Alchemy Emperor of the Divine Dao 2029 สะสางเสร็จสิ้น

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2029 สะสางเสร็จสิ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2029 สะสางเสร็จสิ้น

 

การลงมือในครั้งนี้ส่งผลให้คนกว่าร้อยคนศีรษะหลุดร่วงลงมาจากบ่า และเกิดเป็นสายน้ําโลหิต

 

เมื่อพิธีสังเวยโลหิตหวนคืนกลับมา พลังต่อสู้ของเธอหยวนหวาและหลันเทียนหลงก็พุ่งทะยานสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ จนสามารถกําราบเสี่ยวภู่ได้

 

“ทักษะโซ่ตรวจยึดปฐพี!” ทั้งสองคนคํารามพร้อมกับที่บริเวณนิ้วมือทั้งห้า มีเส้นด้ายสีดํายืดออกมาและรัดทั่วร่างของเสี่ยวเอาไว้ ทําให้เสียวก่ขยับตัวไม่ได้

 

แม้จะสังหารไม่ได้ แต่หากสามารถกักขังเอาไว้แบบนี้ไปตลอดเวลา พวกเขาก็จะเคลื่อนย้ายร่างของเสี่ยวไปให้ปรมาจารย์ของนิกายลงมือซะ เมื่อเป็นแบบนั้นกระดูกฆ่าไม่ตายตนนี้จะต้องบดขยื้อย่างราบคาบ

 

เสียวกู้ดิ้นรนแต่ก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้

 

“แล้วก็เจ้าหนูนั่น!” หลันเทียนหยางหันไปมองหลิงฮัน

 

เจ้าหนูนี่ก็ต้องนํากลับนิกายไปด้วยเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายมีแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรมุขสั่งการว่าต้องครอบครองให้ได้

 

“ข้าลงมือเอง!” เธอหยวนหวาก้าวเดินไปยังหลิงฮัน

 

เขาคือปรมาจารย์ระดับเก้าบัวบาน ซึ่งเทียบได้กับตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ เพียงแค่หนึ่งความคิดก็สามารถสังหารหลิงฮันได้หลายร้อยครั้งแล้ว

 

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้าว่าพวกเจ้าสะสางปัญหาของตัวเองให้เสร็จก่อนจะดีกว่า!”

ว่าไงนะ?

 

เชอหยวนหวาและหลันเทียนหยางหันกลับไปมองเสี่ยวภู่ พวกเขาพบว่าร่างกายของอีกฝ่ายกําลังส่องประกายแสงเจิดจ้า และมีตราประทับถูกควบแน่นขึ้นมา

 

“พรึบ” ตราประทับนั่นพรั่งพรูออกมาจากร่างของเสี่ยว อยู่บนร่างของมันทิ้งทันที

 

พร้อมกับทําลายเส้นด้ายที่พัวพัน

 

เสี่ยวเป็นอิสระแล้ว

 

“ยี่ ย่า ย่า!” มันคํารามอย่างเกรี้ยวกราดและโจมตีอย่างรุนแรงเข้าใส่เหอหยวนหวาและหลันเทียนหยางอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้มันถึงขนาดนํากระดูกภายในร่างออกมาใช้ด้วย

 

บนกระดูกของมัน ตราประทับของราชานิรันดร์กําลังส่องประกายแสงเจิดจ้า

 

กระดูกท่อนนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นอุปกรณ์นิรันดร์ ซึ่งพลังของว่าน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก เพียงแค่กวัดแกว่งสวรรค์และปฐพีกราวกับจะพังทลาย ท้องฟ้าเกิดการสั่นสะเทือนและมีดวงดาวตกลงมา

 

ทีนี้พวกเขอหยวนหวาจะรับมือได้อย่างไร?

 

แม้ทั้งสองจะยังไม่ถูกท่อนกระดูกโจมตีใส่ แต่เพียงแค่คลื่นพลังผันผวนทางอากาศที่อัดเข้าใส่ก็ส่งผลให้ทั้งสองคนกระอักโลหิตออกมาไม่หยุด

 

“ล่าถอย!” เธอหยวนหวาและหลันเทียนหยางหันหลันหลบหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย สิ่งที่พวกเขากําลังเผชิญอยู่ในตอนนี้คืออุปกรณ์นิรันดร์ที่ถูกกระตุ้นพลังอย่างสมบูรณ์ ซึ่งไม่มีทางที่พวกเขาจะต้านทานไหว

 

เพียงแต่แม้คิดจะหนีก็สายไปแล้ว เสี่ยวภู่กวัดแกว่งแท่งกระดูกปลดปล่อยคลื่นพลังนิรันดร์ส่องสกาวไปถึงเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า

 

ตูม!

 

เพียงแค่ไม่กี่กระบวนท่า แขนของเธอหยวนหวาก็ถูกตัดขาด ในขณะที่หลันเทียนหยางสูญเสียข้าไปหนึ่งข้าง

 

แต่ปรมาจารย์ทั้งสองก็ไม่คิดสนใจบาดแผลที่เกิดขึ้น ตราบใดที่พวกเขาเอาชีวิตรอดไปได้ จะแขนหรือขาที่เสียไปก็สามารถงอกกลับมาใหม่ได้อีกครั้ง

 

น่าเสียดายที่เสี่ยวไม่คิดมอบโอกาสให้พวกเขา

 

ทันทีที่แท่งกระดูกราชานิรันดร์ถูกกวัดแกว่ง ก็ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งมันได้

 

หลิงฮันเองก็ไม่เมตตา เขาโจมตีสังหารไปยังพวกเซียวจนและคนอื่นๆ อย่างบ้าคลั่ง เพื่อสะสางปัญหาให้จบสิ้นไปซะ

 

“อ้ากกก!”

 

เสียงร้องโอดครวญของเชอหยวนหวาและหลันเทียนหยางดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้เมื่ออํานาจระดับราชานิรันดร์ถูกใช้ออกมาแล้ว มีรึที่ปรมาจารย์ระดับเก้าบานจะต้านทานไหว?

 

ผลลัพธ์มีเพียงความตาย

 

เวลาผ่านไปไม่นาน เหล่าจอมยุทธบนเกาะก็ถูกสังหารหมดสิ้น และมีเพียงสามคนที่ยังรอดชีวิต

 

หลิงฮัน เสี่ยวภู่ และฉินเหว่ย

 

ที่ฉินเหว่ยยังมีชีวิตรอดเป็นเพราะเขาคือตัวตนระดับตําหนักอมตะ ทําให้สามารถรับมือกับการโจมตีของปรมาจารย์แปดบัวบานได้ และเนื่องจากเขาเป็น “จอมยุทธทั่วไป จึงไม่ตกเป็นเป้าหมายของเสียว

 

แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเสี่ยวคู่ก็กลายเป็นน่าเกลียด สายตาของเขาจดจ้องไปยังเสี่ยวด้วยความหวาดกลัว

 

“เสี่ยวภู่ ไม่ได้พบกันเสียนาน” หลิงฮันยิ้มไปยังเสี่ยว

 

“ยี่ ย่า ย่า” ท่าที่โหดเหี้ยมของเสียวกู้ไม่หลงเหลืออีกต่อไป และยิ้มให้กับหลิงฮัน “เสี่ยวภู่ ไม่ได้พบกันเสียนาน”

 

เห้อ เริ่มเลียนแบบคําพูดอีกแล้ว

 

หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “เสี่ยวภู่ เจ้ามาที่ดินแดนแห่งเซียนได้อย่างไร?”

 

“เสี่ยวภู่ เจ้ามา…” เสี่ยวคู่เลียนแบบคําพูด

 

เวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว เจ้ายังเรียนรู้ที่จะพูดด้วยตัวเองไม่ได้อีกงั้นรึ?

 

“เหตุใดพลังของเจ้าถึงได้เพิ่มขึ้นรวดเร็วขนาดนี้?” หลิงฮันเอ่ยถามอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้

 

“เหตุใดพลังของเจ้า…”

 

หลิงฮันถอนหายใจ “เห้อ…”

 

เสียวกู่เองก็ถอนหายใจ “เห้อ”

 

หลิงฮันครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพบว่า การที่เสี่ยวภู่จะมาดินแดนแห่งเซียนได้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ตราบใดที่มีพลังแข็งแกร่งพอก็จะสามารถเปิดประตูสู่ดินแดนแห่งเซียนได้ ปัญหาก็คือเหตุผลพลังของอีกฝ่ายถึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้

 

แต่เมื่อคิดไปคิดมา อีกฝ่ายนั้นไม่ใช้มนุษย์แต่เป็นเพียงแต่ท่อนกระดูก ซึ่งที่เรียกว่าคอขวดของระดับพลังจึงไม่มีอยู่

 

“เสี่ยว ข้าจะสื่อสารกับเจ้าได้อย่างไร?” หลิงฮันอยากรู้เรื่องราวของเสี่ยวในชีวิตที่แล้วอีกฝ่ายจะต้องเป็นเคยเป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์แน่นอน แต่เหตุใดถึงได้เสียชีวิตกัน?

 

แถมอีกฝ่ายก็ยังเกลียดจอมยุทธที่บ่มเพาะรูปแบบพลังที่แตกต่างเข้าเส้นอีกด้วย ไม่รู้ว่าในตอนที่จะเสียชีวิตเสี่ยวคู่พบเจอประสบการณ์แบบใดมากันแน่?

 

น่าเสียดายที่เกี่ยวกู้รู้แค่วิธีการพูด ยี่ ย่า ย่า กับเลียนแบบคําพูดเท่านั้น มันไม่สามารถส่งผ่านความคิดใดๆ ออกมาได้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

ที่นี้เขาต้องรอหวไห่หรงงั้นรึ?

 

หลิงฮันลบรูปแบบอาคมที่ติดตั้งอยู่บนเกาะ เพื่อที่หวไห่หรงจะได้ไม่มองข้ามเกาะนี้ในตอนที่เคลื่อนที่ผ่านมา แต่บางที่หวไห่หรงก็อาจจะค้นหาบริเวณแห่งนี้ไปแล้วก็ได้ ด้วยความมั่นใจของราชานิรันดร์ นางจะต้องไม่กลับมาค้นหาบริเวณนี้ใหม่อีกครั้งแน่นอน

 

อย่างไรก็รอไปก่อน เพราะเขาเองก็รู้สึกสนใจรูปปั้นทั้งสองหน้าปราสาทเป็นอย่างมาก

 

ปัง! ปัง!

 

แต่หลิงฮันก็ต้องชะงักทันที เพราะเสียวกูไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้ศึกษาพวกมันแม้แต่น้อยทันทีที่เห็นรูปปั้นทั้งสองมันก็ปล่อยหมัดทําลายรูปปั้นทิ้งทันที

 

หลิงฮันทําได้เพียงโทษตัวเอง ที่ลืมนึกว่าเสี่ยวคู่รังเกียจสิ่งนี้มากขนาดไหน และไม่ได้บอกอีกฝ่ายล่วงหน้า

 

แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดไปแล้ว ก็คงต้องปล่อยไป

 

หลิงฮันตัดไม้มาสร้างเป็นเรือ โดยที่ทางด้านของฉินเหว่ยก็ทําเช่นกัน อีกฝ่ายไม่กล้าเข้าใกล้หลิงฮันกับเสี่ยวภู่แม้แต่น้อย และแยกตัวออกไปสร้างเรือคนคนเดียว

 

ในระหว่างนี้หลิงฮันได้นําจักรพรรดินีและคนอื่นๆ ออกมาจากหอคอยทมิฬ

 

จักรพรรดินีและสตรีนกอมตะเคยเห็นเสี่ยวภู่มาก่อนแล้ว จึงไม่แปลกใจอะไร แต่ฮูหนวกับธิดาโร๋วนั้นตกตะลึงมาก ในขณะที่สือเหล่ยและสือออุทานออกมาเมื่อพบเห็นพ่อเลี้ยงของตนเองถึงสองคน

 

“นี่ เหตุใดเจ้าถึงได้มีรูปลักษณ์เหมือนหลิงฮันของหนิวกัน?” ฮูหนวกวาดสายตามองเสี่ยวภู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

4 “นี่ เหตุใดเจ้าถึง” เมื่อเสี่ยวภู่พบเจอคนใหม่ๆ ความตื่นเต้นที่จะได้เลียนแบบคําพูดของมันก็เพิ่มสูงขึ้นหลายร้อยเท่า

 

“เจ้านี่แปลกคนจริงๆ ไม่ใช่แค่ชอบเลียนแบบรูปลักษณ์ของคนอื่น แต่ยังชอบเลียนแบบคําพูดคนอื่นด้วย”

 

“เจ้านี่แปลกคน…”

 

“น่าสนุกจัง!”

 

“น่าสนุกจัง!”

 

ดวงตาของซูหนิวส่งประกายและเริ่มเล่นสนุกกับเสี่ยว

 

ทักษะฝีมือของหลิงฮันนั้นไม่ได้ยอดเยี่ยมนัก หนึ่งวันต่อมาสิ่งที่เขาได้ก็คือเรือขนาดเล็กที่มีความยาวเพียงสามเมตร และมีความกว้างครึ่งเมตรเท่านั้น แต่แคให้คนสองคนสามารถขึ้นนั่งบนเรือได้ก็พอ เพราะคนอื่นๆ สามารถเข้าไปอยู่ในหอคอยทมิฬได้

 

หลิงฮันขึ้นเรือไปกับเสี่ยว ในขณะที่คนอื่นๆ กลับเข้าไปอยู่ในหอคอยทมิฬต่อ

 

เมื่อมีเสี่ยวคู่อยู่บนเรือ ความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นหลายส่วน หากพวกเขาพบเจอจ้าวมหาสมุทรระหว่างทาง ตราบใดที่เสียวกระตุ้นพลังอํานาจของแท่งกระดูกในร่างกาย จ้าวมหาสมุทรก็จะยอมล่าถอยกลับไปด้วยตัวเอง

 

เวลาสิบเจ็ดปรีผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเรือของพวกเขาก็เทียบฝั่งได้อย่างราบรื่น

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2029 สะสางเสร็จสิ้น

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2029 สะสางเสร็จสิ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2029 สะสางเสร็จสิ้น

 

การลงมือในครั้งนี้ส่งผลให้คนกว่าร้อยคนศีรษะหลุดร่วงลงมาจากบ่า และเกิดเป็นสายน้ําโลหิต

 

เมื่อพิธีสังเวยโลหิตหวนคืนกลับมา พลังต่อสู้ของเธอหยวนหวาและหลันเทียนหลงก็พุ่งทะยานสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ จนสามารถกําราบเสี่ยวภู่ได้

 

“ทักษะโซ่ตรวจยึดปฐพี!” ทั้งสองคนคํารามพร้อมกับที่บริเวณนิ้วมือทั้งห้า มีเส้นด้ายสีดํายืดออกมาและรัดทั่วร่างของเสี่ยวเอาไว้ ทําให้เสียวก่ขยับตัวไม่ได้

 

แม้จะสังหารไม่ได้ แต่หากสามารถกักขังเอาไว้แบบนี้ไปตลอดเวลา พวกเขาก็จะเคลื่อนย้ายร่างของเสี่ยวไปให้ปรมาจารย์ของนิกายลงมือซะ เมื่อเป็นแบบนั้นกระดูกฆ่าไม่ตายตนนี้จะต้องบดขยื้อย่างราบคาบ

 

เสียวกู้ดิ้นรนแต่ก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้

 

“แล้วก็เจ้าหนูนั่น!” หลันเทียนหยางหันไปมองหลิงฮัน

 

เจ้าหนูนี่ก็ต้องนํากลับนิกายไปด้วยเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายมีแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรมุขสั่งการว่าต้องครอบครองให้ได้

 

“ข้าลงมือเอง!” เธอหยวนหวาก้าวเดินไปยังหลิงฮัน

 

เขาคือปรมาจารย์ระดับเก้าบัวบาน ซึ่งเทียบได้กับตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ เพียงแค่หนึ่งความคิดก็สามารถสังหารหลิงฮันได้หลายร้อยครั้งแล้ว

 

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้าว่าพวกเจ้าสะสางปัญหาของตัวเองให้เสร็จก่อนจะดีกว่า!”

ว่าไงนะ?

 

เชอหยวนหวาและหลันเทียนหยางหันกลับไปมองเสี่ยวภู่ พวกเขาพบว่าร่างกายของอีกฝ่ายกําลังส่องประกายแสงเจิดจ้า และมีตราประทับถูกควบแน่นขึ้นมา

 

“พรึบ” ตราประทับนั่นพรั่งพรูออกมาจากร่างของเสี่ยว อยู่บนร่างของมันทิ้งทันที

 

พร้อมกับทําลายเส้นด้ายที่พัวพัน

 

เสี่ยวเป็นอิสระแล้ว

 

“ยี่ ย่า ย่า!” มันคํารามอย่างเกรี้ยวกราดและโจมตีอย่างรุนแรงเข้าใส่เหอหยวนหวาและหลันเทียนหยางอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้มันถึงขนาดนํากระดูกภายในร่างออกมาใช้ด้วย

 

บนกระดูกของมัน ตราประทับของราชานิรันดร์กําลังส่องประกายแสงเจิดจ้า

 

กระดูกท่อนนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นอุปกรณ์นิรันดร์ ซึ่งพลังของว่าน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก เพียงแค่กวัดแกว่งสวรรค์และปฐพีกราวกับจะพังทลาย ท้องฟ้าเกิดการสั่นสะเทือนและมีดวงดาวตกลงมา

 

ทีนี้พวกเขอหยวนหวาจะรับมือได้อย่างไร?

 

แม้ทั้งสองจะยังไม่ถูกท่อนกระดูกโจมตีใส่ แต่เพียงแค่คลื่นพลังผันผวนทางอากาศที่อัดเข้าใส่ก็ส่งผลให้ทั้งสองคนกระอักโลหิตออกมาไม่หยุด

 

“ล่าถอย!” เธอหยวนหวาและหลันเทียนหยางหันหลันหลบหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย สิ่งที่พวกเขากําลังเผชิญอยู่ในตอนนี้คืออุปกรณ์นิรันดร์ที่ถูกกระตุ้นพลังอย่างสมบูรณ์ ซึ่งไม่มีทางที่พวกเขาจะต้านทานไหว

 

เพียงแต่แม้คิดจะหนีก็สายไปแล้ว เสี่ยวภู่กวัดแกว่งแท่งกระดูกปลดปล่อยคลื่นพลังนิรันดร์ส่องสกาวไปถึงเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า

 

ตูม!

 

เพียงแค่ไม่กี่กระบวนท่า แขนของเธอหยวนหวาก็ถูกตัดขาด ในขณะที่หลันเทียนหยางสูญเสียข้าไปหนึ่งข้าง

 

แต่ปรมาจารย์ทั้งสองก็ไม่คิดสนใจบาดแผลที่เกิดขึ้น ตราบใดที่พวกเขาเอาชีวิตรอดไปได้ จะแขนหรือขาที่เสียไปก็สามารถงอกกลับมาใหม่ได้อีกครั้ง

 

น่าเสียดายที่เสี่ยวไม่คิดมอบโอกาสให้พวกเขา

 

ทันทีที่แท่งกระดูกราชานิรันดร์ถูกกวัดแกว่ง ก็ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งมันได้

 

หลิงฮันเองก็ไม่เมตตา เขาโจมตีสังหารไปยังพวกเซียวจนและคนอื่นๆ อย่างบ้าคลั่ง เพื่อสะสางปัญหาให้จบสิ้นไปซะ

 

“อ้ากกก!”

 

เสียงร้องโอดครวญของเชอหยวนหวาและหลันเทียนหยางดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้เมื่ออํานาจระดับราชานิรันดร์ถูกใช้ออกมาแล้ว มีรึที่ปรมาจารย์ระดับเก้าบานจะต้านทานไหว?

 

ผลลัพธ์มีเพียงความตาย

 

เวลาผ่านไปไม่นาน เหล่าจอมยุทธบนเกาะก็ถูกสังหารหมดสิ้น และมีเพียงสามคนที่ยังรอดชีวิต

 

หลิงฮัน เสี่ยวภู่ และฉินเหว่ย

 

ที่ฉินเหว่ยยังมีชีวิตรอดเป็นเพราะเขาคือตัวตนระดับตําหนักอมตะ ทําให้สามารถรับมือกับการโจมตีของปรมาจารย์แปดบัวบานได้ และเนื่องจากเขาเป็น “จอมยุทธทั่วไป จึงไม่ตกเป็นเป้าหมายของเสียว

 

แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเสี่ยวคู่ก็กลายเป็นน่าเกลียด สายตาของเขาจดจ้องไปยังเสี่ยวด้วยความหวาดกลัว

 

“เสี่ยวภู่ ไม่ได้พบกันเสียนาน” หลิงฮันยิ้มไปยังเสี่ยว

 

“ยี่ ย่า ย่า” ท่าที่โหดเหี้ยมของเสียวกู้ไม่หลงเหลืออีกต่อไป และยิ้มให้กับหลิงฮัน “เสี่ยวภู่ ไม่ได้พบกันเสียนาน”

 

เห้อ เริ่มเลียนแบบคําพูดอีกแล้ว

 

หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “เสี่ยวภู่ เจ้ามาที่ดินแดนแห่งเซียนได้อย่างไร?”

 

“เสี่ยวภู่ เจ้ามา…” เสี่ยวคู่เลียนแบบคําพูด

 

เวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว เจ้ายังเรียนรู้ที่จะพูดด้วยตัวเองไม่ได้อีกงั้นรึ?

 

“เหตุใดพลังของเจ้าถึงได้เพิ่มขึ้นรวดเร็วขนาดนี้?” หลิงฮันเอ่ยถามอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้

 

“เหตุใดพลังของเจ้า…”

 

หลิงฮันถอนหายใจ “เห้อ…”

 

เสียวกู่เองก็ถอนหายใจ “เห้อ”

 

หลิงฮันครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพบว่า การที่เสี่ยวภู่จะมาดินแดนแห่งเซียนได้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ตราบใดที่มีพลังแข็งแกร่งพอก็จะสามารถเปิดประตูสู่ดินแดนแห่งเซียนได้ ปัญหาก็คือเหตุผลพลังของอีกฝ่ายถึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้

 

แต่เมื่อคิดไปคิดมา อีกฝ่ายนั้นไม่ใช้มนุษย์แต่เป็นเพียงแต่ท่อนกระดูก ซึ่งที่เรียกว่าคอขวดของระดับพลังจึงไม่มีอยู่

 

“เสี่ยว ข้าจะสื่อสารกับเจ้าได้อย่างไร?” หลิงฮันอยากรู้เรื่องราวของเสี่ยวในชีวิตที่แล้วอีกฝ่ายจะต้องเป็นเคยเป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์แน่นอน แต่เหตุใดถึงได้เสียชีวิตกัน?

 

แถมอีกฝ่ายก็ยังเกลียดจอมยุทธที่บ่มเพาะรูปแบบพลังที่แตกต่างเข้าเส้นอีกด้วย ไม่รู้ว่าในตอนที่จะเสียชีวิตเสี่ยวคู่พบเจอประสบการณ์แบบใดมากันแน่?

 

น่าเสียดายที่เกี่ยวกู้รู้แค่วิธีการพูด ยี่ ย่า ย่า กับเลียนแบบคําพูดเท่านั้น มันไม่สามารถส่งผ่านความคิดใดๆ ออกมาได้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

ที่นี้เขาต้องรอหวไห่หรงงั้นรึ?

 

หลิงฮันลบรูปแบบอาคมที่ติดตั้งอยู่บนเกาะ เพื่อที่หวไห่หรงจะได้ไม่มองข้ามเกาะนี้ในตอนที่เคลื่อนที่ผ่านมา แต่บางที่หวไห่หรงก็อาจจะค้นหาบริเวณแห่งนี้ไปแล้วก็ได้ ด้วยความมั่นใจของราชานิรันดร์ นางจะต้องไม่กลับมาค้นหาบริเวณนี้ใหม่อีกครั้งแน่นอน

 

อย่างไรก็รอไปก่อน เพราะเขาเองก็รู้สึกสนใจรูปปั้นทั้งสองหน้าปราสาทเป็นอย่างมาก

 

ปัง! ปัง!

 

แต่หลิงฮันก็ต้องชะงักทันที เพราะเสียวกูไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้ศึกษาพวกมันแม้แต่น้อยทันทีที่เห็นรูปปั้นทั้งสองมันก็ปล่อยหมัดทําลายรูปปั้นทิ้งทันที

 

หลิงฮันทําได้เพียงโทษตัวเอง ที่ลืมนึกว่าเสี่ยวคู่รังเกียจสิ่งนี้มากขนาดไหน และไม่ได้บอกอีกฝ่ายล่วงหน้า

 

แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดไปแล้ว ก็คงต้องปล่อยไป

 

หลิงฮันตัดไม้มาสร้างเป็นเรือ โดยที่ทางด้านของฉินเหว่ยก็ทําเช่นกัน อีกฝ่ายไม่กล้าเข้าใกล้หลิงฮันกับเสี่ยวภู่แม้แต่น้อย และแยกตัวออกไปสร้างเรือคนคนเดียว

 

ในระหว่างนี้หลิงฮันได้นําจักรพรรดินีและคนอื่นๆ ออกมาจากหอคอยทมิฬ

 

จักรพรรดินีและสตรีนกอมตะเคยเห็นเสี่ยวภู่มาก่อนแล้ว จึงไม่แปลกใจอะไร แต่ฮูหนวกับธิดาโร๋วนั้นตกตะลึงมาก ในขณะที่สือเหล่ยและสือออุทานออกมาเมื่อพบเห็นพ่อเลี้ยงของตนเองถึงสองคน

 

“นี่ เหตุใดเจ้าถึงได้มีรูปลักษณ์เหมือนหลิงฮันของหนิวกัน?” ฮูหนวกวาดสายตามองเสี่ยวภู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

4 “นี่ เหตุใดเจ้าถึง” เมื่อเสี่ยวภู่พบเจอคนใหม่ๆ ความตื่นเต้นที่จะได้เลียนแบบคําพูดของมันก็เพิ่มสูงขึ้นหลายร้อยเท่า

 

“เจ้านี่แปลกคนจริงๆ ไม่ใช่แค่ชอบเลียนแบบรูปลักษณ์ของคนอื่น แต่ยังชอบเลียนแบบคําพูดคนอื่นด้วย”

 

“เจ้านี่แปลกคน…”

 

“น่าสนุกจัง!”

 

“น่าสนุกจัง!”

 

ดวงตาของซูหนิวส่งประกายและเริ่มเล่นสนุกกับเสี่ยว

 

ทักษะฝีมือของหลิงฮันนั้นไม่ได้ยอดเยี่ยมนัก หนึ่งวันต่อมาสิ่งที่เขาได้ก็คือเรือขนาดเล็กที่มีความยาวเพียงสามเมตร และมีความกว้างครึ่งเมตรเท่านั้น แต่แคให้คนสองคนสามารถขึ้นนั่งบนเรือได้ก็พอ เพราะคนอื่นๆ สามารถเข้าไปอยู่ในหอคอยทมิฬได้

 

หลิงฮันขึ้นเรือไปกับเสี่ยว ในขณะที่คนอื่นๆ กลับเข้าไปอยู่ในหอคอยทมิฬต่อ

 

เมื่อมีเสี่ยวคู่อยู่บนเรือ ความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นหลายส่วน หากพวกเขาพบเจอจ้าวมหาสมุทรระหว่างทาง ตราบใดที่เสียวกระตุ้นพลังอํานาจของแท่งกระดูกในร่างกาย จ้าวมหาสมุทรก็จะยอมล่าถอยกลับไปด้วยตัวเอง

 

เวลาสิบเจ็ดปรีผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเรือของพวกเขาก็เทียบฝั่งได้อย่างราบรื่น

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+