Alchemy Emperor of the Divine Dao 505

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 505 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จัดการเรื่องสำคัญไม่ได้

หลิงฮันปฏิเสธจูเสวี่ยนเอ๋อและพูดว่า “อาการบาดเจ็บของเจ้ายังไม่หายดี เจ้ากลับไปพักผ่อนเสียก่อน”

จูเสวี่ยนเอ๋อเพิ่งพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้นางรู้สึกเขินอายออกมาจนถึงขั้นทำให้ทั้งร่ายกายของนางลุ่มร้อน แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกประหลาดใจแทน ถ้าหลิงฮันใช้ประโยชน์และจับนางกด พวกเขาก็จะได้รับประสบการณ์แนบเนื้อกันมากที่สุด แล้วนางก็จะไม่ต้องทำตัวสงบเสงี่ยมต่อหน้าหลิงฮัน แต่ตอนนี้นางไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมาและอยากจะรีบไปให้พ้น

“เฮ้อ สาวงามอุตส่าเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของข้าด้วยตัวเองทั้งที แต่ข้ากลับไม่ฉวยโอกาสคว้ามันไว้!” หลิงฮันล้มตัวนอนอยู่บนพื้นหญ้า เขาจ้องมองท้องฟ้าที่ไร้ดวงดาวและดวงจันทร์ “หรือว่าสมองว่าจะมีปัญหาถึงคิดถึงผู้หญิงป่าเถื่อนนั่นขึ้นมาในเวลานั้น!”

จากนั้นหลิงฮันก็ลุกขึ้นมา ใบหน้าของเขากระตุก “เฮ้อ หรือว่าข้าจะตกหลุมรักนางเข้าให้แล้ว?”

“มิฉะนั้น ภายใต้สถานการณ์เมื่อครู่ชายคนใดจะปฏิเสธได้ลง? ข้าไม่มีภรรยา ดังนั้นมันไม่สำคัญว่าข้าจะอยู่กับผู้หญิงคนไหนถูกต้องไหม? ไม่ว่าจะเป็นหลิ่วอู๋ตงหรือหลีซื่อฉาง ทำไมข้าถึงไม่เคยคิดที่จะแตะต้องพวกนางเลย?”

“มันจบแล้ว มันจบสิ้นแล้ว นี่มันก็ผ่านมาหลายพันปีแล้ว แต่ข้าก็ยังนึกถึงนาง!”

“เหตุใดถึงเป็นแบบนั้น?”

“นอกเหนือจากความงดงามที่เหนือกว่าสตรีทุกคน มีความแข็งแกร่งมากกว่าคนส่วนใหญ่ มีพรสวรรค์ในศาสตร์วรยุทธมากกว่าคนส่วนใหญ่ และมีเรือนร่างที่ดีกว่าคนส่วนใหญ่ ดูเหมือนว่านางไม่จำเป็นต้องสะสมแต้มบุญอีกต่อไป แต่ประเด็นคือนางเป็นคนป่าเถื่อน ลงไม้ลงมือกับศิษย์ทั้งสี่คนของข้า และมาสถานที่ของข้าฉกเม็ดยาเป็นระยะๆ นางไม่เคยถือว่าตัวเองเป็นคนนอก ข้าไม่เคยเห็นผู้หญิงแบบนั้นที่ไหนมาก่อนเลย!”

“อะไรกัน!?”

สีหน้าของหลิงฮันแสดงออกอย่างแปลกประหลาด หรือว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ทำตัวเหมือนเป็นภรรยาลับของข้า เป็นไปได้ไหม มันเป็นไปได้หรือไม่!?

“ข้าช่างโง่เง่ายิ่งนัก!” หลิงฮันตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้า

หอคอยทมิฬน้อยปรากฏออกมาและพูดกับเขาอย่างเฉยเมยว่า “ใช่แล้ว เจ้าเป็นคนโง่เง่าอย่างแน่นอน”

“ข้าแค่พูดออกมาอย่างไม่ทันคิด คนที่ฉลาดอย่างข้ายังห่างไกลจากคำว่าโง่หลายล้านไมล์!” หลิงฮันรีบกลับมาเป็นปกติราวกับว่าเขาไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าอะไรทำให้เขาหนักใจ

“เจ้าไม่อาจปกปิดข้าได้ ในหลายสหัสวรรษที่ผ่านมา ข้าอยู่ในดวงวิญญาณของเจ้า และความทรงจำของเจ้าทุกอย่างข้าล้วนแต่เคยเห็นมาหมดแล้ว” หอคอยทมิฬยังคงพูดอย่างเฉยเมย

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสอดส่องเรื่องส่วนตัวของคนอื่น?” หลิงฮันอยากจะต่อยใครสักคน

“เจ้าคิดว่าข้าอยากดูงั้นรึ?” หอคอยทมิฬพูดอย่างเย็นชา มันหยุดพูดชั่วครู่แล้วพูดต่อว่า “มันเห็นได้ชัดว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์สนใจในตัวเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย!”

ตั้งแต่ที่หอคอยทมิฬรู้เรื่องนั้น หลิงฮันไม่เสแสร้งอีกต่อไป เขาถอนหายใจออกมาและพูดว่า “ผู้หญิงป่าเถื่อนนั่นโดดเด่นเกินไป ถ้านางชอบข้าก็แค่พูด…ไม่อ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย!”

อย่างไรก็ตาม หลิงฮันต้องส่ายหน้าทันที สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เป็นหนึ่งในเจ็ดจอมยุทธระดับสวรรค์ในชีวิตที่แล้วของเขา เทพธิดาแห่งการต่อสู้ผู้ที่เป็นรองแค่จักรพรรดิดาบ แล้วนางจะแสดงออกเหมือนผู้หญิงทั่วไปได้อย่างไร?

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง นางจะยังคงเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์หรือไม่?

“ความอ่อนโยนของเจ้านั้นข้าไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย!” หลิงฮันพูดพึมพำ สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์อยากจะมาหาเขาก็มาอยากจะไปก็ไปและหยิบเอาโน้นเอานี่ไปด้วย นางทำตัวไม่เหมือนคนนอกเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นคำใบ้ที่เห็นได้ชัด

น่าเสียดายที่ตอนนั้นเขาภาคภูมิใจในตัวเองมากเกินไป และสิ่งเดียวที่เขาต้องการคือทะลวงผ่านระดับทลายมิติเพื่อเหนือความผู้หญิงป่าเถื่อนคนนั้น ถ้าเขาถอยคนละก้าว บางทีสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เองก็อาจลดบรรยากาศสูงส่งของตัวเองลงและทั้งสองคนก็คงจะอยู่ด้วยกันไปแล้ว

แต่ทว่าตอนนี้ พวกเขาถูกคั่นด้วยระยะเวลาพันปี!

“แม้แต่เจียงเย่เฟิงอาจจะกลายเป็นพระเจ้าแล้วก็เป็นได้ และด้วยพรสวรรค์ของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ นางเองก็อาจทะลวงผ่านระดับทลายมิติและกลายเป็นพระเจ้าเหมือนกัน…และเมื่อกลายเป็นพระเจ้าอายุขัยอาจไม่มีที่สิ้นสุด การมีชีวิตอยู่หลายหมื่นปีคนไม่ใช่ปัญหา”

หลังฮันกำหมัดแน่นทันที “รอจนกว่าข้าจะทะลวงผ่านระดับทลายมิติและกลายเป็นพระเจ้าก่อนเถอะ ข้าจะต้องตามหาเจ้าอย่างแน่นอน! ผู้หญิงป่าเถื่อนแบบเจ้า ถ้าเจ้ากล้าแต่งงานกับชายอื่น ข้ากับเจ้าคงต้องพอกันที!”

รถม้าส่ายไปส่ายมา และใช้เวลาเจ็ดวันเพื่อกลับไปยังเมืองหยางสวรรค์

หลิงฮันปล่อยหลีซื่อฉาง หลิ่วอู๋ตงและคนอื่นออกมา และให้พวกเขาไปที่ร้านอาหารไม่อาจลืมเลือนและตำหนักราชันโอสถเพื่อรับผลึกก่อเกิดที่ได้รับมา

เขาไปที่ตำหนักโอสถภูมิภาคเหนือเป็นการส่วนตัวเพื่อมาหากงหยางไท่ซุน เขาต้องไปรับแม่ของเขาและพากลับไปที่แคว้นพิรุณเพื่ออยู่กับพ่อของเขา

นักปรุงยาจะอุทิศหัวใจและจิตวิญญาณเพื่อหลอมเม็ดยา ถึงขั้นยอมสละสิทธิ์การเข้าร่วมสิบสองเขตแดนลี้ลับ แม้ว่าเหตุผลส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะพวกเขาไม่เหมาะกับศาสตร์วรยุทธ กลุ่มนักปรุงยาจึงไม่สนใจศาสตร์วรยุทธ ดังนั้นในหมู่พวกเขาจึงมีจอมยุทธที่แข็งแกร่งเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น ในหมู่นักปรุงยาของตำหนักโอสถภูมิภาคเหนือ มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่บรรลุระดับตัวอ่อนวิญญาณและนั่นคือกงหยางไท่ซุน

หลิงฮันเชื่อว่ากงหยางไท่ซุนจะเคารพสถานะนักปรุงยาระดับสวรรค์ของเขา และไม่ต้องการแย่งชิงสมบัติที่เขาได้รับมาจากสิบสองพระราชวังอย่างแน่นอน แน่นอนว่าเขาไม่ไว้วางใจคนที่เขาไม่ยังรู้จักไม่ดีพอ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเขาสามารถหลบหนีเข้าไปในหอคอยทมิฬได้อย่างปลอดภัย

หลังจากที่มาถึงตำหนักโอสถภูมิภาคเหนือ เขาก็แสดงให้ทุกคนเห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของเขา

“คารวะปรมาจารย์หลิง!” บนเส้นทางของเขา นักปรุงยาทุกคนต่างแสดงความเคารพของพวกเขาออกมา

หลิงฮันพยักหน้าตอบโต้เล็กน้อย และในไม่ช้าก็มาถึงที่พักส่วนตัวของกงหยางไท่ซุน และเมื่อกงหยางไท่ซุนรู้ข่าว เขาเองก็รีบออกมาต้อนรับทันทีเช่นเดียวกัน

“ปรมาจารย์หลิง ชายชราผู้นี้เป็นคนไร้ค่าที่ไม่อาจจัดการเรื่องนั้นได้!” กงหยางไท่ซุนตำหนิตัวเอง

ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นภายในใจหลิงฮันขณะที่เขาพูดออกมาทั้งขมวดคิ้วว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

“นิกายจันทราเหมันตร์ไม่ยอมปล่อยนาง!” กงหยางไท่ซุนกล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ด้วยคำสั่งของนักปรุงยาระดับสวรรค์บนกระดาษบวกกับตัวเขาที่เป็นนักปรุงยาระดับปฐพีขั้นกลางเข้าไปด้วยก็ยังไม่เพียงพอ แม้กระทั่งเขายังรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

หลิงฮันลูบคางของตัวเอง หรือว่านิกายจันทราเหมันตร์คิดจะข่มขู่เขาโดยใช้แม่ของเขา?

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นิกายจันทราเหมันตร์จะรู้ความสัมพันธ์ของหลิงฮันกับเย่วฮงฉาง แต่คนอื่นคงจะคิดว่ามันแปลกที่นักปรุงยาระดับสวรรค์เรียกร้องให้นิกายจันทราเหมันตร์ปล่อยตัวคนคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ภูมิภาคเหนือไม่ใช่ภูมิภาคกลาง ที่แห่งนี้นักปรุงยาระดับสวรรค์นั้นแทบจะไม่ต่างจากนักปรุงยาระดับปฐพีขั้นกลางเลย

ถ้าจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณไม่ไว้หน้าเขาจริง เขาจะทำอะไรได้? เรียกจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวามาปราบพวกเขางั้นหรือ?

เช่นเดียวกับภูมิภาคกลาง ย่าวหุยเย่วและศิษย์จากนิกายใหญ่ไม่ให้ความเคารพนักปรุงยาแม้แต่น้อย

“ข้าเข้าใจแล้ว” หลิงฮันพยักหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะต้องไปที่นิกายจันทราเหมันตร์ด้วยตัวเอง

“ปรมาจารย์หลิง ชายชราผู้นี้พร้อมที่จะเดินทางไปพร้อมกับท่าน” กงหยางไท่ซุนกล่าวออกมาด้วยความกังวล เห็นได้ชัดว่าเขาได้ยินเรื่องที่หลิงฮันได้รับมรดกของสิบสองพระราชวังมาแล้ว และเกรงว่านิกายจันทราเหมันตร์อาจใช้กำลัง

“ไม่จำเป็น ข้ามีแผน” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม

จากนั้น หลิงฮันเดินออกมาจากตำหนักโอสถภูมิภาคเหนือและกลับไปที่พักของเขา หลิ่วอู๋ตงและคนอื่นเองก็กลับมาทีละคนพร้อมกับข่าวร้าย

ร้านค้าทั้งสองถูกทำลาย

ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่หลังจากที่ร้านค้าปิดในตอนกลางคืน และเมื่อตอนเช้าพอเปิดประตูมาก็มีซากศพอยู่ด้านใน ด้วยกลิ่นเหม็นของซากศพที่ฟุ้งไปทั่วอากาศ ใครมันจะอยากกินหรือซื้อเม็ดยากัน?

นิกายพันศพ มีเพียงแค่พวกมันเท่านั้นที่ใช้วิธีการต่ำต้อยเช่นนี้

“หรือว่าพวกมันพยายามทำให้ข้าอยู่ไม่สุข?” หลิงฮันพูดพึมพัม โชคดีที่ร้านค้าทั้งสองสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับหลิงฮันเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เขาร่ำรวยอย่างรวดเร็วคือการประมูลเม็ดยา ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่อาจทำให้เขาเคร่งเครียดได้

“ช่างมันเถอะ ตอนนี้ข้าได้รับมรดกของสิบสองพระราชวังมาแล้ว และภูมิภหลังของข้าคงจะถูกเปิดเผยออกมาทีละเล็กน้อย ดังนั้นข้าจะต้องรีบช่วยท่านแม่ให้เร็วที่สุดแล้วพาไปอยู่กับท่านพ่อที่แคว้นพิรุณ และไม่อาจปล่อยให้ใครอยู่กับข้าได้

“ไปที่นิกายจันทราเหมันตร์!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด