม่สามารถทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณได้ จึงใช้เวลาไปกับศาสตร์ปรุงยาแทน ถึงแม้จากระดับผู้ช่วยนักปรุงยาแรกเริ่มไปเป็นผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นกลาง เขาจะใช้เวลาไม่เท่าไหร่ แต่จากระดับผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นกลางไปเป็น ผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นสูงนั้น เขาใช้ทุ่มเทความไปมากจริงๆ

 

และหลังจากที่บรรลุเป็นผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นสูงแล้ว เขาก็ไม่มีการพัฒนาใดๆ อีกเลยแม้แต่น้อย

 

“เพียงแต่ ก็ไม่เสมอไปที่ผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นสูง จะไม่สามารถหลอมเม็ดยานิรันดร์ได้” หลิงฮันกล่าวต่อ

 

ใบหน้าของโม่ซวงแสดงออกถึงความตกตะลึง หากจะหลอมเม็ดยานิรันดร์ ข้อจํากัดก็คือต้องเป็นนักปรุงยาหนึ่งดาวไม่ใช่งั้นรึ? สิ่งนี้คือความแตกต่างของนักปรุงยากับผู้ช่วยนักปรุงยา เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ช่วยนักปรุงยาขั้นสูงจะสามารถหลอมเม็ดยานิรันดร์ได้ ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนั้นมันขัดกับหลักเกณฑ์สามัญสํานึกสุดๆ เลยหรอก?

 

หลิงฮันยิ้ม “ข้าสามารถทําให้เจ้ากลายเป็นนักปรุงยาได้ในช่วงเวลาสองสามวัน”

 

โม่ซวงสั่นสะท้านทันที

 

“ถ้าเช่นนั้นก็รีบไปกันเลย” เขารู้สึกตื่นเต้นและรีบเร่งเร้าหลิงฮัน

 

ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังค่ายกลอาคมเคลื่อนย้าย

 

ด้วยการที่เมืองที่เป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์นั้นกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก หากไม่ใช่ค่ายกลอาคมเคลื่อนย้าย กว่าพวกเขาจะไปถึงจุดหมายคงใช้เวลาหลายสิบวัน

 

ที่พักของผู้สืบทอดหลิวเจี้ยนั้นยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก มันเป็นตําหนักสีทองอร่ามที่โอ่อ่าและตกแต่งได้อย่างงดามเกินพรรณนา เพียงแค่ยืนมองจากระยะที่ห่างไกลก็ทําให้รู้สึกขนลุกแล้ว

 

โม่ซวงที่ดูไม่เคยหวาดกลัวนั้น หลังจากที่มาถึงที่นี่ก็ลดแรงของฝีเท้าลง ราวกับกําลังเดินด้วยความระมัดระวัง

 

ผู้คนของที่นี่นั้น ไม่ว่าใครก็ต่างรู้สึกยําเกรงของหลิวเจี๋ยน เหมือนกับที่รุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน ยําเกรงต่ออู่เซียนลู่

 

ณ เวลานี้แขกจํานวนหนึ่งได้มาถึง และรอคอยอยู่ที่ด้านกันแล้ว บ้างก็เป็นกลุ่มคนสองคน บ้างก็เป็นกลุ่มคนสามถึงห้าคนที่กําลังจับกลุ่มคุยกัน

 

“โม่เจ็ด” ทันใดนั้นเอง รุ่นเยาว์ผู้นี้ก็รีบเดินเข้ามาใกล้พวกเขา “ไม่ได้พบกันเสียนานนะ”

 

โม่ซวงเผยสีหน้าหงุดหงิดทันที มือของเขารวบกําหมัดแน่นและกัดฟันโกรธ “หยางต้า!”

 

รุ่นเยาว์ผู้นี้เป็นคนของตระกูลหยาง เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นผู้นํารุ่นเยาว์ของตระกูลหยาง โม่ซวง จึงเรียกอีกฝ่ายว่าหยางต้า *ต้า =ใหญ่ ซึ่งชื่อจริงๆ ของอีกฝ่ายก็คือหยางเจีย ตระกูลหยางกับตระกูลโม่นั้นเป็นคู่อริกัน เพราะงั้นรุ่นเยาว์ของทั้งสองตระกูลจึงไม่ชอบหน้ากันไปโดยปริยาย

 

เหตุผลที่โม่ซวงเข้าสู่ศาสตร์ปรุงยาและกลายเป็นผู้ช่วยนักปรุงยาแรกเริ่ม ก็เพราะหยางเจียผู้นี้ เริ่มฝึกฝนศาสตร์ปรุงยาก่อนโม่ชวงจึงต้องการแข่งขันกับอีกฝ่าย

 

“จริงสิ ข้าขอแนะนําคนผู้หนึ่งให้เจ้ารู้จัก” หยางเจียกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “นี่คือสหายที่เป็นพี่ชายของข้า ชื่อของเขาคือเยี่ยนเว่ย” เขาชี้นิ้วไปยังรุ่นเยาว์อีกคนที่โผล่มาจากด้านหลัง อีกฝ่ายเป็นรุ่นเยาว์ที่ดูอายุน้อยมาก แต่กลับแสดงท่าทางยิ่งทะนงออกมาอย่างออกหน้าออกตา

 

“อย่ามองว่าพี่ชายของข้าเยาว์วัย ข้าจะบอกให้ว่าเขานั้นบรรลุเป็นนักปรุงยาสองดาวแล้ว แถมยังใช้ทักษะห้วงจิตปรับแต่งได้ถึงสองขั้น!” หยางเจียกล่าวเสริมด้วยท่าที่ยั่วยุ

 

เจ้าล่ะว่าอย่างไง ข้ามีสหายที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แล้วเจ้าล่ะมีรึเปล่า?

 

โม่ซวงไม่คิดจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขารีบกล่าวตอบโต้ “นี่คือพี่ชายหลิงของข้า เขาเป็นนักปรุงยาเช่นกัน…” เขาแน่นิ่งไปชั่วขณะก่อนจะกระซิบกับหลิงฮัน “พี่ชายหลิง ท่านเป็นนักปรุงยากดาวนะ?”

 

พรวด!

 

หยางเจียหัวเราะจนสําลักทันที นี่เจ้ากําลังเล่นตลกรีไงกัน แม้แต่สหายของตนเป็นนักปรุงยากี่ดาวก็ยังไม่รู้ แต่กลับกล้าจะโอ้อวดเนี่ยนะ

 

ช่างบ้ายิ่งนัก!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+