Alchemy Emperor of the Divine Dao 2022 ปะทะหลันเทียนอวี่อีกครั้ง

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2022 ปะทะหลันเทียนอวี่อีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2022 ปะทะหลันเทียนอวี่อีกครั้ง

 

ผมสีดำของหลันเทียนอวี่สยายไปมาด้วยกลิ่นอายปาเถื่อนที่ดูน่าดึงดูด

 

“หลันเทียนอวี่” หลิงฮันพยักหน้าก่อนจะดึงดาบกลับ และหันหลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้

 

อื่นๆ ข้าจึงไม่ไว้ใจเจ้าและแอบจับตาดูเจ้าลับๆ มาตลอด เพราะงั้นเมื่อเห็นว่าจู่ๆ เจ้าหายตัวไป ข้าจึงได้ออกตามหาและบังเอิญมาพบเจ้าที่นี่”

 

“แล้วมันยังไง?” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส ในเมื่อถูกอีกฝ่ายพบเห็นแล้ว ก็คงต้องปะทะกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

 

คิดว่าข้ากลัวงั้นรึ?

 

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าคนเช่นเจ้าคงไม่มีทางยอมจำนนง่ายๆ ที่ก่อนหน้านี้เจ้าแสร้งทำเป็นยอมเข้าร่วมกับพวกข้า ก็คงเพราะอยากรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้สินะ แต่อย่างไรก็ตาม ข้าสงสัยจริงๆ ว่าทำไมจู่ๆ เจ้าถึงได้เกิดนึกอยากขุดหลุมลงมาใต้ดินเช่นนี้ หรือเจ้าพบเจอสิ่งใดกัน?” หลันเทียนอวี่ทำเป็นถามด้วยน้ำเสียงสงสัย

 

“พบเจอสิ่งใดนั้นรึ?” หลิงฮันยิ้มอย่างสงบนิ่ง

 

ที่หลันเทียนอวี่ถามหลิงฮันไปเช่นนั้น ก็เพราะอยากรู้ว่าหลิงฮันรู้แล้วจริงๆหรือไม่ ว่าใต้เกาะแห่งนี้มีแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพีอยู่ เพราะหากเป็นแบบนั้นก็เป็นไปได้ว่าหลิงฮันจะไม่ได้มาที่นี่คนเดียว แต่มีจอมยุทธที่ทรงพลังอยู่เบื้องหลังด้วย ถึงได้รับรู้การมีอยู่ของแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพี่ได้

 

ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นจริง พวกเขาคงไม่สามารถรับมือไหวแน่ เพราะเจ้าของเกาะเป็นเพียงตัวตนที่เทียบกับระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้เท่านั้น แต่เหนือไปกว่านี้ยังมีราชานิรันดร์อยู่อีก

 

“ใต้ล่างนี้ มีแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพีอยู่” หลันเทียนอวี่กล่าวพร้อมกับจดจ้องไปที่ใบหน้าของหลิงฮัน เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของสีหน้า

 

หลิงฮันไม่แสดงท่าทางอะไร และกล่าวกลับไป “ข้าเองก็สงสัยเหมือนกัน พลังบ่มเพาะของพี่ชายเจ้าคือระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้แท้ๆ แต่เหตุใดพลังของเจ้าถึงติดอยู่ในระดับแบ่งแยกวิญญาณกัน?”

 

หลันเทียนอวี่เค้นเสียงไม่สบอารมณ์ “ที่พลังบ่มเพาะของพัฒนาช้า เป็นเพราะข้าขัดเกลาทุกขั้นพลังให้บรรลุจุดที่สมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อข้าบรรลุระดับเก้าบัวบาน พลังต่อสู้ของข้าก็จะแข็งแกร่งเทียบเท่าระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ ซึ่งข้าจะไร้เทียมทานยิ่งกว่าใครในระดับเดียวกัน”

 

หลิงฮันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ข้าว่าเจ้าจะไม่หลงตัวเองเกินไปหน่อยรึ? พรสวรรค์ของเจ้าเทียบได้แค่กับราชาทั่วไป ที่เกือบจะทัดเทียมกับราชาในหมู่ราชาเท่านั้น หากหยิบยืมจากภายนอกมาใช้ไม่ได้ เจ้าจะมีคุณสมบัติอะไรมากล่าวว่าตนเองไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน?”

 

“เศษสวะเช่นเจ้า สามารถพบเห็นได้มากมายในดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออก”

 

คำพูดของหลิงฮันค่อนข้างจะเกินจริงไปหน่อย อัจฉริยะที่มีศักยภาพระดับราชานั้นไม่ได้มีจำนวนมากมาย แต่เพราะหลิงฮันเป็นจักรพรรดิที่เคยพบปะแต่กับอัจฉริยะในระดับใกล้เคียงกัน ในความคิดของเขา จอมยุทธพรสวรรค์อย่างหลันเทียนอวี่จึงมีให้เห็นเต็มไปหมด

 

หลันเทียนอวี่เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที เขามองไปยังหลิงฮันด้วยแววตาโหดเหี้ยมและใบหน้าเคียดแค้น

 

เขาภาคภูมิในใจพรสวรรค์ของตนเองมาโดยตลอด และคิดว่าในยุทธภพนี้ไม่มีใครยอดเยี่ยมไปกว่าตนเอง ซึ่งเป็นเพราะเขาต้องอาศัยอยู่ในเกาะอันสันโดษแห่งนี้ต่างหาก ชื่อเสียงของเขาจึงไม่แพร่งพรายไปทั่วยุทธภพ

 

แต่หลิงขั้นบังอาจดูหมิ่นพรสวรรค์ที่เขาภาคภูมิใจ?

 

“เจ้ากล้าตั้งคำถามกับพรสวรรค์ของข้างั้นรึ?” ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราด

 

หลิงฮันยิ้ม “ตอนนี้ระดับพลังบ่มเพาะของข้าคือตัดวิญญาณหยางขั้นปลาย แต่ระดับพลังของเจ้าล่ะเทียบเท่ากับระดับใด? ขนาดหยิบยืมพลังจากดวงวิญญาณนิรันดร์อะไรนั่น เจ้าก็ยังทำได้เพียงเสมอกับข้า ต่อหน้าข้า เจ้ามีคุณสมบัติมาพล่ามถึงพรสวรรค์รีไง?”

 

หลันเทียนอวี่แน่นิ่งไร้คำพูด พลังบ่มเพาะของเขาเทียบได้กับระดับติดวิญญาณหยินสูงสุด หากไม่มีวาสนาจากดวงวิญญาณนิรันดร์ พลังต่อสู้ของเขาอาจจะไร้เทียมทานในระดับตัดวิญญาณปฐพี แต่ไม่มีทางอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์แน่

 

เมื่อเทียบกับหลิงฮันแล้ว พรสวรรค์ของเข้าถือว่าด้อยกว่ามากจริงๆ

แต่ถ้าหากด้อยกว่าก็แค่กำจัดคนที่ยอดเยี่ยมกว่าทิ้งไปซะ ก็จะไม่มีใครเหนือไปกว่าเขาแล้ว

 

“ตอนแรกข้ายังคิดจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับรนหาที่ตายเองเสียนี่” หลันเทียนอวี่กล่าวด้วยสีหน้ามืดมน

 

หลิงฮันหัวเราะ และสะบัดดาบอสูรนิรันดร์ในมือเบาๆ “งั้นก็มาสู้กัน”

 

เขาพุ่งทะยานร่างและโจมตีใส่หลันเทียนอวี่อย่างรวดเร็ว

 

ที่เขายอมให้อีกฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เพราะพลังของเขาด้อยกว่า แต่เป็นเพราะเขาไม่ต้องการเผยไม่ลับออกไปทั้งหมด เพียงแต่การต่อสู้ในครั้งนี้คือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตเขาจึงไม่คิดจะออมมือ และจะใช้ทุกอย่างเพื่อสังหารอีกฝ่าย

 

ที่สำคัญคือดาบอสูรนิรันดร์ได้ยกระดับขึ้นเป็นอุปกรณ์นิรันดร์สี่ดาวแล้ว ซึ่งเทียบเท่าได้กับระดับตัดวิญญาณสวรรค์

 

ฉึบ เมื่อดาบถูกสะบั้นออกไป ชั้นดินและก้อนกรวดรอบด้านก็ถูกบดขยี้ไม่เหลือซาก

 

หลันเทียนอวี่ตกตะลึง พลังบ่มเพาะของหลิงฮันไม่เปลี่ยนไปจากเดิมแม้แต่น้อย แต่พลังต่อสู้กลับเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวอย่างไม่น่าเป็นไปได้

 

ดาบเล่มนั้น!

 

“แค่ดาบเล่มเดียว กับสามารถทำให้พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นมากมายขนาดนี้ได้ ช่างน่าอัศจรรย์!” หลันเทียนอวี่รู้สึกริษยา ไม่เพียงแค่พรสวรรค์ของหลิงฮันเท่านั้นที่เหนือกว่าเขา แต่ยังโชคดีได้ครอบครองดาบที่ทรงพลังอีกด้วย

 

“มันต้องเป็นของข้า!” หลันเทียนอวี่คำราม ครืนน” ทั่วร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยออร่าทมิฬ และสัญลักษณ์ดอกบัวสีดำเจ็ดกลีบได้ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเขา ก่อนจะโจมตีตอบโต้หลิงฮัน

 

ตูม!

 

ร่างของหลันเทียนอวี่ถูกดาบของหลิงฮันชัดกระเด็นเข้าใส่กำแพง และรู้สึกกระอักกระอ่วนเกินพรรณนา

 

หลิงฮันพุ่งทะยานกวัดแกว่งดาบต่อเนื่อง โดยไม่ปล่อยให้เขาได้มีเวลาตั้งตัว หลันเทียนอวี่ทำให้เพียงคำรามเสียงดัง และพ่นควันสีดำออกมาจากปาก ก่อนที่ควันจะแปรสภาพกลายเป็นคลื่นพลังที่รุนแรง และมีตราประทับสีดำพรั่งพรูออกมา

 

ตราประทับที่ปรากฏขึ้นคือตราประทับแห่งเต๋า แต่หลิงฮันมั่นใจมากว่ามันแตกต่างจากตราประทับแห่งเต๋แห่งสวรรค์และปฐพี่ที่เขารู้จัก

 

หลิงฮันสัมผัสได้ พลังงานลึกลับจากด้านบนในทิศทางของปราสาท ได้ถูกส่งมาผสานรวมเข้ากับตราประทับ ทำให้อำนาจของตราประทับสีดำตรงหน้าแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น

 

“ครืนนนน” คลื่นพลังของตราประทับสีดำพุ่งทะลวงเข้ามาอย่างน่าสะพรึงกลัว

 

หลิงฮันเค้นเสียง เขายกมือซ้ายขึ้นและกัดหมัดตอบโต้ “ปัง” เมื่อการโจมตีทั้งสองเข้าปะทะกัน หลุมที่ถูกขุดขึ้นชั่วคราวก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

“ฮ่าๆๆ พลังของเจ้ามันก็แค่เท่านั้น คอยดูว่าข้าจะเด็ดศีรษะของเจ้าอย่างไร” หลันเทียนอวี่หัวเราะ นอกจากดาบอสูรนิรันดร์ในมือหลิงฮันแล้ว พลังต่อสู้ของหลิงฮันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย

 

“อย่างงั้นรึ?” หลิงฮันกระหน่ำปล่อยหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่หลบหลีกการโจมตีใดๆ ที่หลันเทียนอวี่จู่โจมเข้ามา และตอบโต้กลับไปตรงๆ

 

เขายังต้องรีบไปทำการครอบครองแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพี จึงไม่มีอารมณ์จะมาเสียเวลาอยู่กับอีกฝ่าย

 

เพราะงั้นเขาจึงต้องการจบการต่อสู้และปลิดชีพอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด

 

“ช่างรนหาที่ตาย!” หลันเทียนอวี่แสยะยิ้ม เขามีพลังของดวงวิญญาณนิรันดร์คุ้มกันร่างกายอยู่ พลังป้องกันของเขาจึงแข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงกลัว

 

“หวังว่าเจ้าจะปากดีไปได้ตลอด” หลิงฮันยิ้ม

 

ตูม! ตูม ตูม!

 

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่าไปหลายสิบหมัด ใบหน้าของหลันเทียนอวี่ก็กลายเป็นซีดเผือดด้วยความตะลึง เนื่องจากกระดูกภายในร่างของเขาเกิดเสียงสั่นเครืออย่างรุนแรงแล้ว แต่หลิงฮันกลับไม่เป็นอะไรเลย

 

เป็นไปได้อย่างไร?

 

“เจ้า…. เจ้าสวมใส่ชุดเกราะแบบใดอยู่กันแน่!” เขาไม่กล้าเข้าปะทะกับหลิงฮันอีกต่อไป

 

และคิดเหตุผลออกว่า การที่หลิงฮันจะมีพลังป้องกันแข็งแกร่งไปกว่าเขาได้ ย่อมมีเพียงความเป็นไปได้เดียว

 

หลิงฮันแสยะยิ้ม เขาไม่เสียเวลาพล่ามไร้สาระและทำการเรียกดวงวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ออกมา

 

ร่างของเขาเคลื่อนไหวปลดปล่อยกระบวนท่าทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ ในขณะที่ร่างของดวงวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ พรั่งพรูไปด้วยเปลวเพลิงที่รุนแรงจนแทบจะแผดเผาสวรรค์และปฐพี

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2022 ปะทะหลันเทียนอวี่อีกครั้ง

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2022 ปะทะหลันเทียนอวี่อีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2022 ปะทะหลันเทียนอวี่อีกครั้ง

 

ผมสีดำของหลันเทียนอวี่สยายไปมาด้วยกลิ่นอายปาเถื่อนที่ดูน่าดึงดูด

 

“หลันเทียนอวี่” หลิงฮันพยักหน้าก่อนจะดึงดาบกลับ และหันหลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้

 

อื่นๆ ข้าจึงไม่ไว้ใจเจ้าและแอบจับตาดูเจ้าลับๆ มาตลอด เพราะงั้นเมื่อเห็นว่าจู่ๆ เจ้าหายตัวไป ข้าจึงได้ออกตามหาและบังเอิญมาพบเจ้าที่นี่”

 

“แล้วมันยังไง?” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส ในเมื่อถูกอีกฝ่ายพบเห็นแล้ว ก็คงต้องปะทะกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

 

คิดว่าข้ากลัวงั้นรึ?

 

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าคนเช่นเจ้าคงไม่มีทางยอมจำนนง่ายๆ ที่ก่อนหน้านี้เจ้าแสร้งทำเป็นยอมเข้าร่วมกับพวกข้า ก็คงเพราะอยากรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้สินะ แต่อย่างไรก็ตาม ข้าสงสัยจริงๆ ว่าทำไมจู่ๆ เจ้าถึงได้เกิดนึกอยากขุดหลุมลงมาใต้ดินเช่นนี้ หรือเจ้าพบเจอสิ่งใดกัน?” หลันเทียนอวี่ทำเป็นถามด้วยน้ำเสียงสงสัย

 

“พบเจอสิ่งใดนั้นรึ?” หลิงฮันยิ้มอย่างสงบนิ่ง

 

ที่หลันเทียนอวี่ถามหลิงฮันไปเช่นนั้น ก็เพราะอยากรู้ว่าหลิงฮันรู้แล้วจริงๆหรือไม่ ว่าใต้เกาะแห่งนี้มีแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพีอยู่ เพราะหากเป็นแบบนั้นก็เป็นไปได้ว่าหลิงฮันจะไม่ได้มาที่นี่คนเดียว แต่มีจอมยุทธที่ทรงพลังอยู่เบื้องหลังด้วย ถึงได้รับรู้การมีอยู่ของแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพี่ได้

 

ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นจริง พวกเขาคงไม่สามารถรับมือไหวแน่ เพราะเจ้าของเกาะเป็นเพียงตัวตนที่เทียบกับระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้เท่านั้น แต่เหนือไปกว่านี้ยังมีราชานิรันดร์อยู่อีก

 

“ใต้ล่างนี้ มีแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพีอยู่” หลันเทียนอวี่กล่าวพร้อมกับจดจ้องไปที่ใบหน้าของหลิงฮัน เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของสีหน้า

 

หลิงฮันไม่แสดงท่าทางอะไร และกล่าวกลับไป “ข้าเองก็สงสัยเหมือนกัน พลังบ่มเพาะของพี่ชายเจ้าคือระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้แท้ๆ แต่เหตุใดพลังของเจ้าถึงติดอยู่ในระดับแบ่งแยกวิญญาณกัน?”

 

หลันเทียนอวี่เค้นเสียงไม่สบอารมณ์ “ที่พลังบ่มเพาะของพัฒนาช้า เป็นเพราะข้าขัดเกลาทุกขั้นพลังให้บรรลุจุดที่สมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อข้าบรรลุระดับเก้าบัวบาน พลังต่อสู้ของข้าก็จะแข็งแกร่งเทียบเท่าระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ ซึ่งข้าจะไร้เทียมทานยิ่งกว่าใครในระดับเดียวกัน”

 

หลิงฮันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ข้าว่าเจ้าจะไม่หลงตัวเองเกินไปหน่อยรึ? พรสวรรค์ของเจ้าเทียบได้แค่กับราชาทั่วไป ที่เกือบจะทัดเทียมกับราชาในหมู่ราชาเท่านั้น หากหยิบยืมจากภายนอกมาใช้ไม่ได้ เจ้าจะมีคุณสมบัติอะไรมากล่าวว่าตนเองไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน?”

 

“เศษสวะเช่นเจ้า สามารถพบเห็นได้มากมายในดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออก”

 

คำพูดของหลิงฮันค่อนข้างจะเกินจริงไปหน่อย อัจฉริยะที่มีศักยภาพระดับราชานั้นไม่ได้มีจำนวนมากมาย แต่เพราะหลิงฮันเป็นจักรพรรดิที่เคยพบปะแต่กับอัจฉริยะในระดับใกล้เคียงกัน ในความคิดของเขา จอมยุทธพรสวรรค์อย่างหลันเทียนอวี่จึงมีให้เห็นเต็มไปหมด

 

หลันเทียนอวี่เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที เขามองไปยังหลิงฮันด้วยแววตาโหดเหี้ยมและใบหน้าเคียดแค้น

 

เขาภาคภูมิในใจพรสวรรค์ของตนเองมาโดยตลอด และคิดว่าในยุทธภพนี้ไม่มีใครยอดเยี่ยมไปกว่าตนเอง ซึ่งเป็นเพราะเขาต้องอาศัยอยู่ในเกาะอันสันโดษแห่งนี้ต่างหาก ชื่อเสียงของเขาจึงไม่แพร่งพรายไปทั่วยุทธภพ

 

แต่หลิงขั้นบังอาจดูหมิ่นพรสวรรค์ที่เขาภาคภูมิใจ?

 

“เจ้ากล้าตั้งคำถามกับพรสวรรค์ของข้างั้นรึ?” ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราด

 

หลิงฮันยิ้ม “ตอนนี้ระดับพลังบ่มเพาะของข้าคือตัดวิญญาณหยางขั้นปลาย แต่ระดับพลังของเจ้าล่ะเทียบเท่ากับระดับใด? ขนาดหยิบยืมพลังจากดวงวิญญาณนิรันดร์อะไรนั่น เจ้าก็ยังทำได้เพียงเสมอกับข้า ต่อหน้าข้า เจ้ามีคุณสมบัติมาพล่ามถึงพรสวรรค์รีไง?”

 

หลันเทียนอวี่แน่นิ่งไร้คำพูด พลังบ่มเพาะของเขาเทียบได้กับระดับติดวิญญาณหยินสูงสุด หากไม่มีวาสนาจากดวงวิญญาณนิรันดร์ พลังต่อสู้ของเขาอาจจะไร้เทียมทานในระดับตัดวิญญาณปฐพี แต่ไม่มีทางอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์แน่

 

เมื่อเทียบกับหลิงฮันแล้ว พรสวรรค์ของเข้าถือว่าด้อยกว่ามากจริงๆ

แต่ถ้าหากด้อยกว่าก็แค่กำจัดคนที่ยอดเยี่ยมกว่าทิ้งไปซะ ก็จะไม่มีใครเหนือไปกว่าเขาแล้ว

 

“ตอนแรกข้ายังคิดจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับรนหาที่ตายเองเสียนี่” หลันเทียนอวี่กล่าวด้วยสีหน้ามืดมน

 

หลิงฮันหัวเราะ และสะบัดดาบอสูรนิรันดร์ในมือเบาๆ “งั้นก็มาสู้กัน”

 

เขาพุ่งทะยานร่างและโจมตีใส่หลันเทียนอวี่อย่างรวดเร็ว

 

ที่เขายอมให้อีกฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เพราะพลังของเขาด้อยกว่า แต่เป็นเพราะเขาไม่ต้องการเผยไม่ลับออกไปทั้งหมด เพียงแต่การต่อสู้ในครั้งนี้คือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตเขาจึงไม่คิดจะออมมือ และจะใช้ทุกอย่างเพื่อสังหารอีกฝ่าย

 

ที่สำคัญคือดาบอสูรนิรันดร์ได้ยกระดับขึ้นเป็นอุปกรณ์นิรันดร์สี่ดาวแล้ว ซึ่งเทียบเท่าได้กับระดับตัดวิญญาณสวรรค์

 

ฉึบ เมื่อดาบถูกสะบั้นออกไป ชั้นดินและก้อนกรวดรอบด้านก็ถูกบดขยี้ไม่เหลือซาก

 

หลันเทียนอวี่ตกตะลึง พลังบ่มเพาะของหลิงฮันไม่เปลี่ยนไปจากเดิมแม้แต่น้อย แต่พลังต่อสู้กลับเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวอย่างไม่น่าเป็นไปได้

 

ดาบเล่มนั้น!

 

“แค่ดาบเล่มเดียว กับสามารถทำให้พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นมากมายขนาดนี้ได้ ช่างน่าอัศจรรย์!” หลันเทียนอวี่รู้สึกริษยา ไม่เพียงแค่พรสวรรค์ของหลิงฮันเท่านั้นที่เหนือกว่าเขา แต่ยังโชคดีได้ครอบครองดาบที่ทรงพลังอีกด้วย

 

“มันต้องเป็นของข้า!” หลันเทียนอวี่คำราม ครืนน” ทั่วร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยออร่าทมิฬ และสัญลักษณ์ดอกบัวสีดำเจ็ดกลีบได้ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเขา ก่อนจะโจมตีตอบโต้หลิงฮัน

 

ตูม!

 

ร่างของหลันเทียนอวี่ถูกดาบของหลิงฮันชัดกระเด็นเข้าใส่กำแพง และรู้สึกกระอักกระอ่วนเกินพรรณนา

 

หลิงฮันพุ่งทะยานกวัดแกว่งดาบต่อเนื่อง โดยไม่ปล่อยให้เขาได้มีเวลาตั้งตัว หลันเทียนอวี่ทำให้เพียงคำรามเสียงดัง และพ่นควันสีดำออกมาจากปาก ก่อนที่ควันจะแปรสภาพกลายเป็นคลื่นพลังที่รุนแรง และมีตราประทับสีดำพรั่งพรูออกมา

 

ตราประทับที่ปรากฏขึ้นคือตราประทับแห่งเต๋า แต่หลิงฮันมั่นใจมากว่ามันแตกต่างจากตราประทับแห่งเต๋แห่งสวรรค์และปฐพี่ที่เขารู้จัก

 

หลิงฮันสัมผัสได้ พลังงานลึกลับจากด้านบนในทิศทางของปราสาท ได้ถูกส่งมาผสานรวมเข้ากับตราประทับ ทำให้อำนาจของตราประทับสีดำตรงหน้าแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น

 

“ครืนนนน” คลื่นพลังของตราประทับสีดำพุ่งทะลวงเข้ามาอย่างน่าสะพรึงกลัว

 

หลิงฮันเค้นเสียง เขายกมือซ้ายขึ้นและกัดหมัดตอบโต้ “ปัง” เมื่อการโจมตีทั้งสองเข้าปะทะกัน หลุมที่ถูกขุดขึ้นชั่วคราวก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

“ฮ่าๆๆ พลังของเจ้ามันก็แค่เท่านั้น คอยดูว่าข้าจะเด็ดศีรษะของเจ้าอย่างไร” หลันเทียนอวี่หัวเราะ นอกจากดาบอสูรนิรันดร์ในมือหลิงฮันแล้ว พลังต่อสู้ของหลิงฮันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย

 

“อย่างงั้นรึ?” หลิงฮันกระหน่ำปล่อยหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่หลบหลีกการโจมตีใดๆ ที่หลันเทียนอวี่จู่โจมเข้ามา และตอบโต้กลับไปตรงๆ

 

เขายังต้องรีบไปทำการครอบครองแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพี จึงไม่มีอารมณ์จะมาเสียเวลาอยู่กับอีกฝ่าย

 

เพราะงั้นเขาจึงต้องการจบการต่อสู้และปลิดชีพอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด

 

“ช่างรนหาที่ตาย!” หลันเทียนอวี่แสยะยิ้ม เขามีพลังของดวงวิญญาณนิรันดร์คุ้มกันร่างกายอยู่ พลังป้องกันของเขาจึงแข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงกลัว

 

“หวังว่าเจ้าจะปากดีไปได้ตลอด” หลิงฮันยิ้ม

 

ตูม! ตูม ตูม!

 

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่าไปหลายสิบหมัด ใบหน้าของหลันเทียนอวี่ก็กลายเป็นซีดเผือดด้วยความตะลึง เนื่องจากกระดูกภายในร่างของเขาเกิดเสียงสั่นเครืออย่างรุนแรงแล้ว แต่หลิงฮันกลับไม่เป็นอะไรเลย

 

เป็นไปได้อย่างไร?

 

“เจ้า…. เจ้าสวมใส่ชุดเกราะแบบใดอยู่กันแน่!” เขาไม่กล้าเข้าปะทะกับหลิงฮันอีกต่อไป

 

และคิดเหตุผลออกว่า การที่หลิงฮันจะมีพลังป้องกันแข็งแกร่งไปกว่าเขาได้ ย่อมมีเพียงความเป็นไปได้เดียว

 

หลิงฮันแสยะยิ้ม เขาไม่เสียเวลาพล่ามไร้สาระและทำการเรียกดวงวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ออกมา

 

ร่างของเขาเคลื่อนไหวปลดปล่อยกระบวนท่าทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ ในขณะที่ร่างของดวงวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ พรั่งพรูไปด้วยเปลวเพลิงที่รุนแรงจนแทบจะแผดเผาสวรรค์และปฐพี

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+