Alchemy Emperor of the Divine Dao 1962 ผลึกโลหิตราชานิรันดร์

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1962 ผลึกโลหิตราชานิรันดร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1962 ผลึกโลหิตราชานิรันดร์

 

นี่ไม่ใช่ความสามารถของหลิงฮัน แต่เป็นพลังของหอคอยทมิฬ

 

ผลลัพธ์ของการควบคุมให้กระแสเวลาไหลช้าจนถึงขีดสุด ก็คือการหยุดเวลา!

 

“ฉัวะ” หัวของอสูรหมูร่างหนามถูกสะบั้นขาดลอยกระเด็นขึ้นกลางอากาศ เพียงแต่ในพริบตาเดียวหัวของมันก็สลายหายไป พร้อมกับร่างขนาดใหญ่ของมันได้ล้มลงและแหลกออกเป็นเสี่ยงๆ เหลือไว้เพียงผลึกสีแดงเข้ม

 

“ตุบ” หลิงฮันใช้ดาบอสูรนิรันดร์พยุงร่างกับพื้น สภาพของเขาในตอนนี้เหนื่อยหอบและดูไร้เรี่ยวแรง

 

สิ่งที่ต้องจ่ายสําหรับการใช้ความสามารถเมื่อครู่นั้นมหาศาลเกินไป ไม่เพียงแค่ปราณก่อเกิดเท่านั้น แต่พลังวิญญาณของเขาก็ถูกเผาผลาญไปเช่นกัน ภายในร่างกายของเขาในตอนนี้ไร้พลังราวกับกระดาษที่ว่างเปล่า

 

เขาสามารถเร่งหรือชะลอห้วงเวลาได้ตามใจชอบก็จริง แต่ยิ่งเร่งขอบเขตของมันให้สูงขึ้นเท่าไหร่ พลังที่ถูกเผาผลาญก็ยิ่งมหาศาลขึ้นเท่านั้น อย่างการชะลอเวลาจนถึงขีดสุดในครั้งนี้ มันทําให้พลังของหลิงฮันถูกเผาผลาญจนหมดสิ้นอย่างสมบูรณ์

 

ยิ่งกว่านั้นความสามารถในการหยุดเวลาก็สามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อเดือนเท่านั้น โดยที่ต่อให้เข้าไปในห้องบ่มเพาะกาลเวลาก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากหอคอยทมิฬจําเป็นต้องดูดซับอํานาจแห่งกฎเกณฑ์และปฐพี่มาจากโลกจริง

 

“หลิงฮัน เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ!” ฮูหนิวรีบวิ่งเข้ามาหา “ขนาดสัตว์ประหลาดในระดับตัดวิญญาณปฐพีก็ยังถูกเจ้าสังหาร เจ้าช่างเป็นบุรุษที่ยอดเยี่ยมจน หนิวต้องการทําลูกกับเจ้าเลย!” ทุกอย่างที่เด็กสาวพูดออกมา ก็เพื่อประโยคสุดท้าย

 

“ตุบ” ร่างของหลิงฮันถูกผลักลงพื้น โดยไม่หลงเหลือแรงให้ต่อต้านแม้แต่น้อย

 

ฮูหนิวหัวเราะและจูบเข้าที่ใบหน้าของหลิงฮัน การจูบของนางนั้นไม่ได้เชี่ยวชาญ และดูเหมือนกับลูกแมวกําลังเลียหน้าอยู่มากกว่า

 

ธิดาโร๋วตกตะลึงเป็นอย่างมาก สัตว์ประหลาดเมื่อครู่คือตัวตนระดับตัดวิญญาณปฐพงั้นรึ? เช่นนั้นแล้วมันถูกหลิงฮันสังหารได้อย่างไร? นี่เจ้าแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่

 

นางไม่รู้ว่านี่ไม่ใช่พลังของหลิงฮัน แต่เป็นพลังของหอคอยทมิฬ ที่สามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อเดือนเท่านั้น หาก ณ เวลานี้ยังมีศัตรูตัวอื่นอยู่อีก การกระทําของเขาย่อมไม่ต่างหากรนหาที่ตาย

 

เพียงแต่ทีนี้นางก็จะได้มีสิทธิ์ในผลึกโลหิตเสียที

 

แต่ในขณะที่นางกําลังขยับตัวไปเก็บผลึกนั่นเอง จักรพรรดินีก็แทรกเข้ามาเสียก่อน และคว้าเอาผลึกไป

 

“พี่สาว” ธิดาโร๋วโอดครวญ

 

จักรพรรดิมองไปยังอีกฝ่ายด้วยแววตาองอาจ “จะแบ่งให้เจ้าอย่างไรนั้น ข้าคิดเอาไว้แล้ว”

 

“อืม…” ธิดาโร๋วม้วนนิ้วไปมา ต่อหน้าจักรพรรดินีแล้ว นางไม่กล้าขัดขืนแม้แต่นิดเดียว

 

“สาวน้อย ลุกขึ้นได้แล้ว” หลิงฮันกําลังถูกฮูหนิวรัดตัวอยู่ โดยที่สตรีอีกสองคนไม่คิดจะช่วยเหลือเลย

 

ฮูหนิวหัวเราะและกล่าว “พวกเราจะทําลูกกัน”

 

หลิงฮันตําหนิสั่งสอนนาง ก่อนจะนําอาหารจํานวนมากออกมา ซึ่งทําให้ฮูหนิวลืมเรื่องทําลูกไปชั่วคราว

 

เขาทําการฟื้นฟูปราณก่อเกิดบางส่วน จนในที่สุดก็มีแรงพอลุกขึ้นยืนและเดินได้

 

“ผลึกนั่นมันคืออะไรกันแน่ ถึงได้มีอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารอัดแน่นอยู่ภายใน” หลิงฮันขอให้จักรพรรดินีนําผลึกโลหิตที่นางเก็บไปออกมา เห็นได้ชัดว่าขนาดของผลึก ที่ได้จากสัตว์ประหลาดระดับตัดวิญญาณปฐพีนั้น มีขนาดใหญ่กว่า

 

“นั่นคือผลึกโลหิตราชานิรันดร์” จู่ๆ หอคอยน้อยก็เอ่ยขึ้นมา

 

“โอ้?”

 

“การต่อสู้รุนแรงของราชานิรันดร์ ส่งผลให้โลหิตของพวกเขาหยดลงมาสู่ผืนแผ่นดิน ก้อนหินที่ถูกเศษเสี้ยวหยดโลหิตของราชานิรันดร์สัมผัสจะไม่มีวันเสื่อมสลาย และเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากเวลาผ่านมานับไม่ถ้วน” หอคอยน้อยอธิบาย

 

หลิงฮันเข้าใจทันทีว่าทําไมสัตว์ประหลาดร่างมนุษย์ กับสัตว์อสูรหมูที่สังหารไปก่อนหน้านี้ถึงไม่มีร่างกาย ที่แท้พวกมันก็เป็นเพียงโลหิตที่เหลือทิ้งไว้ของราชานิรันดร์นี้เอง

 

สมกับที่เป็นราชานิรันดร์ เพียงแค่หยดโลหิตเล็กน้อย หลังจากกาลเวลาผ่านพ้นไป ก็สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ได้

 

“ถ้างั้นราชานิรันดร์ที่ว่าก็ต้องฝึกฝนอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร” หลิงฮันกล่าวแทรก

 

“คงเป็นราชานิรันดร์ระดับเจ็ดเป็นอย่างน้อย” หอคอยน้อยเอ่ยแทรกเช่นกัน

 

ดูเหมือนว่าข่าวลือจะไม่ใช่ข่าวลือที่ไม่มีมูลเสียแล้ว เขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพีหลายที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นสนามรบที่ถูกทิ้งไว้โดยราชานิรันดร์ ด้วยเจตจํานงยุทธของราชานิรันดร์ หลังจากที่กาลเวลาผ่านพ้นไปหลายหมื่น หลายแสนล้านปี เมื่อเจตจํานงผสานรวมเข้ากับอํานาจแห่งสวรรค์และปฐพี จึงก่อให้เกิดเป็นเขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพี่ขึ้นมา

 

หลิงฮันพยักหน้าและกล่าวจักรพรรดินี “เจ้าเก็บพวกมันกลับไปได้แล้ว ดูเหมือนพวกเราคงต้องตามหาสัตว์ประหลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้นอีก เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวผลึกราชานิรันดร์ให้ได้มากที่สุด” เขากล่าวคําอธิบายที่ฟังมาจากหอคอยน้อยออกไปคร่าวๆ

 

ในสถานการณ์ปกติ จอมยุทธจะสามารถฝึกฝนได้เพียงอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้าธาตุเท่านั้น ในขณะที่ความเข้าในใจอํานาจแห่งกฎเกณฑ์อื่นๆ จะได้รับผ่านสมุนไพรนิรันดร์ หรือสมบัติล้ำค่าบางประเภทเท่านั้น กล่าวได้ว่าอํานาจแห่งกฎเกณฑ์เหล่านี้จะไร้เทียมทานไปจนถึงระดับก่อนราชานิรันดร์ เพราะงั้นมูลค่าของผลึกโลหิตราชานิรันดร์จึงมีมากจนน่าอัศจรรย์

 

ในทางกลับกัน ความล้ำค่าของหอคอยทมิฬเองก็มหาศาลจนอน่าตกตะลึงเช่นกัน

 

เนื่องจากมันมีทั้งอํานาจแห่งกฎเกณฑ์กาลเวลา ห้วงมิติ และสังหาร ถ้าหากหลิงฮันฝึกฝนอํานาจแห่งกฎเกณฑ์เหล่านี้ แล้วยังไม่สามารถเป็นจักรพรรดิที่กําราบทุกคนในระดับพลังเดียวกันได้ล่ะก็ เขาคงเป็นขยะที่ยิ่งกว่าขยะเสียอีก

 

ทั้งสี่มุ่งหน้าเดินทางต่อ และได้พบกับสัตว์ประหลาดร่างมนุษย์อีกครั้ง ฮูหนิวกับจักรพรรดินีลงมือพร้อมกัน และสามารถจัดการสัตว์ประหลาดได้ภายในสองถึงสามกระบวนท่า แต่เมื่อเดินต่อไปพวกเขาก็พบเจอกับปัญหาใหญ่

 

สัตว์ประหลาดรูปร่างสัตว์อสูรในระดับตัดวิญญาณปฐพีปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้พวกหลิงฮันทําได้เพียงเผ่นหนีสถานเดียว

 

โชคดีที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเคลื่อนไหวได้ในระยะที่จํากัด

 

เมื่อหลุดพ้นจากรัศมีของมัน สัตว์ประหลาดเหล่านั้นก็จะไม่ไล่ตามอีกต่อไป “พรวด” ทั้งสี่คนมองหน้ากันและหัวเราะ

 

ในระดับเดียวกัน พวกเขาไม่เคยวิ่งหนีใครมาก่อน เพราะงั้นนี่จึงเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สําหรับพวกเขา

 

“หากทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ ย่อมจัดการสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้ไม่ยาก”

 

หลิงฮันถูจมูกครุ่นคิด น่าเสียดายที่ทักษะหยุดเวลาสามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อเดือน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ต้องหนีแบบนี้ “แต่ถ้าหากทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ พวกเราก็จะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไป”

 

จักรพรรดินีกล่าว “หนิวจัดการได้”

 

ฮูหนิวชูมือขึ้น “หนิวมีทักษะทรงพลังที่สามารถสักหารสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้เหมือนไก่กา” “แล้วทักษะนั่นใช้ไปแล้วต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่?”

 

หลิงฮันถาม “สามเดือน”

 

ฮูหนิวชูสามนิ้ว หลิงฮันพยักหน้า “อย่าใช้มันไปกับพวกมันอย่างเสียเปล่า นอกจากวิกฤตที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เก็บทักษะนี้ไว้ดีกว่า”

 

“อืม หนิวรู้”

 

ฮูหนิวพยักหน้า กลุ่มของพวกเขาออกเดินทางต่อ เมื่อใดที่เจอสัตว์ประหลาดระดับตัดวิญญาณหยาง หรือตัดวิญญาณหยิน พวกเขาจะกําจัดพวกมันทิ้งทันที

 

ในขณะที่หากพบเจอสัตว์ประหลาดระดับตัดวิญญาณปฐพี พวกเขาทําได้เพียงหลบหนี เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ยิ่งออกห่างจากเส้นทางเดิม แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังมั่นใจว่าตนเองกําลังมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของหุบเขาแน่นอน เนื่องจากเหนือน่านฟ้ามียอดเขาสามยอด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหุบเขาสามบุปผาคอยเป็นจุดนําทางอยู่

 

“จากคํากล่าวของเอี่ยนเซียนลู่ ในสามยอดเขานี้มีวาสนารออยู่”

 

หลิงฮันกล่าว “แต่จะเป็นยอดเขาไหนนั้น ราชานิรันดร์หย่งชางไม่ได้บอกเขาไว้” “งั้นก็ไปดูเองเลยแล้วกัน ทําแบบนั้นก็ไม่ได้เสียเวลาเท่าไหร่นัก”

 

จักรพรรดินีพยักหน้า พวกเขามุ่งหน้าไปยังยอดเขาที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้าย เมื่อเวลาผ่านไปเจ็ดวัน

 

จู่ๆ ฮูหนิวก็หยุดเดินและสูดจมูกดมกลิ่นและทําตาหยี “กลิ่นหอม!” หลิงฮันเชื่อมั่นใจจมูกของเด็กสาวจอมตะกละผู้นี้อย่างมาก เขาจึงเอ่ยถาม

 

“เจ้าได้กลิ่นอะไรงั้นรึ?” “กลิ่นหอมของสมุนไพรนิรันดร์!”

 

ฮูหนิวกลับมาลืมตาปกติ “จากที่ได้กลิ่น สมุนไพรต้นนี้สมควรมีอายุอย่างน้อยห้าพันล้านปีและเป็นสมุนไพรนิรันดร์ขั้นต้นเป็นอย่างน้อย” “ไปดูกันเถอะ!”

 

ทั้งสี่คนเปลี่ยนทิศทางโดยมีฮูหนิวเป็นคนนําทางจากการดมกลิ่น

 

หลังจากเดินไปได้ราวๆ ร้อยไมล์หลิงฮันกับจักรพรรดิถึงเพิ่งจะเริ่มได้กลิ่นหอม

 

เห็นได้ชัดว่าจมูกของพวกเขา เทียบกับตะกละไม่ได้จริงๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1962 ผลึกโลหิตราชานิรันดร์

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1962 ผลึกโลหิตราชานิรันดร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1962 ผลึกโลหิตราชานิรันดร์

 

นี่ไม่ใช่ความสามารถของหลิงฮัน แต่เป็นพลังของหอคอยทมิฬ

 

ผลลัพธ์ของการควบคุมให้กระแสเวลาไหลช้าจนถึงขีดสุด ก็คือการหยุดเวลา!

 

“ฉัวะ” หัวของอสูรหมูร่างหนามถูกสะบั้นขาดลอยกระเด็นขึ้นกลางอากาศ เพียงแต่ในพริบตาเดียวหัวของมันก็สลายหายไป พร้อมกับร่างขนาดใหญ่ของมันได้ล้มลงและแหลกออกเป็นเสี่ยงๆ เหลือไว้เพียงผลึกสีแดงเข้ม

 

“ตุบ” หลิงฮันใช้ดาบอสูรนิรันดร์พยุงร่างกับพื้น สภาพของเขาในตอนนี้เหนื่อยหอบและดูไร้เรี่ยวแรง

 

สิ่งที่ต้องจ่ายสําหรับการใช้ความสามารถเมื่อครู่นั้นมหาศาลเกินไป ไม่เพียงแค่ปราณก่อเกิดเท่านั้น แต่พลังวิญญาณของเขาก็ถูกเผาผลาญไปเช่นกัน ภายในร่างกายของเขาในตอนนี้ไร้พลังราวกับกระดาษที่ว่างเปล่า

 

เขาสามารถเร่งหรือชะลอห้วงเวลาได้ตามใจชอบก็จริง แต่ยิ่งเร่งขอบเขตของมันให้สูงขึ้นเท่าไหร่ พลังที่ถูกเผาผลาญก็ยิ่งมหาศาลขึ้นเท่านั้น อย่างการชะลอเวลาจนถึงขีดสุดในครั้งนี้ มันทําให้พลังของหลิงฮันถูกเผาผลาญจนหมดสิ้นอย่างสมบูรณ์

 

ยิ่งกว่านั้นความสามารถในการหยุดเวลาก็สามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อเดือนเท่านั้น โดยที่ต่อให้เข้าไปในห้องบ่มเพาะกาลเวลาก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากหอคอยทมิฬจําเป็นต้องดูดซับอํานาจแห่งกฎเกณฑ์และปฐพี่มาจากโลกจริง

 

“หลิงฮัน เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ!” ฮูหนิวรีบวิ่งเข้ามาหา “ขนาดสัตว์ประหลาดในระดับตัดวิญญาณปฐพีก็ยังถูกเจ้าสังหาร เจ้าช่างเป็นบุรุษที่ยอดเยี่ยมจน หนิวต้องการทําลูกกับเจ้าเลย!” ทุกอย่างที่เด็กสาวพูดออกมา ก็เพื่อประโยคสุดท้าย

 

“ตุบ” ร่างของหลิงฮันถูกผลักลงพื้น โดยไม่หลงเหลือแรงให้ต่อต้านแม้แต่น้อย

 

ฮูหนิวหัวเราะและจูบเข้าที่ใบหน้าของหลิงฮัน การจูบของนางนั้นไม่ได้เชี่ยวชาญ และดูเหมือนกับลูกแมวกําลังเลียหน้าอยู่มากกว่า

 

ธิดาโร๋วตกตะลึงเป็นอย่างมาก สัตว์ประหลาดเมื่อครู่คือตัวตนระดับตัดวิญญาณปฐพงั้นรึ? เช่นนั้นแล้วมันถูกหลิงฮันสังหารได้อย่างไร? นี่เจ้าแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่

 

นางไม่รู้ว่านี่ไม่ใช่พลังของหลิงฮัน แต่เป็นพลังของหอคอยทมิฬ ที่สามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อเดือนเท่านั้น หาก ณ เวลานี้ยังมีศัตรูตัวอื่นอยู่อีก การกระทําของเขาย่อมไม่ต่างหากรนหาที่ตาย

 

เพียงแต่ทีนี้นางก็จะได้มีสิทธิ์ในผลึกโลหิตเสียที

 

แต่ในขณะที่นางกําลังขยับตัวไปเก็บผลึกนั่นเอง จักรพรรดินีก็แทรกเข้ามาเสียก่อน และคว้าเอาผลึกไป

 

“พี่สาว” ธิดาโร๋วโอดครวญ

 

จักรพรรดิมองไปยังอีกฝ่ายด้วยแววตาองอาจ “จะแบ่งให้เจ้าอย่างไรนั้น ข้าคิดเอาไว้แล้ว”

 

“อืม…” ธิดาโร๋วม้วนนิ้วไปมา ต่อหน้าจักรพรรดินีแล้ว นางไม่กล้าขัดขืนแม้แต่นิดเดียว

 

“สาวน้อย ลุกขึ้นได้แล้ว” หลิงฮันกําลังถูกฮูหนิวรัดตัวอยู่ โดยที่สตรีอีกสองคนไม่คิดจะช่วยเหลือเลย

 

ฮูหนิวหัวเราะและกล่าว “พวกเราจะทําลูกกัน”

 

หลิงฮันตําหนิสั่งสอนนาง ก่อนจะนําอาหารจํานวนมากออกมา ซึ่งทําให้ฮูหนิวลืมเรื่องทําลูกไปชั่วคราว

 

เขาทําการฟื้นฟูปราณก่อเกิดบางส่วน จนในที่สุดก็มีแรงพอลุกขึ้นยืนและเดินได้

 

“ผลึกนั่นมันคืออะไรกันแน่ ถึงได้มีอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารอัดแน่นอยู่ภายใน” หลิงฮันขอให้จักรพรรดินีนําผลึกโลหิตที่นางเก็บไปออกมา เห็นได้ชัดว่าขนาดของผลึก ที่ได้จากสัตว์ประหลาดระดับตัดวิญญาณปฐพีนั้น มีขนาดใหญ่กว่า

 

“นั่นคือผลึกโลหิตราชานิรันดร์” จู่ๆ หอคอยน้อยก็เอ่ยขึ้นมา

 

“โอ้?”

 

“การต่อสู้รุนแรงของราชานิรันดร์ ส่งผลให้โลหิตของพวกเขาหยดลงมาสู่ผืนแผ่นดิน ก้อนหินที่ถูกเศษเสี้ยวหยดโลหิตของราชานิรันดร์สัมผัสจะไม่มีวันเสื่อมสลาย และเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากเวลาผ่านมานับไม่ถ้วน” หอคอยน้อยอธิบาย

 

หลิงฮันเข้าใจทันทีว่าทําไมสัตว์ประหลาดร่างมนุษย์ กับสัตว์อสูรหมูที่สังหารไปก่อนหน้านี้ถึงไม่มีร่างกาย ที่แท้พวกมันก็เป็นเพียงโลหิตที่เหลือทิ้งไว้ของราชานิรันดร์นี้เอง

 

สมกับที่เป็นราชานิรันดร์ เพียงแค่หยดโลหิตเล็กน้อย หลังจากกาลเวลาผ่านพ้นไป ก็สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ได้

 

“ถ้างั้นราชานิรันดร์ที่ว่าก็ต้องฝึกฝนอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร” หลิงฮันกล่าวแทรก

 

“คงเป็นราชานิรันดร์ระดับเจ็ดเป็นอย่างน้อย” หอคอยน้อยเอ่ยแทรกเช่นกัน

 

ดูเหมือนว่าข่าวลือจะไม่ใช่ข่าวลือที่ไม่มีมูลเสียแล้ว เขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพีหลายที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นสนามรบที่ถูกทิ้งไว้โดยราชานิรันดร์ ด้วยเจตจํานงยุทธของราชานิรันดร์ หลังจากที่กาลเวลาผ่านพ้นไปหลายหมื่น หลายแสนล้านปี เมื่อเจตจํานงผสานรวมเข้ากับอํานาจแห่งสวรรค์และปฐพี จึงก่อให้เกิดเป็นเขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพี่ขึ้นมา

 

หลิงฮันพยักหน้าและกล่าวจักรพรรดินี “เจ้าเก็บพวกมันกลับไปได้แล้ว ดูเหมือนพวกเราคงต้องตามหาสัตว์ประหลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้นอีก เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวผลึกราชานิรันดร์ให้ได้มากที่สุด” เขากล่าวคําอธิบายที่ฟังมาจากหอคอยน้อยออกไปคร่าวๆ

 

ในสถานการณ์ปกติ จอมยุทธจะสามารถฝึกฝนได้เพียงอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้าธาตุเท่านั้น ในขณะที่ความเข้าในใจอํานาจแห่งกฎเกณฑ์อื่นๆ จะได้รับผ่านสมุนไพรนิรันดร์ หรือสมบัติล้ำค่าบางประเภทเท่านั้น กล่าวได้ว่าอํานาจแห่งกฎเกณฑ์เหล่านี้จะไร้เทียมทานไปจนถึงระดับก่อนราชานิรันดร์ เพราะงั้นมูลค่าของผลึกโลหิตราชานิรันดร์จึงมีมากจนน่าอัศจรรย์

 

ในทางกลับกัน ความล้ำค่าของหอคอยทมิฬเองก็มหาศาลจนอน่าตกตะลึงเช่นกัน

 

เนื่องจากมันมีทั้งอํานาจแห่งกฎเกณฑ์กาลเวลา ห้วงมิติ และสังหาร ถ้าหากหลิงฮันฝึกฝนอํานาจแห่งกฎเกณฑ์เหล่านี้ แล้วยังไม่สามารถเป็นจักรพรรดิที่กําราบทุกคนในระดับพลังเดียวกันได้ล่ะก็ เขาคงเป็นขยะที่ยิ่งกว่าขยะเสียอีก

 

ทั้งสี่มุ่งหน้าเดินทางต่อ และได้พบกับสัตว์ประหลาดร่างมนุษย์อีกครั้ง ฮูหนิวกับจักรพรรดินีลงมือพร้อมกัน และสามารถจัดการสัตว์ประหลาดได้ภายในสองถึงสามกระบวนท่า แต่เมื่อเดินต่อไปพวกเขาก็พบเจอกับปัญหาใหญ่

 

สัตว์ประหลาดรูปร่างสัตว์อสูรในระดับตัดวิญญาณปฐพีปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้พวกหลิงฮันทําได้เพียงเผ่นหนีสถานเดียว

 

โชคดีที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเคลื่อนไหวได้ในระยะที่จํากัด

 

เมื่อหลุดพ้นจากรัศมีของมัน สัตว์ประหลาดเหล่านั้นก็จะไม่ไล่ตามอีกต่อไป “พรวด” ทั้งสี่คนมองหน้ากันและหัวเราะ

 

ในระดับเดียวกัน พวกเขาไม่เคยวิ่งหนีใครมาก่อน เพราะงั้นนี่จึงเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สําหรับพวกเขา

 

“หากทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ ย่อมจัดการสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้ไม่ยาก”

 

หลิงฮันถูจมูกครุ่นคิด น่าเสียดายที่ทักษะหยุดเวลาสามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อเดือน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ต้องหนีแบบนี้ “แต่ถ้าหากทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ พวกเราก็จะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไป”

 

จักรพรรดินีกล่าว “หนิวจัดการได้”

 

ฮูหนิวชูมือขึ้น “หนิวมีทักษะทรงพลังที่สามารถสักหารสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้เหมือนไก่กา” “แล้วทักษะนั่นใช้ไปแล้วต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่?”

 

หลิงฮันถาม “สามเดือน”

 

ฮูหนิวชูสามนิ้ว หลิงฮันพยักหน้า “อย่าใช้มันไปกับพวกมันอย่างเสียเปล่า นอกจากวิกฤตที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เก็บทักษะนี้ไว้ดีกว่า”

 

“อืม หนิวรู้”

 

ฮูหนิวพยักหน้า กลุ่มของพวกเขาออกเดินทางต่อ เมื่อใดที่เจอสัตว์ประหลาดระดับตัดวิญญาณหยาง หรือตัดวิญญาณหยิน พวกเขาจะกําจัดพวกมันทิ้งทันที

 

ในขณะที่หากพบเจอสัตว์ประหลาดระดับตัดวิญญาณปฐพี พวกเขาทําได้เพียงหลบหนี เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ยิ่งออกห่างจากเส้นทางเดิม แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังมั่นใจว่าตนเองกําลังมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของหุบเขาแน่นอน เนื่องจากเหนือน่านฟ้ามียอดเขาสามยอด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหุบเขาสามบุปผาคอยเป็นจุดนําทางอยู่

 

“จากคํากล่าวของเอี่ยนเซียนลู่ ในสามยอดเขานี้มีวาสนารออยู่”

 

หลิงฮันกล่าว “แต่จะเป็นยอดเขาไหนนั้น ราชานิรันดร์หย่งชางไม่ได้บอกเขาไว้” “งั้นก็ไปดูเองเลยแล้วกัน ทําแบบนั้นก็ไม่ได้เสียเวลาเท่าไหร่นัก”

 

จักรพรรดินีพยักหน้า พวกเขามุ่งหน้าไปยังยอดเขาที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้าย เมื่อเวลาผ่านไปเจ็ดวัน

 

จู่ๆ ฮูหนิวก็หยุดเดินและสูดจมูกดมกลิ่นและทําตาหยี “กลิ่นหอม!” หลิงฮันเชื่อมั่นใจจมูกของเด็กสาวจอมตะกละผู้นี้อย่างมาก เขาจึงเอ่ยถาม

 

“เจ้าได้กลิ่นอะไรงั้นรึ?” “กลิ่นหอมของสมุนไพรนิรันดร์!”

 

ฮูหนิวกลับมาลืมตาปกติ “จากที่ได้กลิ่น สมุนไพรต้นนี้สมควรมีอายุอย่างน้อยห้าพันล้านปีและเป็นสมุนไพรนิรันดร์ขั้นต้นเป็นอย่างน้อย” “ไปดูกันเถอะ!”

 

ทั้งสี่คนเปลี่ยนทิศทางโดยมีฮูหนิวเป็นคนนําทางจากการดมกลิ่น

 

หลังจากเดินไปได้ราวๆ ร้อยไมล์หลิงฮันกับจักรพรรดิถึงเพิ่งจะเริ่มได้กลิ่นหอม

 

เห็นได้ชัดว่าจมูกของพวกเขา เทียบกับตะกละไม่ได้จริงๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+