Alchemy Emperor of the Divine Dao 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์

 

ถึงแม้นี่จะดูเหมือนเป็นการเล่นไม่ซื่อ แต่ก็เป็นแผนการที่ดี

 

เพราะตราบใดที่บรรลุเป้าหมายได้สําเร็จและได้รับผลตอบแทน ทําไมถึงต้องไปลําบากลําบนสู้กันให้เสียเวลาด้วยล่ะ?

 

หลิงฮันยิ้มและพยักหน้า หากสามารถประหยัดเวลาได้ เขาเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธคําเชิญของคนเหล่านี้

 

รุ่นเยาว์ชุดม่วงตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและกล่าว “พี่ใหญ่ ท่านก็คิดว่านี้เป็นแผนการที่นี่ใช่หรือไม่?”

 

“เจ้าชื่ออะไร?” หลิงฮันถาม

 

“พี่ใหญ่ ข้ามีชื่อว่าโป้หลัว” รุ่นเยาว์ชุดม่วงรีบกล่าวตอบอย่างกระตือรือร้น

 

“โป้หลัว? (สับปะรด) ” ฮูหนิวกลายเป็นเกรี้ยวกราด “ถ้าเจ้ากินไม่ได้ แล้วเจ้ากล้าดีอย่างไรมาตั้งชื่อว่าสับปะรด?”

 

โป้หลัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ใช่ว่าเขาอยากจะชื่อนี้เสียหน่อย แต่ใครใช้ให้เขาเกิดมาในตระกูลโป้ และปู่ของเขาเกิดอยากมอบนามว่า “หลัว” ให้เขากันล่ะ? เพียงแต่เขาก็ไม่กล้าต่อปากต่อคํากับฮูหนิวจึงกล่าวออกไป “ขอขอบคุณพี่สะใภ้ที่ชี้แนะข้า!”

 

เมื่อได้ยินว่าตนเองถูกเรียกว่าพี่สะใภ้ใบหน้าของฮูหนิวก็เผยท่าที่มีความสุข และรู้สึกว่าสับปะรดผู้นี้แม้จะกินไม่ได้แต่ก็มีมารยาทดีไม่น้อย

 

นางตบไหล่โป้หลัวและกล่าว “เป็นรุ่นเยาว์ที่ดีมาก ข้าขอชื่นชม!”

 

เมื่อได้ยินว่าโป้หลัวถูกเรียกว่ารุ่นเยาว์ ผู้คนรอบด้านก็หัวเราะออกมา เพลิงชีวิตของเด็กสาวตรงหน้าเป็นตัวบ่งชี้ว่านางอายุน้อยกว่าโป้หลัวมาก แต่นางกลับทําเหมือนว่าตนเองเป็นผู้อาวุโสเสียซะอย่างนั้น

 

หลิงฮันเองก็ยิ้มและกล่าว “เอาล่ะ ข้าตัดสินใจร่วมมือด้วยก็ได้ ใครที่เป็นผู้นําก็ช่วยลงทะเบียนให้พวกข้าทั้งสี่ และเข้าร่วมกับเผ่าใดเผ่าหนึ่งให้หน่อยแล้วกัน”

 

“ตกลง!” โป้หลัวตอบรับ

 

พวกหลิงฮันเปิดประตูบานหนึ่งบนกําแพงวิหารและเข้าไปพักผ่อน

 

ตลอดทางการล่าสัตว์อสูร พวกเขาได้รับผลึกมังกรมามากมาย และหลิงฮันก็เก็บเกี่ยวบุปผาแห่งเต๋ามาได้เยอะพอสมควร เขาจึงแบ่งมันให้กับฮูหนวกับจักรพรรดิโดยเมินเฉยธิดาโร๋วไปอย่างสิ้นเชิง แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายธิดาโร๋วก็ยังหน้าด้านและได้รับบุปผาแห่งเต๋าไปจํานวนหนึ่งอยู่ดี

 

พวกเขาเลือกที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว เหตุผลแรกคือต้องรอให้คนอื่นๆ มาถึง และเหตุผลที่สองคือรอคอยให้การแย่งชิงของเผ่าทั้งเจ็ดเริ่มขึ้น

 

ตอนแรกหลิงฮันคิดว่าเผ่าทั้งเจ็ด จะรวมจอมยุทธจากภายนอกให้เข้าร่วมกับตนเองและต่อสู้แย่งชิงกันเท่านั้น แต่ความจริงดูเหมือนจะไม่ง่ายแบบนั้น

 

หลิงฮันพบตู้เส่าจวิ้นและถามอีกฝ่ายที่เป็นคนของอาณาเขตสวรรค์ผ่อนถึงสถานการณ์ในการต่อสู้แย่งชิงที่จะเกิดขึ้นนี้ แต่ตู้เส่าจวิ้นเองก็ไม่รู้ข้อมูลโดยละเอียดเหมือนกัน แต่ฟังจากที่คนเก่าแก่เล่า ดูเหมือนว่าการที่ทุกคนรวมกลุ่มกันเลือกเผ่าเพียงเผ่าเดียว หรือการเข้าร่วมกลุ่มกับฝ่ายที่ทรงพลังจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่

 

เรื่องนี้ทําให้หลิงฮันสับสนเป็นอย่างมาก การรวมกลุ่มเพื่อร่วมมือกับจอมยุทธที่ทรงพลังไม่ใช่ความคิดที่ดีงั้นรึ?

 

ตู้เส่าจวิ้นเองก็ไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้ และคิดเหตุผลว่าทําไมถึงเป็นเช่นนั้นไม่ออกเหมือนกัน

 

“ข้าไม่สนว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร ในความคิดของข้าการที่ทุกคนลงมติเลือกเผ่าเพียงเผ่าเดียวเหมือนกัน คือวิธีการที่ลดความบาดหมางและไม่สิ้นเปลืองเวลามากที่สุดแล้ว” ตู้เส่าจวิ้นกล่าว

 

หลิงฮันเองก็รู้สึกว่าความคิดเช่นนั้นไม่ได้ผิดอะไร แต่ในเมื่อ “คนเก่าแก่” บอกมาแบบนั้นก็น่าจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างอยู่แน่นอน

 

ผู้ที่รับหน้าที่ต่อรองกับเผ่าทั้งเจ็ดคือสุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่อย่างพวกเทียนชิงเย่ ในสา ยตาของจอมยุทธแห่งอาณาเขตสวรรค์ผ่อนและอาณาเขตสวรรค์ใกล้เคียง ไม่มีใครมีคุณสมบัติเหมาะสมไปกว่าทั้งสี่คนแล้ว

 

เพียงแต่คนส่วนหนึ่งที่เป็นพยานเห็นหลิงฮันกับจี่อู๋หมิงกระตุ้นสะพานมังกรสีดําได้ไม่คิด เช่นนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรคนกลุ่มที่เป็นพยานรู้เห็นก็มีไม่มาก เพราะงั้นเสียงของพวกเขาจึงไม่อาจเปลี่ยนความคิดของคนส่วนใหญ่ได้

 

หลิงฮันไม่สนใจและไม่คิดอะไรในเรื่องนี้แม้แต่น้อย

 

พวกเทียนชิงเย่ทั้งสี่คนไม่รีบด่วนตัดสินใจ พวกเขาเจรจากับเผ่าทั้งเจ็ดเพื่อต่อรองให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด เพราะในเมื่อเผ่าทั้งเจ็ดมีโชคชะตาที่ต้องพึ่งพาพวกเขา แน่นอนว่าเผ่าทั้งเจ็ดยอมต้องยอมมอบผลตอบแทนที่สูงที่สุดให้แก่พวกเขา

 

ข้อเสนอที่เผ่าทั้งเจ็ดเสนอมาก็คือการมอบผงกระดูกมังกรสวรรค์ที่มาจากมังกรสวรรค์บรรพกาลให้เป็นรางวัล

 

ผงกระดูกมังกรสวรรค์มีประโยชน์อะไรน่ะรี?

 

เมื่อตอนที่ได้รับวาสนาร้อยมังกรชําระล้างกายา ผลประโยชน์ที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวไปจนถึงสิบเท่า

 

ยิ่งผลประโยชน์มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จําเป็นต้องมีผงกระดูกมังกรสวรรค์มากขึ้นเท่านั้น ผงกระดูกมังกรสวรรค์เป็นสมบัติที่ล้ําค่ามากของเผ่าทั้งเจ็ด เนื่องจากมันคือซากกระดูกที่เหลืออยู่ของมังกรระดับราชานิรันดร์ สําหรับเผ่ามังกรทั้งเจ็ดที่มีสายเลือดมังกรแล้ว มันคือสมบัติล้ําค่าหาสิ่งใดเปรียบ

 

ถ้าหากจอมยุทธจากภายนอกทุกคนร่วมมือกัน เผ่าทั้งเจ็ดก็จะไม่ยื่นข้อเสนอด้วยรางวัลตอบแทนที่สูงเกินไป เพราะถ้าหากจอมยุทธภายนอกมากมายร่วมมือกัน เผ่าที่ทําข้อตกลงได้ก็จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะแน่นอนอยู่แล้ว เพราะงั้นทําไมพวกเขาถึงต้องยื่นข้อเสนอด้วยผลตอบแทนที่สูงด้วยล่ะ?

 

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเวลาเหลืออยู่ก่อนที่จะแข่งขันแย่งชิงจะเริ่มขึ้น ทุกคนจึงยังมีโอกาสให้เจรจาต่อรองกันอยู่

 

หลิงฮันไม่สนใจในเรื่องนี้และไปถามคนของเมืองมังกรฟ้า ว่าผงกระดูกมังกรสวรรค์ที่ว่านั้นหาได้จากไหน

 

ตอนแรกเขาแต่คิดจะลองถามเล่นๆ อยู่เท่านั้น แต่ไม่คาดคิดว่าคนเหล่านั้นจะบอกเขาจริงๆสามารถหาเก็บได้จากภูเขา

 

ผงกระดูกมังกรสวรรค์จะถูกกักเก็บอยู่ในหินแร่ประเภทหนึ่งซึ่งหายากเป็นอย่างมาก และเป็นที่หมายปองของสัตว์อสูรที่ทรงพลังบนภูเขาด้วย เนื่องจากผงกระดูกมังกรสวรรค์ก็สามารถทําให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นได้เช่นกัน

 

ด้วยความรู้สึกสงสัย หลิงฮันตัดสินใจเดินไปสํารวจภูเขาดู เผื่อว่าเขาจะพบเจอผงกระดูกมังกรสวรรค์บ้าง

 

เนื่องจากผงกระดูกมังกรสวรรค์นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาครอบครองง่ายๆ ผู้คนของเมืองจึงบอกหลิงฮันถึงตําแหน่งที่จะหาผงกระดูกมังกรสวรรค์พบ แถมยังไม่ขัดขวางพวกเขาในการไปที่นั่นอีกด้วย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์

 

ถึงแม้นี่จะดูเหมือนเป็นการเล่นไม่ซื่อ แต่ก็เป็นแผนการที่ดี

 

เพราะตราบใดที่บรรลุเป้าหมายได้สําเร็จและได้รับผลตอบแทน ทําไมถึงต้องไปลําบากลําบนสู้กันให้เสียเวลาด้วยล่ะ?

 

หลิงฮันยิ้มและพยักหน้า หากสามารถประหยัดเวลาได้ เขาเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธคําเชิญของคนเหล่านี้

 

รุ่นเยาว์ชุดม่วงตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและกล่าว “พี่ใหญ่ ท่านก็คิดว่านี้เป็นแผนการที่นี่ใช่หรือไม่?”

 

“เจ้าชื่ออะไร?” หลิงฮันถาม

 

“พี่ใหญ่ ข้ามีชื่อว่าโป้หลัว” รุ่นเยาว์ชุดม่วงรีบกล่าวตอบอย่างกระตือรือร้น

 

“โป้หลัว? (สับปะรด) ” ฮูหนิวกลายเป็นเกรี้ยวกราด “ถ้าเจ้ากินไม่ได้ แล้วเจ้ากล้าดีอย่างไรมาตั้งชื่อว่าสับปะรด?”

 

โป้หลัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ใช่ว่าเขาอยากจะชื่อนี้เสียหน่อย แต่ใครใช้ให้เขาเกิดมาในตระกูลโป้ และปู่ของเขาเกิดอยากมอบนามว่า “หลัว” ให้เขากันล่ะ? เพียงแต่เขาก็ไม่กล้าต่อปากต่อคํากับฮูหนิวจึงกล่าวออกไป “ขอขอบคุณพี่สะใภ้ที่ชี้แนะข้า!”

 

เมื่อได้ยินว่าตนเองถูกเรียกว่าพี่สะใภ้ใบหน้าของฮูหนิวก็เผยท่าที่มีความสุข และรู้สึกว่าสับปะรดผู้นี้แม้จะกินไม่ได้แต่ก็มีมารยาทดีไม่น้อย

 

นางตบไหล่โป้หลัวและกล่าว “เป็นรุ่นเยาว์ที่ดีมาก ข้าขอชื่นชม!”

 

เมื่อได้ยินว่าโป้หลัวถูกเรียกว่ารุ่นเยาว์ ผู้คนรอบด้านก็หัวเราะออกมา เพลิงชีวิตของเด็กสาวตรงหน้าเป็นตัวบ่งชี้ว่านางอายุน้อยกว่าโป้หลัวมาก แต่นางกลับทําเหมือนว่าตนเองเป็นผู้อาวุโสเสียซะอย่างนั้น

 

หลิงฮันเองก็ยิ้มและกล่าว “เอาล่ะ ข้าตัดสินใจร่วมมือด้วยก็ได้ ใครที่เป็นผู้นําก็ช่วยลงทะเบียนให้พวกข้าทั้งสี่ และเข้าร่วมกับเผ่าใดเผ่าหนึ่งให้หน่อยแล้วกัน”

 

“ตกลง!” โป้หลัวตอบรับ

 

พวกหลิงฮันเปิดประตูบานหนึ่งบนกําแพงวิหารและเข้าไปพักผ่อน

 

ตลอดทางการล่าสัตว์อสูร พวกเขาได้รับผลึกมังกรมามากมาย และหลิงฮันก็เก็บเกี่ยวบุปผาแห่งเต๋ามาได้เยอะพอสมควร เขาจึงแบ่งมันให้กับฮูหนวกับจักรพรรดิโดยเมินเฉยธิดาโร๋วไปอย่างสิ้นเชิง แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายธิดาโร๋วก็ยังหน้าด้านและได้รับบุปผาแห่งเต๋าไปจํานวนหนึ่งอยู่ดี

 

พวกเขาเลือกที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว เหตุผลแรกคือต้องรอให้คนอื่นๆ มาถึง และเหตุผลที่สองคือรอคอยให้การแย่งชิงของเผ่าทั้งเจ็ดเริ่มขึ้น

 

ตอนแรกหลิงฮันคิดว่าเผ่าทั้งเจ็ด จะรวมจอมยุทธจากภายนอกให้เข้าร่วมกับตนเองและต่อสู้แย่งชิงกันเท่านั้น แต่ความจริงดูเหมือนจะไม่ง่ายแบบนั้น

 

หลิงฮันพบตู้เส่าจวิ้นและถามอีกฝ่ายที่เป็นคนของอาณาเขตสวรรค์ผ่อนถึงสถานการณ์ในการต่อสู้แย่งชิงที่จะเกิดขึ้นนี้ แต่ตู้เส่าจวิ้นเองก็ไม่รู้ข้อมูลโดยละเอียดเหมือนกัน แต่ฟังจากที่คนเก่าแก่เล่า ดูเหมือนว่าการที่ทุกคนรวมกลุ่มกันเลือกเผ่าเพียงเผ่าเดียว หรือการเข้าร่วมกลุ่มกับฝ่ายที่ทรงพลังจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่

 

เรื่องนี้ทําให้หลิงฮันสับสนเป็นอย่างมาก การรวมกลุ่มเพื่อร่วมมือกับจอมยุทธที่ทรงพลังไม่ใช่ความคิดที่ดีงั้นรึ?

 

ตู้เส่าจวิ้นเองก็ไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้ และคิดเหตุผลว่าทําไมถึงเป็นเช่นนั้นไม่ออกเหมือนกัน

 

“ข้าไม่สนว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร ในความคิดของข้าการที่ทุกคนลงมติเลือกเผ่าเพียงเผ่าเดียวเหมือนกัน คือวิธีการที่ลดความบาดหมางและไม่สิ้นเปลืองเวลามากที่สุดแล้ว” ตู้เส่าจวิ้นกล่าว

 

หลิงฮันเองก็รู้สึกว่าความคิดเช่นนั้นไม่ได้ผิดอะไร แต่ในเมื่อ “คนเก่าแก่” บอกมาแบบนั้นก็น่าจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างอยู่แน่นอน

 

ผู้ที่รับหน้าที่ต่อรองกับเผ่าทั้งเจ็ดคือสุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่อย่างพวกเทียนชิงเย่ ในสา ยตาของจอมยุทธแห่งอาณาเขตสวรรค์ผ่อนและอาณาเขตสวรรค์ใกล้เคียง ไม่มีใครมีคุณสมบัติเหมาะสมไปกว่าทั้งสี่คนแล้ว

 

เพียงแต่คนส่วนหนึ่งที่เป็นพยานเห็นหลิงฮันกับจี่อู๋หมิงกระตุ้นสะพานมังกรสีดําได้ไม่คิด เช่นนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรคนกลุ่มที่เป็นพยานรู้เห็นก็มีไม่มาก เพราะงั้นเสียงของพวกเขาจึงไม่อาจเปลี่ยนความคิดของคนส่วนใหญ่ได้

 

หลิงฮันไม่สนใจและไม่คิดอะไรในเรื่องนี้แม้แต่น้อย

 

พวกเทียนชิงเย่ทั้งสี่คนไม่รีบด่วนตัดสินใจ พวกเขาเจรจากับเผ่าทั้งเจ็ดเพื่อต่อรองให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด เพราะในเมื่อเผ่าทั้งเจ็ดมีโชคชะตาที่ต้องพึ่งพาพวกเขา แน่นอนว่าเผ่าทั้งเจ็ดยอมต้องยอมมอบผลตอบแทนที่สูงที่สุดให้แก่พวกเขา

 

ข้อเสนอที่เผ่าทั้งเจ็ดเสนอมาก็คือการมอบผงกระดูกมังกรสวรรค์ที่มาจากมังกรสวรรค์บรรพกาลให้เป็นรางวัล

 

ผงกระดูกมังกรสวรรค์มีประโยชน์อะไรน่ะรี?

 

เมื่อตอนที่ได้รับวาสนาร้อยมังกรชําระล้างกายา ผลประโยชน์ที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวไปจนถึงสิบเท่า

 

ยิ่งผลประโยชน์มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จําเป็นต้องมีผงกระดูกมังกรสวรรค์มากขึ้นเท่านั้น ผงกระดูกมังกรสวรรค์เป็นสมบัติที่ล้ําค่ามากของเผ่าทั้งเจ็ด เนื่องจากมันคือซากกระดูกที่เหลืออยู่ของมังกรระดับราชานิรันดร์ สําหรับเผ่ามังกรทั้งเจ็ดที่มีสายเลือดมังกรแล้ว มันคือสมบัติล้ําค่าหาสิ่งใดเปรียบ

 

ถ้าหากจอมยุทธจากภายนอกทุกคนร่วมมือกัน เผ่าทั้งเจ็ดก็จะไม่ยื่นข้อเสนอด้วยรางวัลตอบแทนที่สูงเกินไป เพราะถ้าหากจอมยุทธภายนอกมากมายร่วมมือกัน เผ่าที่ทําข้อตกลงได้ก็จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะแน่นอนอยู่แล้ว เพราะงั้นทําไมพวกเขาถึงต้องยื่นข้อเสนอด้วยผลตอบแทนที่สูงด้วยล่ะ?

 

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเวลาเหลืออยู่ก่อนที่จะแข่งขันแย่งชิงจะเริ่มขึ้น ทุกคนจึงยังมีโอกาสให้เจรจาต่อรองกันอยู่

 

หลิงฮันไม่สนใจในเรื่องนี้และไปถามคนของเมืองมังกรฟ้า ว่าผงกระดูกมังกรสวรรค์ที่ว่านั้นหาได้จากไหน

 

ตอนแรกเขาแต่คิดจะลองถามเล่นๆ อยู่เท่านั้น แต่ไม่คาดคิดว่าคนเหล่านั้นจะบอกเขาจริงๆสามารถหาเก็บได้จากภูเขา

 

ผงกระดูกมังกรสวรรค์จะถูกกักเก็บอยู่ในหินแร่ประเภทหนึ่งซึ่งหายากเป็นอย่างมาก และเป็นที่หมายปองของสัตว์อสูรที่ทรงพลังบนภูเขาด้วย เนื่องจากผงกระดูกมังกรสวรรค์ก็สามารถทําให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นได้เช่นกัน

 

ด้วยความรู้สึกสงสัย หลิงฮันตัดสินใจเดินไปสํารวจภูเขาดู เผื่อว่าเขาจะพบเจอผงกระดูกมังกรสวรรค์บ้าง

 

เนื่องจากผงกระดูกมังกรสวรรค์นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาครอบครองง่ายๆ ผู้คนของเมืองจึงบอกหลิงฮันถึงตําแหน่งที่จะหาผงกระดูกมังกรสวรรค์พบ แถมยังไม่ขัดขวางพวกเขาในการไปที่นั่นอีกด้วย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2061 ผงกระดูกมังกรสวรรค์

 

ถึงแม้นี่จะดูเหมือนเป็นการเล่นไม่ซื่อ แต่ก็เป็นแผนการที่ดี

 

เพราะตราบใดที่บรรลุเป้าหมายได้สําเร็จและได้รับผลตอบแทน ทําไมถึงต้องไปลําบากลําบนสู้กันให้เสียเวลาด้วยล่ะ?

 

หลิงฮันยิ้มและพยักหน้า หากสามารถประหยัดเวลาได้ เขาเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธคําเชิญของคนเหล่านี้

 

รุ่นเยาว์ชุดม่วงตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและกล่าว “พี่ใหญ่ ท่านก็คิดว่านี้เป็นแผนการที่นี่ใช่หรือไม่?”

 

“เจ้าชื่ออะไร?” หลิงฮันถาม

 

“พี่ใหญ่ ข้ามีชื่อว่าโป้หลัว” รุ่นเยาว์ชุดม่วงรีบกล่าวตอบอย่างกระตือรือร้น

 

“โป้หลัว? (สับปะรด) ” ฮูหนิวกลายเป็นเกรี้ยวกราด “ถ้าเจ้ากินไม่ได้ แล้วเจ้ากล้าดีอย่างไรมาตั้งชื่อว่าสับปะรด?”

 

โป้หลัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ใช่ว่าเขาอยากจะชื่อนี้เสียหน่อย แต่ใครใช้ให้เขาเกิดมาในตระกูลโป้ และปู่ของเขาเกิดอยากมอบนามว่า “หลัว” ให้เขากันล่ะ? เพียงแต่เขาก็ไม่กล้าต่อปากต่อคํากับฮูหนิวจึงกล่าวออกไป “ขอขอบคุณพี่สะใภ้ที่ชี้แนะข้า!”

 

เมื่อได้ยินว่าตนเองถูกเรียกว่าพี่สะใภ้ใบหน้าของฮูหนิวก็เผยท่าที่มีความสุข และรู้สึกว่าสับปะรดผู้นี้แม้จะกินไม่ได้แต่ก็มีมารยาทดีไม่น้อย

 

นางตบไหล่โป้หลัวและกล่าว “เป็นรุ่นเยาว์ที่ดีมาก ข้าขอชื่นชม!”

 

เมื่อได้ยินว่าโป้หลัวถูกเรียกว่ารุ่นเยาว์ ผู้คนรอบด้านก็หัวเราะออกมา เพลิงชีวิตของเด็กสาวตรงหน้าเป็นตัวบ่งชี้ว่านางอายุน้อยกว่าโป้หลัวมาก แต่นางกลับทําเหมือนว่าตนเองเป็นผู้อาวุโสเสียซะอย่างนั้น

 

หลิงฮันเองก็ยิ้มและกล่าว “เอาล่ะ ข้าตัดสินใจร่วมมือด้วยก็ได้ ใครที่เป็นผู้นําก็ช่วยลงทะเบียนให้พวกข้าทั้งสี่ และเข้าร่วมกับเผ่าใดเผ่าหนึ่งให้หน่อยแล้วกัน”

 

“ตกลง!” โป้หลัวตอบรับ

 

พวกหลิงฮันเปิดประตูบานหนึ่งบนกําแพงวิหารและเข้าไปพักผ่อน

 

ตลอดทางการล่าสัตว์อสูร พวกเขาได้รับผลึกมังกรมามากมาย และหลิงฮันก็เก็บเกี่ยวบุปผาแห่งเต๋ามาได้เยอะพอสมควร เขาจึงแบ่งมันให้กับฮูหนวกับจักรพรรดิโดยเมินเฉยธิดาโร๋วไปอย่างสิ้นเชิง แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายธิดาโร๋วก็ยังหน้าด้านและได้รับบุปผาแห่งเต๋าไปจํานวนหนึ่งอยู่ดี

 

พวกเขาเลือกที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว เหตุผลแรกคือต้องรอให้คนอื่นๆ มาถึง และเหตุผลที่สองคือรอคอยให้การแย่งชิงของเผ่าทั้งเจ็ดเริ่มขึ้น

 

ตอนแรกหลิงฮันคิดว่าเผ่าทั้งเจ็ด จะรวมจอมยุทธจากภายนอกให้เข้าร่วมกับตนเองและต่อสู้แย่งชิงกันเท่านั้น แต่ความจริงดูเหมือนจะไม่ง่ายแบบนั้น

 

หลิงฮันพบตู้เส่าจวิ้นและถามอีกฝ่ายที่เป็นคนของอาณาเขตสวรรค์ผ่อนถึงสถานการณ์ในการต่อสู้แย่งชิงที่จะเกิดขึ้นนี้ แต่ตู้เส่าจวิ้นเองก็ไม่รู้ข้อมูลโดยละเอียดเหมือนกัน แต่ฟังจากที่คนเก่าแก่เล่า ดูเหมือนว่าการที่ทุกคนรวมกลุ่มกันเลือกเผ่าเพียงเผ่าเดียว หรือการเข้าร่วมกลุ่มกับฝ่ายที่ทรงพลังจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่

 

เรื่องนี้ทําให้หลิงฮันสับสนเป็นอย่างมาก การรวมกลุ่มเพื่อร่วมมือกับจอมยุทธที่ทรงพลังไม่ใช่ความคิดที่ดีงั้นรึ?

 

ตู้เส่าจวิ้นเองก็ไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้ และคิดเหตุผลว่าทําไมถึงเป็นเช่นนั้นไม่ออกเหมือนกัน

 

“ข้าไม่สนว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร ในความคิดของข้าการที่ทุกคนลงมติเลือกเผ่าเพียงเผ่าเดียวเหมือนกัน คือวิธีการที่ลดความบาดหมางและไม่สิ้นเปลืองเวลามากที่สุดแล้ว” ตู้เส่าจวิ้นกล่าว

 

หลิงฮันเองก็รู้สึกว่าความคิดเช่นนั้นไม่ได้ผิดอะไร แต่ในเมื่อ “คนเก่าแก่” บอกมาแบบนั้นก็น่าจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างอยู่แน่นอน

 

ผู้ที่รับหน้าที่ต่อรองกับเผ่าทั้งเจ็ดคือสุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่อย่างพวกเทียนชิงเย่ ในสา ยตาของจอมยุทธแห่งอาณาเขตสวรรค์ผ่อนและอาณาเขตสวรรค์ใกล้เคียง ไม่มีใครมีคุณสมบัติเหมาะสมไปกว่าทั้งสี่คนแล้ว

 

เพียงแต่คนส่วนหนึ่งที่เป็นพยานเห็นหลิงฮันกับจี่อู๋หมิงกระตุ้นสะพานมังกรสีดําได้ไม่คิด เช่นนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรคนกลุ่มที่เป็นพยานรู้เห็นก็มีไม่มาก เพราะงั้นเสียงของพวกเขาจึงไม่อาจเปลี่ยนความคิดของคนส่วนใหญ่ได้

 

หลิงฮันไม่สนใจและไม่คิดอะไรในเรื่องนี้แม้แต่น้อย

 

พวกเทียนชิงเย่ทั้งสี่คนไม่รีบด่วนตัดสินใจ พวกเขาเจรจากับเผ่าทั้งเจ็ดเพื่อต่อรองให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด เพราะในเมื่อเผ่าทั้งเจ็ดมีโชคชะตาที่ต้องพึ่งพาพวกเขา แน่นอนว่าเผ่าทั้งเจ็ดยอมต้องยอมมอบผลตอบแทนที่สูงที่สุดให้แก่พวกเขา

 

ข้อเสนอที่เผ่าทั้งเจ็ดเสนอมาก็คือการมอบผงกระดูกมังกรสวรรค์ที่มาจากมังกรสวรรค์บรรพกาลให้เป็นรางวัล

 

ผงกระดูกมังกรสวรรค์มีประโยชน์อะไรน่ะรี?

 

เมื่อตอนที่ได้รับวาสนาร้อยมังกรชําระล้างกายา ผลประโยชน์ที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวไปจนถึงสิบเท่า

 

ยิ่งผลประโยชน์มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จําเป็นต้องมีผงกระดูกมังกรสวรรค์มากขึ้นเท่านั้น ผงกระดูกมังกรสวรรค์เป็นสมบัติที่ล้ําค่ามากของเผ่าทั้งเจ็ด เนื่องจากมันคือซากกระดูกที่เหลืออยู่ของมังกรระดับราชานิรันดร์ สําหรับเผ่ามังกรทั้งเจ็ดที่มีสายเลือดมังกรแล้ว มันคือสมบัติล้ําค่าหาสิ่งใดเปรียบ

 

ถ้าหากจอมยุทธจากภายนอกทุกคนร่วมมือกัน เผ่าทั้งเจ็ดก็จะไม่ยื่นข้อเสนอด้วยรางวัลตอบแทนที่สูงเกินไป เพราะถ้าหากจอมยุทธภายนอกมากมายร่วมมือกัน เผ่าที่ทําข้อตกลงได้ก็จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะแน่นอนอยู่แล้ว เพราะงั้นทําไมพวกเขาถึงต้องยื่นข้อเสนอด้วยผลตอบแทนที่สูงด้วยล่ะ?

 

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเวลาเหลืออยู่ก่อนที่จะแข่งขันแย่งชิงจะเริ่มขึ้น ทุกคนจึงยังมีโอกาสให้เจรจาต่อรองกันอยู่

 

หลิงฮันไม่สนใจในเรื่องนี้และไปถามคนของเมืองมังกรฟ้า ว่าผงกระดูกมังกรสวรรค์ที่ว่านั้นหาได้จากไหน

 

ตอนแรกเขาแต่คิดจะลองถามเล่นๆ อยู่เท่านั้น แต่ไม่คาดคิดว่าคนเหล่านั้นจะบอกเขาจริงๆสามารถหาเก็บได้จากภูเขา

 

ผงกระดูกมังกรสวรรค์จะถูกกักเก็บอยู่ในหินแร่ประเภทหนึ่งซึ่งหายากเป็นอย่างมาก และเป็นที่หมายปองของสัตว์อสูรที่ทรงพลังบนภูเขาด้วย เนื่องจากผงกระดูกมังกรสวรรค์ก็สามารถทําให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นได้เช่นกัน

 

ด้วยความรู้สึกสงสัย หลิงฮันตัดสินใจเดินไปสํารวจภูเขาดู เผื่อว่าเขาจะพบเจอผงกระดูกมังกรสวรรค์บ้าง

 

เนื่องจากผงกระดูกมังกรสวรรค์นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาครอบครองง่ายๆ ผู้คนของเมืองจึงบอกหลิงฮันถึงตําแหน่งที่จะหาผงกระดูกมังกรสวรรค์พบ แถมยังไม่ขัดขวางพวกเขาในการไปที่นั่นอีกด้วย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+