Alchemy Emperor of the Divine Dao 2031 ตระกูลฟู่

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2031 ตระกูลฟู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2031 ตระกูลฟู่

 

สตรีที่อ่อนถูกไล่ตามโดยชายร่างใหญ่นับสิบคน ไม่ใช่ว่านี่เป็นเหตุการณ์จับกุมสตรีไปเป็นนางบําเรอที่พบเห็นได้บ่อยครั้งงั้นรึ?

 

ถึงแม้จะบอกว่าเป็นสตรีที่อ่อนแอ แต่ความจริงนางไม่ได้อ่อนแอเลย เพราะนางมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสี่นิพพาน เพียงแต่เหล่าบุรุษที่ตามหลังนางมานั้น ทุกคนเองก็มีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสาวถึงสี่นิพพาน จะให้นางคนเดียวรับมือไหวได้อย่างไร?

 

หลิงฮันถอนหายใจในใจ สมกับเป็นดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก แม้กระทั่งจอมยุทธระดับ โลกียนิพพานก็มีให้เห็นได้ทั่วไป

 

สตรีผู้นั้นร้องโอดครวญในขณะที่วิ่งหนี แต่ยิ่งนางร้องดังเท่าไหร่ ผู้คนรอบด้านก็ยิ่งขยับตัวเปิดทางให้นางวิ่งผ่านไปราวกับไม่อยากเข้าไปพัวพันกับปัญหาด้วย

 

เพราะงั้นเมื่อคนอื่นๆ หลีกทางออกไป คนที่ยังคงยืนอยู่กลางถนนจึงเหลือเพียงแค่พวกหลิงฮัน

 

ใบหน้าของสตรีเผยถึงความกังวล เพราะนางไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนตรงหน้า คิดจะยื่นมือช่วยนาง หรือต้องการจับตัวนางกันแน่

 

นางเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และพอผ่านพ้นพวกหลิงฮันไปได้ สีหน้าของนางผ่อนคลายลง และพุ่งทะยานร่างต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง

 

แต่เมื่อบุรุษร่างใหญ่หลายสิบคนวิ่งเข้ามาใกล้ หลิงฮันก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อยและโคจรอํานาจ แห่งกฎเกณฑ์สังหาร “ตุบ ตุบ ตุบ” ภายใต้แรงกดดันจากคลื่นอํานาจที่ทรงพลัง บุรุษร่างใหญ่เหล่านี้ใบหน้าได้กลายเป็นซีดเผือดและล้มลงกับพื้นทันที

 

จอมยุทธระดับโลกียนิพพาน จะสะดุดล้มเองโดยไม่มีสาเหตุได้งั้นรึ?

 

แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นแบบนั้น ยิ่งหลายสิบคนล้มพร้อมกันด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่!

 

ดังนั้นนอกจากพวกหลิงขันที่ยืนอยู่กลางทางเดินแล้ว ใครอื่นกันจะเป็นคนทํา?

 

“พระเจ้า คนพวกนั้นกล้ายื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของนายพุ่งั้นรึ? พวกเขานับว่าโชคร้ายแล้ว”

 

“ให้ตายเถอะ พวกเขาไม่รู้หรือไม่ว่าตระกูลฟูคือขุมอํานาจที่ปกครองเมืองแห่งนี้”

 

“ข้าว่าคนพวกนั้นอาจจะเพิ่งเคยมาที่นี่ก็เป็นได้”

 

“ถูกของเจ้า ต้องเป็นแบบนั้นแน่”

 

เหล่าคนรอบด้านกระซิบกระซาบพูดคุยกัน ราวกับกลัวว่าบทสนทนาจะถูกได้ยิน

 

หลิงฮันอุทาน “โอ้” ออกมา ถึงว่าทําไมถึงได้สามารถส่งสุนัขรับใช้ระดับโลกียนิพพานออกมามากมายได้ ที่ก็เป็นขุมอํานาจที่ทรงพลังนี่เอง

 

แน่นอนว่าเขาคิดแยแสแม้แต่น้อย ไม่ต้องกล่าวว่าในกลุ่มของพวกเขาแต่ละคนมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก ต่อให้พวกเขาไปยั่วยุตัวตนระดับสูงเข้าจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่ายังมีเสี่ยวกู่อยู่ด้วยหรอก?

 

“ไปกันได้แล้ว หนิวอยากกินเนื้อ!” ฮูหนิวกล่าวด้วยน้ําเสียงไม่พอใจ และใช้มือลูบท้อง

 

“ไปกันได้แล้ว หนิวอยากกินเนื้อ!” เสี่ยวกู่เองก็กล่าวตาม และนํามือลูบท้องเช่นกัน

 

หลิงฮันส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ฮูหนิวคนเดียวก็วุ่นวายมากพอแล้ว นี่ยังจะมีเพิ่มมาอีกคนงั้นรึ?

 

แน่นอนว่าคําขอของซูหนิวนั้นยากที่หลิงฮันจะปฏิเสธ เพราะงั้นกลุ่มของพวกเขาจึงมุ่งหน้าไปหาร้านอาหารเพื่อทานอาหาร ด้วยท่าทางที่ราวกับไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

 

เหล่าคนรอบด้านหันมองหน้ากันด้วยความตะลึง

 

“คนเหล่านี้สุดยอดไปเลยเจ้าว่าไหม?”

 

“นั่นสิ ขนาดยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของตระกูลฟู่ ก็ยังกล้าทําราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก?”

 

“พวกเขาไม่รู้รึไงว่าประมุขของตระกูลฟู่ เป็นนักปรุงยาระดับสูงภายใต้ราชานิรันดร์ไจเยว่?”

 

“เหอๆ คนเหล่านั้นรนหาที่ตายเองเสียแล้ว”

 

หลิงฮันไม่ได้ยินบทสนทนาของคนเหล่านี้ และเริ่มกินดื่มในร้านอาหารที่พบเจอ

 

“อืม อร่อย! อร่อย!” ฮูหนิวถือขาไก่ทอดเอาไว้ในมือซ้าย และถือชิ้นหมูทอดเอาไว้ในมือขวา นางขยับปากเคี้ยวไม่หยุดแต่ก็ยังสามารถพูดออกมาอย่างชัดเจน

 

เสี่ยวคู่นั้นแม้จะสามารถเลียนแบบการกินได้ แต่ก็พูดไปเคี้ยวไปด้วยไม่ได้

 

การกินเองก็จําเป็นต้องมีพรสวรรค์เช่นกัน

 

หลิงฮัน จักรพรรดินีและคนอื่นๆ สั่งสุราและเครื่องดื่มต่างๆมาลองชิม เพราะดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกนั้นแตกต่างจากดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออกในหลายๆด้าน ซึ่งรวมไปถึงอาหารด้วย เพราะงั้นพวกเขาจึงอยากลิ้มลอง

 

“ฮะๆๆ พวกเจ้าดูกําลังมีความสุขกันอยู่นะ” เสียงหัวเราะดังขึ้น และมีร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นที่ประตูทางเข้าร้าน เนื่องจากที่บ้านหลังของเขามีแสงสว่างสาดส่องเข้ามา เขาให้เงาของเขา ยืดยาวเข้ามาในร้านและดูน่าเกรงขาม

 

คนผู้นี้เป็นรุ่นเยาว์ที่มีหน้าตาหล่อเหลาและสวมชุดคลุมสีฟ้าคราม

 

“นายน้อยฟู!” เมื่อแขกคนอื่นๆในร้านเห็นรุ่นเยาว์ผู้นี้ พวกเขาก็รีบลุกขึ้นยืนและโค้งตัวแสดงความเคารพ

 

ตระกูลฟูคือขุมอํานาจยักษ์ใหญ่ที่ปกครองเมืองนี้ ส่วนรุ่นเยาว์ผู้นี้มีชื่อว่าฟู่เยว่ เขาเป็นรุ่นเยาว์ยุคที่สามเพียงคนเดียวของตระกูลฟู่

 

ฟู่เยว่ยิ้มอย่างแผ่วบาง และเดินเข้าไปยังโต๊ะของหลิงฮัน ด้านหลังของเขามีชายชราร่างผอมแห้งไร้สีหน้าเดินตามมาด้วย โดยที่ชายชราผู้นี้ได้หลับตาอยู่ตลอดเวลา

มีบ้างบางครั้งที่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ภายในดวงตาของเขาจะปรากฏตราประทับมากมายนับไม่ถ้วน และกลิ่นอายที่น่าเกรงขามได้เล็ดลอดออกมา

 

ตัวตนระดับตําหนักอมตะงั้นรึ?

 

หลิงฮันคาดเขาในใจ พลังของชายชราผู้นี้ลึกซึ้งเกินกว่าที่เขาจะมองเห็นได้ เพราะงั้นอีกฝ่าย จึงเป็นตัวตนระดับตําหนักอมตะเป็นอย่างน้อย

 

หลิงฮันไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ เพราะปรมาจารย์ระดับนั้นจะยอมเป็นผู้ติดตามของรุ่นเยาว์งั้นรึ?

 

เพราะอย่างไรตระกูลฟูก็ไม่ใช่ขุมอํานาจระดับราชานิรันดร์

 

“จะว่าอะไรไหมหากข้าขอนั่งด้วย?” ฟู่เยว่ยิ้มและนั่งลงโดยไม่ที่หลิงฮันยังไม่ทันได้กล่าวอะไร

 

“จะว่าอะไรไหมหากข้าขอนั่งด้วย?” เสียวคู่กลายเป็นตื่นเต้นทันทีที่เห็นของเล่นใหม่

 

ฟู่เยว่เผยสีหน้าไม่พึงพอใจทันที หมายความว่าอย่างไร นี่เจ้ากําลังเยาะเย้ยข้างั้นรึ? เขาเค้น เสียงและกล่าว “พวกเจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่รู้ว่าพวกเจ้าเป็นคนลงมือกับคนของข้า?”

 

 “พวกเจ้าคิดหรือว่า…” เสี่ยวภู่พูดเลียนแบบคําต่อคํา และจะได้ว่ามันมีการพัฒนามากขึ้น ตอนนี้มันไม่เพียงเลียนแบบคําพูดเท่านั้น แต่ยังลงน้ําหนักเสียงและสีหน้าได้เหมือนอีกด้วย

 

คราวนี้ฟู่เยว่โกรธขึ้นมาจริงๆ เจ้าจะเหยียดหยามข้าเกินไปรึเปล่า?

 

หลิงอันประหลาดใจเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าตระกูลฟู่เป็นใหญ่ในเมืองนี้หรอกรี? เหตุใดเพียงแค่เรื่องลักพาตัวสตรีไม่สําเร็จ ฟู่เยว่ถึงกับต้องเคลื่อนไหวด้วยตัวเองด้วย?

 

นายน้อยผู้นี้หมกมุ่นในตัณหาขนาดนั้นเลยรี?

 

แต่ก็ไม่น่าจะใช้แบบนั้น นิสัยของคนสามารถบ่งบอกให้จากพฤติกรรมการกระทํา ตอนนี้ตรงหน้าของอีกฝ่ายมีฮูหนิว จักรพรรดินี และธิดาโร่วที่เป็นสตรีงดงามนั่งอยู่ด้วยกันถึงสามคน แม้อีกฝ่ายจะมีชําเลืองมองอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นปฏิกิริยาทั่วไปของมนุษย์

ปัง!

 

ฟู้เยว่ตบมือลงบนโต๊ะ ด้วยความที่เขายังเป็นรุ่นเยาว์การควบคุมอารมณ์จึงทําได้ไม่ดีนัก แถมในเมืองแห่งนี้ไม่ว่าใครก็ต้องยอมไว้หน้าเขาสามส่วน เพราะงั้นมีรีที่เขาต้องหวาดกลัวใคร?

 

เขาไม่รู้ว่าเสียวคู่นั้นมีปัญหาชอบพูดเลียนแบบคนอื่น และคิดไปเองว่าอีกฝ่ายจงใจเยาะเย้ยตนเอง ถึงได้แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดออกมา

 

“ฮ่าๆ อย่าไปสนใจเลย เขาแค่ชอบเลียนแบบคนอื่นเท่านั้น” หลิงฮันหัวเราะ

 

“ฮ่าๆ อย่าไปสนใจเขาเลย…” เสี่ยวภู่ยังคงชื่นชอบการเลียนแบบหลิงฮันมากที่สุด เนื่องจากหลิงฮันเป็นมนุษย์คนแรกที่มันพบ แม้แต่รูปลักษณ์มันก็ยังเลือกที่จะเลียนแบบเป็นหลิงฮัน

 

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ความโกรธของฟู่เยว่ก็ผ่อนคลายลง

 

ช่างน่าแปลกยิ่งนักสองพี่น้องคนนี้มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกันแท้ๆ แต่คนหนึ่งกลับสมองผิดปกติเสียได้ หรืออีกฝ่ายถูกรังแกและทุบตีตั้งแต่อยู่ในท้องมารดากัน?

 

“ข้าจะไม่พูดไร้สาระและเข้าเรื่องเลย…. สตรีผู้นั้นอยู่ที่ไหน?” ฟู่เยว่เอ่ยถาม

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2031 ตระกูลฟู่

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2031 ตระกูลฟู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2031 ตระกูลฟู่

 

สตรีที่อ่อนถูกไล่ตามโดยชายร่างใหญ่นับสิบคน ไม่ใช่ว่านี่เป็นเหตุการณ์จับกุมสตรีไปเป็นนางบําเรอที่พบเห็นได้บ่อยครั้งงั้นรึ?

 

ถึงแม้จะบอกว่าเป็นสตรีที่อ่อนแอ แต่ความจริงนางไม่ได้อ่อนแอเลย เพราะนางมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสี่นิพพาน เพียงแต่เหล่าบุรุษที่ตามหลังนางมานั้น ทุกคนเองก็มีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสาวถึงสี่นิพพาน จะให้นางคนเดียวรับมือไหวได้อย่างไร?

 

หลิงฮันถอนหายใจในใจ สมกับเป็นดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก แม้กระทั่งจอมยุทธระดับ โลกียนิพพานก็มีให้เห็นได้ทั่วไป

 

สตรีผู้นั้นร้องโอดครวญในขณะที่วิ่งหนี แต่ยิ่งนางร้องดังเท่าไหร่ ผู้คนรอบด้านก็ยิ่งขยับตัวเปิดทางให้นางวิ่งผ่านไปราวกับไม่อยากเข้าไปพัวพันกับปัญหาด้วย

 

เพราะงั้นเมื่อคนอื่นๆ หลีกทางออกไป คนที่ยังคงยืนอยู่กลางถนนจึงเหลือเพียงแค่พวกหลิงฮัน

 

ใบหน้าของสตรีเผยถึงความกังวล เพราะนางไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนตรงหน้า คิดจะยื่นมือช่วยนาง หรือต้องการจับตัวนางกันแน่

 

นางเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และพอผ่านพ้นพวกหลิงฮันไปได้ สีหน้าของนางผ่อนคลายลง และพุ่งทะยานร่างต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง

 

แต่เมื่อบุรุษร่างใหญ่หลายสิบคนวิ่งเข้ามาใกล้ หลิงฮันก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อยและโคจรอํานาจ แห่งกฎเกณฑ์สังหาร “ตุบ ตุบ ตุบ” ภายใต้แรงกดดันจากคลื่นอํานาจที่ทรงพลัง บุรุษร่างใหญ่เหล่านี้ใบหน้าได้กลายเป็นซีดเผือดและล้มลงกับพื้นทันที

 

จอมยุทธระดับโลกียนิพพาน จะสะดุดล้มเองโดยไม่มีสาเหตุได้งั้นรึ?

 

แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นแบบนั้น ยิ่งหลายสิบคนล้มพร้อมกันด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่!

 

ดังนั้นนอกจากพวกหลิงขันที่ยืนอยู่กลางทางเดินแล้ว ใครอื่นกันจะเป็นคนทํา?

 

“พระเจ้า คนพวกนั้นกล้ายื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของนายพุ่งั้นรึ? พวกเขานับว่าโชคร้ายแล้ว”

 

“ให้ตายเถอะ พวกเขาไม่รู้หรือไม่ว่าตระกูลฟูคือขุมอํานาจที่ปกครองเมืองแห่งนี้”

 

“ข้าว่าคนพวกนั้นอาจจะเพิ่งเคยมาที่นี่ก็เป็นได้”

 

“ถูกของเจ้า ต้องเป็นแบบนั้นแน่”

 

เหล่าคนรอบด้านกระซิบกระซาบพูดคุยกัน ราวกับกลัวว่าบทสนทนาจะถูกได้ยิน

 

หลิงฮันอุทาน “โอ้” ออกมา ถึงว่าทําไมถึงได้สามารถส่งสุนัขรับใช้ระดับโลกียนิพพานออกมามากมายได้ ที่ก็เป็นขุมอํานาจที่ทรงพลังนี่เอง

 

แน่นอนว่าเขาคิดแยแสแม้แต่น้อย ไม่ต้องกล่าวว่าในกลุ่มของพวกเขาแต่ละคนมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก ต่อให้พวกเขาไปยั่วยุตัวตนระดับสูงเข้าจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่ายังมีเสี่ยวกู่อยู่ด้วยหรอก?

 

“ไปกันได้แล้ว หนิวอยากกินเนื้อ!” ฮูหนิวกล่าวด้วยน้ําเสียงไม่พอใจ และใช้มือลูบท้อง

 

“ไปกันได้แล้ว หนิวอยากกินเนื้อ!” เสี่ยวกู่เองก็กล่าวตาม และนํามือลูบท้องเช่นกัน

 

หลิงฮันส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ฮูหนิวคนเดียวก็วุ่นวายมากพอแล้ว นี่ยังจะมีเพิ่มมาอีกคนงั้นรึ?

 

แน่นอนว่าคําขอของซูหนิวนั้นยากที่หลิงฮันจะปฏิเสธ เพราะงั้นกลุ่มของพวกเขาจึงมุ่งหน้าไปหาร้านอาหารเพื่อทานอาหาร ด้วยท่าทางที่ราวกับไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

 

เหล่าคนรอบด้านหันมองหน้ากันด้วยความตะลึง

 

“คนเหล่านี้สุดยอดไปเลยเจ้าว่าไหม?”

 

“นั่นสิ ขนาดยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของตระกูลฟู่ ก็ยังกล้าทําราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก?”

 

“พวกเขาไม่รู้รึไงว่าประมุขของตระกูลฟู่ เป็นนักปรุงยาระดับสูงภายใต้ราชานิรันดร์ไจเยว่?”

 

“เหอๆ คนเหล่านั้นรนหาที่ตายเองเสียแล้ว”

 

หลิงฮันไม่ได้ยินบทสนทนาของคนเหล่านี้ และเริ่มกินดื่มในร้านอาหารที่พบเจอ

 

“อืม อร่อย! อร่อย!” ฮูหนิวถือขาไก่ทอดเอาไว้ในมือซ้าย และถือชิ้นหมูทอดเอาไว้ในมือขวา นางขยับปากเคี้ยวไม่หยุดแต่ก็ยังสามารถพูดออกมาอย่างชัดเจน

 

เสี่ยวคู่นั้นแม้จะสามารถเลียนแบบการกินได้ แต่ก็พูดไปเคี้ยวไปด้วยไม่ได้

 

การกินเองก็จําเป็นต้องมีพรสวรรค์เช่นกัน

 

หลิงฮัน จักรพรรดินีและคนอื่นๆ สั่งสุราและเครื่องดื่มต่างๆมาลองชิม เพราะดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกนั้นแตกต่างจากดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออกในหลายๆด้าน ซึ่งรวมไปถึงอาหารด้วย เพราะงั้นพวกเขาจึงอยากลิ้มลอง

 

“ฮะๆๆ พวกเจ้าดูกําลังมีความสุขกันอยู่นะ” เสียงหัวเราะดังขึ้น และมีร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นที่ประตูทางเข้าร้าน เนื่องจากที่บ้านหลังของเขามีแสงสว่างสาดส่องเข้ามา เขาให้เงาของเขา ยืดยาวเข้ามาในร้านและดูน่าเกรงขาม

 

คนผู้นี้เป็นรุ่นเยาว์ที่มีหน้าตาหล่อเหลาและสวมชุดคลุมสีฟ้าคราม

 

“นายน้อยฟู!” เมื่อแขกคนอื่นๆในร้านเห็นรุ่นเยาว์ผู้นี้ พวกเขาก็รีบลุกขึ้นยืนและโค้งตัวแสดงความเคารพ

 

ตระกูลฟูคือขุมอํานาจยักษ์ใหญ่ที่ปกครองเมืองนี้ ส่วนรุ่นเยาว์ผู้นี้มีชื่อว่าฟู่เยว่ เขาเป็นรุ่นเยาว์ยุคที่สามเพียงคนเดียวของตระกูลฟู่

 

ฟู่เยว่ยิ้มอย่างแผ่วบาง และเดินเข้าไปยังโต๊ะของหลิงฮัน ด้านหลังของเขามีชายชราร่างผอมแห้งไร้สีหน้าเดินตามมาด้วย โดยที่ชายชราผู้นี้ได้หลับตาอยู่ตลอดเวลา

มีบ้างบางครั้งที่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ภายในดวงตาของเขาจะปรากฏตราประทับมากมายนับไม่ถ้วน และกลิ่นอายที่น่าเกรงขามได้เล็ดลอดออกมา

 

ตัวตนระดับตําหนักอมตะงั้นรึ?

 

หลิงฮันคาดเขาในใจ พลังของชายชราผู้นี้ลึกซึ้งเกินกว่าที่เขาจะมองเห็นได้ เพราะงั้นอีกฝ่าย จึงเป็นตัวตนระดับตําหนักอมตะเป็นอย่างน้อย

 

หลิงฮันไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ เพราะปรมาจารย์ระดับนั้นจะยอมเป็นผู้ติดตามของรุ่นเยาว์งั้นรึ?

 

เพราะอย่างไรตระกูลฟูก็ไม่ใช่ขุมอํานาจระดับราชานิรันดร์

 

“จะว่าอะไรไหมหากข้าขอนั่งด้วย?” ฟู่เยว่ยิ้มและนั่งลงโดยไม่ที่หลิงฮันยังไม่ทันได้กล่าวอะไร

 

“จะว่าอะไรไหมหากข้าขอนั่งด้วย?” เสียวคู่กลายเป็นตื่นเต้นทันทีที่เห็นของเล่นใหม่

 

ฟู่เยว่เผยสีหน้าไม่พึงพอใจทันที หมายความว่าอย่างไร นี่เจ้ากําลังเยาะเย้ยข้างั้นรึ? เขาเค้น เสียงและกล่าว “พวกเจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่รู้ว่าพวกเจ้าเป็นคนลงมือกับคนของข้า?”

 

 “พวกเจ้าคิดหรือว่า…” เสี่ยวภู่พูดเลียนแบบคําต่อคํา และจะได้ว่ามันมีการพัฒนามากขึ้น ตอนนี้มันไม่เพียงเลียนแบบคําพูดเท่านั้น แต่ยังลงน้ําหนักเสียงและสีหน้าได้เหมือนอีกด้วย

 

คราวนี้ฟู่เยว่โกรธขึ้นมาจริงๆ เจ้าจะเหยียดหยามข้าเกินไปรึเปล่า?

 

หลิงอันประหลาดใจเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าตระกูลฟู่เป็นใหญ่ในเมืองนี้หรอกรี? เหตุใดเพียงแค่เรื่องลักพาตัวสตรีไม่สําเร็จ ฟู่เยว่ถึงกับต้องเคลื่อนไหวด้วยตัวเองด้วย?

 

นายน้อยผู้นี้หมกมุ่นในตัณหาขนาดนั้นเลยรี?

 

แต่ก็ไม่น่าจะใช้แบบนั้น นิสัยของคนสามารถบ่งบอกให้จากพฤติกรรมการกระทํา ตอนนี้ตรงหน้าของอีกฝ่ายมีฮูหนิว จักรพรรดินี และธิดาโร่วที่เป็นสตรีงดงามนั่งอยู่ด้วยกันถึงสามคน แม้อีกฝ่ายจะมีชําเลืองมองอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นปฏิกิริยาทั่วไปของมนุษย์

ปัง!

 

ฟู้เยว่ตบมือลงบนโต๊ะ ด้วยความที่เขายังเป็นรุ่นเยาว์การควบคุมอารมณ์จึงทําได้ไม่ดีนัก แถมในเมืองแห่งนี้ไม่ว่าใครก็ต้องยอมไว้หน้าเขาสามส่วน เพราะงั้นมีรีที่เขาต้องหวาดกลัวใคร?

 

เขาไม่รู้ว่าเสียวคู่นั้นมีปัญหาชอบพูดเลียนแบบคนอื่น และคิดไปเองว่าอีกฝ่ายจงใจเยาะเย้ยตนเอง ถึงได้แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดออกมา

 

“ฮ่าๆ อย่าไปสนใจเลย เขาแค่ชอบเลียนแบบคนอื่นเท่านั้น” หลิงฮันหัวเราะ

 

“ฮ่าๆ อย่าไปสนใจเขาเลย…” เสี่ยวภู่ยังคงชื่นชอบการเลียนแบบหลิงฮันมากที่สุด เนื่องจากหลิงฮันเป็นมนุษย์คนแรกที่มันพบ แม้แต่รูปลักษณ์มันก็ยังเลือกที่จะเลียนแบบเป็นหลิงฮัน

 

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ความโกรธของฟู่เยว่ก็ผ่อนคลายลง

 

ช่างน่าแปลกยิ่งนักสองพี่น้องคนนี้มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกันแท้ๆ แต่คนหนึ่งกลับสมองผิดปกติเสียได้ หรืออีกฝ่ายถูกรังแกและทุบตีตั้งแต่อยู่ในท้องมารดากัน?

 

“ข้าจะไม่พูดไร้สาระและเข้าเรื่องเลย…. สตรีผู้นั้นอยู่ที่ไหน?” ฟู่เยว่เอ่ยถาม

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+