Alchemy Emperor of the Divine Dao 1981 ล่าถอย

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1981 ล่าถอย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1981 ล่าถอย

 

หลิงฮันแสดงสีหน้าไม่แยแส “ พวกเจ้าล่วงเกินข้าเกิน แต่จะไม่ให้ข้าตอบโต้กลับงั้นรึ? เรื่องสองมาตรฐานเช่นนั้นไม่อยู่บนโลก! หากจะสู้ก็เข้ามา!”

 

ซูหย่าหรงส่งเสียงคํารามดังลั่น

 

นางนํากระจกทองแดงแปลกประหลาดบานหนึ่งออกมา และส่องไปที่หลิงฮัน พริบตาเดียวกันร่างเงาร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏออกมาจากกระจก โดยที่รูปลักษณ์และออร่าของมัน เหมือนกับหลิงฮันไม่มีผิดเพี้ยน

 

“ตาย!” ร่างเงานั้นคํารามและพุ่งทะยานเข้าใส่หลิงฮัน

 

ตูม

 

หลิงฮันและร่างเงาแลกเปลี่ยนการโจมตีกัน ก่อนจะล่าถอยกันไปคนละสิบเจ็ดเก้า

 

หลิงฮันเผยสีหน้าประหลาดใจ ร่างเงานี้นอกจากจะมีรูปลักษณ์เหมือนเขาแล้ว พลังของมันยังเหมือนกับเขาด้วยงั้นรึ?

 

สมกับเป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ ช่างมีความสามารถมากมายจริงๆ

 

ซูหย่าหรงคํารามปลดปล่อยการโจมตีเข้าใส่หลิงฮัน ร่างเงาเองก็เช่นกัน มันร่วมมือกับนางโจมตีไปยังหลิงฮัน

 

ณ เวลานี้ หลิงฮันได้ถูกจอมยุทธที่ทรงพลังสองคนรุมโจมตี จนเริ่มตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

“ข้าไม่เชื่อว่าสมบัตินั่น จะคัดลอกพลังของเขาได้ทั้งหมด” หลิงฮันนําดาบอสูรนิรันดร์ออกมาและหยุดจ้องมองว่าร่างเงาตรงหน้าจะนําดาบออกมาด้วยหรือไม่

 

ซึ่งก็เป็นอย่างที่เขาคิด ร่างเงานั่นไม่ได้นําดาบออกมา แต่คัดลอกการเคลื่อนไหวของหลิงฮันโดยใช้นิ้วมือแทนดาบและกวัดแกว่งเข้าปะทะกับหลิงฮัน

 

ตูม! ตูม! ตูม!

 

หลิงฮันและจอมยุทธที่ทรงพลังอีกสองคน เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด ซูหย่าหรงนั้นไม่ต้องพูดถึง นางคืออัจฉริยะอันดับสองในหมู่รุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง แถมในอดีตยังเคย เป็นถึงราชานิรันดร์ระดับเจ็ด แน่นอนว่าพลังต่อสู้ของนางย่อมน่าสะพรึงกลัวอยู่แล้ว ส่วนร่างเงาเองก็มีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับหลิงฮัน ซึ่งบางที่อาจจะเป็นการคัดลอกด้วยอํานาจแห่งสวรรค์และปฐพี แต่กระบวนท่าที่มันใช้ออกมา ก็ยังมีความแตกต่างกับเขาอยู่เล็กน้อย

 

แต่น่าเสียดายที่กายหยาบของหลิงฮันนั้นไร้เทียมทานเกินไป ต่อให้การโจมตีของซูหย่าหรง และร่างเงามีความรุนแรงเทียบเท่าระดับตัดวิญญาณหยินสูงสุด ร่างกายของหลิงฮันก็ปรากฏบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ถ้าหากทําให้กระดูกภายในร่างของเขาแตกหักไม่ได้ ก็ไม่มีทางสร้างภัยคุกคามใดๆ ให้แก่เขา

 

“เข้ามาไม่ต้องหยุด!” หลิงฮันหัวเราะอย่างไม่หวาดกลัวที่จะต้องปะทะ

 

เขากวัดแกว่งดาบปลดปล่อยทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ออกไป ซึ่งถ้าหากร่างเงานั้นสามารถเลียนแบบได้แม้แต่ทักษะดาบนี้ล่ะก็ มันก็ดูจะน่าอัศจรรย์เกินไปหน่อย

 

เพียงแต่ถึงแม้ทักษะดาบที่ร่างเงาปลดปล่อยออกมา จะไม่ใช่ทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ แต่พลังทําลายของทักษะก็ไม่อาจประมาทได้

 

หลิงฮันหัวเราะ ไม่ว่าอย่างไรสิ่งนี้ก็เป็นเพียงสมบัติ ต่อให้มันจะเป็นสมบัติที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน มันก็สามารถคัดลอกเขาได้เพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น

 

เขาชี้นําอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารของหอคอยทมิฬ ผสานรวมเข้ากับทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ และกวัดแกว่งดาบเข้าใส่ซูหย่าหรง

 

ครืนน ดาบถูกสะบั้นออกไปอย่างรุนแรง ราวกับจะบดขยี้ผืนพิภพ

 

ซูหย่าหรงเปลี่ยนสีหน้าทันใด อํานาจของดาบนี้ทําให้จิตใจนางสั่นสะท้าน

 

นางระเบิดพลังทั้งหมดออกมา เพื่อตอบโต้หลิงฮัน

 

ตูม! ตูม! ตูม!

 

จักรพรรดิระดับแนวหน้าทั้งสองเข้าตอบโต้กันอย่างดุเดือด โดยยากที่จะแยกออกว่า ในช่วงเวลานี้ฝ่ายไหนที่ได้เปรียบ

 

หลิงฮันมั่นใจเป็นอย่างมาก หากการต่อสู้ยังคงดําเนินต่อไปเช่นนี้ ท้ายที่สุดคนที่จะคว้าชัยชนะมาได้ก็คือเขา ด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทาน ต่อให้ไม่ต้องตอบโต้อะไรเขาก็ยังคงยืนอยู่ในสถานะที่ไร้พ่าย

 

ซูหย่าหรงเองก็ตระหนักได้เช่นกัน หลังจากปะทะกันอย่างดุเดือดต่อเนื่องมาสักพัก คนที่ได้รับบาดเจ็บคือนางเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ในขณะที่หลิงฮันนั้นถึงแม้จะรับการโจมตีของนางเข้าไปก็ยังแทบไม่ปรากฏรอยแผลบนผิวหนัง

 

นางกัดฟัน ก่อนจะหันหลังและทะยานร่างจากไปทันที

 

สู้ต่อไปก็ไร้ความหมาย

 

รอให้นางทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ แล้วค่อยมาสังหารหลิงฮันก็ยังไม่สาย สําหรับเรื่องนี้นางมั่นใจเป็นอย่างมากว่านางต้องแข็งแกร่งกว่า เนื่องจากนางเคยเป็นถึงอดีตราชานิรันดร์ เมื่อบรรลุระดับแบ่งแยกวิญญาณอีกครั้ง พลังต่อสู้ของนางย่อมทรงพลังเกินกว่าที่ จอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณหน้าใหม่จะเทียบเคียงได้

 

นางจะยอมปล่อยให้รุ่นเยาว์ผู้นี้มีชีวิตต่อไปอีกสักพัก

 

หลิงฮันหยุดฝีเท้าหลังจากไล่ตามไปสองสามเก้า การป้องกันของเขาไร้เทียมทานก็จริง แต่หากเป็นในเรื่องของความเร็วในการเคลื่อนที่นั้น อีกฝ่ายที่เป็นอดีตราชานิรันดร์ย่อมเชี่ยวชาญการใช้อํานาจแห่งกฎเกณฑ์มากกว่า

 

“เอาล่ะ มาต่อกันดีกว่า” หลิงฮันหันกลับมายิ้มและกล่าว

 

ดวงตาของธิดาโร๋วส่องประกายด้วยความหลงใหล บุรุษผู้นี้ช่างยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง แต่เดิมนอกจากเขาจะเป็นราชาที่อยู่เหนือราชาคนอื่นๆ ทั้งปวงแล้ว เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็พัฒนาตนเองกลายเป็นจักรพรรดิ ที่แม้แต่อัจฉริยะอันดับหนึ่งของอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน อย่างเอี๋ยนเซียนก็ไม่อาจเทียบเคียงได้

 

พอมาถึงตอนนี้เขาก็ยังพัฒนาตนเองต่อขึ้นไปได้อีกขั้น จนแม้กระทั่งอัจฉริยะอันดับสองของสวรรค์กว่างล๋ง ก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้และทําได้เพียงหันหลังหลบหนีไป

 

ยิ่งกว่านั้นคือบุรุษผู้นี้ยังมอบหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ อันเป็นสมบัติล้ำค่าให้แก่นางจนศักยภาพของนางพัฒนาจากราชากลายมาเป็นราชาในหมู่ราชาอีกด้วย ในโลกนี้จะมีบุรุษผู้อื่นอีกหรือที่ใจกว้างขนาดนี้?

 

“ตัวอัปลักษณ์ อย่าได้คิดอะไรเพ้อฝัย หลิงฮันเป็นของหนิว!” ฮูหนิวกัดฟันไม่สบอารมณ์ เหตุใดสตรีเหล่านี้ถึงได้หน้าด้านกันขนาดนี้ นางเพียงแค่อยู่ห่างจากหลิงฮันไม่กี่ปี สตรีเหล่านี้ก็เข้ามาเกาะแกะหลิงฮันของนางเสียแล้ว

 

“มาต่อกันได้แล้ว” หลิงฮันกล่าว

 

เขาเดาได้ว่าซูหย่าหรงไม่มีทางยอมรามือง่ายๆ แน่นอน แถมที่สําคัญคือ… อีกฝ่ายมีโอกาสสูงมากด้วยที่จะครอบครองแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีได้สําเร็จ

 

เพราะว่าอีกฝ่ายเป็ยถึงร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ ที่แก่นแท้พลังของนางไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธ

 

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้ และต้องรีบครอบครองพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธให้เร็วที่สุด

 

ทั้งสี่คนนั่งลง และโคจรทักษะบ่มเพาะอีกครั้ง พวกเขาปลดปลดความสามารถและพลังสายเลือดทั้งหมดออกมา เพื่อดึงดูดพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธ

 

วันเวลาค่อยๆ ผ่านไป โดยที่ครั้งนี้พฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธไม่มีการตอบสนองใดๆ แม้แต่นิดเดียว ดูเหมือนว่าหลังจากถูกกระตุ้นไปแล้วครั้งหนึ่ง ความหยิ่งทะนงของมันก็ได้เพิ่มสูงขึ้น เช่นกัน และไม่สามารถกระตุ้นใหม่อีกครั้งได้ง่ายๆ อีกต่อไป

 

สิบวัน หนึ่งเดือน สามเดือน วันเวลาผ่านพ้นไปจนเกือบจะครบร้อยวัน ในที่สุดตราประทับบนพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธก็ส่องประกายอีกครั้ง

 

ใครกันที่กระตุ้นความสนใจของมันได้?

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1981 ล่าถอย

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1981 ล่าถอย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1981 ล่าถอย

 

หลิงฮันแสดงสีหน้าไม่แยแส “ พวกเจ้าล่วงเกินข้าเกิน แต่จะไม่ให้ข้าตอบโต้กลับงั้นรึ? เรื่องสองมาตรฐานเช่นนั้นไม่อยู่บนโลก! หากจะสู้ก็เข้ามา!”

 

ซูหย่าหรงส่งเสียงคํารามดังลั่น

 

นางนํากระจกทองแดงแปลกประหลาดบานหนึ่งออกมา และส่องไปที่หลิงฮัน พริบตาเดียวกันร่างเงาร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏออกมาจากกระจก โดยที่รูปลักษณ์และออร่าของมัน เหมือนกับหลิงฮันไม่มีผิดเพี้ยน

 

“ตาย!” ร่างเงานั้นคํารามและพุ่งทะยานเข้าใส่หลิงฮัน

 

ตูม

 

หลิงฮันและร่างเงาแลกเปลี่ยนการโจมตีกัน ก่อนจะล่าถอยกันไปคนละสิบเจ็ดเก้า

 

หลิงฮันเผยสีหน้าประหลาดใจ ร่างเงานี้นอกจากจะมีรูปลักษณ์เหมือนเขาแล้ว พลังของมันยังเหมือนกับเขาด้วยงั้นรึ?

 

สมกับเป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ ช่างมีความสามารถมากมายจริงๆ

 

ซูหย่าหรงคํารามปลดปล่อยการโจมตีเข้าใส่หลิงฮัน ร่างเงาเองก็เช่นกัน มันร่วมมือกับนางโจมตีไปยังหลิงฮัน

 

ณ เวลานี้ หลิงฮันได้ถูกจอมยุทธที่ทรงพลังสองคนรุมโจมตี จนเริ่มตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

“ข้าไม่เชื่อว่าสมบัตินั่น จะคัดลอกพลังของเขาได้ทั้งหมด” หลิงฮันนําดาบอสูรนิรันดร์ออกมาและหยุดจ้องมองว่าร่างเงาตรงหน้าจะนําดาบออกมาด้วยหรือไม่

 

ซึ่งก็เป็นอย่างที่เขาคิด ร่างเงานั่นไม่ได้นําดาบออกมา แต่คัดลอกการเคลื่อนไหวของหลิงฮันโดยใช้นิ้วมือแทนดาบและกวัดแกว่งเข้าปะทะกับหลิงฮัน

 

ตูม! ตูม! ตูม!

 

หลิงฮันและจอมยุทธที่ทรงพลังอีกสองคน เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด ซูหย่าหรงนั้นไม่ต้องพูดถึง นางคืออัจฉริยะอันดับสองในหมู่รุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง แถมในอดีตยังเคย เป็นถึงราชานิรันดร์ระดับเจ็ด แน่นอนว่าพลังต่อสู้ของนางย่อมน่าสะพรึงกลัวอยู่แล้ว ส่วนร่างเงาเองก็มีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับหลิงฮัน ซึ่งบางที่อาจจะเป็นการคัดลอกด้วยอํานาจแห่งสวรรค์และปฐพี แต่กระบวนท่าที่มันใช้ออกมา ก็ยังมีความแตกต่างกับเขาอยู่เล็กน้อย

 

แต่น่าเสียดายที่กายหยาบของหลิงฮันนั้นไร้เทียมทานเกินไป ต่อให้การโจมตีของซูหย่าหรง และร่างเงามีความรุนแรงเทียบเท่าระดับตัดวิญญาณหยินสูงสุด ร่างกายของหลิงฮันก็ปรากฏบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ถ้าหากทําให้กระดูกภายในร่างของเขาแตกหักไม่ได้ ก็ไม่มีทางสร้างภัยคุกคามใดๆ ให้แก่เขา

 

“เข้ามาไม่ต้องหยุด!” หลิงฮันหัวเราะอย่างไม่หวาดกลัวที่จะต้องปะทะ

 

เขากวัดแกว่งดาบปลดปล่อยทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ออกไป ซึ่งถ้าหากร่างเงานั้นสามารถเลียนแบบได้แม้แต่ทักษะดาบนี้ล่ะก็ มันก็ดูจะน่าอัศจรรย์เกินไปหน่อย

 

เพียงแต่ถึงแม้ทักษะดาบที่ร่างเงาปลดปล่อยออกมา จะไม่ใช่ทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ แต่พลังทําลายของทักษะก็ไม่อาจประมาทได้

 

หลิงฮันหัวเราะ ไม่ว่าอย่างไรสิ่งนี้ก็เป็นเพียงสมบัติ ต่อให้มันจะเป็นสมบัติที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน มันก็สามารถคัดลอกเขาได้เพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น

 

เขาชี้นําอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารของหอคอยทมิฬ ผสานรวมเข้ากับทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ และกวัดแกว่งดาบเข้าใส่ซูหย่าหรง

 

ครืนน ดาบถูกสะบั้นออกไปอย่างรุนแรง ราวกับจะบดขยี้ผืนพิภพ

 

ซูหย่าหรงเปลี่ยนสีหน้าทันใด อํานาจของดาบนี้ทําให้จิตใจนางสั่นสะท้าน

 

นางระเบิดพลังทั้งหมดออกมา เพื่อตอบโต้หลิงฮัน

 

ตูม! ตูม! ตูม!

 

จักรพรรดิระดับแนวหน้าทั้งสองเข้าตอบโต้กันอย่างดุเดือด โดยยากที่จะแยกออกว่า ในช่วงเวลานี้ฝ่ายไหนที่ได้เปรียบ

 

หลิงฮันมั่นใจเป็นอย่างมาก หากการต่อสู้ยังคงดําเนินต่อไปเช่นนี้ ท้ายที่สุดคนที่จะคว้าชัยชนะมาได้ก็คือเขา ด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทาน ต่อให้ไม่ต้องตอบโต้อะไรเขาก็ยังคงยืนอยู่ในสถานะที่ไร้พ่าย

 

ซูหย่าหรงเองก็ตระหนักได้เช่นกัน หลังจากปะทะกันอย่างดุเดือดต่อเนื่องมาสักพัก คนที่ได้รับบาดเจ็บคือนางเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ในขณะที่หลิงฮันนั้นถึงแม้จะรับการโจมตีของนางเข้าไปก็ยังแทบไม่ปรากฏรอยแผลบนผิวหนัง

 

นางกัดฟัน ก่อนจะหันหลังและทะยานร่างจากไปทันที

 

สู้ต่อไปก็ไร้ความหมาย

 

รอให้นางทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ แล้วค่อยมาสังหารหลิงฮันก็ยังไม่สาย สําหรับเรื่องนี้นางมั่นใจเป็นอย่างมากว่านางต้องแข็งแกร่งกว่า เนื่องจากนางเคยเป็นถึงอดีตราชานิรันดร์ เมื่อบรรลุระดับแบ่งแยกวิญญาณอีกครั้ง พลังต่อสู้ของนางย่อมทรงพลังเกินกว่าที่ จอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณหน้าใหม่จะเทียบเคียงได้

 

นางจะยอมปล่อยให้รุ่นเยาว์ผู้นี้มีชีวิตต่อไปอีกสักพัก

 

หลิงฮันหยุดฝีเท้าหลังจากไล่ตามไปสองสามเก้า การป้องกันของเขาไร้เทียมทานก็จริง แต่หากเป็นในเรื่องของความเร็วในการเคลื่อนที่นั้น อีกฝ่ายที่เป็นอดีตราชานิรันดร์ย่อมเชี่ยวชาญการใช้อํานาจแห่งกฎเกณฑ์มากกว่า

 

“เอาล่ะ มาต่อกันดีกว่า” หลิงฮันหันกลับมายิ้มและกล่าว

 

ดวงตาของธิดาโร๋วส่องประกายด้วยความหลงใหล บุรุษผู้นี้ช่างยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง แต่เดิมนอกจากเขาจะเป็นราชาที่อยู่เหนือราชาคนอื่นๆ ทั้งปวงแล้ว เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็พัฒนาตนเองกลายเป็นจักรพรรดิ ที่แม้แต่อัจฉริยะอันดับหนึ่งของอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน อย่างเอี๋ยนเซียนก็ไม่อาจเทียบเคียงได้

 

พอมาถึงตอนนี้เขาก็ยังพัฒนาตนเองต่อขึ้นไปได้อีกขั้น จนแม้กระทั่งอัจฉริยะอันดับสองของสวรรค์กว่างล๋ง ก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้และทําได้เพียงหันหลังหลบหนีไป

 

ยิ่งกว่านั้นคือบุรุษผู้นี้ยังมอบหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ อันเป็นสมบัติล้ำค่าให้แก่นางจนศักยภาพของนางพัฒนาจากราชากลายมาเป็นราชาในหมู่ราชาอีกด้วย ในโลกนี้จะมีบุรุษผู้อื่นอีกหรือที่ใจกว้างขนาดนี้?

 

“ตัวอัปลักษณ์ อย่าได้คิดอะไรเพ้อฝัย หลิงฮันเป็นของหนิว!” ฮูหนิวกัดฟันไม่สบอารมณ์ เหตุใดสตรีเหล่านี้ถึงได้หน้าด้านกันขนาดนี้ นางเพียงแค่อยู่ห่างจากหลิงฮันไม่กี่ปี สตรีเหล่านี้ก็เข้ามาเกาะแกะหลิงฮันของนางเสียแล้ว

 

“มาต่อกันได้แล้ว” หลิงฮันกล่าว

 

เขาเดาได้ว่าซูหย่าหรงไม่มีทางยอมรามือง่ายๆ แน่นอน แถมที่สําคัญคือ… อีกฝ่ายมีโอกาสสูงมากด้วยที่จะครอบครองแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีได้สําเร็จ

 

เพราะว่าอีกฝ่ายเป็ยถึงร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ ที่แก่นแท้พลังของนางไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธ

 

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้ และต้องรีบครอบครองพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธให้เร็วที่สุด

 

ทั้งสี่คนนั่งลง และโคจรทักษะบ่มเพาะอีกครั้ง พวกเขาปลดปลดความสามารถและพลังสายเลือดทั้งหมดออกมา เพื่อดึงดูดพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธ

 

วันเวลาค่อยๆ ผ่านไป โดยที่ครั้งนี้พฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธไม่มีการตอบสนองใดๆ แม้แต่นิดเดียว ดูเหมือนว่าหลังจากถูกกระตุ้นไปแล้วครั้งหนึ่ง ความหยิ่งทะนงของมันก็ได้เพิ่มสูงขึ้น เช่นกัน และไม่สามารถกระตุ้นใหม่อีกครั้งได้ง่ายๆ อีกต่อไป

 

สิบวัน หนึ่งเดือน สามเดือน วันเวลาผ่านพ้นไปจนเกือบจะครบร้อยวัน ในที่สุดตราประทับบนพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธก็ส่องประกายอีกครั้ง

 

ใครกันที่กระตุ้นความสนใจของมันได้?

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+