Alchemy Emperor of the Divine Dao 493

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 493 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จังหวะในการลอบจู่โจมนั้นสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก ขณะที่ทุกคนกำลังคิดถึงแต่เรื่องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ใครจะไปคิดว่าจู่ๆจะมีดาบโจมตีเข้ามา

แม้แต่หลิงฮันก็คาดไม่ถึง สัมผัสสวรรค์ของเขาตรวจจับจิตวิญญาณที่ทรงพลังรอบๆไม่พบแม้แต่น้อย

พลังของดาบนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ด้วยการที่มีอำนาจเสริมอย่างปราณดาบเก้าเล่ม เห็นได้ชัดว่าคนที่ลอบจู่โจมนั้นคิดจะลงมือกับพวกเขาถึงตาย!

ในช่วงเวลาเช่นนี้ หลิงฮันยังคงแหงนหน้าขึ้นมองตำแหน่งที่ดาบถูกปล่อยออกมาจนพบกับคนคนหนึ่ง

หยานเทียนจ้าว มันทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบานแล้ว!

หลิงฮันไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เพราะอย่างไรเขาก็สามารถหลบเข้าไปในหอคอยทมิฬได้เพียงแค่นึกคิด เขาสามารถเข้าไปยังหอคอยทมิฬได้ก่อนที่ปลายดาบจะสัมผัสกับร่างของเขา

หลิงฮันเริ่มจะคิดแล้วว่าหมอนี่สมกับเป็นคนที่ได้ครอบครองความทรงจำของพระเจ้าจริงๆ สำหรับมัน การทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบานนั้นง่ายราวกับเดินเล่น แต่ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้พลังบ่มเพาะของมันก็ยังอยู่ที่ระดับแก่นแท้จิตวิญญาณไม่ใช่ระดับบุปผาผลิบานครึ่งเก้า แค่จู่ๆมันกลับกลายเป็นระดับบุปผาผลิบานได้ ความเร็วในการบ่มเพาะพลังเช่นนี้มันจะน่าสะพรึงกลัวเกินไปหน่อยรึเปล่า?

เดี๋ยวสิ… ในการทดสอบแรก เขาได้รับทักษะกายาเก้ามังกรทรราชเป็นรางวัล และถ้าหยานเทียนจ้าวได้รับเม็ดยาเป็นรางวัล นั่นก็ไม่แปลกที่จู่ๆพลังบ่มเพาะของมันจะกลายเป็นระดับบุปผาผลิบาน

เมื่อความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมาในหัว หลิงฮันก็คิดจะหลบเข้าไปในหอคอยทมิฬและเรียกอสูรศิลาออกมาสู้ แต่ทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาด้านหน้าและโผกอดเขาเพื่อป้องกันการลอบโจมตี

ร่างนั้นคือจูเสวียนเอ๋อ!

สตรีโง่… หากถูกกอด เขาก็ไม่สามารถเข้าไปในหอคอยทมิฬได้… นอกเสียจากเขาจะทำให้นางหมดสติและพาตัวนางเข้าไปในหอคอยทมิฬด้วย แต่กว่าจะทำเช่นนั้นเสร็จ การโจมตีของหยานเทียนจ้าวก็คงจะมาถึงตัวพวกเขาแล้ว

หลิงฮันหัวเราะทั้งน้ำตา นี่เจ้าพยายามช่วยข้าหรือพยายามทำให้ข้าบาดเจ็บกันแน่?

‘ฉัวะ!’

ดาบเสียบเข้าร่างของจูเสวียนเอ๋อจนทะลุร่างของนาง พลังของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานแข็งแกร่งเกินไป แม้แต่พลังป้องกันของจูเสวียนเอ๋อก็ไม่สามารถบั่นทอนพลังของมันลดลงได้มากนัก

เมื่อปลายดาบสัมผัสกับร่างของหลิงฮันมันก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยเกราะอัสนี นี่คืออาวุธวิญญาณระดับสิบซึ่งทนทานเป็นอย่างยิ่ง มันจะถูกเจาะทะลวงง่ายๆได้อย่างไร? แต่พลังของจอมยุทธระดับบุปผาผลิเขาก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดี อำนาจของดาบได้ส่งผ่านเข้าไปยังร่างกายของหลิงฮันจนทำให้อวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหาย

สภาพของจูเสวียนเอ๋อนั้นย่ำแย่กว่าเขามาก ร่างกายของนางไร้เรี่ยวแรงพร้อมกับพลังชีวิตที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

หลิงฮันคำรามอย่างเกรี้ยวกราด “ศิลาน้อย สังหารมัน!”

‘พรึบ’ ร่างของเขากับจูเสวียนเอ๋อหายเข้าไปในหอคอยทมิฬ

“ทั้งสองคนหายไปแล้ว!” เยว่ไค่หยู่อุทานออกมาพร้อมกับหันไปมองคนอื่น แต่คนอื่นๆกลับไม่มีสีหน้าตกตะลึงแม้แต่น้อย “ข้าเป็นคนเดียวรึที่คิดว่ามันแปลก? เมื่อครู่คนสองคนหายไปในพริบตาเลยนะ!”

“กล้าทำร้ายหลิงฮันของหนิว! หนิวจะกัดเจ้าให้ตกตายไปเลย!” ฮูหนิวปลดปล่อยจิตสังหารออกมาและพุ่งเข้าใส่หยานเทียนจ้าวพร้อมกับอสูรศิลา

หยานเทียนจ้าวแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา มันรู้ว่าหลิงฮันครอบครองเกราะสมบัติอยู่ ดังนั้นมันจึงวางแผนลอบโจมตีโดยไม่ให้หลิงฮันมีเวลากระตุ้นใช้งานเกราะที่ว่านั่น

มันครอบครองความทรงจำของพระเจ้า จึงเป็นธรรมดาที่มันจะรู้วิธีปกปิดกลิ่นอายของตนเองจากสัมผัสสวรรค์ของหลิงฮัน

แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อย่างแรกคือสตรีที่นำตัวเข้ามาป้องกันหลิงฮัน ถึงแม้พลังป้องกันของระดับแก่นแท้จิตวิญญาณจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานพลังโจมตีของมัน แต่ก็ยังสามารถบั่นทอนอำนาจของดาบมันให้ลดลงได้อยู่ดี และสิ่งที่มันคาดไม่ถึงมากที่สุดก็คือการที่หลิงฮันและสตรีคนนั้นหายไปด้วยกันอย่างไร้ร่องรอย

มันสัมผัสถึงช่องว่างมิติที่ถูกฉีกขาดไม่ได้ ดังนั้นทั้งสองจะต้องไม่ได้หลบหนีไปโดยการเคลื่อนย้ายมิติแน่นอน หรือว่า… หลิงฮันจะมีสมบัติที่สามารถบรรจุสิ่งมีชีวิต?

สมบัติเช่นนั้นแม้แต่บนดินแดนแห่งพระเจ้าก็ถือว่าล้ำค่ามาก หากไม่ใช่ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่อาจครอบครองได้

แววตาของมันกลายเป็นพร่ามัว มันจะต้องนำสมบัติเช่นนั้นมาครอบครองให้ได้!

‘ปัง’ อสูรศิลาโจมตี ในขณะที่ฮูหนิวใช้ทักษะเคลื่อนที่ไปด้านหลังหยานเทียนจ้าวและอ้าปากกว้าง เมื่อประจันหน้ากับวิญญาณของธาตุทั้งห้า แม้แต่หยานเทียนจ้าวก็ไม่อาจประมาทได้ เพราะอย่างไรตอนนี้ร่างของมันก็ไม่ใช่ร่างของพระเจ้า

ภายในหอคอยทมิฬ หลิงฮันรีบเรียกใช้พลังอำนาจของหอคอยในการรักษาตนเอง แต่กลับพบว่าไม่สามารถทำได้

“หอคอยน้อย ทำไมบาดแผลของข้าไม่ฟื้นตัว?” หลิงฮันถาม

“ใครบอกเจ้าว่าหอคอยทมิฬสามารถรักษาบาดแผลได้?” จิตวิญญารหอคอยปรากฏตัวและพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “หอคอยทมิฬสามารถขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกจากร่างเจ้าได้ แต่ไม่สามารถใช้รักษาบาดแผล”

หลิงฮันถอนหายใจและพูด “ถ้าข้าตาย เจ้าจะต้องไปหาเจ้านายใหม่นะ ทำไมเจ้าถึงยังเยือกเย็นได้แบบนั้น?”

“ก็แค่การเปลี่ยนเจ้านาย ถึงอย่างไรอายุขัยของข้าก็ไม่มีจำกัดอยู่” จิตวิญญาณหอคอยพูดอย่างไม่แยแส

‘’บัดซบ!”

หลิงฮันไม่มีเวลาไปต่อล้อต่อเถียง เขาโคจรหยดวารีอมตะทันทีและรีบตรวจสอบสอบบาดแผลของจูเสวียนเอ๋อ แม้นางจะไม่ถูกโจมตีในจุดสำคัญ แต่พลังของระดับบุปผาผลิบานก็น่ากลัวเกินไป มันทำลายอวัยวะภายในทุกอย่างของนาง หากปล่อยไว้ อีกไม่นานชีวิตของนางจะต้องดับสูญแน่ๆ

แม้หลิงฮันจะไม่มีความจำเป็นที่จะช่วยชีวิตนาง แต่เขาจะยอมให้คนอื่นมาตายเพื่อเขาได้อย่างไร?

หลิงฮันพูดอย่างเคร่งเครียด “หอคอยน้อย คิดว่าวิธีทำให้สภาพร่างกายของนางมั่นคง ข้าจะหลอมเม็ดยา!”

จิตวิญญาณหอคอยตรวจสอบชั่วขณะและพูด “นางใกล้จะตายแล้ว ข้าจำเป็นต้องใช้พลังแห่งต้นกำเนิดที่ล้ำค่าเพื่อคงสภาพของนางไม่ให้ย่ำแย่ไปกว่าเดิม เจ้าจงคิดให้ดี พลังต้นกำเนิดของข้าในตอนนี้มีจำกัด หากใช้จนหมดข้าจะไม่สามารถแสดงอำนาจเพื่อช่วยเหลือเจ้าได้ในยามคับขัน”

“ไม่จำเป็นต้องคิด ข้าไม่อาจปล่อยให้นางตาย!” หลิงฮันพูดอย่างไม่ลังเล

“ตกลง!” จิตวิญญาณหอคอยสั่นไหวเล็กน้อยแสดงถึงการพยักหน้า ทันใดนั้นแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มโอบล้อมทั่วร่างจูเสวียนเอ๋อ เพื่อผนึกพลังชีวิตอันน้อยนิดของนางไม่ให้ดับสูญ

ตอนนี้ในหอคอยทมิฬมีสมุนไพรอยู่มากมาย แม้แต่สมุนไพรระดับสูงก็มีไม่น้อย เม็ดยาที่สามารถหลอมได้ตอนนี้คือเม็ดยาระดับปฐพีขั้นต่ำ “โอสถวารีนกอมตะ” ซึ่งเป็นเม็ดยาสำหรับรักษาบาดแผล แต่มันจะสามารถรักษาอาการของจูเสวียนเอ๋อได้หรือไม่นั้น หลิงฮันเองก็ไม่มั่นใจ

เขาจะสามารถเพิ่มหยดวารีอมตะเข้าไปเป็นส่วนผสมได้รึเปล่า?

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวหลิงฮัน แต่ว่าเขาจะนำหยดวารีอมตะออกมาได้อย่างไร?

“หอคอยน้อย เจ้ามีวิธีรึไม่?” หลิงฮันถาม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด