Alchemy Emperor of the Divine Dao 525

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 525 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

น่าจือเหยียน

“ปรมาจารย์โปว ท่านไม่ต้องคิดถึงข้าขนาดนั้นก็ได้” หลิงฮันหัวเราะ

‘ปัง’ ฮูหนิวกระโดดออกมาและชกเข้าไปที่ท้องของโปวเหวินหลิง แม้จะเป็นหมัดเปล่า แต่ด้วยพลังต่อสู้ที่สู้ข้ามระดับได้ถึงสองระดับทำให้โปวเหวินหลิงจุกจนตัวงอเหมือนกุ้งในทันที

หลิงฮันจงใจถอนหายใจออกมาและพูด “ปรมาจารย์โปว ทำไมท่านถึงทำเช่นนี้?”

ดวงตาของผู้ดูแลการประหารเปิดกว้าง ระดับพลังของโปวเหวินหลิงกับมันนั้นเท่ากัน แม้ในแคว้นอัคคีมันจะถือว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลัง แต่พลังของเด็กสาวตรงหน้านี้ดูน่าสะพรึงกลัวเกินไป

ถ้ามันลงมือ สภาพของมันก็คงไม่ต่างอะไรกับโปวเหวินหลิง?

อะไรกัน! สัตว์ประหลาดสองตัวนี้โผล่มาจากที่ไหนกัน!

หลิงฮันยิ้มไปยังผู้ดูแลการประหารและพูด “เจ้าจะทำตัวว่านอนสอนง่าย?”

“แน่นอน! ข้าจะยอมเชื่อฟังท่าน!” ผู้ดูแลการประหารรีบตอบกลับไปในขณะที่รู้ตัวว่ามันกำลังถูกฮูหนิวจ้องมองด้วยสายตาที่ดุร้าย

หลิงฮันหัวเราะ เขาเตะร่างของโปวเหวินหลิงไปยังบริเวณเท้าของผู้ดูแลการประหารและพูด “เจ้าจงพามันกลับไป”

แม้ผู้ดูแลการประหารจะรู้สึกโกรธที่โดนดูถูก แต่ตอนนี้มันก็เริ่มมองออกแล้วว่าโปวเหวินหลิงไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดกับหลิงฮัน มันเชื่อคำอธิบายของโปวเหวินหลิงที่ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลิงฮันและนักฆ่าสาวในทันที

แม้ฮูหนิวจะไม่ได้คิดเอาชีวิตของโปวเหวินหลิง แต่หมัดของเด็กสาวก็ไม่ใช่เบาๆ อวัยวะภายในทั้งห้าของเขาได้รับความเสียหายจนพูดอะไรไม่ออกและรู้สึกอยากจะสำรอกออกมา

หลิงฮันโบกมือให้กับโปวเหวินหลิงและพูด “ปรมาจารย์โปว แม้ท่านจะไม่สามาถติดตามข้าได้แล้วแต่ก็ไม่ต้องรู้สึกผิดไปหรอกนะ”

ทันใดนั้นหลิงฮันก็เดินจากไป

ผู้ดูแลการประหารไม่กล้ารั้งหลิงฮันเอาไว้ มันรีบแบกโปวเหวินหลิงขึ้นมาและไล่ตามหลิงฮันไปราวกับเป็นคนรับใช้ซึ่งทำให้มันรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก

หลังจากเดินไปได้สักพัก โปวเหวินหลิงก็เริ่มเดินเองไหว แต่ทุกๆครั้งที่เท้ากระทบพื้นเขาก็จะรู้สึกเจ็บปวดที่ช่วงท้อง เมื่อเปิดเสื้อออกมาดูก็พบกับรอยช้ำสีเขียวที่ตรงกลางเป็นสีดำ

เด็กสาวคนนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!

“จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือ…”

“ที่พักของน่าจือเหยียน!”

“ไม่ดีแล้ว!”

โปวเหวินหลิงและผู้ดูแลการประหารมองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของนักฆ่าสาวก่อนหน้านี้คือการสังหารน่าจือเหยียน และในเมื่องหลิงฮันรู้จักกับพวกนางจึงสามารถคาดเดาได้ไม่อยากว่าเป้าหมายของหลิงฮันคือการสังหารน่าจือเหยียนเช่นกัน

น่าจือเหยียนเป็นผู้ที่จักรพรรดิเพลิงโปรดปราน ถ้าหากหลิงฮันสังหารน่าจือเหยียนล่ะก็ พวกเขาทั้งสองคนที่ไม่ลงมือขัดขวางหลิงฮันเอาไว้จะต้องถูกโยนความผิดมาแน่ๆ

“เร็วเข้า พวกเราต้องรีบไปแจ้งให้ทุกคนทราบ!” ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนสายตากันก่อนที่จะแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว

หลิงฮันไม่ได้เร่งรีบอะไรราวกับเขาต้องการให้พวกโปวย่งเฟิงมีเวลาไปแจ้งข่าว เขาเดินเตร็ดเตร่อย่างเชื่องช้า กว่าจะมาถึงสถานที่เป้าหมายก็ปาไปยี่สิบกว่านาทีแล้ว

ที่พักของน่าจือเหยียนนั้นก่อนหน้านี้เคยเป็นขององค์ชาย แต่องค์ชายคนนั้นกลับก่อกบฏแย่งชิงอำนาจจักรพรรดิ ผลสุดท้ายก็ถูกจองจำ ดังนั้นที่พักแห่งนี้จึงถูกอายัดเอาไว้และตอนนี้ก็ถูกมอบให้กับน่าจือเหยียน

ด้านหน้าประตูทางเข้ามีทหารองครักษ์อาวุธครบมือเดินออกมา พวกเขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าทหารองครักษ์เดินอย่างองอาจโดยสวมหมวกเกราะเงินและเหน็บดาบเล่มยาวเอาไว้ที่เอว

ชายคนนี้มีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ!

“ข้าคือหัวหน้าองครักษ์จักรพรรดิซื่อคงเชิง เจ้าอาชญากรตัวร้าย อย่าคิดว่าจะรอดกลับไปได้” เขาคำรามเสียงดัง

หลิงฮันมองไปรอบๆและยิ้มออกมา “ปรมาจารย์โปว ไหนบอกว่าทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมให้ข้าลงมือสังหารน่าจือเหยียนได้อย่างราบรื่นแล้วไง? นี่ไม่เห็นเหมือนกับที่พูดเอาไว้เลย?”

โปวเหวินหลิงเกือบจะโมโหจนตกตาย ทำไมเจ้าถึงนำข้าเข้าไปเกี่ยวอีกแล้ว?

“เจ้าอาชญากรน้อย ไม่ต้องเสียเวลาพูดอะไรไร้สาระ!” ซื่อคงเชิงจ้องมองหลิงฮันอย่างเย็นชาแต่ก็ไม่กล้าลงมือผลีผลาม

มันได้รับรายงานมาแล้วว่าเด็กสาวตัวน้อยที่อยู่ข้างกายหลิงฮันสามารถจัดการโปวเหวินหลิงได้ด้วยหมัดเดียว เพราะงั้นมันจึงไม่กล้าประมาท

หลิงฮันยิ้มและพูด “ข้ามาที่นี่เพื่อพูดคุยกับน่าจือเหยียน ทำไมพวกเจ้าต้องทำเหมือนจะมาสังหารข้าด้วย? เรียกน่าจือเหยียนออกมาซะ ถ้าพูดคุยกับรู้เรื่องทุกอย่างจะจบลงอย่างสงบสุข”

“บังอาจล่วงเกินนายท่านน่าจือเหยียน?” ซื่อคงเชิงพูดอย่างเย็นชา

หลิงฮันถอนหายใจและพูด “ช่างน่าน้อยใจยิ่งนัก ข้าไม่พูดกับเจ้าแล้ว ฮูหนิว เจ้าว่าพวกเราควรทำอย่างไรดี?”

“ทุบตีพวกมันเลย!” ฮูหนิวยกมือขึ้นและพูด “ต้องกำราบพวกคนเหล่านี้!”

ช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก!

หลิงฮันยิ้มและพูด “พวกเจ้าได้ยินแล้วสินะ ในเมื่อน่าจือเหยียนไม่ยินดีที่จะออกมา ข้าก็คงต้องใช้กำลังในการตัดสินปัญหา”

เมื่อเห็นว่าหลิงฮันจะบุกเข้าไปในที่พักซื่อคงเชิงก็ชักดาบออกมาและฟันไปยังหลิงฮันทันที มันคือจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณจึงแข็งแกร่งกว่าโปวเหวินหลิงและผู้ดูแลการประหารมากนัก ดาบที่ฟันออกไปนอกจากปรารดาบสี่เล่มแล้วยังมีเปลวเพลิงที่เริงระบำอยู่กลางอากาศ ทำให้ดูน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก

“หมัดเหล็กของหนิว!” ฮูหนิวกระโดดออกมา ‘ปัง’ นางซัดหมัดใส่ซื่อคงเชิงจนกระเด็น

‘พรวด!’

เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนได้สำลักออกมา

นั่นคือซื่อคงเชิง จอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณขั้นเจ็ดเชียวนะ คนที่เทียบกับเขาได้ ทั่วทั้งแคว้นอัคคีนี้สามารถนับได้ไม่เกินสิบนิ้ว แต่ตอนนี้เขากลับถูกเด็กสาวตัวเล็กๆจัดการได้อย่างง่ายดาย เรื่องแบบนี้ใครจะทำใจเชื่อได้?

ยิ่งกว่านั้นนี่ยังเป็นเพียงแค่พลังของฮูหนิวคนเดียวเท่านั้น หลิงฮันยังไม่แสดงอำนาจใดๆออกมา

‘แปะ แปะ’ เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับชายผิวขาวคนหนึ่งเดินออกมาจากที่พัก ชายคนนี้มีรูปร่างผอมและใบหน้าที่หล่อเหลา เส้นผมของเขาพลิ้วไหวราวกับอสรพิษโดยที่ไม่มีลมพัด

ชายคนนั้นมองมาที่หลิงฮันและพูด “สหายจากแดนไกล ข้าคือน่าจือเหยียน แล้วนามของเจ้าล่ะ?”

สายตาของหลิงฮันแสดงออกถึงความประหลาดใจ น่าจือเหยียนผู้นี้มีพลังบ่มเพาะระดับบุปผาผลิบาน!

แปลกมาก ในดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวแห่งนี้ไม่สมควรมีจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเกิดขึ้นมาได้ เหล่าอสูรเฒ่าที่คอยดูแลแต่ละแคว้นนั้นเป็นเพียงแค่ระดับบุปผาผลิบานครึ่งก้าวที่พึ่งพาอาศัยอำนาจแห่งจักรภพเท่านั้น

นอกเหนือจากอัจฉริยะอย่างจักรพรรดิพิรุณแล้ว หลิงฮันไม่เชื่อว่าจะมีคนที่เกิดในดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวสามารถทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบานได้

แต่น่าจือเหยียนที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นระดับบุปผาผลิบานที่แท้จริงไม่ใช่พลังบ่มเพาะที่เกิดจากอำนาจแห่งจักรภพ

ด้วยพลังบ่มเพาะเช่นนั้นกลับยอมลดตัวมาเป็นคนของดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยว?

หลิงฮันเข้าใจทันทีว่าเป้าหมายของน่าจือเหยียนจะต้องเป็นเหมืองต้องสาปนั่น

เขาพยายามชักจูงจักรพรรดิอัคคีให้เปิดใช้งานเหมืองจากยุคบรรพกาลอีกครั้ง สิ่งที่เขาต้องการอาจจะไม่ใช่แร่หินแต่เป็นสมบัติต้องสาปที่ถูกฝังอยู่ใต้เหมืองนั่น?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด