Alchemy Emperor of the Divine Dao 485

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 485 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไป!”

ทั้งสี่คนที่เหลือไม่ลังเลอีกต่อไป ราชาแมลงตนนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถต่อกรได้! ขนาดตอนนี้มันถูกผนึกอยู่ในอำพัน ม้วนคำสั่งโจมตีของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณก็ยังไม่สามารถทำอะไรมันได้ ถ้าหากไม่มีอำพันคอยทำให้การเคลื่อนไหวของมันช้าลงล่ะก็ พวกเขาคงไม่อาจหนีพ้นความตายไปได้

วิหารศักดิ์สิทธิ์มีหน้าที่สำคัญที่การสังเวยบูชา หรือว่าตัวตนที่‘ผู้คนในยุคโบราณ’เคยเคารพบูชาก็คือราชาแมลงตัวนี้? แต่ถ้าราชาแมลงได้รับความเคารพขนาดนั้น ทำไมมันถึงถูกผนึกอยู่ในอำพัน?

อสูรขนแดงที่ถูกผนึกอยู่ในอำพันกับราชาแมลงคืออะไรกันแน่? เห็นได้ชัดว่าราชาแมลงได้ดูดเลือดของอสูรขนแดงที่อยู่ในอำพันมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แต่เลือดของอสูรขนแดงตนนั้นก็ยังไม่เหือดแห้ง?

เมื่อคิดเช่นนี้ หลิงฮันก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้… บางทีอสูรขนแดงตนนั้นอาจจะยังไม่ตาย!

แปลกประหลาด… สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดเกินไปแล้ว!

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ทั้งสี่คนก็รีบเผ่นไปยังทางออกของวิหารศักดิ์สิทธิ์ ราชาแมลงไล่ตามพวกเขามาอย่างไม่รีบร้อนเพราะมันไม่อาจเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว

หลังจากก้าวออกมาจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ เกิ่งจิงเฉิ้งก็บินขึ้นฟ้าเพื่อรีบเผ่นหนีทันที ณ เวลานี้มันลืมเรื่องการแย่งชิงหยดวิญญาณจากพวกหลิงฮันไปสนิท สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของตัวมันเอง!

หลิงฮันและพรรคพวกกระโดดขึ้นหลังจิตวิญญาณศิลาและบินออกห่างจากยอดเขา จิตวิญญาณศิลานั้นหันหลังกลับไปมองวิหารศักดิ์สิทธิ์ด้วยความรู้สึกเสียดายเสาหินที่อยู่ภายในวิหาร สำหรับมันแล้ว เสาหินเหล่านั้นคือยาบำรุงชั้นเลิศ

ราชาแมลงยังคงไล่ตามพวกเขามา แต่ความเร็วของมันเชื่องช้าเป็นอย่างมาก มันเริ่มถูกพวกหลิงฮันทิ้งห่างไกลออกไปเรื่อยๆจนเห็นเป็นเพียงจุดเล็กๆสีดำ

‘ฟุบ ฟุบ’ เกิ่งจิงเฉิ้งและอสูรศิลาบินไปยังประตูทางเข้าชั้นสาม ในตอนนี้ยังมีผู้คนจำนวนนึงกำลังเฝ้ารออยู่ เมื่อเห็นพวกหลิงฮันกลับมา ผู้คนเหล่านั้นก็แสดงสีหน้าสงสัยออก พวกมันอยากจะรู้ว่าภายในวิหารมีอะไรซ่อนอยู่

แต่คนที่หัวไวก็รู้สึกตัวทันทีจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานที่บินไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามคน มีเพียงเกิ่งจิงเฉิ้งคนเดียวเท่านั้นที่กลับมา… หรือว่า!?

“อาวุโสเกิ่ง!” ใครบางอุทานออกมา

‘เพี๊ยะ’ ร่างของเกิ่งจิงเฉิ้งกระแทกเขากับชายคนนั้นและใช้ฝ่ามือตบอีกฝ่ายจนปลิวกระเด็น ส่วนตัวมันรีบพุ่งเข้าประตูกลับไปยังชั้นสองอย่างรวดเร็ว

หลิงฮันหัวเราะและพูด “ถ้าพวกเจ้าไม่อยากตายก็รีบกลับออกไปซะ ไม่ต้องถามเหตุผลว่าเพราะอะไร ข้าไม่มีเวลามาอธิบายให้พวกเจ้าฟัง!” เมื่อพูดจบ เขา เยว่ไค่หยู่ และกว่างหยวนก็เข้าประตูกลับไปยังชั้นสองเช่นกัน

ตรงบันไดหน้าประตูที่ชั้นสองยังคงมีอสูรขนแดงเจ็ดตัวยืนเฝ้าอยู่ แต่ในเมื่อเกิ่งจิงเฉิ้งเป็นคนแรกที่ปรากฏตัว อสูรขนแดงทั้งเจ็ดจึงไล่ตามมันไป แต่เมื่อพวกมันเห็นว่าหลิงฮันและพรรคสามคนปรากฏตัวตามมา อสูรขนแดงก็แยกกลุ่มออกเป็นสองกลุ่ม สี่ตัวไล่ตามเกิ่งจิงเฉิ้งต่อไปในขณะที่อีกสามตัวคำรามและพุ่งเข้าใส่พวกหลิงฮัน

“พวกเจ้าจะคำรามไปเพื่ออะไร!” หลิงฮันกระโดดไปข้างหน้าพร้อมกับประกายแสงแห่งดาบที่ถูกปลดปล่อยออกมา ‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ อสูรขนแดงทั้งสามตัวถูกหั่นกลายเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ “ไป!” หลิงฮันไม่หยุดชะงักและรีบเผ่นต่อ

ราชาแมลงที่ไล่ตามพวกเขามานั้นทรงพลังเกินไป ถ้าพวกมันไล่ตามพวกเขาทัน ชีวิตของพวกเขาจะต้องจบสิ้นแน่

ด้านหลังของพวกหลิงฮัน จอมยุทธคนอื่นๆเริ่มวิ่งตามออกมา ผู้คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องวิ่งหนี แต่ขนาดจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานยังต้องหนี สิ่งที่ไล่ตามมาจะต้องน่าสะพรึงกลัวมากแน่นอน

ทันใดนั้นเมฆสีดำก็ลอยผ่านมาจนทุกคนต้องอ้าปากตกตะลึง… มันคือกองทัพแมลงดูดโลหิต!

แต่เมื่อทุกคนเตรียมพร้อมที่จะสู้ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น กองทัพแมลงเหล่านั้นเมินเฉยพวกเขาอย่างสิ้นเชิง พวกมันบินขึ้นบันไดและเข้าประตูไปยังชั้นสาม

ทุกคนถอนหายใจโล่งอกทันที มีเพียงหลิงฮันที่สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นบิดเบี้ยว เขารีบตะโกนออกคำสั่ง “รีบขึ้นมาบนศิลาน้อยซะ!”

กองทัพแมลงขึ้นไปยังชั้นสาม… มีความเป็นไปได้สูงมากที่นั่นจะเป็นคำสั่งของราชาแมลง ถึงแม้ตัวของราชาแมลงจะเคลื่อนที่ได้เชื่องช้า แต่ถ้ามันให้กองทัพแมลงเหล่านั้นแบกมันเอาไว้ล่ะ?

เยว่ไค่หยู่และกว่างหยวนเองก็คิดเช่นนั้น สีหน้าของพวกเขากลายเป็นซีดเผือดและรีบกระโดดขึ้นไปบนหลังจิตวิญญาณศิลาทันที แต่ศิลาน้อยไม่ได้บินขึ้นฟ้าเพื่อเผ่นหนี ‘ฟุบ’ มันควบแน่นพลังไปยังบริเวณส่วนขาและก้าวกระโดดไปข้างหน้าไกลหลายร้อยเมตร

การบินไม่ใช่วิธีที่เร็วที่สุด มันได้เปรียบเฉพาะในตอนที่ใช้ข้ามผ่านภูมิประเทศระยะไกลเท่านั้น แต่หากเป็นพื้นดินที่ราบเรียบ แรงทีบส่งที่เกิดจากการกระโดดของจิตวิญญาณศิลานั้นรวดเร็วกว่า

จอมยุทธคนๆอื่นล้วนแต่สับสนว่าทำไมพวกหลิงฮันถึงต้องหวาดกลัวขนาดนั้น

บางคนที่ฉลาดย่อมรู้ว่าแม้แต่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานสองคนยังต้องหายสาบสูญอยู่ภายในวิหาร ดังนั้นภายในชั้นสามต้องมีสัตว์ประหลาดที่น่าพรึงกลัวอยู่แน่นอน พวกเขาไม่ลังเลอีกต่อไปและรีบนำยันต์อาคมออกมาแปะติดตามร่างกาย ภายในพริบตาความเร็วของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นและรีบมุ่งหน้าไปยังทางเข้าชั้นหนึ่ง

แต่บางคนกลับไม่ต้องการใช้สมบัติที่ล้ำค่าขนาดนั้นอย่างสิ้นเปลือง พวกเขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วปกติของตนเอง

‘ฟุบ!’

กองทัพแมลงกลับออกมาจากประตูทางเข้าชั้นสาม แมลงดูดโลหิตนับไม่ถ้วนบินวนล้อมรอบผนึกอัมพันชิ้นหนึ่ง แมลงเหล่านั้นกำลังแบกอำพันบินไล่ตามเหล่าจอมยุทธ

ผู้คนที่หลบหนีล่าช้าได้ถูกกองทัพแมลงโอบล้อม ราชาแมลงลงมือโจมตี และร่างของผู้คนเหล่านั้นก็ค่อยๆเริ่มแห้งเหือดไปทีละคน กองทัพแมลงไม่หยุดแค่นั้น มันบินไล่ตามเหล่าคนที่หลบหนีอยู่ข้างหน้า

จิตวิญญาณศิลากระโดดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่นานมันก็ไล่ตามเกิ่งจิงเฉิ้งทัน

เกิ่งจิงเฉิ้งวางแผนจะโจมตีพวกหลิงฮันเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อซื้อเวลา แต่เมื่อนึกถึงอำนาจที่ทรงพลังของจิตวิญญาณศิลา มันก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปและเก็บพลังไว้ใช้สำหรับวิ่งหนี

ตอนนี้ประตูทางเข้าชั้นหนึ่งได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาแล้ว

‘ฟุบฟุบ’ พวกเขาเข้าประตูไปที่ละคนและรีบวิ่งแยกย้ายกันไปที่ทางเข้าวิหาร

“ไม่ดีแล้ว แม่นางหลีอยู่ที่ใด?” จู่ๆเยว่ไค่หยู่ก็นึกออกว่าหลีซื่อฉางออกมารอพวกเขาที่ชั้นหนึ่งไม่ใช่รึไง?

“ไม่ต้องกังวล นางกลับออกไปแล้ว” หลิงฮันพูดโดยไม่คิด

เยว่ไค่หยู่เกิดความรู้สึกสงสัย แต่ถ้าหลิงฮันพูดแบบนั้นเขาก็ทำได้เพียงยอมเชื่อ

ผ่านไปสักพักจอมยุทธคนอื่นก็พุ่งออกมาจากประตูทางเข้าพร้อมกับกองทัพแมลงดูดโลหิตที่ตามออกมา ตรงด้านหลังของกองทัพแมลง แมลงจ่าฝูงขนาดเท่ากำปั้นนับร้อยตัวกำลังทำหน้าที่คอยแบกอำพันที่ผนึกร่างของราชาแมลงเอาไว้

‘พรึบ’ กองทัพแมลงกระจายตัวบินไปยังทางออกทั้งสามทาง

ทางด้านหลิงฮันนั้นอสูรศิลาได้พาพวกเขาออกมาจากวิหารก้นทะเลสาปแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลามามัวว่ายน้ำ ดังนั้นจิตวิญญาณศิลาจึงเหาะเหินบินขึ้นฟ้าและพาพวกเขาไปยังชายฝั่งทะเลสาป

ณ ตอนนี้มีจอมยุทธบางคนที่เพิ่งเดินทางมาถึงทะเลสาปแห่งนี้และจ้องมองไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ใต้ทะเลสาปด้วยท่าทีตกตะลึง

“หนีไป ใต้ล่างนี้มีอสูรที่ทรงพลัง ถ้าพวกเจ้าไม่รีบหนีเสียแต่ตอนนี้ ชีวิตของพวกเจ้าจะจบสิ้น!” หลิงฮันตะโกนออกไป

“นั่นมันปรมาจารย์หลิง!” ใครบางคนจำหลิงฮันได้

เมื่อเห็นหลิงฮันที่กำลังรีบเผ่นหนีด้วยความรีบร้อน บางคนก็เลือกที่จะเชื่อแต่บางคนกลับไม่เชื่อ และไม่ใช่เพียงแค่พวกเขาไม่หลบหนีเท่านั้น พวกเขายังลงไปสำรวจเบื้องล่างอีกด้วย ทันใดนั้นแมลงดูดโลหิตนับไม่ถ้วนก็บินออกมาและเมื่อราชาแมลงปรากฏตัว โศกนาฏกรรมหมู่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ก็เกิดขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด