Alchemy Emperor of the Divine Dao 2004 ค้าขายหิน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2004 ค้าขายหิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2004 ค้าขายหิน

 

“ไม่รู้ว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของข้ากับจี่อู๋หมิงยังแตกต่างกันอยู่ขนาดไหน” หลิงฮันกล่าว

 

เขาไม่เชื่อว่าจี่อู๋หมิงจะสามารถครอบครอง หินวิญญาณหยางความบริสุทธิ์สีม่วงของแท้ได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ%uid% ด้วยหินวิญญาณหยางสีม่วงที่เกิดการจากหลอมรวม ความต่างในพลังต่อสู้ระหว่างอีกฝ่ายกับเขาก็ต้องลดลงมากอยู่ดี

 

พวกหลิงฮันขุดหาหินวิญญาณหยางในช่องเขาเป็นเวลาหลายเดือน แม้พวกเขาจะพบเจอหินวิญญาณหยางฟ้าครามมากมาย แต่ก็ไม่พบเจอหินวิญญาณสีม่วงอีกเลยแม้แต่ก้อนเดียว

 

“เอาล่ะ ถึงเวลาไปทําการค้าแล้ว”

 

สตรีทั้งสี่กลับเข้าไปในหอคอยทมิฬ หลิงฮันใช้ดาบอสูรนิรันดร์ทําลายกําแพงโปร่งใสอีกครั้ง และกลับสู่ห้วงมหาสมุทร

 

หลังจากบรรลุระดับแบ่งแยกวิญญาณแล้ว กายหยาบของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก เมื่อรวมกับพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นแล้ว แรงกดดันของน้ําทะเลจึงไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขาอีกต่อไป และเพราะทะลวงผ่านในห้วงมหาสมุทรวิญญาณหยาง อํานาจสวรรค์และปฐพีของสถานที่แห่งนี้จึงไม่เพ่งเล็งเขา ไม่เช่นนั้นหากตัวตนระดับแบ่งแยกวิญญาณเข้ามาจากด้านนอกล่ะก็ คงพบเจอกับความตายสถานเดียว

 

หลิงฮันเรียกดวงวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ออกมา ทั้งสองยิ้มให้กัน ก่อนที่เพลิงเก้าสวรรค์จะเคลื่อนที่ไปในอีกทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว

 

ที่พวกเขาแยกย้ายกัน ก็เพื่อไปค้าขายหินวิญญาณหยาง

 

เมื่อว่ายกลับขึ้นมาถึงระดับน้ําที่สูงพอสมควร หลิงฮันก็นําจักรพรรดินี ฮูหนิวและธิดาโร๋วออก มาจากหอคอยทมิฬ

 

กลุ่มของพวกเขาว่ายน้ํากลับขึ้นด้านบน ในขณะที่สังหารสิ่งมีวิตที่พบเห็นทั้งหมดตลอดทาง เพราะไม่ว่าอย่างไร หลังจากสถานที่แห่งนี้ปิดตัว สิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรทั้งหมดก็ต้องตายอยู่ดี

 

“หืม มีคนอยู่ด้านหน้าด้วย” ดวงตาของหลิงฮันจดจ้องไปยังบุคคลเบื้องหน้าที่กําลังปะทะกับสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรอยู่

 

ทั้งสี่คนเคลื่อนที่ไปยังทิศทางนั้น

 

บุคคลตรงหน้ามีชื่อว่าฉื่อโตว เขาจอมยุทธที่มีศักยภาพระดับราชา ตอนที่อยู่ในอาณาเขตอันคับแคบของตนเอง ตัวเขาถูกกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะไร้ผู้ใดเปรียบ แต่หลังจากที่มาถึงมหาสมุทรวิญญาณหยาง เขาถึงได้พบว่าราชาเช่นเดียวกันเขานั้นมีอยู่มากมาย แถมยังมีราชาในหมู่ราชา หรือจักรพรรดิที่เขาทําได้เพียงแหงนมองอยู่จํานวนหนึ่งอีกด้วย

 

เขาละทิ้งความยิ่งทะนงทั้งหมดที่เคยมีทิ้งไป และไล่ล่าสังหารสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทร โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การหลอมหินวิญญาณหยางสีฟ้าใส

 

เพียงแต่ว่าปลากระทิงที่เขาพบเจออยู่ตอนนี้นั้น แข็งแกร่งมากและมีพลังต่อสู้เหนือกว่าเขา หากไม่ใช่เพราะสติปัญญาของมันตําล่ะก็ เขาคงไม่แม้แต่จะคิดที่จะปะทะด้วย

 

‘ครืนน’ ปลากระทิงพุ่งทะลวงด้วยอํานาจที่ทรงพลัง ตราประทับบนเขาอันแหลมคมทั้งสองข้างของมันส่องประกายและปลดปล่อยพลังทําลายที่น่าสะพรึงออกมา

 

ฉื่อโตวรีบรวบรวมสมาธิทั้งหมด การโจมตีของปลากระทิงรุนแรงอย่างที่เขาไม่อาจประมาทได้ เขากระหน่ําปล่อยหมัดออกไป เพื่อตอบโต้ปลากระทิง

 

หืม?

 

แต่ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ต้องชะงักทันที เนื่องจากจู่ๆ ร่างกายของปลากระทิงก็กลายเป็นแน่นิ่งไม่ขยับตัว

 

“ตูม ตูม ตูม” หมัดที่เขากระหน่ําออกไป ปะทะเข้ากับร่างที่แน่นิ่งของปลาวัวกระทิงราวกับห่าฝน และหัวของมันได้ถูกบดขยี้ออกเป็นชิ้นๆ

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

เหตุใดปลาวัวกระทิงถึงได้ไม่ตอบโต้อะไร และยอมรับความตายแต่โดยดีกัน?

 

ในขณะที่เขากําลังมึนงงอยู่นั่นเอง จู่ๆ ร่างของปลากระทิงก็กลับมาเคลื่อนไหว

 

ฉื่อโตวตกตะลึง จนดวงตาถลนออกมา

 

ปลากระทิงไม่ได้เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง แต่มันกําลังถูกใครบางคนยกอยู่

 

คนที่ยกปลาวัวกระทิงคือรุ่นเยาว์ผู้หนึ่งที่ยิ้มมาที่เขา และจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา “น้องชาย เจ้าต้องการหินวิญญาณหยางหรือไม่?”

 

ฉื่อโตวมองไปยังรุ่นเยาว์ตรงหน้าด้วยสีหน้าโง่งม และไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา

 

“โอ้ ถ้าไม่ต้องการ งั้นข้าคงต้องไปขายคนอื่นแทน” หลิงฮันโยนปลากระทิงทิ้งไป ปลาตนนี้ เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรระดับสี่นิพพานสูงสุดเท่านั้น หินวิญญาณหยางที่อยู่ในร่างของมันคงมีขนาดเล็กมาก และไม่คุ้มค่าที่จะเสียเวลาเก็บมาหลอม

 

“ระ… รอก่อน!” ฉื่อโตวไม่รู้ว่าทําไมตนเองถึงได้กล่าวออกมา และถามออกไปด้วยความคาดหวัง “ท่านมีหินวิญญาณหยางขายจริงๆ รึ? หินที่ท่านขายมีความบริสุทธิ์ระดับใด?”

 

หลิงธันยิ้มและกล่าว “อยู่ที่ว่าเจ้าสามารถจ่ายไหวแค่ไหน”

 

เขาสะบัดมือขวาที่ด้านหน้า ทันใดนั้นเองหินวิญญาณหยางมากมายที่รายเรียงกันตั้งแต่สีเขียวไปจนถึงสีฟ้าครามก็ปรากฏออกมา

 

ดวงตาของฉือโตวเบิกกว้างทันที

 

หินวิญญาณหยางสีฟ้าใสคือเป้าหมายสูงสุดของเขา แต่อีกฝ่ายกลับสามารถนําหินวิญญาณหยางสีฟ้าครามออกมาได้อย่างไม่คาดฝัน

 

เขาเกิดความคิดจะฉกชิงมันมาในตอนแรก แต่ก็ต้องล้มเพลิงความคิดนั้นในทันที

 

เพียงแค่เขาจะได้หินวิญญาณหยางสีอําพันมาครอบครอง ก็ยากลําบากเต็มทนแล้ว การที่อีกฝ่ายสามารถล่าสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรจนครอบครองหินวิญญาณหยางสีฟ้าครามได้ พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งเพียงใดกัน?

 

การจะฉกชิงมา ก็ไม่ต่างอะไรจากการแส่หาความตาย

 

เขากลืนน้ําลายและระงับความโลภเอาไว้ “ข้าต้องการซื้อหินวิญญาณหยางสีฟ้าคราม ไม่ท ราบว่ามันมีราคาเท่าไหร่?”

 

“ไม่แพงมาก เพียงแค่สิบล้านศิลาดวงดาวเท่านั้น” หลิงฮันยิ้ม “ถ้าหากมีศิลาดวงดาวไม่มากพอ เจ้าสามารถใช้แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ หรือแร่โลหะกิ่งนิรันดร์มาทดแทนได้ ตราบใดที่ข้าพึงพอใจหินวิญญาณหยางก้อนนี้ก็จะเป็นของเจ้า”

 

“ขะ… ข้าจะลองค้นดู!” ฉื่อโตวรีบกล่าวอย่างร้อนรน

 

แน่นอนว่าศิลาดวงดาวสิบล้านก้อนนั้นเป็นเงินจํานวนที่มหาศาลมาก แต่ตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ เงินทองก็สามารถหาใหม่ได้ตลอดเวลา แต่ถ้าหากเขาพลาดหินวิญญาณหยางสีฟ้าครามไป โอกาสเช่นนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกครั้ง

 

หลังจากขุดค้นทุกอย่างในตัวแล้ว ฉื่อโตวก็รวบรวมศิลาดวงดาวมาได้หกล้านกว่าก้อน เมื่อนับรวมแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ กับแร่โลหะกิ่งนิรันดร์ สมุนไพรและเม็ดยาไปด้วยแล้ว มูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดของเขาก็อยู่ที่แปดล้านศิลาดวงดาวเท่านั้น

 

เขามองไปยังหลิงฮันด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย และดวงตาอ้อนวอน

 

หลิงฮันถอนหายใจ “ก็ได้ ข้าจะขายให้เจ้า”

 

“ขอบคุณสหายมาก ขอบคุณมากจริงๆ!” ฉื่อโตวรีบแสดงความขอบคุณ และรู้สึกราวกับหลิงฮันเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

 

หลิงฮันไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว เพราะหินวิญญาณหยางไม่สามารถนําออกไปด้านนอกได้ เก็บเอาไว้ก็มีแต่จะทําให้คุณค่าของมันเสียเปล่า

 

เขาเก็บทรัพย์สมบัติทั้งหมดของฉ้อโตว และจากไปพร้อมกับสตรีทั้งสาม

 

ผ่านไปอีกไม่กี่วัน หลิงฮันก็พบเจอผู้คนอีกครั้ง

 

คราวนี้คนที่เขาเจอไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวคนเดียว แต่เป็นกลุ่มเล็กๆ เจ็ดคน ที่กําลังร่วมมือกันสังหารสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรระดับสี่นิพพานสูงสุด

 

หลิงฮันยิ้ม ดูเหมือนรอบนี้จะขายได้มากกว่าเดิม

 

‘พรึบ’ เขาก้าวทะยานไปยังทิศทางตรงหน้า และสังหารสิ่งมีชีวิตในพริบตาพร้อมกับกล่าว “พวกเจ้ามีใครต้องการซื้อหินวิญญาณหยางหรือไม่?”

 

กลุ่มคนทั้งเจ็ดร่างชะงักแข็งค้างในทันที ราวกับพวกเขากําลังพบเจอเหตุการณ์ที่น่าแปลกประหลาดที่สุดภายใต้ดวงตะวัน

 

“ข้าต้องการซื้อ!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกล่าวออกมา

 

หลิงฮันพยักหน้าและเผยรอยยิ้ม “นับว่าตัดสินใจได้ฉลาดมาก!”

 

“เดี๋ยวก่อน พวกเรายังไม่รู้แม้แต่ว่าคนผู้นี้เป็นใคร เหตุใดถึงกล้ารับข้อเสนอของเขากัน?” เสียงของใครในกลุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ

 

“เจ้าโงรึเปล่า คนผู้นี้คือหลิงฮัน อัจฉริยะที่สามารถต่อสู้ได้อย่างทัดเทียมกับยี่!”

 

“ว่าไงนะ เขาน่ะรีหลิงฮัน!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนทั้งเจ็ดก็หันไปมองหลิงฮันด้วยความยําเกรง ราวกับบุคคลตรงหน้าไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นพระเจ้าที่สูงส่ง

 

หลิงฮันไม่แยแส เขาสะบัดมือขวานําหินวิญญาณหยางจํานวนมากออกมา

 

พริบตานั้นเอง กลุ่มคนทั้งเจ็ดก็ดวงตาแข็งค้างว่างเปล่า และไม่อาจละสายตาจากหินวิญญาณหยางมากมายได้

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2004 ค้าขายหิน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2004 ค้าขายหิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2004 ค้าขายหิน

 

“ไม่รู้ว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของข้ากับจี่อู๋หมิงยังแตกต่างกันอยู่ขนาดไหน” หลิงฮันกล่าว

 

เขาไม่เชื่อว่าจี่อู๋หมิงจะสามารถครอบครอง หินวิญญาณหยางความบริสุทธิ์สีม่วงของแท้ได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ%uid% ด้วยหินวิญญาณหยางสีม่วงที่เกิดการจากหลอมรวม ความต่างในพลังต่อสู้ระหว่างอีกฝ่ายกับเขาก็ต้องลดลงมากอยู่ดี

 

พวกหลิงฮันขุดหาหินวิญญาณหยางในช่องเขาเป็นเวลาหลายเดือน แม้พวกเขาจะพบเจอหินวิญญาณหยางฟ้าครามมากมาย แต่ก็ไม่พบเจอหินวิญญาณสีม่วงอีกเลยแม้แต่ก้อนเดียว

 

“เอาล่ะ ถึงเวลาไปทําการค้าแล้ว”

 

สตรีทั้งสี่กลับเข้าไปในหอคอยทมิฬ หลิงฮันใช้ดาบอสูรนิรันดร์ทําลายกําแพงโปร่งใสอีกครั้ง และกลับสู่ห้วงมหาสมุทร

 

หลังจากบรรลุระดับแบ่งแยกวิญญาณแล้ว กายหยาบของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก เมื่อรวมกับพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นแล้ว แรงกดดันของน้ําทะเลจึงไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขาอีกต่อไป และเพราะทะลวงผ่านในห้วงมหาสมุทรวิญญาณหยาง อํานาจสวรรค์และปฐพีของสถานที่แห่งนี้จึงไม่เพ่งเล็งเขา ไม่เช่นนั้นหากตัวตนระดับแบ่งแยกวิญญาณเข้ามาจากด้านนอกล่ะก็ คงพบเจอกับความตายสถานเดียว

 

หลิงฮันเรียกดวงวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ออกมา ทั้งสองยิ้มให้กัน ก่อนที่เพลิงเก้าสวรรค์จะเคลื่อนที่ไปในอีกทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว

 

ที่พวกเขาแยกย้ายกัน ก็เพื่อไปค้าขายหินวิญญาณหยาง

 

เมื่อว่ายกลับขึ้นมาถึงระดับน้ําที่สูงพอสมควร หลิงฮันก็นําจักรพรรดินี ฮูหนิวและธิดาโร๋วออก มาจากหอคอยทมิฬ

 

กลุ่มของพวกเขาว่ายน้ํากลับขึ้นด้านบน ในขณะที่สังหารสิ่งมีวิตที่พบเห็นทั้งหมดตลอดทาง เพราะไม่ว่าอย่างไร หลังจากสถานที่แห่งนี้ปิดตัว สิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรทั้งหมดก็ต้องตายอยู่ดี

 

“หืม มีคนอยู่ด้านหน้าด้วย” ดวงตาของหลิงฮันจดจ้องไปยังบุคคลเบื้องหน้าที่กําลังปะทะกับสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรอยู่

 

ทั้งสี่คนเคลื่อนที่ไปยังทิศทางนั้น

 

บุคคลตรงหน้ามีชื่อว่าฉื่อโตว เขาจอมยุทธที่มีศักยภาพระดับราชา ตอนที่อยู่ในอาณาเขตอันคับแคบของตนเอง ตัวเขาถูกกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะไร้ผู้ใดเปรียบ แต่หลังจากที่มาถึงมหาสมุทรวิญญาณหยาง เขาถึงได้พบว่าราชาเช่นเดียวกันเขานั้นมีอยู่มากมาย แถมยังมีราชาในหมู่ราชา หรือจักรพรรดิที่เขาทําได้เพียงแหงนมองอยู่จํานวนหนึ่งอีกด้วย

 

เขาละทิ้งความยิ่งทะนงทั้งหมดที่เคยมีทิ้งไป และไล่ล่าสังหารสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทร โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การหลอมหินวิญญาณหยางสีฟ้าใส

 

เพียงแต่ว่าปลากระทิงที่เขาพบเจออยู่ตอนนี้นั้น แข็งแกร่งมากและมีพลังต่อสู้เหนือกว่าเขา หากไม่ใช่เพราะสติปัญญาของมันตําล่ะก็ เขาคงไม่แม้แต่จะคิดที่จะปะทะด้วย

 

‘ครืนน’ ปลากระทิงพุ่งทะลวงด้วยอํานาจที่ทรงพลัง ตราประทับบนเขาอันแหลมคมทั้งสองข้างของมันส่องประกายและปลดปล่อยพลังทําลายที่น่าสะพรึงออกมา

 

ฉื่อโตวรีบรวบรวมสมาธิทั้งหมด การโจมตีของปลากระทิงรุนแรงอย่างที่เขาไม่อาจประมาทได้ เขากระหน่ําปล่อยหมัดออกไป เพื่อตอบโต้ปลากระทิง

 

หืม?

 

แต่ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ต้องชะงักทันที เนื่องจากจู่ๆ ร่างกายของปลากระทิงก็กลายเป็นแน่นิ่งไม่ขยับตัว

 

“ตูม ตูม ตูม” หมัดที่เขากระหน่ําออกไป ปะทะเข้ากับร่างที่แน่นิ่งของปลาวัวกระทิงราวกับห่าฝน และหัวของมันได้ถูกบดขยี้ออกเป็นชิ้นๆ

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

เหตุใดปลาวัวกระทิงถึงได้ไม่ตอบโต้อะไร และยอมรับความตายแต่โดยดีกัน?

 

ในขณะที่เขากําลังมึนงงอยู่นั่นเอง จู่ๆ ร่างของปลากระทิงก็กลับมาเคลื่อนไหว

 

ฉื่อโตวตกตะลึง จนดวงตาถลนออกมา

 

ปลากระทิงไม่ได้เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง แต่มันกําลังถูกใครบางคนยกอยู่

 

คนที่ยกปลาวัวกระทิงคือรุ่นเยาว์ผู้หนึ่งที่ยิ้มมาที่เขา และจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา “น้องชาย เจ้าต้องการหินวิญญาณหยางหรือไม่?”

 

ฉื่อโตวมองไปยังรุ่นเยาว์ตรงหน้าด้วยสีหน้าโง่งม และไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา

 

“โอ้ ถ้าไม่ต้องการ งั้นข้าคงต้องไปขายคนอื่นแทน” หลิงฮันโยนปลากระทิงทิ้งไป ปลาตนนี้ เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรระดับสี่นิพพานสูงสุดเท่านั้น หินวิญญาณหยางที่อยู่ในร่างของมันคงมีขนาดเล็กมาก และไม่คุ้มค่าที่จะเสียเวลาเก็บมาหลอม

 

“ระ… รอก่อน!” ฉื่อโตวไม่รู้ว่าทําไมตนเองถึงได้กล่าวออกมา และถามออกไปด้วยความคาดหวัง “ท่านมีหินวิญญาณหยางขายจริงๆ รึ? หินที่ท่านขายมีความบริสุทธิ์ระดับใด?”

 

หลิงธันยิ้มและกล่าว “อยู่ที่ว่าเจ้าสามารถจ่ายไหวแค่ไหน”

 

เขาสะบัดมือขวาที่ด้านหน้า ทันใดนั้นเองหินวิญญาณหยางมากมายที่รายเรียงกันตั้งแต่สีเขียวไปจนถึงสีฟ้าครามก็ปรากฏออกมา

 

ดวงตาของฉือโตวเบิกกว้างทันที

 

หินวิญญาณหยางสีฟ้าใสคือเป้าหมายสูงสุดของเขา แต่อีกฝ่ายกลับสามารถนําหินวิญญาณหยางสีฟ้าครามออกมาได้อย่างไม่คาดฝัน

 

เขาเกิดความคิดจะฉกชิงมันมาในตอนแรก แต่ก็ต้องล้มเพลิงความคิดนั้นในทันที

 

เพียงแค่เขาจะได้หินวิญญาณหยางสีอําพันมาครอบครอง ก็ยากลําบากเต็มทนแล้ว การที่อีกฝ่ายสามารถล่าสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรจนครอบครองหินวิญญาณหยางสีฟ้าครามได้ พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งเพียงใดกัน?

 

การจะฉกชิงมา ก็ไม่ต่างอะไรจากการแส่หาความตาย

 

เขากลืนน้ําลายและระงับความโลภเอาไว้ “ข้าต้องการซื้อหินวิญญาณหยางสีฟ้าคราม ไม่ท ราบว่ามันมีราคาเท่าไหร่?”

 

“ไม่แพงมาก เพียงแค่สิบล้านศิลาดวงดาวเท่านั้น” หลิงฮันยิ้ม “ถ้าหากมีศิลาดวงดาวไม่มากพอ เจ้าสามารถใช้แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ หรือแร่โลหะกิ่งนิรันดร์มาทดแทนได้ ตราบใดที่ข้าพึงพอใจหินวิญญาณหยางก้อนนี้ก็จะเป็นของเจ้า”

 

“ขะ… ข้าจะลองค้นดู!” ฉื่อโตวรีบกล่าวอย่างร้อนรน

 

แน่นอนว่าศิลาดวงดาวสิบล้านก้อนนั้นเป็นเงินจํานวนที่มหาศาลมาก แต่ตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ เงินทองก็สามารถหาใหม่ได้ตลอดเวลา แต่ถ้าหากเขาพลาดหินวิญญาณหยางสีฟ้าครามไป โอกาสเช่นนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกครั้ง

 

หลังจากขุดค้นทุกอย่างในตัวแล้ว ฉื่อโตวก็รวบรวมศิลาดวงดาวมาได้หกล้านกว่าก้อน เมื่อนับรวมแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ กับแร่โลหะกิ่งนิรันดร์ สมุนไพรและเม็ดยาไปด้วยแล้ว มูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดของเขาก็อยู่ที่แปดล้านศิลาดวงดาวเท่านั้น

 

เขามองไปยังหลิงฮันด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย และดวงตาอ้อนวอน

 

หลิงฮันถอนหายใจ “ก็ได้ ข้าจะขายให้เจ้า”

 

“ขอบคุณสหายมาก ขอบคุณมากจริงๆ!” ฉื่อโตวรีบแสดงความขอบคุณ และรู้สึกราวกับหลิงฮันเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

 

หลิงฮันไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว เพราะหินวิญญาณหยางไม่สามารถนําออกไปด้านนอกได้ เก็บเอาไว้ก็มีแต่จะทําให้คุณค่าของมันเสียเปล่า

 

เขาเก็บทรัพย์สมบัติทั้งหมดของฉ้อโตว และจากไปพร้อมกับสตรีทั้งสาม

 

ผ่านไปอีกไม่กี่วัน หลิงฮันก็พบเจอผู้คนอีกครั้ง

 

คราวนี้คนที่เขาเจอไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวคนเดียว แต่เป็นกลุ่มเล็กๆ เจ็ดคน ที่กําลังร่วมมือกันสังหารสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรระดับสี่นิพพานสูงสุด

 

หลิงฮันยิ้ม ดูเหมือนรอบนี้จะขายได้มากกว่าเดิม

 

‘พรึบ’ เขาก้าวทะยานไปยังทิศทางตรงหน้า และสังหารสิ่งมีชีวิตในพริบตาพร้อมกับกล่าว “พวกเจ้ามีใครต้องการซื้อหินวิญญาณหยางหรือไม่?”

 

กลุ่มคนทั้งเจ็ดร่างชะงักแข็งค้างในทันที ราวกับพวกเขากําลังพบเจอเหตุการณ์ที่น่าแปลกประหลาดที่สุดภายใต้ดวงตะวัน

 

“ข้าต้องการซื้อ!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกล่าวออกมา

 

หลิงฮันพยักหน้าและเผยรอยยิ้ม “นับว่าตัดสินใจได้ฉลาดมาก!”

 

“เดี๋ยวก่อน พวกเรายังไม่รู้แม้แต่ว่าคนผู้นี้เป็นใคร เหตุใดถึงกล้ารับข้อเสนอของเขากัน?” เสียงของใครในกลุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ

 

“เจ้าโงรึเปล่า คนผู้นี้คือหลิงฮัน อัจฉริยะที่สามารถต่อสู้ได้อย่างทัดเทียมกับยี่!”

 

“ว่าไงนะ เขาน่ะรีหลิงฮัน!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนทั้งเจ็ดก็หันไปมองหลิงฮันด้วยความยําเกรง ราวกับบุคคลตรงหน้าไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นพระเจ้าที่สูงส่ง

 

หลิงฮันไม่แยแส เขาสะบัดมือขวานําหินวิญญาณหยางจํานวนมากออกมา

 

พริบตานั้นเอง กลุ่มคนทั้งเจ็ดก็ดวงตาแข็งค้างว่างเปล่า และไม่อาจละสายตาจากหินวิญญาณหยางมากมายได้

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+