Alchemy Emperor of the Divine Dao 1943 เผชิญหน้า

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1943 เผชิญหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1943 เผชิญหน้า

 

จูจื่อจวินยิ้มและพยักหน้า “ศิษย์พี่หรั่น ศิษย์พี่สือ”

 

“นายน้อยจู มีใครบางคนบังอาจกล้าปลอมตัวเป็นศิษย์น้องของอาจารย์ปู่จู!” สือหย่งคํารามและดวงตาส่องประกายโหดเหี้ยม

 

จูจื่อจวินชะงัก ก่อนจะมีท่าทีโมโหเช่นกัน

 

ถึงว่าทําไมถึงได้มีคนมาถามว่าปรมาจารย์จูเฟิงมีศิษย์น้องรึเปล่า ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง

 

“คนผู้นั้นคือใครกัน?” จูจื่อจวินกวาดสายตามองทุกคน ตอนนี้เขารู้สึกเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก

 

“พรึบ” สายตาทุกคู่จดจ้องไปหาโม่ซวงในทันที

 

“โม่เจ็ด ข้าต้องการคําอธิบาย” จูจื่อจวินกล่าว ถึงแม้น้ำเสียงของเขาจะไม่ดังลั่น แต่ทุกคนก็สามารถสัมผัสถึงความเกรี้ยวกราดที่อยู่ในน้ำเสียงได้

 

โม่ซวงรู้สึกกดดันราวกับถูกขุนเขาขนาดใหญ่หล่นใส่

 

ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่!

 

เผิงฮวาเหนียนเป็นคนยอมรับด้วยตัวเองแท้ๆ ว่าหลิงฮันคืออาจารย์ลุงของตน แต่ใครต่อใครกับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าอาจารย์ลุงผู้นี้โผล่มาจากไหน

 

ใต้ดวงตะวันนี้มีเรื่องประหลาดเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร?

 

โม่ทําได้เพียงนิ่งเฉย เขาจะไปให้คําตอบได้อย่างไรกัน? ให้ตายเถอะ เจ้านั่นแหละเหตุใดถึงไม่รู้เรื่องราวของฝั่งตนเองกัน

 

“ใช่แล้ว จงอธิบายมา!” หรั่นเฟยและสือหยังกล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่ เนื่องจากเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาโดยตรง

 

ถ้าหากพวกเขาไม่คัดค้าน ก็หมายความว่าพวกเขาต้องเรียกอีกฝ่ายว่าอาจารย์ปู่น้อยไม่ใช่รึไง?

 

“เป็นคนผู้นั้นงั้นรึ?” จูจื่อจวินเข้าใจสถานการณ์ และใช้สายตาเย็นชามองไปยังห้องบ่มเพาะกาลเวลาของหลิ่งชัน

 

ไม่ว่าเขาจะเกรี้ยวกราดขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถลงมือกับโม่ซวงได้ เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นคนของขุมอํานาจระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ เพียงแต่หลิงฮันนั้นแตกต่างออกไป รอให้อีกฝ่ายออกมาก่อน เขาจะตบหน้าอีกฝ่ายให้ร่วง!

 

เขายืนนิ่งด้วยใบหน้ามืดมน ใครก็ตามที่มองมา ย่อมรับรู้ได้ไม่ว่าว่าเขาในตอนนี้กําลังเกรี้ยวกราดขนาดไหน

 

ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ และสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาในทันที มีใครบางคนแสร้งปลอมตัวเป็นศิษย์น้องของปรมาจารย์จูเฟิงงั้นรึ? ช่างเป็นคนที่บ้าบอยิ่งนัก

 

ถ้างั้นก็มารอดูการแสดงกันดีกว่า

 

หยางเจียเผยสีหน้าหยิ่งทะนงและอึกเหิม เขารอซ้ำเติมโม่ซวงแทบไม่ไหวแล้ว หลังจากนี้อีกฝ่ายจะได้ไม่กล้าโงหัวขึ้นอีกต่อไปเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

 

หลังจากเวลาผ่านไปอีกไม่กี่ชั่วโมง เยี่ยนเว่ยก็เป็นคนแรกที่ผลักประตูเดินออกมา ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

 

เขาหลอมเม็ดยานิรันดร์สองดาวสําเร็จ แถมยังเสริมการปรับแต่งได้หนึ่งขั้นอีกด้วย ถึงแม้เขาจะมั่นใจในอัตราการหลอมเม็ดยาสําเร็จของตนเอง แต่เขาก็เป็นกังวลเล็กร้อนในส่วนของการปรับแต่ง

 

เพราะงั้นเขาจึงรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่ครั้งนี้ เขาทําการปรับแต่งหนึ่งขั้นได้สําเร็จอย่างไม่มีปัญหา

 

แล้วหลิงฮันล่ะเป็นอย่างไรบ้าง?

 

เขามองไปยังห้องบ่มเพาะกาลเวลาอีกห้องหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหลิงฮันยังคงหลอมเม็ดยาไม่เสร็จ ใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความเหยียดหยามในทันที

 

ช่างช้านัก!

 

เวลาผ่านไปอีกพักหนึ่ง หลิงฮันถึงจะผลักประตูออกมาจากห้องบ่มเพาะกาลเวลา

 

เยี่ยนเว่ยเค้นเสียงกล่าว “ทางที่ดีเจ้ายอมแพ้ไปด้วยตนเองจะดีกว่า อย่างน้อยเจ้าจะได้เสียหน้าน้อยลง”

 

“พอดีว่าข้าไม่มีนิสัยเช่นนั้น” หลิงฮันส่ายหัว ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์วรยุทธหรือปรุงยา เขาก็ไม่คิดจะยอมใคร

 

“ดูเหมือนถ้าไม่เห็นโลงศพ คงไม่หลั่งน้ำตาสินะ” เยี่ยนเว่ยกล่าวอย่างหยิ่งยโส พร้อมกับยกมือขวาขึ้น “เม็ดยาที่ข้าหลอมคือเม็ดยาแก่นฟ้าคราม ที่เป็นเม็ดยาระดับสอง และเสริมการปรับแต่งเข้าไปหนึ่งขั้น!”

 

เสริมการปรับแต่ง!

 

แม้แต่นักปรุงยาในอาณัติของปรมาจารย์จู เมื่อได้ยินคํานั้นก็ยังจิตใจสั่นสะท้าน การที่สามารถใช้ห้วงจิตปรับแต่งได้นั้น หมายความว่าอนาคตในศาสตร์ปรุงยาของคนผู้นั้นย่อมสว่างไสว

 

แถมเยี่ยนเว่ยก็ยังเยาว์วัยอีกด้วย การที่เขาใช้ทักษะห้วงจิตปรับแต่งได้ แสดงให้เห็นว่าเขามีพรสวรรค์อย่างมาก

 

จูจื่อจวินพยักหน้าและกล่าว “คนผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก ไม่รู้ว่าอาจารย์ของเขาคือใครกัน ถึงได้ฝึกฝนศิษย์มากพรสวรรค์เช่นนี้ออกมาได้”

 

“ในที่แห่งนี้มีนักปรุงยาสองดาวอยู่หรือไม่?” เยี่ยนเว่ยกล่าวเสียงดัง

 

“ข้าเอง” หรั่นเฟยกล่าว

 

“เจ้าช่วยตรวจสอบเม็ดยาแก่นฟ้าครามเม็ดนี้ได้หรือไม่?” เยี่ยนเว่ยกล่าว

 

“แน่นอน”

 

หรั่นเฟยรีบเม็ดยามา หลังจากตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้วเขาก็แสดงความเห็น “คุณภาพของเม็ดยาคือระดับกลาง แต่หลังจากเสริมการปรับแต่งไปแล้ว คุณภาพของมันได้ถูกยกระดับเป็นระดับสูง”

 

ทุกคนรอบด้านพยักหน้า ถึงแม้พวกเขาจะหลอมเม็ดยาไม่ได้ แต่พวกเขาก็เคยกินเม็ดยานิรันดร์มาแล้วมากมาย จึงได้รู้ว่าเม็ดยานิรันดร์สองดาวระดับสูงนั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน ราคาของมันจะสูงกว่าเม็ดยาเดียวกันระดับกลางอย่างน้อยสามเท่า

 

นี่คือความพิเศาของทักษะห้วงจิตปรับแต่ง

 

“ทีนี้เจ้ายังจะกล่าวอะไรอีกรึเปล่า?” เยี่ยนเว่ยมองไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

 

เขาคือลูกศิษย์ของนักปรุงยาสามดาว ที่ครั้งนี้ได้เป็นตัวแทนมาแสดงความยินดีต่อปรมาจารย์จูเฟิง เขามีความคิดอยู่ว่า หากตนเองโชคดีถูกปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวรับเป็นศิษย์ล่ะก็ บางทีความสําเร็จในศาสตร์ปรุงยาของเขาอาจจะสูงยิ่งขึ้นก็เป็นได้

 

หลิงฮันยิ้มมุมปากและโยนเม็ดยาไปให้หรั่นเฟย “ช่วยตรวจสอบให้ข้าด้วย”

 

โอ้ ดูมั่นใจเหลือเกินนะ

 

หรั่นเฟยรับเม็ดยามา ก่อนจะมองไปยังหลิงฮันและกล่าว “เจ้าคือคนแสร้งเป็นอาจารย์ลุงของอาจารย์ของข้า?”

 

หลิงฮันหัวเราะ “ข้าไม่มีความจําเป็นใดๆ ที่จะต้องแสร้งปลอมตัว พูดก็พูดแล้ว หากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์กับศิษย์พี่สามล่ะก็ ข้าไม่ได้อยากมีศิษย์หลานเช่นนั้นแม้แต่น้อย”

 

“โอหัง!” จูจื่อจวิน หรั่นเฟยและสื่อหย่งคํารามพร้อมกัน ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราดถึงขีดสุด

 

หลิงฮันสะบัดมือ “ข้าจะแสร้งปลอมตัวหรือไม่ค่อยว่ากัน รีบๆ ตรวจสอบเม็ดยาได้แล้ว” หลังจากนี้ยังมีผลกอบโกยมากมายรอเขาอยู่

 

ทั้งสามคนเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม เจ้าแสร้งปลอมเป็นศิษย์น้องของปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวแล้ว ยังทําเหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องสลักสําคัญอีกงั้นรึ?

 

“ตกลง ตรวจสอบ!” จูจื่อจวินกล่าว

 

หรั่นเฟยพยักหน้าและเริ่มการตรวจสอบ เขาเปิดฝาขวดเม็ดยาออก ซึ่งทันที่ที่ดมกลิ่น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

 

เม็ดยาเม็ดยาน ยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ!

 

หรั่นเฟยเทเม็ดยาออกมา และเพ่งตามองจนตาแทบถลน

 

บนตัวเม็ดยา มีลวดลายสีทองอยู่ถึงสามเส้น

 

เป็นไปได้อย่างไรกัน!

 

เขาแหงนหน้ามองไปยังสือหย่ง และจูจื่อจวิน ที่ตอนนี้ใบหน้าเปลี่ยนสีอยู่เช่นกัน

 

ห้วงจิตปรับแต่งสามขั้น!

 

เพียงแค่สิ่งนี้ ต่อให้เม็ดยาที่หลิงฮันหลอมขึ้นมาคือเม็ดยานิรันดร์หนึ่งดาว ก็เพียงพอแล้วที่หลิงฮันจะเป็นฝ่ายชนะ

 

ไม่… จะให้หลิงฮันชนะไม่ได้

 

จูจื่อจวินหันมองหรั่นเฟยและส่ายหัว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1943 เผชิญหน้า

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1943 เผชิญหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1943 เผชิญหน้า

 

จูจื่อจวินยิ้มและพยักหน้า “ศิษย์พี่หรั่น ศิษย์พี่สือ”

 

“นายน้อยจู มีใครบางคนบังอาจกล้าปลอมตัวเป็นศิษย์น้องของอาจารย์ปู่จู!” สือหย่งคํารามและดวงตาส่องประกายโหดเหี้ยม

 

จูจื่อจวินชะงัก ก่อนจะมีท่าทีโมโหเช่นกัน

 

ถึงว่าทําไมถึงได้มีคนมาถามว่าปรมาจารย์จูเฟิงมีศิษย์น้องรึเปล่า ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง

 

“คนผู้นั้นคือใครกัน?” จูจื่อจวินกวาดสายตามองทุกคน ตอนนี้เขารู้สึกเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก

 

“พรึบ” สายตาทุกคู่จดจ้องไปหาโม่ซวงในทันที

 

“โม่เจ็ด ข้าต้องการคําอธิบาย” จูจื่อจวินกล่าว ถึงแม้น้ำเสียงของเขาจะไม่ดังลั่น แต่ทุกคนก็สามารถสัมผัสถึงความเกรี้ยวกราดที่อยู่ในน้ำเสียงได้

 

โม่ซวงรู้สึกกดดันราวกับถูกขุนเขาขนาดใหญ่หล่นใส่

 

ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่!

 

เผิงฮวาเหนียนเป็นคนยอมรับด้วยตัวเองแท้ๆ ว่าหลิงฮันคืออาจารย์ลุงของตน แต่ใครต่อใครกับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าอาจารย์ลุงผู้นี้โผล่มาจากไหน

 

ใต้ดวงตะวันนี้มีเรื่องประหลาดเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร?

 

โม่ทําได้เพียงนิ่งเฉย เขาจะไปให้คําตอบได้อย่างไรกัน? ให้ตายเถอะ เจ้านั่นแหละเหตุใดถึงไม่รู้เรื่องราวของฝั่งตนเองกัน

 

“ใช่แล้ว จงอธิบายมา!” หรั่นเฟยและสือหยังกล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่ เนื่องจากเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาโดยตรง

 

ถ้าหากพวกเขาไม่คัดค้าน ก็หมายความว่าพวกเขาต้องเรียกอีกฝ่ายว่าอาจารย์ปู่น้อยไม่ใช่รึไง?

 

“เป็นคนผู้นั้นงั้นรึ?” จูจื่อจวินเข้าใจสถานการณ์ และใช้สายตาเย็นชามองไปยังห้องบ่มเพาะกาลเวลาของหลิ่งชัน

 

ไม่ว่าเขาจะเกรี้ยวกราดขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถลงมือกับโม่ซวงได้ เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นคนของขุมอํานาจระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ เพียงแต่หลิงฮันนั้นแตกต่างออกไป รอให้อีกฝ่ายออกมาก่อน เขาจะตบหน้าอีกฝ่ายให้ร่วง!

 

เขายืนนิ่งด้วยใบหน้ามืดมน ใครก็ตามที่มองมา ย่อมรับรู้ได้ไม่ว่าว่าเขาในตอนนี้กําลังเกรี้ยวกราดขนาดไหน

 

ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ และสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาในทันที มีใครบางคนแสร้งปลอมตัวเป็นศิษย์น้องของปรมาจารย์จูเฟิงงั้นรึ? ช่างเป็นคนที่บ้าบอยิ่งนัก

 

ถ้างั้นก็มารอดูการแสดงกันดีกว่า

 

หยางเจียเผยสีหน้าหยิ่งทะนงและอึกเหิม เขารอซ้ำเติมโม่ซวงแทบไม่ไหวแล้ว หลังจากนี้อีกฝ่ายจะได้ไม่กล้าโงหัวขึ้นอีกต่อไปเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

 

หลังจากเวลาผ่านไปอีกไม่กี่ชั่วโมง เยี่ยนเว่ยก็เป็นคนแรกที่ผลักประตูเดินออกมา ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

 

เขาหลอมเม็ดยานิรันดร์สองดาวสําเร็จ แถมยังเสริมการปรับแต่งได้หนึ่งขั้นอีกด้วย ถึงแม้เขาจะมั่นใจในอัตราการหลอมเม็ดยาสําเร็จของตนเอง แต่เขาก็เป็นกังวลเล็กร้อนในส่วนของการปรับแต่ง

 

เพราะงั้นเขาจึงรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่ครั้งนี้ เขาทําการปรับแต่งหนึ่งขั้นได้สําเร็จอย่างไม่มีปัญหา

 

แล้วหลิงฮันล่ะเป็นอย่างไรบ้าง?

 

เขามองไปยังห้องบ่มเพาะกาลเวลาอีกห้องหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหลิงฮันยังคงหลอมเม็ดยาไม่เสร็จ ใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความเหยียดหยามในทันที

 

ช่างช้านัก!

 

เวลาผ่านไปอีกพักหนึ่ง หลิงฮันถึงจะผลักประตูออกมาจากห้องบ่มเพาะกาลเวลา

 

เยี่ยนเว่ยเค้นเสียงกล่าว “ทางที่ดีเจ้ายอมแพ้ไปด้วยตนเองจะดีกว่า อย่างน้อยเจ้าจะได้เสียหน้าน้อยลง”

 

“พอดีว่าข้าไม่มีนิสัยเช่นนั้น” หลิงฮันส่ายหัว ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์วรยุทธหรือปรุงยา เขาก็ไม่คิดจะยอมใคร

 

“ดูเหมือนถ้าไม่เห็นโลงศพ คงไม่หลั่งน้ำตาสินะ” เยี่ยนเว่ยกล่าวอย่างหยิ่งยโส พร้อมกับยกมือขวาขึ้น “เม็ดยาที่ข้าหลอมคือเม็ดยาแก่นฟ้าคราม ที่เป็นเม็ดยาระดับสอง และเสริมการปรับแต่งเข้าไปหนึ่งขั้น!”

 

เสริมการปรับแต่ง!

 

แม้แต่นักปรุงยาในอาณัติของปรมาจารย์จู เมื่อได้ยินคํานั้นก็ยังจิตใจสั่นสะท้าน การที่สามารถใช้ห้วงจิตปรับแต่งได้นั้น หมายความว่าอนาคตในศาสตร์ปรุงยาของคนผู้นั้นย่อมสว่างไสว

 

แถมเยี่ยนเว่ยก็ยังเยาว์วัยอีกด้วย การที่เขาใช้ทักษะห้วงจิตปรับแต่งได้ แสดงให้เห็นว่าเขามีพรสวรรค์อย่างมาก

 

จูจื่อจวินพยักหน้าและกล่าว “คนผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก ไม่รู้ว่าอาจารย์ของเขาคือใครกัน ถึงได้ฝึกฝนศิษย์มากพรสวรรค์เช่นนี้ออกมาได้”

 

“ในที่แห่งนี้มีนักปรุงยาสองดาวอยู่หรือไม่?” เยี่ยนเว่ยกล่าวเสียงดัง

 

“ข้าเอง” หรั่นเฟยกล่าว

 

“เจ้าช่วยตรวจสอบเม็ดยาแก่นฟ้าครามเม็ดนี้ได้หรือไม่?” เยี่ยนเว่ยกล่าว

 

“แน่นอน”

 

หรั่นเฟยรีบเม็ดยามา หลังจากตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้วเขาก็แสดงความเห็น “คุณภาพของเม็ดยาคือระดับกลาง แต่หลังจากเสริมการปรับแต่งไปแล้ว คุณภาพของมันได้ถูกยกระดับเป็นระดับสูง”

 

ทุกคนรอบด้านพยักหน้า ถึงแม้พวกเขาจะหลอมเม็ดยาไม่ได้ แต่พวกเขาก็เคยกินเม็ดยานิรันดร์มาแล้วมากมาย จึงได้รู้ว่าเม็ดยานิรันดร์สองดาวระดับสูงนั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน ราคาของมันจะสูงกว่าเม็ดยาเดียวกันระดับกลางอย่างน้อยสามเท่า

 

นี่คือความพิเศาของทักษะห้วงจิตปรับแต่ง

 

“ทีนี้เจ้ายังจะกล่าวอะไรอีกรึเปล่า?” เยี่ยนเว่ยมองไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

 

เขาคือลูกศิษย์ของนักปรุงยาสามดาว ที่ครั้งนี้ได้เป็นตัวแทนมาแสดงความยินดีต่อปรมาจารย์จูเฟิง เขามีความคิดอยู่ว่า หากตนเองโชคดีถูกปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวรับเป็นศิษย์ล่ะก็ บางทีความสําเร็จในศาสตร์ปรุงยาของเขาอาจจะสูงยิ่งขึ้นก็เป็นได้

 

หลิงฮันยิ้มมุมปากและโยนเม็ดยาไปให้หรั่นเฟย “ช่วยตรวจสอบให้ข้าด้วย”

 

โอ้ ดูมั่นใจเหลือเกินนะ

 

หรั่นเฟยรับเม็ดยามา ก่อนจะมองไปยังหลิงฮันและกล่าว “เจ้าคือคนแสร้งเป็นอาจารย์ลุงของอาจารย์ของข้า?”

 

หลิงฮันหัวเราะ “ข้าไม่มีความจําเป็นใดๆ ที่จะต้องแสร้งปลอมตัว พูดก็พูดแล้ว หากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์กับศิษย์พี่สามล่ะก็ ข้าไม่ได้อยากมีศิษย์หลานเช่นนั้นแม้แต่น้อย”

 

“โอหัง!” จูจื่อจวิน หรั่นเฟยและสื่อหย่งคํารามพร้อมกัน ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราดถึงขีดสุด

 

หลิงฮันสะบัดมือ “ข้าจะแสร้งปลอมตัวหรือไม่ค่อยว่ากัน รีบๆ ตรวจสอบเม็ดยาได้แล้ว” หลังจากนี้ยังมีผลกอบโกยมากมายรอเขาอยู่

 

ทั้งสามคนเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม เจ้าแสร้งปลอมเป็นศิษย์น้องของปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวแล้ว ยังทําเหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องสลักสําคัญอีกงั้นรึ?

 

“ตกลง ตรวจสอบ!” จูจื่อจวินกล่าว

 

หรั่นเฟยพยักหน้าและเริ่มการตรวจสอบ เขาเปิดฝาขวดเม็ดยาออก ซึ่งทันที่ที่ดมกลิ่น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

 

เม็ดยาเม็ดยาน ยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ!

 

หรั่นเฟยเทเม็ดยาออกมา และเพ่งตามองจนตาแทบถลน

 

บนตัวเม็ดยา มีลวดลายสีทองอยู่ถึงสามเส้น

 

เป็นไปได้อย่างไรกัน!

 

เขาแหงนหน้ามองไปยังสือหย่ง และจูจื่อจวิน ที่ตอนนี้ใบหน้าเปลี่ยนสีอยู่เช่นกัน

 

ห้วงจิตปรับแต่งสามขั้น!

 

เพียงแค่สิ่งนี้ ต่อให้เม็ดยาที่หลิงฮันหลอมขึ้นมาคือเม็ดยานิรันดร์หนึ่งดาว ก็เพียงพอแล้วที่หลิงฮันจะเป็นฝ่ายชนะ

 

ไม่… จะให้หลิงฮันชนะไม่ได้

 

จูจื่อจวินหันมองหรั่นเฟยและส่ายหัว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+