Alchemy Emperor of the Divine Dao 2048 จี่อู๋หมิงมาถึง และเส้นทางแห่งเต๋า สวรรค์สูงสุดส่องสว่างอีกครั้ง

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2048 จี่อู๋หมิงมาถึง และเส้นทางแห่งเต๋า สวรรค์สูงสุดส่องสว่างอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2048 จี่อู๋หมิงมาถึง และเส้นทางแห่งเต๋า สวรรค์สูงสุดส่องสว่างอีกครั้ง

 

ยังไม่ทันที่ร่างของหลิงฮันจะหายไปยังทิศทางของเส้นทางมังกรสีดําได้นาน เหล่าอัจฉริยะมากมายก็กลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง

 

พระเจ้า เมื่อครู่พวกเขาเพิ่งเห็นอะไรมากันแน่?

 

ใครบางคนกระตุ้นสะพานมังกรสีดําได้ ซึ่งสะพานมังกรสีดําคือตัวแทนแห่งเส้นทางแห่งเต๋าสวรรค์สูงสุด!

 

ในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีตัวตนที่ทรงพลังแบบใดถือกําเนิดขึ้นกัน?

 

จ้าวแห่งราชานิรันดร์ระดับเก้า ที่เป็นจักรพรรดิผู้ไร้เทียมทาน?

 

“เขาคือใครกัน?”

 

“ที่แน่ๆ คือไม่ใช่คนของอาณาเขตสวรรค์ผ่อน!”

 

“ไม่รู้เหมือนกัน ข้าไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลย”

 

ทุกคนอุทานด้วยความตะลึง ต่อให้ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากเขตแดนลี้ลับ แต่การที่ได้เป็นสักขีพยานการถือกําเนิดของจ้าวแห่งราชานิรันดร์ระดับเก้าในอนาคต ก็ถือว่าเป็นวาสนาสูงสุดของชีวิตแล้ว

 

คนมากมายยังคงเข้ามาในเขตแดนลี้ลับอย่างต่อเนื่อง

 

“พี่ชายสี่ หนึ่งก้าวที่ท่านมาช้า ทําให้ท่านต้องรู้สึกเสียดายไปชั่วชีวิต”

 

“ผู้อาวุโสหลิว ในที่สุดท่านก็มา เมื่อครู่ข้าเพิ่งเห็นเหตุการณ์ที่จะทําให้ข้าไม่ลืมเลือนไปตลอดกาล”

 

คนมากมายที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน แต่เนื่องจากหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันหมด ทําให้ถึงแม้พวกเขาจะไม่เชื่อ แต่ก็ไม่สามารถกล่าวคัดค้านกลับไปได้

หนึ่งวัน สองวัน… สามวัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งใครหลายคนได้ก้าวเดินเข้าสู่เส้ นทางแห่งเต๋ของตนเองแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังอยู่บริเวณหน้าผา และเมื่อมีคนใหม่เข้ามา พวกเขาก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างออกรสราวกับตนเองคือหลิงฮัน

 

“ตุบ” ร่างหนึ่งเข้ามายังเขตแดนลี้ลับ คนผู้นี้แม้จะดูเหมือนธรรมดาแต่กลับไม่ธรรมดา

 

เขาเป็นรุ่นเยาว์สวมชุดสีขาว ที่ถือคันธนูขนาดเล็กราวกับของเล่นเอาไว้ในมือ

 

จี่อู๋หมิง!

 

เขาเองก็มาที่ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกแล้วเช่นกัน

 

จี่อู๋หมิงพาดมือทั้งสองไว้ด้านหลัง มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มและพึมพําอยู่ในใจ “ในสงครามเมื่ออดีตกาล มังกรสวรรค์นับร้อยได้สิ้นชีพลงจนเผ่ามังกรแทบจะสูญสิ้น โดยเพื่อที่จะไม่ให้มังกรสวรรค์นับร้อยเหล่านั้นตายไปอย่างสูญเปล่า จู่หลง (มังกรบรรพบุรุษ) ได้ฝังโครงกระดูกของมังกรสวรรค์เหล่านั้นเอาไว้ที่นี่ และรวมเป็นหนึ่งกับสวรรค์และปฐพี”

 

“หากได้รับการเติมเต็มจากพลังของมังกรนับร้อย กายหยาบของข้าก็จะถูกขัดเกลา ให้มั่นคงขึ้น เพราะข้าดูดกลืนกายหยาบที่แตกต่างกัน จากอัจฉริยะมากมายเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป ทําให้อาจจะผลเสียในระยะยาวได้”

 

“เผ่ามังกรคือเผ่าที่มีพลังกายทรงพลัง ทําให้พลังของมังกรนับร้อยสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ให้ข้าได้”

 

“นอกจากนั้นในหมู่มังกรนับร้อย ก็มีมังกรที่เป็นบุตรตนที่สี่ของอู่หลงอย่างผู้เหลาอยู่ด้วย ถึงแม้พลังต่อสู้ของมันจะอ่อนด้อยไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นมังกรสวรรค์ที่มีพลังของราชานิรันดร์ระดับเก้า”

 

“การผสานรวมกันของอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของมังกรนับร้อยจะทําให้บุปผาแห่งเต๋างอกเงยขึ้นมา ซึ่งมันเองก็มีประโยชน์ต่อข้าพอสมควร”

 

จี่อู๋หมิงยืดหลัง และยื่นมือขวาออกไปด้านหน้าก่อนจะขยับนิ้วมือทั้งห้า

 

และในขณะเดียวกันนั้นเงอ

 

“จางหยุนมาถึงแล้ว!”

 

“คนผู้นี้เป็นจักรพรรดิจากอาณาเขตสวรรค์ตู้เหลา มีคํากล่าวว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในห้าอันดับแรก!”

 

“นั่นไม่อาจนํามาเทียบกับอาณาเขตสวรรค์ผ่อนของเราได้ จางหยุนอาจจะอยู่ในห้าอันดับแรกของอาณาเขตสวรรค์ตู้เหล้า แต่หากเป็นในอาณาเขตสวรรค์อัน ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะไม่ติดอยู่ในยี่สิบอันดับแรกด้วยซ้ํา”

 

“แต่ไม่ว่าอย่างไรจักรพรรดิก็ยังคงเป็นจักรพรรดิ เขาเป็นตัวตนที่ไม่อาจประมาทได้”

 

ในระหว่างที่ฝูงชนกําลังคุยกัน จางหยุนก็ก้าวเดินขึ้นหน้าและทําการกระตุ้นสะพานมังกร

 

หนึ่ง สอง สาม ไม่นานสะพานมังกรแปดอันก็ส่องสว่าง

 

“ดูเหมือนว่าอัจฉริยะอันดับห้าของอาณาเขตสวรรค์ตู้เหลาจะแข็งแกร่งเหมือนกัน”

 

“การที่กระตุ้นสะพานมังกรได้ถึงแปดอัน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากทีเดียว”

 

“พลังของเขาจัดว่าเป็นระดับแนวหน้าในหมู่จักรพรรดิ

 

“น่าเสียดายที่สะพานมังกรอันที่เก้าไม่ส่องสว่าง ไม่เช่นนั้นเขาคงได้ก้าวเข้าสู่สะพานมังกรสีทองแล้ว”

 

ทุกคนมองไปยังจ้าวหยุนด้วยแววตาอิจฉา เนื่องจากคนที่เป็นพยานเห็นปาฏิหาริย์ได้เดินหน้าสู่สะพานมังกรของตนเองไปหมดแล้ว ทําให้คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ตกตะลึงกับสะพานมังกรทั้งแปดที่ส่องสว่าง

 

จางหยุนพึงพอใจเป็นอย่างมาก ในตอนที่เข้ามาเขาได้ยินใครบางคนกล่าวว่า มีจักรพรรดิถึงหกคนที่กระตุ้นสะพานมังกรสีทองได้ แถมมีแม้กระทั่งคนผู้หนึ่งที่กระตุ้นสะพานเส้นทางแห่งเต๋าสวรรค์สูงสุดได้ ซึ่งมีรึที่เขาจะเชื่อเรื่องไร้สาระพรรค์นี้?

 

หากมองย้อนไปยังประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ในยุคสมัยอันรุ่งเรืองที่สุดของศาสตร์วรยุทธ จํานวนสะพานมังกรสีทองที่ถูกกระตุ้นให้ส่องสว่างพร้อมกันคือสี่สะพานเท่านั้น แต่นี่จะมาบอกว่า ครั้งนี้สะพานสีทองได้ส่องสว่างพร้อมกันถึงหกอัน แถมยังเส้นทางแห่งเต๋สวรรค์สูงสุดยังตอบรับใครบางคนอีกงั้นรึ?

 

เรื่องไร้สาระแบบนี้ใครจะไปเชื่อกัน?

 

แต่ในขณะนั้นเอง “พรึบ พรึบ พรึบ” จู่ๆ สะพานมังกรนับสิบก็ส่องสว่างพร้อมกัน!

 

เหตุการณ์นี้ได้ดึงดูดสายตาทุกคู่ และบรรยากาศรอบด้านกลายเป็นเงียบสงัดในทันที

 

สามสิบ สี่สิบ… ห้าสิบ… หกสิบ!

 

ผู้คนมากมายกลายเป็นนิ่งอึ้งไร้คําพูด ทางด้านของจางหยุนเองก็ปากกระตุกไปมา และหันไปจ้องมองรุ่นเยาว์ชุดขาวที่อยู่ด้านข้าง

 

เจ็ดสิบ… แปดสิบ… แปดสิบเอ็ด!

 

“ตูมม” แสงสว่างของสะพานมังกรธรรมดาทั้งหมดหายไป และสะพานมังกรสีทองทั้งเก้าได้ส่องสว่างขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

 

ทุกคนรอบด้านตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ในเมื่อสะพานสีทองทั้งเก้าส่องสว่างพร้อมกัน นั่นหมายความว่าเส้นทางแห่งเต๋สวรรค์สูงสุดกําลังจะเปิดออก!

 

จี่อู๋หมิงหัวเราะ นิ้วมือทั้งห้าของเขาเคลื่อนไหวอย่างเรียบง่ายและดูผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

 

หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง แสงจากสะพานมังกรสีทองทั้งเก้าก็หายไปเช่นกัน และสะพานมังกรสีดําก็ส่องสว่าง พร้อมกับระเบิดกลิ่นอายอันน่าเกรงขามที่ก้าวข้ามยุคสมัยออกมา

 

ร่างของทุกคนทรุดลงกับพื้น โดยที่จางหยุนก็ไม่มีข้อยกเว้น

 

เป็นจักรพรรดิแล้วอย่างไร ต่อหน้ากลิ่นอายของตัวตนระดับราชานิรันดร์ หากระดับพลังต่ํากว่าก็ทําได้เพียงคุกเข่า

 

จี่อู๋หมิงพาดมือไว้ด้านหลัง แววตาของเขาดูราวกับไม่แยแส แถมยังแสดงท่าที่เหยียดหยามออกมา

 

ถึงแม้จะเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าเหมือนกัน แต่ก็ยังมีการแบ่งแยกศักยภาพระหว่างราชากับจักรพรรดิ หากเป็นในอดีตผู้เหลาไม่สามารถรับมือหนึ่งร้อยกระบวนท่าของเขาได้ด้วยซ้ํา เพราะงั้นตอนนี้ถึงแม้เขาจะหวนคืนกลับเกิดใหม่และต้องบ่มเพาะพลังจากจุดเริ่มต้นอีกครั้ง เขาก็ไม่ได้รู้สึกยําเกรงต่อกลิ่นอายของอีกฝ่าย

 

เส้นทางแห่งเต๋าสวรรค์สูงสุดเปิดออกแล้ว!

 

ดวงตาของจางหยุนเต็มไปด้วยความรู้สึกริษยา ถึงแม้เขาเองก็เป็นจักรพรรดิเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับจี่อู๋หมิงแล้ว พรสวรรค์ของเขาด้อยกว่าอีกฝ่ายมากมายหลายขุม

 

เขาจดจ้องไปที่จี่อู๋หมิง และดวงตาส่องประกายโหดเหี้ยม

 

รุ่นเยาว์ผู้นี้เป็นเพียงจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางเท่านั้น ถึงแม้พรสวรรค์ของเขาจะเทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้ แต่เขาเองก็เป็นจักรพรรดิเหมือนกัน แถมยังมีพลังบ่มเพาะสูงกว่าถึงสามระดับย่อย มีรึที่จะพ่ายแพ้ให้อีกฝ่าย?

 

ฆ่า… ต้องกําจัดอัจฉริยะที่เขาทําได้เพียงแหงนมองทิ้งไปซะ

 

ตูม!

 

เขาครุ่นคิดอยู่ได้ไม่นาน จู่ๆ ก็เห็นภาพที่จี่อู๋หมิงปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้า

 

อีกฝ่ายกล้าลงมือกับเขาได้อย่างไร?

 

การโจมตีของอีกฝ่ายจะได้ผลได้อย่างไร?

 

ร่างของจางหยุนระเบิดเสียงดังสนั่นออกมาก่อนจะล้มลงกับพื้น และสิ้นชีพไปพร้อมกับคําถามมากมายภายในหัว

 

จักรพรรดิผู้หนึ่งถูกสังหารโดยจอมยุทธที่มีพลังบ่มเพาะต่ํากว่าถึงสามระดับย่อย… เรื่องเช่นนี้ช่างน่าเหลือเชื่อและไม่อาจทําใจยอมรับได้

 

จี่อู๋หมิงไม่แยแสใดๆ จํานวนของราชานิรันดร์ระดับเก้าที่ถูกเขาสังหารนั้นมีมากกว่าที่สองมือจะนับพอเสียอีก เพราะงั้นมีความจําเป็นอันใดที่เขาต้องไปแยแสกับแค่ตัวตนอย่างจางหยุน?

 

เขาก้าวเดินและมุ่งหน้าไปยังสะพานมังกรสีดํา

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2048 จี่อู๋หมิงมาถึง และเส้นทางแห่งเต๋า สวรรค์สูงสุดส่องสว่างอีกครั้ง

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2048 จี่อู๋หมิงมาถึง และเส้นทางแห่งเต๋า สวรรค์สูงสุดส่องสว่างอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2048 จี่อู๋หมิงมาถึง และเส้นทางแห่งเต๋า สวรรค์สูงสุดส่องสว่างอีกครั้ง

 

ยังไม่ทันที่ร่างของหลิงฮันจะหายไปยังทิศทางของเส้นทางมังกรสีดําได้นาน เหล่าอัจฉริยะมากมายก็กลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง

 

พระเจ้า เมื่อครู่พวกเขาเพิ่งเห็นอะไรมากันแน่?

 

ใครบางคนกระตุ้นสะพานมังกรสีดําได้ ซึ่งสะพานมังกรสีดําคือตัวแทนแห่งเส้นทางแห่งเต๋าสวรรค์สูงสุด!

 

ในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีตัวตนที่ทรงพลังแบบใดถือกําเนิดขึ้นกัน?

 

จ้าวแห่งราชานิรันดร์ระดับเก้า ที่เป็นจักรพรรดิผู้ไร้เทียมทาน?

 

“เขาคือใครกัน?”

 

“ที่แน่ๆ คือไม่ใช่คนของอาณาเขตสวรรค์ผ่อน!”

 

“ไม่รู้เหมือนกัน ข้าไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลย”

 

ทุกคนอุทานด้วยความตะลึง ต่อให้ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากเขตแดนลี้ลับ แต่การที่ได้เป็นสักขีพยานการถือกําเนิดของจ้าวแห่งราชานิรันดร์ระดับเก้าในอนาคต ก็ถือว่าเป็นวาสนาสูงสุดของชีวิตแล้ว

 

คนมากมายยังคงเข้ามาในเขตแดนลี้ลับอย่างต่อเนื่อง

 

“พี่ชายสี่ หนึ่งก้าวที่ท่านมาช้า ทําให้ท่านต้องรู้สึกเสียดายไปชั่วชีวิต”

 

“ผู้อาวุโสหลิว ในที่สุดท่านก็มา เมื่อครู่ข้าเพิ่งเห็นเหตุการณ์ที่จะทําให้ข้าไม่ลืมเลือนไปตลอดกาล”

 

คนมากมายที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน แต่เนื่องจากหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันหมด ทําให้ถึงแม้พวกเขาจะไม่เชื่อ แต่ก็ไม่สามารถกล่าวคัดค้านกลับไปได้

หนึ่งวัน สองวัน… สามวัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งใครหลายคนได้ก้าวเดินเข้าสู่เส้ นทางแห่งเต๋ของตนเองแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังอยู่บริเวณหน้าผา และเมื่อมีคนใหม่เข้ามา พวกเขาก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างออกรสราวกับตนเองคือหลิงฮัน

 

“ตุบ” ร่างหนึ่งเข้ามายังเขตแดนลี้ลับ คนผู้นี้แม้จะดูเหมือนธรรมดาแต่กลับไม่ธรรมดา

 

เขาเป็นรุ่นเยาว์สวมชุดสีขาว ที่ถือคันธนูขนาดเล็กราวกับของเล่นเอาไว้ในมือ

 

จี่อู๋หมิง!

 

เขาเองก็มาที่ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกแล้วเช่นกัน

 

จี่อู๋หมิงพาดมือทั้งสองไว้ด้านหลัง มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มและพึมพําอยู่ในใจ “ในสงครามเมื่ออดีตกาล มังกรสวรรค์นับร้อยได้สิ้นชีพลงจนเผ่ามังกรแทบจะสูญสิ้น โดยเพื่อที่จะไม่ให้มังกรสวรรค์นับร้อยเหล่านั้นตายไปอย่างสูญเปล่า จู่หลง (มังกรบรรพบุรุษ) ได้ฝังโครงกระดูกของมังกรสวรรค์เหล่านั้นเอาไว้ที่นี่ และรวมเป็นหนึ่งกับสวรรค์และปฐพี”

 

“หากได้รับการเติมเต็มจากพลังของมังกรนับร้อย กายหยาบของข้าก็จะถูกขัดเกลา ให้มั่นคงขึ้น เพราะข้าดูดกลืนกายหยาบที่แตกต่างกัน จากอัจฉริยะมากมายเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป ทําให้อาจจะผลเสียในระยะยาวได้”

 

“เผ่ามังกรคือเผ่าที่มีพลังกายทรงพลัง ทําให้พลังของมังกรนับร้อยสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ให้ข้าได้”

 

“นอกจากนั้นในหมู่มังกรนับร้อย ก็มีมังกรที่เป็นบุตรตนที่สี่ของอู่หลงอย่างผู้เหลาอยู่ด้วย ถึงแม้พลังต่อสู้ของมันจะอ่อนด้อยไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นมังกรสวรรค์ที่มีพลังของราชานิรันดร์ระดับเก้า”

 

“การผสานรวมกันของอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของมังกรนับร้อยจะทําให้บุปผาแห่งเต๋างอกเงยขึ้นมา ซึ่งมันเองก็มีประโยชน์ต่อข้าพอสมควร”

 

จี่อู๋หมิงยืดหลัง และยื่นมือขวาออกไปด้านหน้าก่อนจะขยับนิ้วมือทั้งห้า

 

และในขณะเดียวกันนั้นเงอ

 

“จางหยุนมาถึงแล้ว!”

 

“คนผู้นี้เป็นจักรพรรดิจากอาณาเขตสวรรค์ตู้เหลา มีคํากล่าวว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในห้าอันดับแรก!”

 

“นั่นไม่อาจนํามาเทียบกับอาณาเขตสวรรค์ผ่อนของเราได้ จางหยุนอาจจะอยู่ในห้าอันดับแรกของอาณาเขตสวรรค์ตู้เหล้า แต่หากเป็นในอาณาเขตสวรรค์อัน ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะไม่ติดอยู่ในยี่สิบอันดับแรกด้วยซ้ํา”

 

“แต่ไม่ว่าอย่างไรจักรพรรดิก็ยังคงเป็นจักรพรรดิ เขาเป็นตัวตนที่ไม่อาจประมาทได้”

 

ในระหว่างที่ฝูงชนกําลังคุยกัน จางหยุนก็ก้าวเดินขึ้นหน้าและทําการกระตุ้นสะพานมังกร

 

หนึ่ง สอง สาม ไม่นานสะพานมังกรแปดอันก็ส่องสว่าง

 

“ดูเหมือนว่าอัจฉริยะอันดับห้าของอาณาเขตสวรรค์ตู้เหลาจะแข็งแกร่งเหมือนกัน”

 

“การที่กระตุ้นสะพานมังกรได้ถึงแปดอัน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากทีเดียว”

 

“พลังของเขาจัดว่าเป็นระดับแนวหน้าในหมู่จักรพรรดิ

 

“น่าเสียดายที่สะพานมังกรอันที่เก้าไม่ส่องสว่าง ไม่เช่นนั้นเขาคงได้ก้าวเข้าสู่สะพานมังกรสีทองแล้ว”

 

ทุกคนมองไปยังจ้าวหยุนด้วยแววตาอิจฉา เนื่องจากคนที่เป็นพยานเห็นปาฏิหาริย์ได้เดินหน้าสู่สะพานมังกรของตนเองไปหมดแล้ว ทําให้คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ตกตะลึงกับสะพานมังกรทั้งแปดที่ส่องสว่าง

 

จางหยุนพึงพอใจเป็นอย่างมาก ในตอนที่เข้ามาเขาได้ยินใครบางคนกล่าวว่า มีจักรพรรดิถึงหกคนที่กระตุ้นสะพานมังกรสีทองได้ แถมมีแม้กระทั่งคนผู้หนึ่งที่กระตุ้นสะพานเส้นทางแห่งเต๋าสวรรค์สูงสุดได้ ซึ่งมีรึที่เขาจะเชื่อเรื่องไร้สาระพรรค์นี้?

 

หากมองย้อนไปยังประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ในยุคสมัยอันรุ่งเรืองที่สุดของศาสตร์วรยุทธ จํานวนสะพานมังกรสีทองที่ถูกกระตุ้นให้ส่องสว่างพร้อมกันคือสี่สะพานเท่านั้น แต่นี่จะมาบอกว่า ครั้งนี้สะพานสีทองได้ส่องสว่างพร้อมกันถึงหกอัน แถมยังเส้นทางแห่งเต๋สวรรค์สูงสุดยังตอบรับใครบางคนอีกงั้นรึ?

 

เรื่องไร้สาระแบบนี้ใครจะไปเชื่อกัน?

 

แต่ในขณะนั้นเอง “พรึบ พรึบ พรึบ” จู่ๆ สะพานมังกรนับสิบก็ส่องสว่างพร้อมกัน!

 

เหตุการณ์นี้ได้ดึงดูดสายตาทุกคู่ และบรรยากาศรอบด้านกลายเป็นเงียบสงัดในทันที

 

สามสิบ สี่สิบ… ห้าสิบ… หกสิบ!

 

ผู้คนมากมายกลายเป็นนิ่งอึ้งไร้คําพูด ทางด้านของจางหยุนเองก็ปากกระตุกไปมา และหันไปจ้องมองรุ่นเยาว์ชุดขาวที่อยู่ด้านข้าง

 

เจ็ดสิบ… แปดสิบ… แปดสิบเอ็ด!

 

“ตูมม” แสงสว่างของสะพานมังกรธรรมดาทั้งหมดหายไป และสะพานมังกรสีทองทั้งเก้าได้ส่องสว่างขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

 

ทุกคนรอบด้านตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ในเมื่อสะพานสีทองทั้งเก้าส่องสว่างพร้อมกัน นั่นหมายความว่าเส้นทางแห่งเต๋สวรรค์สูงสุดกําลังจะเปิดออก!

 

จี่อู๋หมิงหัวเราะ นิ้วมือทั้งห้าของเขาเคลื่อนไหวอย่างเรียบง่ายและดูผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

 

หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง แสงจากสะพานมังกรสีทองทั้งเก้าก็หายไปเช่นกัน และสะพานมังกรสีดําก็ส่องสว่าง พร้อมกับระเบิดกลิ่นอายอันน่าเกรงขามที่ก้าวข้ามยุคสมัยออกมา

 

ร่างของทุกคนทรุดลงกับพื้น โดยที่จางหยุนก็ไม่มีข้อยกเว้น

 

เป็นจักรพรรดิแล้วอย่างไร ต่อหน้ากลิ่นอายของตัวตนระดับราชานิรันดร์ หากระดับพลังต่ํากว่าก็ทําได้เพียงคุกเข่า

 

จี่อู๋หมิงพาดมือไว้ด้านหลัง แววตาของเขาดูราวกับไม่แยแส แถมยังแสดงท่าที่เหยียดหยามออกมา

 

ถึงแม้จะเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าเหมือนกัน แต่ก็ยังมีการแบ่งแยกศักยภาพระหว่างราชากับจักรพรรดิ หากเป็นในอดีตผู้เหลาไม่สามารถรับมือหนึ่งร้อยกระบวนท่าของเขาได้ด้วยซ้ํา เพราะงั้นตอนนี้ถึงแม้เขาจะหวนคืนกลับเกิดใหม่และต้องบ่มเพาะพลังจากจุดเริ่มต้นอีกครั้ง เขาก็ไม่ได้รู้สึกยําเกรงต่อกลิ่นอายของอีกฝ่าย

 

เส้นทางแห่งเต๋าสวรรค์สูงสุดเปิดออกแล้ว!

 

ดวงตาของจางหยุนเต็มไปด้วยความรู้สึกริษยา ถึงแม้เขาเองก็เป็นจักรพรรดิเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับจี่อู๋หมิงแล้ว พรสวรรค์ของเขาด้อยกว่าอีกฝ่ายมากมายหลายขุม

 

เขาจดจ้องไปที่จี่อู๋หมิง และดวงตาส่องประกายโหดเหี้ยม

 

รุ่นเยาว์ผู้นี้เป็นเพียงจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางเท่านั้น ถึงแม้พรสวรรค์ของเขาจะเทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้ แต่เขาเองก็เป็นจักรพรรดิเหมือนกัน แถมยังมีพลังบ่มเพาะสูงกว่าถึงสามระดับย่อย มีรึที่จะพ่ายแพ้ให้อีกฝ่าย?

 

ฆ่า… ต้องกําจัดอัจฉริยะที่เขาทําได้เพียงแหงนมองทิ้งไปซะ

 

ตูม!

 

เขาครุ่นคิดอยู่ได้ไม่นาน จู่ๆ ก็เห็นภาพที่จี่อู๋หมิงปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้า

 

อีกฝ่ายกล้าลงมือกับเขาได้อย่างไร?

 

การโจมตีของอีกฝ่ายจะได้ผลได้อย่างไร?

 

ร่างของจางหยุนระเบิดเสียงดังสนั่นออกมาก่อนจะล้มลงกับพื้น และสิ้นชีพไปพร้อมกับคําถามมากมายภายในหัว

 

จักรพรรดิผู้หนึ่งถูกสังหารโดยจอมยุทธที่มีพลังบ่มเพาะต่ํากว่าถึงสามระดับย่อย… เรื่องเช่นนี้ช่างน่าเหลือเชื่อและไม่อาจทําใจยอมรับได้

 

จี่อู๋หมิงไม่แยแสใดๆ จํานวนของราชานิรันดร์ระดับเก้าที่ถูกเขาสังหารนั้นมีมากกว่าที่สองมือจะนับพอเสียอีก เพราะงั้นมีความจําเป็นอันใดที่เขาต้องไปแยแสกับแค่ตัวตนอย่างจางหยุน?

 

เขาก้าวเดินและมุ่งหน้าไปยังสะพานมังกรสีดํา

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+