Alchemy Emperor of the Divine Dao 1963 ไผ่ครามผลสีชาด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1963 ไผ่ครามผลสีชาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1963 ไผ่ครามผลสีชาด

 

ทั้งสี่คนก้าวเดินอย่างรวดเร็ว จนเมื่อผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมง บ่อน้ำสีดําทมิฬราวกับน้ำหมึกก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าพวกเขา บ่อน้ำส่งกลิ่นเหม็นที่เกินจะพรรณนาออกมา โดยที่บริเวณกึ่งกลางของบ่อนั้นได้มีต้นไผ่สีครามตั้งอยู่

 

ไผ่ต้นนี้ตั้งตรงยาวชี้ขึ้นฟ้า ความยาวของมันอยู่ที่ราวๆ หนึ่งร้อยฟุต และมีใบหกใบ กับผลสีแดงงอกอยู่ที่ปลายยอด

 

เมื่อเดินมาถึงที่นี่ กลิ่นหอมของสมุนไพรก็หายไปทันที

 

“ไผ่ครามลายสีชาด!” หลิงฮันกล่าวออกมาทันที

 

เพียงแต่เมื่อเห็นสีหน้างงงวยของสตรีอีกสามคน เขาก็เริ่มอธิบาย “สมุนไพรตรงหน้านี้เป็นสมุนไพรนิรันดร์จริงๆ เพียงแต่ความล้ำค่าของมันไม่ได้อยู่ที่ผลสีแดง แต่เป็นใบหกใบ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยอํานาจแห่งเต๋ที่แตกต่างกัน หากทําการดูดซับพวกมันพร้อมกับล่ะก็ ตัวของพวกเจ้าจะราวกับกลายเป็นศูนย์กลางของอํานาจแห่งเต๋ และช่วยให้รู้แจ้งได้อย่างน่าอัศจรรย์”

 

“แต่ลําต้นของมันก็สามารถนํามาเป็นหลอมอาวุธได้เช่นกัน เนื่องจากมันมีความทนทานเทียบเท่ากับแร่โลหะกิ่งนิรันดร์หกดาวเป็นอย่างน้อย ยิ่งอายุของมันเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ความทนทานก็จะยิ่งสูงขึ้น หากอายุของมันมากถึงแสนล้านปี ความทนทานจะเทียบกับแร่โลหะกิ่งนิรันดร์เก้าดาว ในขณะที่หากอายุล้านล้านปี ความทนทานจะเทียบเท่ากับแร่โลหะกิ่งนิรันดร์สิบดาว”

 

“แล้วต้องอายุของมันต้องมากเท่าไหร่ ถึงจะเทียบเท่ากับแร่โลหะนิรันดร์รี?” ธิดาโร๋วอดใจไม่ไหวและถามออกมาด้วยดวงตาส่องประกาย

 

ในโลกนี้ใครกันจะไม่ต้องการแร่โลหะนิรันดร์?

 

หลิงฮันกล่าว “ขีดจํากัดของมันอยู่ที่แร่โลหะกิ่งนิรันดร์สิบดาวเท่านั้น ด้วยขีดจํากัดของสวรรค์และปฐพีเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุสูงถึงแร่โลหะนิรันดร์”

 

ธิดาโร๋วปากห้อยด้วยความรู้สึกเสียดาย

 

“ส่วนผลของมัน…” หลิงฮันกล่าวต่อ “ผลของมันไม่ใช่สมุนไพรก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ เนื่องจากพิษของมันนั้นรุนแรงวเป็นอย่างมาก”

 

“ดูจากสีของลําต้นแล้ว ไผ่ครามผลสีชาดต้นนี้สมควรมีอายุอยู่ที่หกพันล้านปีเป็นอย่างมาก เพราะงั้นพิษภายในผลของมัน จึงมีความรุนแรงพอที่จะสังหารตัวตนระดับตัดวิญญาณสวรรค์ หรือตัวตนระดับตําหนักอมตะได้ในพริบตา”

 

สตรีทั้งสามเปลี่ยนสีหน้าทันที ผลของสมุนไพรต้นนี้สามารถสังหารได้แม้กระทั่งตัวตนระดับตําหนักอมตะงั้นรึ? ช่างน่าสะพรึงกลัวอะไรอย่างนี้ ถึงแม้พวกนางจะไม่ใช่จอมยุทธทั่วไป โดยเฉพาะฮูหนิวที่มีกายหยาบที่ทรงพลัง แต่พวกนางก็ไม่สามารถรอดชีวิตจากการโจมตีของตัวตนระดับตําหนักอมตะได้

 

“ลองดูที่บ่อน้ำตรงนั้น มันคือพิษที่ผลสีชาดปลดปล่อยออกมา” หลิงฮันชี้ไปยังบ่อน้ำที่ส่งกลิ่นเหม็น

 

เมื่อได้ยินหลิงฮันกล่าวเช่นนั้น สตรีทั้งสามก็รีบปิดจมูกตนเองทันที ถึงว่าทําไมสมองพวกนางถึงได้รู้สึกมันเล็กน้อย ที่แท้บ่อน้ำนี่ก็เป็นพิษนี่เอง

 

หลิงฮันส่ายหัวและยิ้ม “ไม่ต้องกังวลไป มีเพียงการสัมผัสกับน้ำที่เป็นพิษเท่านั้น ร่างกายถึงจะได้รับอันตราย ต่อให้สูดกลิ่นเข้าไป ก็แค่รู้สึกเหม็นเล็กน้อยเท่านั้น”

 

แม้เขาจะพูดแบบนั้นออกไป แต่ดูจากสีหน้าของสตรีทั้งสามแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกนางไม่ต้องการสมุนไพรต้นนี้แล้ว และอยากออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุด

 

สตรีหนอสตรี

 

หลิงฮันเดินวนรอบบ่อน้ำ เพื่อสํารวจและคิดหาวิธีเก็บเกี่ยวต้นไผ่

 

เขาลองลงมือโดยการควบแน่นฝ่ามือปราณก่อเกิดและดึงต้นไผ่ออกมาตรงๆ แต่ต้นไผ่ต้นนี้ราวกับว่ายึดติดอยู่กับผืนดินไปแล้วอย่างสมบูรณ์ หากเขาต้องการดึงต้นไผ่ขึ้นมา เขาก็ต้องนําดินรอบๆ ขึ้นมาด้วย

 

หากเปลี่ยนเป็นสถานที่อื่น เรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหาอะไร ด้วยพลังของหลิงฮันในตอนนี้อย่าว่าแต่ผืนดินเลย ต่อให้เป็นดวงดาวนับสิบเขาก็ยกไหว

 

แต่ปัญหาคือสถานที่แห่งนี้คือเขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพี แถมพื้นดินยังมีโลหิตของราชานิรันดร์ผสานเอาไว้ด้วย การจะยกผืนดินขึ้นมาจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

มือปราณก่อเกิดขนาดใหญ่ของเขาถูกกัดกร่อนด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า จนเหลือขนาดเพียงครึ่งเดียว และสลายไปอย่างรวดเร็ว

 

หลิงฮันยกมือขึ้นมาด้วยความตกตะลึง เนื่องจากที่ฝ่ามือของเขามีลวดลายสีดําปรากฏอยู่ ซึ่งลวดลายที่ว่านี้ยังคงแผ่ขยายกว้างออกไปเรื่อยๆ

 

มันคือพิษของผลสีชาด

 

หลิงฮันรีบโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ พรึบ” แสงสลัวสีทองส่องประกายปกคลุมร่างของเขา ตราประทับที่ลึกลับและน่ายําเกรงปรากฏขึ้นมาทีละอัน ส่งผลให้ลวดลายสีดําสลายหายไปอย่างรวดเร็ว

 

เป็นพิษที่น่าสะพรึงกลัวอะไรอย่างนี้

ทั้งๆ ที่มือของเขาไม่ได้สัมผัสกับพิษโดยตรงแท้ๆ แต่พิษก็ยังส่งผ่านมายังปราณก่อเกิดได้ ถ้าเกิดดันไปสัมผัสกับพิษในบ่อน้ำเข้าตรงๆล่ะก็ ร่างของเขาคงสลายกลายเป็นกองโลหิตในพริบตา โดยที่แม้จะโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้

 

หลิงฮันส่ายหัว แล้วเขาจะเก็บเกี่ยวสมุนไพรนิรันดร์ต้นนี้ได้อย่างไร?

 

เขาหันไปมองสตรีทั้งสาม หากรวมหัวช่วยกันล่ะก็ โอกาสคิดวิธีดีๆ ออกย่อมมีมากกว่าคิดคนเดียว

 

เพียงแต่สตรีทั้งสามก็ส่ายหัวปฏิเสธในทันใด พวกนางไม่ต้องการนําตนเอง ไปเสี่ยงสัมผัสโดนกับพิษในบ่อน้ำ ถ้าเกิดผิวอันงดงามของพวกนางไปสัมผัสโดนพิษ และได้รับบาดเจ็บจนไม่เหลือความงดงามอยู่ล่ะจะทําอย่างไร?

 

ณ จุดนี้ แม้แต่ฮูหนิวเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

 

หลิงฮันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องคิดหาวิธีด้วยตัวเอง

 

ลองใช้ดาบอสูรนิรันดร์ดูเป็นไง?

 

ดาบเล่มนี้คืออุปกรณ์นิรันดร์ในอนาคต ถึงแม้อํานาจของมันในตอนนี้จะยังอ่อนแอ แต่ก็น่าจะสามารถต้านทานพิษได้

 

หลิงฮันลองทดสอบดู และผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่คาดไว้ บ่อน้ำพิษไม่สามารถทําอะไรดาบอสูรนิรันดร์นิรันดร์ได้ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรดาบเล่มนี้ก็ยังเป็นเพียงอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สามดาว มันจะทะลวงผ่านความทนทานของต้นไผ่ได้อย่างไร?

 

หากอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สามดาวสามารถตัด สิ่งที่มีความทนทานเทียบเท่าแร่โลหะถึงนิรันดร์หกดาวได้ ก็คงจะดูไร้เหตุผลไม่น้อย

 

หลิงฮันเปลี่ยนมาใช้วิธีการทําให้น้ำในบ่อหายไปแทน เพื่อที่เขาจะได้ขุดดินที่อยู่ใต้ต้นไผ่ขึ้นมาได้

 

แต่ปัญหาก็คือภาชนะใดจะนํามาใช้วิดน้ำที่เต็มไปด้วยพิษกัดกร่อนออกมาได้?

 

แร่โลหะกิ่งนิรันดร์ระดับต่ำถูกกัดกร่อนทันที่ที่สัมผัส และดาบอสูรนิรันดร์ก็ไม่สามารถนํามาใช้เป็นภาชนะได้ด้วย

 

หลิงฮันรู้สึกหดหูมาก ทั้งๆ ที่สมบัติอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่กลับทําได้เพียงจ้องมองงั้นรึ?

 

เขาครุ่นคิดไปมาจนนึกวิธีการอย่างหนึ่งออก

 

เผา!

หลิงฮันบอกให้สตรีทั้งสามถอยหลังไปให้ไกล ก่อนจะโคจรเพลิงเก้าสวรรค์และชี้นําให้เปลวเพลิงเข้าแผดเผาบ่อน้ำ ด้วยความร้อนระอุของเปลวเพลิง น้ำในบ่อก็ถูกทําให้ระเหยไปอย่างเชื่องช้า กว่าจะทําให้ผิวน้ำหายไปหนึ่งส่วนได้ ต้องใช้เวลาไปถึงครึ่งวัน

 

พอจะได้ผลอยู่

 

หลิงฮันกระตุ้นอํานาจของเพลิงเก้าสวรรค์จนถึงขีดสุด แต่ไม่ว่าอย่างไร เนื่องด้วยข้อจํากัดในระดับพลัง เพลิงเก้าสวรรค์จึงไม่สามารถปลดปล่อยอํานาจในระดับราชานิรันดร์ออกมาได้อยู่แล้ว เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าต้นไผ่จะได้รับความเสียหาย

 

เมื่อเวลาผ่านไป ระดับของน้ำในบ่อก็ค่อยๆ ลดลงทีละน้อย

 

ใกล้จะสําเร็จแล้ว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1963 ไผ่ครามผลสีชาด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1963 ไผ่ครามผลสีชาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1963 ไผ่ครามผลสีชาด

 

ทั้งสี่คนก้าวเดินอย่างรวดเร็ว จนเมื่อผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมง บ่อน้ำสีดําทมิฬราวกับน้ำหมึกก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าพวกเขา บ่อน้ำส่งกลิ่นเหม็นที่เกินจะพรรณนาออกมา โดยที่บริเวณกึ่งกลางของบ่อนั้นได้มีต้นไผ่สีครามตั้งอยู่

 

ไผ่ต้นนี้ตั้งตรงยาวชี้ขึ้นฟ้า ความยาวของมันอยู่ที่ราวๆ หนึ่งร้อยฟุต และมีใบหกใบ กับผลสีแดงงอกอยู่ที่ปลายยอด

 

เมื่อเดินมาถึงที่นี่ กลิ่นหอมของสมุนไพรก็หายไปทันที

 

“ไผ่ครามลายสีชาด!” หลิงฮันกล่าวออกมาทันที

 

เพียงแต่เมื่อเห็นสีหน้างงงวยของสตรีอีกสามคน เขาก็เริ่มอธิบาย “สมุนไพรตรงหน้านี้เป็นสมุนไพรนิรันดร์จริงๆ เพียงแต่ความล้ำค่าของมันไม่ได้อยู่ที่ผลสีแดง แต่เป็นใบหกใบ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยอํานาจแห่งเต๋ที่แตกต่างกัน หากทําการดูดซับพวกมันพร้อมกับล่ะก็ ตัวของพวกเจ้าจะราวกับกลายเป็นศูนย์กลางของอํานาจแห่งเต๋ และช่วยให้รู้แจ้งได้อย่างน่าอัศจรรย์”

 

“แต่ลําต้นของมันก็สามารถนํามาเป็นหลอมอาวุธได้เช่นกัน เนื่องจากมันมีความทนทานเทียบเท่ากับแร่โลหะกิ่งนิรันดร์หกดาวเป็นอย่างน้อย ยิ่งอายุของมันเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ความทนทานก็จะยิ่งสูงขึ้น หากอายุของมันมากถึงแสนล้านปี ความทนทานจะเทียบกับแร่โลหะกิ่งนิรันดร์เก้าดาว ในขณะที่หากอายุล้านล้านปี ความทนทานจะเทียบเท่ากับแร่โลหะกิ่งนิรันดร์สิบดาว”

 

“แล้วต้องอายุของมันต้องมากเท่าไหร่ ถึงจะเทียบเท่ากับแร่โลหะนิรันดร์รี?” ธิดาโร๋วอดใจไม่ไหวและถามออกมาด้วยดวงตาส่องประกาย

 

ในโลกนี้ใครกันจะไม่ต้องการแร่โลหะนิรันดร์?

 

หลิงฮันกล่าว “ขีดจํากัดของมันอยู่ที่แร่โลหะกิ่งนิรันดร์สิบดาวเท่านั้น ด้วยขีดจํากัดของสวรรค์และปฐพีเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุสูงถึงแร่โลหะนิรันดร์”

 

ธิดาโร๋วปากห้อยด้วยความรู้สึกเสียดาย

 

“ส่วนผลของมัน…” หลิงฮันกล่าวต่อ “ผลของมันไม่ใช่สมุนไพรก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ เนื่องจากพิษของมันนั้นรุนแรงวเป็นอย่างมาก”

 

“ดูจากสีของลําต้นแล้ว ไผ่ครามผลสีชาดต้นนี้สมควรมีอายุอยู่ที่หกพันล้านปีเป็นอย่างมาก เพราะงั้นพิษภายในผลของมัน จึงมีความรุนแรงพอที่จะสังหารตัวตนระดับตัดวิญญาณสวรรค์ หรือตัวตนระดับตําหนักอมตะได้ในพริบตา”

 

สตรีทั้งสามเปลี่ยนสีหน้าทันที ผลของสมุนไพรต้นนี้สามารถสังหารได้แม้กระทั่งตัวตนระดับตําหนักอมตะงั้นรึ? ช่างน่าสะพรึงกลัวอะไรอย่างนี้ ถึงแม้พวกนางจะไม่ใช่จอมยุทธทั่วไป โดยเฉพาะฮูหนิวที่มีกายหยาบที่ทรงพลัง แต่พวกนางก็ไม่สามารถรอดชีวิตจากการโจมตีของตัวตนระดับตําหนักอมตะได้

 

“ลองดูที่บ่อน้ำตรงนั้น มันคือพิษที่ผลสีชาดปลดปล่อยออกมา” หลิงฮันชี้ไปยังบ่อน้ำที่ส่งกลิ่นเหม็น

 

เมื่อได้ยินหลิงฮันกล่าวเช่นนั้น สตรีทั้งสามก็รีบปิดจมูกตนเองทันที ถึงว่าทําไมสมองพวกนางถึงได้รู้สึกมันเล็กน้อย ที่แท้บ่อน้ำนี่ก็เป็นพิษนี่เอง

 

หลิงฮันส่ายหัวและยิ้ม “ไม่ต้องกังวลไป มีเพียงการสัมผัสกับน้ำที่เป็นพิษเท่านั้น ร่างกายถึงจะได้รับอันตราย ต่อให้สูดกลิ่นเข้าไป ก็แค่รู้สึกเหม็นเล็กน้อยเท่านั้น”

 

แม้เขาจะพูดแบบนั้นออกไป แต่ดูจากสีหน้าของสตรีทั้งสามแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกนางไม่ต้องการสมุนไพรต้นนี้แล้ว และอยากออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุด

 

สตรีหนอสตรี

 

หลิงฮันเดินวนรอบบ่อน้ำ เพื่อสํารวจและคิดหาวิธีเก็บเกี่ยวต้นไผ่

 

เขาลองลงมือโดยการควบแน่นฝ่ามือปราณก่อเกิดและดึงต้นไผ่ออกมาตรงๆ แต่ต้นไผ่ต้นนี้ราวกับว่ายึดติดอยู่กับผืนดินไปแล้วอย่างสมบูรณ์ หากเขาต้องการดึงต้นไผ่ขึ้นมา เขาก็ต้องนําดินรอบๆ ขึ้นมาด้วย

 

หากเปลี่ยนเป็นสถานที่อื่น เรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหาอะไร ด้วยพลังของหลิงฮันในตอนนี้อย่าว่าแต่ผืนดินเลย ต่อให้เป็นดวงดาวนับสิบเขาก็ยกไหว

 

แต่ปัญหาคือสถานที่แห่งนี้คือเขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพี แถมพื้นดินยังมีโลหิตของราชานิรันดร์ผสานเอาไว้ด้วย การจะยกผืนดินขึ้นมาจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

มือปราณก่อเกิดขนาดใหญ่ของเขาถูกกัดกร่อนด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า จนเหลือขนาดเพียงครึ่งเดียว และสลายไปอย่างรวดเร็ว

 

หลิงฮันยกมือขึ้นมาด้วยความตกตะลึง เนื่องจากที่ฝ่ามือของเขามีลวดลายสีดําปรากฏอยู่ ซึ่งลวดลายที่ว่านี้ยังคงแผ่ขยายกว้างออกไปเรื่อยๆ

 

มันคือพิษของผลสีชาด

 

หลิงฮันรีบโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ พรึบ” แสงสลัวสีทองส่องประกายปกคลุมร่างของเขา ตราประทับที่ลึกลับและน่ายําเกรงปรากฏขึ้นมาทีละอัน ส่งผลให้ลวดลายสีดําสลายหายไปอย่างรวดเร็ว

 

เป็นพิษที่น่าสะพรึงกลัวอะไรอย่างนี้

ทั้งๆ ที่มือของเขาไม่ได้สัมผัสกับพิษโดยตรงแท้ๆ แต่พิษก็ยังส่งผ่านมายังปราณก่อเกิดได้ ถ้าเกิดดันไปสัมผัสกับพิษในบ่อน้ำเข้าตรงๆล่ะก็ ร่างของเขาคงสลายกลายเป็นกองโลหิตในพริบตา โดยที่แม้จะโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้

 

หลิงฮันส่ายหัว แล้วเขาจะเก็บเกี่ยวสมุนไพรนิรันดร์ต้นนี้ได้อย่างไร?

 

เขาหันไปมองสตรีทั้งสาม หากรวมหัวช่วยกันล่ะก็ โอกาสคิดวิธีดีๆ ออกย่อมมีมากกว่าคิดคนเดียว

 

เพียงแต่สตรีทั้งสามก็ส่ายหัวปฏิเสธในทันใด พวกนางไม่ต้องการนําตนเอง ไปเสี่ยงสัมผัสโดนกับพิษในบ่อน้ำ ถ้าเกิดผิวอันงดงามของพวกนางไปสัมผัสโดนพิษ และได้รับบาดเจ็บจนไม่เหลือความงดงามอยู่ล่ะจะทําอย่างไร?

 

ณ จุดนี้ แม้แต่ฮูหนิวเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

 

หลิงฮันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องคิดหาวิธีด้วยตัวเอง

 

ลองใช้ดาบอสูรนิรันดร์ดูเป็นไง?

 

ดาบเล่มนี้คืออุปกรณ์นิรันดร์ในอนาคต ถึงแม้อํานาจของมันในตอนนี้จะยังอ่อนแอ แต่ก็น่าจะสามารถต้านทานพิษได้

 

หลิงฮันลองทดสอบดู และผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่คาดไว้ บ่อน้ำพิษไม่สามารถทําอะไรดาบอสูรนิรันดร์นิรันดร์ได้ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรดาบเล่มนี้ก็ยังเป็นเพียงอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สามดาว มันจะทะลวงผ่านความทนทานของต้นไผ่ได้อย่างไร?

 

หากอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สามดาวสามารถตัด สิ่งที่มีความทนทานเทียบเท่าแร่โลหะถึงนิรันดร์หกดาวได้ ก็คงจะดูไร้เหตุผลไม่น้อย

 

หลิงฮันเปลี่ยนมาใช้วิธีการทําให้น้ำในบ่อหายไปแทน เพื่อที่เขาจะได้ขุดดินที่อยู่ใต้ต้นไผ่ขึ้นมาได้

 

แต่ปัญหาก็คือภาชนะใดจะนํามาใช้วิดน้ำที่เต็มไปด้วยพิษกัดกร่อนออกมาได้?

 

แร่โลหะกิ่งนิรันดร์ระดับต่ำถูกกัดกร่อนทันที่ที่สัมผัส และดาบอสูรนิรันดร์ก็ไม่สามารถนํามาใช้เป็นภาชนะได้ด้วย

 

หลิงฮันรู้สึกหดหูมาก ทั้งๆ ที่สมบัติอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่กลับทําได้เพียงจ้องมองงั้นรึ?

 

เขาครุ่นคิดไปมาจนนึกวิธีการอย่างหนึ่งออก

 

เผา!

หลิงฮันบอกให้สตรีทั้งสามถอยหลังไปให้ไกล ก่อนจะโคจรเพลิงเก้าสวรรค์และชี้นําให้เปลวเพลิงเข้าแผดเผาบ่อน้ำ ด้วยความร้อนระอุของเปลวเพลิง น้ำในบ่อก็ถูกทําให้ระเหยไปอย่างเชื่องช้า กว่าจะทําให้ผิวน้ำหายไปหนึ่งส่วนได้ ต้องใช้เวลาไปถึงครึ่งวัน

 

พอจะได้ผลอยู่

 

หลิงฮันกระตุ้นอํานาจของเพลิงเก้าสวรรค์จนถึงขีดสุด แต่ไม่ว่าอย่างไร เนื่องด้วยข้อจํากัดในระดับพลัง เพลิงเก้าสวรรค์จึงไม่สามารถปลดปล่อยอํานาจในระดับราชานิรันดร์ออกมาได้อยู่แล้ว เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าต้นไผ่จะได้รับความเสียหาย

 

เมื่อเวลาผ่านไป ระดับของน้ำในบ่อก็ค่อยๆ ลดลงทีละน้อย

 

ใกล้จะสําเร็จแล้ว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+