Alchemy Emperor of the Divine Dao 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด

 

เมื่อว่าการโจมตีของตนเองไม่ได้ผล อินทรีย์ร่างทองก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่การโห่ร้องเพื่อโจมตีด้วยคลื่นเสียงคมดาบ แต่เป็นเพียงการโห่ร้องอย่างเกรี้ยวกราดราวกับกําลังกล่าวว่า ทําไมการโจมตีของมันถึงได้จัดการพวกหลิงฮันไม่ได้กัน?

 

อินทรีร่างทองจดจ้องไปยังพวกหลิงฮันด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะส่งเสียงคํารามที่แปรเปลี่ยนเป็นคมดาบสี่เล่มจู่โจมใส่พวกหลิงฮันทั้งสี่คนอีกครั้ง

 

ยังไม่ล้มเลิกความคิดอีกงั้นรึ?

 

หลิงฮันใช้แก่นพลังมหาพินาศสร้างคลื่นวายุที่น่าสะพรึงกลัวอีกครั้ง เพื่อทําลายคมดาบทั้งสี่

 

อินทรีย์ร่างทองตนนี้มีพลังอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์ แต่พลังโจมตีของมันรุนแรงเหนือกว่าระดับพลังไปมาก จึงเป็นไปได้สูงมากว่ามันอาจจะเป็นราชาในหมู่ราชาหรือจักรพรรดิ เพราะงั้นอย่าไม่ใช่แค่ฮูหนิวกับจักรพรรดินีที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ถ้าหากหลิงฮันไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศล่ะก็ เขาก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเหมือนกัน

 

“ลงมาข้างล่าง!” หลิงฮันคํารามขึ้นสู่ท้องฟ้า ในสถานที่ที่มีอํานาจแห่งกฎเกณฑ์แรงโน้มถ่วงอันผันผวน เขาไม่สามารถเหาะเหินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้

 

อินทรีย์ร่างทองเมินเฉย และยังคงคํารามอยู่บนท้องฟ้าเพื่อโจมตีด้วยคลื่นเสียงคมดาบอยู่เป็นระยะ

 

หลังจากโจมตีวนไปวนมาอยู่สักพัก อินทรีย์ร่างทางก็เข้าใจในที่สุดว่ามันไม่สามารถสังหารพวกหลิงฮันได้ จึงทําการสะบัดปีกบินจากไป

 

พวกหลิงฮันทั้งสี่คนไม่สบอารมณ์ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่การที่ถูกโจมตีและไม่สามารถโต้ตอบได้เช่นนี้ ย่อมทําให้พวกเขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

 

“ฮีม อย่าให้หนิวเจอรังของมันนะ ไม่เช่นนั้นหนิวจะทําลายรังของมันให้เละ!” ฮูหนิวกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

 

ทั้งสี่คนมุ่งหน้าต่อ โดยเลี่ยงที่จะไม่เข้าสู่อาณาเขตที่เป็นปา เพราะไม่รู้ว่าภายในจะมีอันตรายแบบไหนซ่อนอยู่บ้าง

 

ในเขตแดนลี้ลับนั้นทุกคนต้องระวังตัวให้ดีไม่ว่าจะไปที่ไหน เพราะภัยอันตรายบางอย่างอาจจะมาจากสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยอย่างแมลง ที่ถึงแม้จะไม่มีพลังบ่มเพาะแต่ก็สามารถเจาะการป้องกันของจอมยุทธที่แข็งแกร่งได้อย่างง่ายดาย และฉีดพิษเข้าสู่ร่างกาย

 

หรือไม่ก็มีพืชพรรณที่ภายนอกแม้จะดูธรรมดาทั่วไป แต่แท้จริงแล้วมันมีฤทธิ์ถึงขั้นทําให้การป้องกันของปรมาจารย์ระดับตําหนักอมตะไร้ผลได้

 

เพราะงั้นทางที่ดีอย่าเข้าไปในสภาพแวดล้อมที่ดูคลุมเครือจะดีกว่า

 

“โฮกกกก!”

 

ทันใดนั้นเสียงคํารามของสัตว์อสูรนก็ดังขึ้น และร่างของหมียักษ์ก็ปรากฏออกมาจากหลังหิน มันเป็นหมีที่มีความสูงถึงสิบฟุต และมีดวงตาอันร้อนระอุของเปลวเพลิงที่ปลดปล่อยแรงกดดันอันหนักหน่วงออกมา

 

“หนิวจัดการเอง!” จิตวิญญาณนักล่าของซูหนิวถูกกระตุ้นให้ตื่น และเป็นคนแรกที่ลงมือ “มีอุ้งตีนหมีให้กินแล้ว!”

 

ปัง!

 

เมื่อนางพุ่งทะยานร่างเข้าปะทะ ร่างเงาร่างหนึ่งก็ถูกซัดลอยกระแทกเข้าใส่หินด้านหลัง และ ร่างยุบลงไปด้านใน

 

ภาพที่ทุกคนเห็นคือหมียักษ์ร่างดํายังคงยืนตั้งท่าผลักอุ้งเท้าอยู่จุดเดิม เพราะงั้นร่างที่ถูกซัดลอยกระเด็นย่อมเป็นฮูหนิว

 

“เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ!” ฮูหนิวกัดฟันและพยุงร่างออกมาจากหิน “อุ้งตีนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น รสชาติต้องอร่อยมากแน่ๆ!”

 

นางลุกขึ้นยืนและโจมตีใส่หมียักษ์ร่างดําอีกครั้ง

 

หมียักษ์ร่างดํายังคงผลักอุ้งเท้าออกมาโจมตีแบบเดิม ถึงแม้ฮูหนิวจะดูไม่ประสีประสา แต่สัญชาตญาณการต่อสู้ของนางนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เพราะงั้นมีรึที่นางจะถูกการโจมตีรูปแบบเดิมๆ โจมตีใส่เป็นครั้งที่สอง?

 

นางเบี่ยงร่างไปด้านข้างเพื่อวนรอบหมียักษ์ร่างดํา และใช้ความเร็วอันเป็นจุดเด่นของนางให้เป็นประโยชน์

 

เงาของมัจฉาวายุภักษ์สยายปีกยาวเกือบแสนไมล์ออกมาและส่งเสียงโห่ร้องขึ้นสู่ท้องฟ้า มัจฉาวายุภักษ์นั้นเป็นหนึ่งในตัวตนที่รวดเร็วที่สุดในยุทธภพนี้

 

ในพริบตาเดียว ทั่วพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเงาของซูหนิวอย่างน้อยหนึ่งร้อยร่าง เนื่องจากนางเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากเกินไป จึงส่งผลให้เกิดภาพติดตาที่แทบจะเหมือนกับร่างจริง

 

หมียักษ์ร่างดําคํารามอย่างเกรี้ยวกราด มันมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์ แถมยังเป็นราชาอีกด้วย ในด้านของพลังต่อสู้แล้วไม่รู้ว่ามันเหนือกว่าฮูหนิวกี่เท่า แต่มันกลับโจมตีฮูหนิวไม่โดนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

ปัง! ปัง! ปัง!

 

ในทางกลับกัน ฮูหนิวเป็นฝ่ายกระหน่ําปล่อยหมัดใส่หมียักษ์ร่างดําอย่างโหดเหี้ยมซึ่งขัดกับภาพลักษณ์อันไร้เดียงสาของนางอย่างสิ้นเชิง

 

หมียักษ์ร่างดําคํารามอย่างต่อเนื่อง และเปลวเพลิงในดวงตาของมันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นบอลเพลิงสีแดง ที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดําอย่างช้าๆ พร้อมกับมีลวดลายสีขาวอันแปลกประหลาดปรากฏขึ้นมา

 

จิตใจของหลิงฮันรู้สึกกระอักกระอ่วน และกล่าวออกไป “หนิว เจ้าระวังตัวด้วย หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเป็นคนลงมือเอง!”

 

“ไม่ หนิวยังอยากสนุกอยู่!” ฮูหนิวหัวเราะและกระหน่ําโจมตีเข้าใส่หมียักษ์ร่างดําอย่างต่อเนื่อง

 

ตูมมม!

 

ในจังหวะนั้นเอง บอลเพลิงสีดําทั้งสองลูกก็ระเบิดออก ก่อให้เกิดคลื่นพลังทําลายที่น่าสะพรึงกลัวถาโถมไปทั่วพื้นที่ บริเวณรอบๆ ในระยะสิบไมล์ถูกเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงด้วยอํานาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงที่เดือดดาล ราวกับจะสามารถแผดเผาได้ทุกสรรพสิ่ง

 

หลิงฮันสะบัดมือกลับ เมื่อครู่เขาทําการโจมตีออกไปด้านหน้าเพื่อคุ้มกันจักรพรรดินีและธิดาโร๋ว ส่วนฮูหนิวนั้น

 

“หนิวไม่เป็นอะไร!” ฮูหนิวยิ้มร่า ที่รอบตัวของนางปรากฏโล่แสงคุ้มกัน และเงาของมัจฉาวายุภักษ์ได้กระพือปีกพุ่งทะยานโจมตีเข้าใส่หมียักษ์ร่างดํา

 

ปัง!

 

คลื่นปะทะส่งผลให้หมียักษ์ร่างดําเดินกระเพกจนเกือบล้ม

 

ทั้งๆ ที่ฮูหนิวกระตุ้นสายเลือดของมัจฉาวายุภักษ์แล้ว แต่การโจมตีที่ทรงพลังของนางก็ยังทําให้หมียักษ์ร่างดําเดินโซเซเท่านั้น ตามร่างของมันไม่ปรากฏบาดแผลใดๆ ซึ่งทําให้เห็นกันชัดเจนแล้วว่าพลังของหมียักษ์ร่างดําตนนี้แข็งแกร่งขนาดไหน

 

“ลงมือพร้อมกัน!”

 

หลิงฮัน จักรพรรดิ และธิดาโร๋วเข้าร่วมการต่อสู้

 

หากหลิงฮันไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศ แม้แต่เขาเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมียักษ์ร่างดําเช่นกัน

 

เพียงแค่กายหยาบของเขานั้นไร้เทียมทานพอ ที่จะรับการโจมตีทั้งหมดของหมียักษ์ร่างดําเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะงั้นเมื่อมีเขาทําหน้าที่เป็นตัวชนหลักคอยรับการโจมตีของหมียักษ์ร่างดํา สตรีทั้งสามจึงสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของพวกนางออกมาได้

 

หลังจากพยายามกันอยู่สองวัน ในที่สุดหมียักษ์ร่างดําก็ถูกสังหาร พวกหลิงฮันทรุดตัวนั่งลงกับพื้นด้วยความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

 

หลังจากสูดลมหายใจสองสามครั้ง พวกเขาทุกคนก็หัวเราะออกมาด้วยความปลื้มปริ่มที่ไม่อาจอธิบายเป็นคําพูดได้

 

การสังหารสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าตนเองหลายเท่าได้ ทําให้พวกเขารู้สึกประสบความเร็จอย่างบอกไม่ถูก

 

“อุ้งตีนหมี! อุ้งตีนหมี!” มีเพียงฮูหนิวเท่านั้นที่ดูจะดีใจในเรื่องที่ต่างจากคนอื่น นางมองไปยังหมียักษ์ร่างดําด้วยท่าที่ตื่นเต้นและน้ําลายสอ

 

หลิงฮันพักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะชําแหละร่างของหมีร่างดํา และนําอุ้งเท้าทั้งสี่ย่างไฟแจกจ่ายให้ทุกคน

 

“มีผลึกมังกรด้วย” เขานําผลึกมังกรสีทองออกมาจากศีรษะของหมียักษ์ร่างดํา

 

“หืม ดูเหมือนจะมีลวดลายบางอย่างอยู่บนผลึกด้วยนะ” ธิดาโร๋วดวงตาเฉียบคม

 

จักรพรรดินีจ้องมองและพยักหน้า “มีลวดลายและแก่นพลังงานที่ทรงพลังอยู่จริงๆ แต่ข้าไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร”

 

หลิงฮันเองก็ลองตรวจสอบดู ผลึกมังกรอันนี้ต่างจากผลึกมังกรที่พวกเขาได้รับมาก่อนหน้านี้ จริงๆ มันมีลวดลายที่ซับซ้อนสลักเอาไว้ ซึ่งหลิงฮันมั่นใจว่ามันไม่ใช่ลวดลายของตราประทับอํานาจแห่งเต๋าแน่นอน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด

 

เมื่อว่าการโจมตีของตนเองไม่ได้ผล อินทรีย์ร่างทองก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่การโห่ร้องเพื่อโจมตีด้วยคลื่นเสียงคมดาบ แต่เป็นเพียงการโห่ร้องอย่างเกรี้ยวกราดราวกับกําลังกล่าวว่า ทําไมการโจมตีของมันถึงได้จัดการพวกหลิงฮันไม่ได้กัน?

 

อินทรีร่างทองจดจ้องไปยังพวกหลิงฮันด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะส่งเสียงคํารามที่แปรเปลี่ยนเป็นคมดาบสี่เล่มจู่โจมใส่พวกหลิงฮันทั้งสี่คนอีกครั้ง

 

ยังไม่ล้มเลิกความคิดอีกงั้นรึ?

 

หลิงฮันใช้แก่นพลังมหาพินาศสร้างคลื่นวายุที่น่าสะพรึงกลัวอีกครั้ง เพื่อทําลายคมดาบทั้งสี่

 

อินทรีย์ร่างทองตนนี้มีพลังอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์ แต่พลังโจมตีของมันรุนแรงเหนือกว่าระดับพลังไปมาก จึงเป็นไปได้สูงมากว่ามันอาจจะเป็นราชาในหมู่ราชาหรือจักรพรรดิ เพราะงั้นอย่าไม่ใช่แค่ฮูหนิวกับจักรพรรดินีที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ถ้าหากหลิงฮันไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศล่ะก็ เขาก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเหมือนกัน

 

“ลงมาข้างล่าง!” หลิงฮันคํารามขึ้นสู่ท้องฟ้า ในสถานที่ที่มีอํานาจแห่งกฎเกณฑ์แรงโน้มถ่วงอันผันผวน เขาไม่สามารถเหาะเหินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้

 

อินทรีย์ร่างทองเมินเฉย และยังคงคํารามอยู่บนท้องฟ้าเพื่อโจมตีด้วยคลื่นเสียงคมดาบอยู่เป็นระยะ

 

หลังจากโจมตีวนไปวนมาอยู่สักพัก อินทรีย์ร่างทางก็เข้าใจในที่สุดว่ามันไม่สามารถสังหารพวกหลิงฮันได้ จึงทําการสะบัดปีกบินจากไป

 

พวกหลิงฮันทั้งสี่คนไม่สบอารมณ์ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่การที่ถูกโจมตีและไม่สามารถโต้ตอบได้เช่นนี้ ย่อมทําให้พวกเขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

 

“ฮีม อย่าให้หนิวเจอรังของมันนะ ไม่เช่นนั้นหนิวจะทําลายรังของมันให้เละ!” ฮูหนิวกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

 

ทั้งสี่คนมุ่งหน้าต่อ โดยเลี่ยงที่จะไม่เข้าสู่อาณาเขตที่เป็นปา เพราะไม่รู้ว่าภายในจะมีอันตรายแบบไหนซ่อนอยู่บ้าง

 

ในเขตแดนลี้ลับนั้นทุกคนต้องระวังตัวให้ดีไม่ว่าจะไปที่ไหน เพราะภัยอันตรายบางอย่างอาจจะมาจากสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยอย่างแมลง ที่ถึงแม้จะไม่มีพลังบ่มเพาะแต่ก็สามารถเจาะการป้องกันของจอมยุทธที่แข็งแกร่งได้อย่างง่ายดาย และฉีดพิษเข้าสู่ร่างกาย

 

หรือไม่ก็มีพืชพรรณที่ภายนอกแม้จะดูธรรมดาทั่วไป แต่แท้จริงแล้วมันมีฤทธิ์ถึงขั้นทําให้การป้องกันของปรมาจารย์ระดับตําหนักอมตะไร้ผลได้

 

เพราะงั้นทางที่ดีอย่าเข้าไปในสภาพแวดล้อมที่ดูคลุมเครือจะดีกว่า

 

“โฮกกกก!”

 

ทันใดนั้นเสียงคํารามของสัตว์อสูรนก็ดังขึ้น และร่างของหมียักษ์ก็ปรากฏออกมาจากหลังหิน มันเป็นหมีที่มีความสูงถึงสิบฟุต และมีดวงตาอันร้อนระอุของเปลวเพลิงที่ปลดปล่อยแรงกดดันอันหนักหน่วงออกมา

 

“หนิวจัดการเอง!” จิตวิญญาณนักล่าของซูหนิวถูกกระตุ้นให้ตื่น และเป็นคนแรกที่ลงมือ “มีอุ้งตีนหมีให้กินแล้ว!”

 

ปัง!

 

เมื่อนางพุ่งทะยานร่างเข้าปะทะ ร่างเงาร่างหนึ่งก็ถูกซัดลอยกระแทกเข้าใส่หินด้านหลัง และ ร่างยุบลงไปด้านใน

 

ภาพที่ทุกคนเห็นคือหมียักษ์ร่างดํายังคงยืนตั้งท่าผลักอุ้งเท้าอยู่จุดเดิม เพราะงั้นร่างที่ถูกซัดลอยกระเด็นย่อมเป็นฮูหนิว

 

“เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ!” ฮูหนิวกัดฟันและพยุงร่างออกมาจากหิน “อุ้งตีนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น รสชาติต้องอร่อยมากแน่ๆ!”

 

นางลุกขึ้นยืนและโจมตีใส่หมียักษ์ร่างดําอีกครั้ง

 

หมียักษ์ร่างดํายังคงผลักอุ้งเท้าออกมาโจมตีแบบเดิม ถึงแม้ฮูหนิวจะดูไม่ประสีประสา แต่สัญชาตญาณการต่อสู้ของนางนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เพราะงั้นมีรึที่นางจะถูกการโจมตีรูปแบบเดิมๆ โจมตีใส่เป็นครั้งที่สอง?

 

นางเบี่ยงร่างไปด้านข้างเพื่อวนรอบหมียักษ์ร่างดํา และใช้ความเร็วอันเป็นจุดเด่นของนางให้เป็นประโยชน์

 

เงาของมัจฉาวายุภักษ์สยายปีกยาวเกือบแสนไมล์ออกมาและส่งเสียงโห่ร้องขึ้นสู่ท้องฟ้า มัจฉาวายุภักษ์นั้นเป็นหนึ่งในตัวตนที่รวดเร็วที่สุดในยุทธภพนี้

 

ในพริบตาเดียว ทั่วพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเงาของซูหนิวอย่างน้อยหนึ่งร้อยร่าง เนื่องจากนางเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากเกินไป จึงส่งผลให้เกิดภาพติดตาที่แทบจะเหมือนกับร่างจริง

 

หมียักษ์ร่างดําคํารามอย่างเกรี้ยวกราด มันมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์ แถมยังเป็นราชาอีกด้วย ในด้านของพลังต่อสู้แล้วไม่รู้ว่ามันเหนือกว่าฮูหนิวกี่เท่า แต่มันกลับโจมตีฮูหนิวไม่โดนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

ปัง! ปัง! ปัง!

 

ในทางกลับกัน ฮูหนิวเป็นฝ่ายกระหน่ําปล่อยหมัดใส่หมียักษ์ร่างดําอย่างโหดเหี้ยมซึ่งขัดกับภาพลักษณ์อันไร้เดียงสาของนางอย่างสิ้นเชิง

 

หมียักษ์ร่างดําคํารามอย่างต่อเนื่อง และเปลวเพลิงในดวงตาของมันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นบอลเพลิงสีแดง ที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดําอย่างช้าๆ พร้อมกับมีลวดลายสีขาวอันแปลกประหลาดปรากฏขึ้นมา

 

จิตใจของหลิงฮันรู้สึกกระอักกระอ่วน และกล่าวออกไป “หนิว เจ้าระวังตัวด้วย หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเป็นคนลงมือเอง!”

 

“ไม่ หนิวยังอยากสนุกอยู่!” ฮูหนิวหัวเราะและกระหน่ําโจมตีเข้าใส่หมียักษ์ร่างดําอย่างต่อเนื่อง

 

ตูมมม!

 

ในจังหวะนั้นเอง บอลเพลิงสีดําทั้งสองลูกก็ระเบิดออก ก่อให้เกิดคลื่นพลังทําลายที่น่าสะพรึงกลัวถาโถมไปทั่วพื้นที่ บริเวณรอบๆ ในระยะสิบไมล์ถูกเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงด้วยอํานาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงที่เดือดดาล ราวกับจะสามารถแผดเผาได้ทุกสรรพสิ่ง

 

หลิงฮันสะบัดมือกลับ เมื่อครู่เขาทําการโจมตีออกไปด้านหน้าเพื่อคุ้มกันจักรพรรดินีและธิดาโร๋ว ส่วนฮูหนิวนั้น

 

“หนิวไม่เป็นอะไร!” ฮูหนิวยิ้มร่า ที่รอบตัวของนางปรากฏโล่แสงคุ้มกัน และเงาของมัจฉาวายุภักษ์ได้กระพือปีกพุ่งทะยานโจมตีเข้าใส่หมียักษ์ร่างดํา

 

ปัง!

 

คลื่นปะทะส่งผลให้หมียักษ์ร่างดําเดินกระเพกจนเกือบล้ม

 

ทั้งๆ ที่ฮูหนิวกระตุ้นสายเลือดของมัจฉาวายุภักษ์แล้ว แต่การโจมตีที่ทรงพลังของนางก็ยังทําให้หมียักษ์ร่างดําเดินโซเซเท่านั้น ตามร่างของมันไม่ปรากฏบาดแผลใดๆ ซึ่งทําให้เห็นกันชัดเจนแล้วว่าพลังของหมียักษ์ร่างดําตนนี้แข็งแกร่งขนาดไหน

 

“ลงมือพร้อมกัน!”

 

หลิงฮัน จักรพรรดิ และธิดาโร๋วเข้าร่วมการต่อสู้

 

หากหลิงฮันไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศ แม้แต่เขาเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมียักษ์ร่างดําเช่นกัน

 

เพียงแค่กายหยาบของเขานั้นไร้เทียมทานพอ ที่จะรับการโจมตีทั้งหมดของหมียักษ์ร่างดําเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะงั้นเมื่อมีเขาทําหน้าที่เป็นตัวชนหลักคอยรับการโจมตีของหมียักษ์ร่างดํา สตรีทั้งสามจึงสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของพวกนางออกมาได้

 

หลังจากพยายามกันอยู่สองวัน ในที่สุดหมียักษ์ร่างดําก็ถูกสังหาร พวกหลิงฮันทรุดตัวนั่งลงกับพื้นด้วยความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

 

หลังจากสูดลมหายใจสองสามครั้ง พวกเขาทุกคนก็หัวเราะออกมาด้วยความปลื้มปริ่มที่ไม่อาจอธิบายเป็นคําพูดได้

 

การสังหารสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าตนเองหลายเท่าได้ ทําให้พวกเขารู้สึกประสบความเร็จอย่างบอกไม่ถูก

 

“อุ้งตีนหมี! อุ้งตีนหมี!” มีเพียงฮูหนิวเท่านั้นที่ดูจะดีใจในเรื่องที่ต่างจากคนอื่น นางมองไปยังหมียักษ์ร่างดําด้วยท่าที่ตื่นเต้นและน้ําลายสอ

 

หลิงฮันพักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะชําแหละร่างของหมีร่างดํา และนําอุ้งเท้าทั้งสี่ย่างไฟแจกจ่ายให้ทุกคน

 

“มีผลึกมังกรด้วย” เขานําผลึกมังกรสีทองออกมาจากศีรษะของหมียักษ์ร่างดํา

 

“หืม ดูเหมือนจะมีลวดลายบางอย่างอยู่บนผลึกด้วยนะ” ธิดาโร๋วดวงตาเฉียบคม

 

จักรพรรดินีจ้องมองและพยักหน้า “มีลวดลายและแก่นพลังงานที่ทรงพลังอยู่จริงๆ แต่ข้าไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร”

 

หลิงฮันเองก็ลองตรวจสอบดู ผลึกมังกรอันนี้ต่างจากผลึกมังกรที่พวกเขาได้รับมาก่อนหน้านี้ จริงๆ มันมีลวดลายที่ซับซ้อนสลักเอาไว้ ซึ่งหลิงฮันมั่นใจว่ามันไม่ใช่ลวดลายของตราประทับอํานาจแห่งเต๋าแน่นอน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2055 ผลึกมังกรแปลกประหลาด

 

เมื่อว่าการโจมตีของตนเองไม่ได้ผล อินทรีย์ร่างทองก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่การโห่ร้องเพื่อโจมตีด้วยคลื่นเสียงคมดาบ แต่เป็นเพียงการโห่ร้องอย่างเกรี้ยวกราดราวกับกําลังกล่าวว่า ทําไมการโจมตีของมันถึงได้จัดการพวกหลิงฮันไม่ได้กัน?

 

อินทรีร่างทองจดจ้องไปยังพวกหลิงฮันด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะส่งเสียงคํารามที่แปรเปลี่ยนเป็นคมดาบสี่เล่มจู่โจมใส่พวกหลิงฮันทั้งสี่คนอีกครั้ง

 

ยังไม่ล้มเลิกความคิดอีกงั้นรึ?

 

หลิงฮันใช้แก่นพลังมหาพินาศสร้างคลื่นวายุที่น่าสะพรึงกลัวอีกครั้ง เพื่อทําลายคมดาบทั้งสี่

 

อินทรีย์ร่างทองตนนี้มีพลังอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์ แต่พลังโจมตีของมันรุนแรงเหนือกว่าระดับพลังไปมาก จึงเป็นไปได้สูงมากว่ามันอาจจะเป็นราชาในหมู่ราชาหรือจักรพรรดิ เพราะงั้นอย่าไม่ใช่แค่ฮูหนิวกับจักรพรรดินีที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ถ้าหากหลิงฮันไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศล่ะก็ เขาก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเหมือนกัน

 

“ลงมาข้างล่าง!” หลิงฮันคํารามขึ้นสู่ท้องฟ้า ในสถานที่ที่มีอํานาจแห่งกฎเกณฑ์แรงโน้มถ่วงอันผันผวน เขาไม่สามารถเหาะเหินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้

 

อินทรีย์ร่างทองเมินเฉย และยังคงคํารามอยู่บนท้องฟ้าเพื่อโจมตีด้วยคลื่นเสียงคมดาบอยู่เป็นระยะ

 

หลังจากโจมตีวนไปวนมาอยู่สักพัก อินทรีย์ร่างทางก็เข้าใจในที่สุดว่ามันไม่สามารถสังหารพวกหลิงฮันได้ จึงทําการสะบัดปีกบินจากไป

 

พวกหลิงฮันทั้งสี่คนไม่สบอารมณ์ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่การที่ถูกโจมตีและไม่สามารถโต้ตอบได้เช่นนี้ ย่อมทําให้พวกเขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

 

“ฮีม อย่าให้หนิวเจอรังของมันนะ ไม่เช่นนั้นหนิวจะทําลายรังของมันให้เละ!” ฮูหนิวกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

 

ทั้งสี่คนมุ่งหน้าต่อ โดยเลี่ยงที่จะไม่เข้าสู่อาณาเขตที่เป็นปา เพราะไม่รู้ว่าภายในจะมีอันตรายแบบไหนซ่อนอยู่บ้าง

 

ในเขตแดนลี้ลับนั้นทุกคนต้องระวังตัวให้ดีไม่ว่าจะไปที่ไหน เพราะภัยอันตรายบางอย่างอาจจะมาจากสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยอย่างแมลง ที่ถึงแม้จะไม่มีพลังบ่มเพาะแต่ก็สามารถเจาะการป้องกันของจอมยุทธที่แข็งแกร่งได้อย่างง่ายดาย และฉีดพิษเข้าสู่ร่างกาย

 

หรือไม่ก็มีพืชพรรณที่ภายนอกแม้จะดูธรรมดาทั่วไป แต่แท้จริงแล้วมันมีฤทธิ์ถึงขั้นทําให้การป้องกันของปรมาจารย์ระดับตําหนักอมตะไร้ผลได้

 

เพราะงั้นทางที่ดีอย่าเข้าไปในสภาพแวดล้อมที่ดูคลุมเครือจะดีกว่า

 

“โฮกกกก!”

 

ทันใดนั้นเสียงคํารามของสัตว์อสูรนก็ดังขึ้น และร่างของหมียักษ์ก็ปรากฏออกมาจากหลังหิน มันเป็นหมีที่มีความสูงถึงสิบฟุต และมีดวงตาอันร้อนระอุของเปลวเพลิงที่ปลดปล่อยแรงกดดันอันหนักหน่วงออกมา

 

“หนิวจัดการเอง!” จิตวิญญาณนักล่าของซูหนิวถูกกระตุ้นให้ตื่น และเป็นคนแรกที่ลงมือ “มีอุ้งตีนหมีให้กินแล้ว!”

 

ปัง!

 

เมื่อนางพุ่งทะยานร่างเข้าปะทะ ร่างเงาร่างหนึ่งก็ถูกซัดลอยกระแทกเข้าใส่หินด้านหลัง และ ร่างยุบลงไปด้านใน

 

ภาพที่ทุกคนเห็นคือหมียักษ์ร่างดํายังคงยืนตั้งท่าผลักอุ้งเท้าอยู่จุดเดิม เพราะงั้นร่างที่ถูกซัดลอยกระเด็นย่อมเป็นฮูหนิว

 

“เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ!” ฮูหนิวกัดฟันและพยุงร่างออกมาจากหิน “อุ้งตีนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น รสชาติต้องอร่อยมากแน่ๆ!”

 

นางลุกขึ้นยืนและโจมตีใส่หมียักษ์ร่างดําอีกครั้ง

 

หมียักษ์ร่างดํายังคงผลักอุ้งเท้าออกมาโจมตีแบบเดิม ถึงแม้ฮูหนิวจะดูไม่ประสีประสา แต่สัญชาตญาณการต่อสู้ของนางนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เพราะงั้นมีรึที่นางจะถูกการโจมตีรูปแบบเดิมๆ โจมตีใส่เป็นครั้งที่สอง?

 

นางเบี่ยงร่างไปด้านข้างเพื่อวนรอบหมียักษ์ร่างดํา และใช้ความเร็วอันเป็นจุดเด่นของนางให้เป็นประโยชน์

 

เงาของมัจฉาวายุภักษ์สยายปีกยาวเกือบแสนไมล์ออกมาและส่งเสียงโห่ร้องขึ้นสู่ท้องฟ้า มัจฉาวายุภักษ์นั้นเป็นหนึ่งในตัวตนที่รวดเร็วที่สุดในยุทธภพนี้

 

ในพริบตาเดียว ทั่วพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเงาของซูหนิวอย่างน้อยหนึ่งร้อยร่าง เนื่องจากนางเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากเกินไป จึงส่งผลให้เกิดภาพติดตาที่แทบจะเหมือนกับร่างจริง

 

หมียักษ์ร่างดําคํารามอย่างเกรี้ยวกราด มันมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์ แถมยังเป็นราชาอีกด้วย ในด้านของพลังต่อสู้แล้วไม่รู้ว่ามันเหนือกว่าฮูหนิวกี่เท่า แต่มันกลับโจมตีฮูหนิวไม่โดนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

ปัง! ปัง! ปัง!

 

ในทางกลับกัน ฮูหนิวเป็นฝ่ายกระหน่ําปล่อยหมัดใส่หมียักษ์ร่างดําอย่างโหดเหี้ยมซึ่งขัดกับภาพลักษณ์อันไร้เดียงสาของนางอย่างสิ้นเชิง

 

หมียักษ์ร่างดําคํารามอย่างต่อเนื่อง และเปลวเพลิงในดวงตาของมันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นบอลเพลิงสีแดง ที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดําอย่างช้าๆ พร้อมกับมีลวดลายสีขาวอันแปลกประหลาดปรากฏขึ้นมา

 

จิตใจของหลิงฮันรู้สึกกระอักกระอ่วน และกล่าวออกไป “หนิว เจ้าระวังตัวด้วย หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเป็นคนลงมือเอง!”

 

“ไม่ หนิวยังอยากสนุกอยู่!” ฮูหนิวหัวเราะและกระหน่ําโจมตีเข้าใส่หมียักษ์ร่างดําอย่างต่อเนื่อง

 

ตูมมม!

 

ในจังหวะนั้นเอง บอลเพลิงสีดําทั้งสองลูกก็ระเบิดออก ก่อให้เกิดคลื่นพลังทําลายที่น่าสะพรึงกลัวถาโถมไปทั่วพื้นที่ บริเวณรอบๆ ในระยะสิบไมล์ถูกเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงด้วยอํานาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงที่เดือดดาล ราวกับจะสามารถแผดเผาได้ทุกสรรพสิ่ง

 

หลิงฮันสะบัดมือกลับ เมื่อครู่เขาทําการโจมตีออกไปด้านหน้าเพื่อคุ้มกันจักรพรรดินีและธิดาโร๋ว ส่วนฮูหนิวนั้น

 

“หนิวไม่เป็นอะไร!” ฮูหนิวยิ้มร่า ที่รอบตัวของนางปรากฏโล่แสงคุ้มกัน และเงาของมัจฉาวายุภักษ์ได้กระพือปีกพุ่งทะยานโจมตีเข้าใส่หมียักษ์ร่างดํา

 

ปัง!

 

คลื่นปะทะส่งผลให้หมียักษ์ร่างดําเดินกระเพกจนเกือบล้ม

 

ทั้งๆ ที่ฮูหนิวกระตุ้นสายเลือดของมัจฉาวายุภักษ์แล้ว แต่การโจมตีที่ทรงพลังของนางก็ยังทําให้หมียักษ์ร่างดําเดินโซเซเท่านั้น ตามร่างของมันไม่ปรากฏบาดแผลใดๆ ซึ่งทําให้เห็นกันชัดเจนแล้วว่าพลังของหมียักษ์ร่างดําตนนี้แข็งแกร่งขนาดไหน

 

“ลงมือพร้อมกัน!”

 

หลิงฮัน จักรพรรดิ และธิดาโร๋วเข้าร่วมการต่อสู้

 

หากหลิงฮันไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศ แม้แต่เขาเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมียักษ์ร่างดําเช่นกัน

 

เพียงแค่กายหยาบของเขานั้นไร้เทียมทานพอ ที่จะรับการโจมตีทั้งหมดของหมียักษ์ร่างดําเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะงั้นเมื่อมีเขาทําหน้าที่เป็นตัวชนหลักคอยรับการโจมตีของหมียักษ์ร่างดํา สตรีทั้งสามจึงสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของพวกนางออกมาได้

 

หลังจากพยายามกันอยู่สองวัน ในที่สุดหมียักษ์ร่างดําก็ถูกสังหาร พวกหลิงฮันทรุดตัวนั่งลงกับพื้นด้วยความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

 

หลังจากสูดลมหายใจสองสามครั้ง พวกเขาทุกคนก็หัวเราะออกมาด้วยความปลื้มปริ่มที่ไม่อาจอธิบายเป็นคําพูดได้

 

การสังหารสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าตนเองหลายเท่าได้ ทําให้พวกเขารู้สึกประสบความเร็จอย่างบอกไม่ถูก

 

“อุ้งตีนหมี! อุ้งตีนหมี!” มีเพียงฮูหนิวเท่านั้นที่ดูจะดีใจในเรื่องที่ต่างจากคนอื่น นางมองไปยังหมียักษ์ร่างดําด้วยท่าที่ตื่นเต้นและน้ําลายสอ

 

หลิงฮันพักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะชําแหละร่างของหมีร่างดํา และนําอุ้งเท้าทั้งสี่ย่างไฟแจกจ่ายให้ทุกคน

 

“มีผลึกมังกรด้วย” เขานําผลึกมังกรสีทองออกมาจากศีรษะของหมียักษ์ร่างดํา

 

“หืม ดูเหมือนจะมีลวดลายบางอย่างอยู่บนผลึกด้วยนะ” ธิดาโร๋วดวงตาเฉียบคม

 

จักรพรรดินีจ้องมองและพยักหน้า “มีลวดลายและแก่นพลังงานที่ทรงพลังอยู่จริงๆ แต่ข้าไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร”

 

หลิงฮันเองก็ลองตรวจสอบดู ผลึกมังกรอันนี้ต่างจากผลึกมังกรที่พวกเขาได้รับมาก่อนหน้านี้ จริงๆ มันมีลวดลายที่ซับซ้อนสลักเอาไว้ ซึ่งหลิงฮันมั่นใจว่ามันไม่ใช่ลวดลายของตราประทับอํานาจแห่งเต๋าแน่นอน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+