Alchemy Emperor of the Divine Dao 573

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 573 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กลับคำ

หลิงฮันส่ายหัวและพูด “พวกเราทำการค้าขายกัน ตำแหน่งเหล่านั้นถูกพวกเจ้าซื้อไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่อาจคืนให้ได้!”

“ไร้สาระ!” ใครบางคนคำรามออกมา “เป็นแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานอันกระจ้อยร่อย คิดจะต่อต้าน?”

“มอบผลึกก่อเกิดมา แล้วเจ้าจะมีชีวิตต่อไปได้!”

“หนุ่มน้อย อย่าแส่หาความตายเพียงเพราะของนอกกาย”

ผู้คนมากมายพูดจาข่มขู่และหว่านล้อมหลิงฮันเพื่อที่จะได้รับผลึกก่อเกิดคืน

หลิงฮันยิ้มและพูด “ตำหนักสมบัติวิญญาณเองก็ได้รับค่าธรรมดาสิบเปอร์เซ็นต์ไป พวกเจ้ากล้าไปทวงคืนจากพวกเรารึไม่?”

“นั่นมันเรื่องของเจ้า ไม่เกี่ยวกับพวกข้า!” ผู้คนเหล่านั้นพูดออกมาทันที

บ้ารึเปล่า? ตำหนักสมบัติวิญญาณมีตัวตนระดับทลายมิติคอยดูแลอยู่ ใครจะไปกล้าทวงเงินคืนจากพวกเขา?

“แล้วถ้าข้าไม่คืนล่ะ?” หลิงฮันยิ้ม

“เจ้าก็ไม่อาจไปจากที่นี่ได้!” ทุกคนคำรามออกมา

ผลึกก่อเกิดจำนวนขนาดนั้น แม้จะเป็นตัวตนระดับตัวอ่อนวิญญาณหรือก้าวสู่เทวาก็นับว่ามีค่ามหาศาล สำหรับตัวตนระดับสวรรค์นั้น ผลึกก่อเกิดเหล่านั้นมีผลต่อตระกูลของพวกเขา

หลิงฮันยิ้มและพูดอย่างไม่หวาดหวั่น “พวกเจ้ากล้าข่มขู่ข้า อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ!”

“ฮ่าๆ เจ้าจะทำอะไรได้?” ทุกคนหัวเราะลั่น

“เจ้าหนู คืนผลึกก่อเกิดมา!”

“และเจ้าต้องจ่ายค่าชดเชยให้พวกเราด้วยที่กล้าขัดขืน มอบทักษะบ่มเพาะของเจ้ามา!”

“ใช่แล้ว รวมถึงทักษะยุทธด้วย!”

ดวงตาของทุกคนเปล่งประกาย ก่อนหน้านี้หลิงฮันได้แสดงพลังต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวออกมา ไม่ว่าจะเป็นพลังป้องกันของร่างกายหรือพลังโจมตีล้วนแต่เกินกว่าระดับของบุปผาผลิบานขั้นสองไปไกล… บัดซบ!

เจ้าหนูนี่กลายเป็นระดับบุปผาผลิบานขั้นสี่ตั้งแต่เมื่อใด?

เพียงผ่านไปค่ำคืนเดียว พลังบ่มเพาะของหลิงฮันก็เพิ่มขึ้นถึงสองขั้น ใครจะไปทำใจเชื่อเรื่องนี้ลง!

ดวงตาของทุกคนเร่าร้อนอีกครั้ง ชายหนุ่มผู้นี้มีความลับซ่อนเอาไว้มากมายขนาดไหนกัน? ถ้าได้รับมันมาล่ะก็… บางทีโชคชะตาของตระกูลพวกเขาอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้

ทุกคนยืนล้อมรอบหลิงฮันพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารออกมา

เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนหยิบก้อนอิฐขึ้นมาและพูด “พวกเจ้าอย่าได้ทำอะไรโง่ๆ ชายสุดแข็งแกร่งคนนั้นคือพี่ใหญ่ของฮันฮัน!” นางเรียนรู้การพูดข่มขู่ได้ไวมาก

เมื่อทุกคนได้ยิน พวกเขาก็หัวเราะออกมาทันที

พี่ใหญ่? ไร้สาระ!

จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานจะไปเป็นพี่น้องกับตัวตนไร้พ่ายอย่างจอมยุทธระดับทลายมิติได้อย่างไร? อายุของพวกเขาห่างกันตั้งหลายร้อยปี

“ถ้าไม่ส่งมา ก็จงตายไปซะ!” ผู้คนเหล่านั้นยังคงพูดจาข่มขู่

“โอ้ เจ้าคิดจะทำอะไรกับน้องชายข้า?” เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากระยะที่ค่อนข้างไกล

เมื่อได้ยินเสียงนั้น ร่างของผู้คนส่วนใหญ่ได้สั่นสะท้านทันที แต่ก็ยังมีบางคนที่เอาแต่จดจ้องไปยังหลิงฮันและไม่รู้ตัว พวกเขาตำโกนออกมา “แน่นอน ก็บังคับให้เขามอบผลึกก่อเกิดอละทักษะบ่มเพาะมาไงล่ะ!”

“ช่างกล้าหาญนัก!” เฟิงผั่วหยุนเดินใกล้เข้ามา กลิ่นอายของจอมยุทธระดับทลายมิติของเขาแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ

‘ตุบ’ ทุกคนคุกเข่าลงทันที

เฟิงผั่วหยุนเดินมายังหลิงฮันและยิ้ม “น้องข้า มีใครข่มขู่เจ้ารึ?”

หลิงฮันยิ้มและจ้องไปยังฝูงชน “พี่ชายของข้าถามว่าพวกเจ้ากำลังข่มขู่ข้าอยู่รึเปล่า?”

ทุกคนร้องไห้ออกมา เจ้าหนูนี่กลายเป็นพี่น้องกับตัวตนระดับทลายมิติได้อย่างไร? ถ้ารู้มาก่อน ต่อให้มีความกล้ามากว่านี้หมื่นเท่าพวกเขาก็ไม่กล้าล่วงเกินหลิงฮัน! ทุกคนรีบส่ายหัวและพูด “ไม่กล้า! ไม่กล้า!””

“งั้นพวกเจ้ามายืนล้อมข้าทำไม แถมยังปลดปล่อยจิตสังหารออกมาด้วย?” หลิงฮันจงใจพูด

จิตใจของผู้คนมากมายเริ่มสั่นไหวและรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “พวกเราต้องการมอบผลึกก่อเกิดให้เจ้า!”

“ใช้แล้ว มอบผลึกก่อเกิด!” ทุกคนฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าหลิงฮันจงใจพูดเช่นนั้นเพื่อเปิดช่องทางให้พวกเขาใช้เงินซื้อชีวิตตนเอง

หลิงฮันยิ้ม “พี่ใหญ่ คนพวกนี้ช่างใจดียิ่งนัก!”

เฟิงผั่วหยุนพยักหน้าและพูด “อืม ใครก็ตามที่กล้ารังแกน้องชายข้า ซากศพของพวกมันจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก”

ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวต่อคำพูดของตัวตนระดับทลายมิติ

หลิงฮันหัวเราะและพูด “งั้นก็ส่งผลึกก่อเกิดผ่านทางตำหนักสมบัติวิญญาณแล้วกัน ข้าอาศัยอยู่ที่นั่น พี่ใหญ่ เราไปดื่มกันเถอะ”

“ก็ไม่เลว!” เฟิงผั่วหยุนพยักหน้าและเดินแยกไปกับหลิงฮัน

ยิ่นเฉวยางและจอมยุทธระดับสวรรค์คนอื่นทำได้แต่มองทั้งสองคนเดินจากไป มีเพียงจูเสวียนเอ๋อ เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและฮูหนิวที่เดินตามพวกหลิงฮันไปด้วย

ใบหน้าของซวนหยวนจื่อกวงกลายเป็นมืดมนพร้อมกับกำหมัดแน่น เขาไม่เคยคิดเลยว่าหลิงฮันจะเป็นพี่น้องกับตัวตนระดับทลายมิติ แล้วแบบนี้มันจะกล้าสังหารหลิงฮันรึ?

เจ้าหมอนี่มีอะไรดีกัน ถึงได้เข้าตาเฟิงผั่วหยุน!

……

หลิงฮันและเฟิงผั่วหยุนเดินทางกลับไปยังที่พักของหลิงฮันในตำหนักสมบัติวิญญาณ หลิงฮันนำวัตถุดิบต่างๆออกมาจากหอคอยทมิฬและทำอาหารกินด้วยกัน

ฮูหนิวไม่หวาดกลัวผู้ใด เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเองก็เป็นคนที่ไม่เชื่อฟังใครเช่นกัน มีเพียงจูเสวียนเอ๋อเท่านั้นที่มีท่าทีหวาดหวั่นและเกร็ง

เฟิงผั่วหยุนรู้สึกประหลาดใจและพูด “เด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดาเลย!” เขามองไปยังฮูหนิวและแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา

แม้แต่ตัวตนระดับทลายมิติก็ยังพูดเช่นนั้น

“หนิวสุดยอดที่สุดอยู่แล้ว!” ฮูหนิวไม่อ่อนน้อมถ่อมตน นางกางแขนเล็กๆของนางออกและทำท่าทีน่าเกรงเกรงขาม

เฟิงผั่วหยุนหัวเราะและพูด “น้องชาย ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะโชคดีขนาดนี้ สตรีเหล่านี้ช่างงดงามนัก!”

จูเสวียนเอ๋อมีท่าทีเอียงอาย ส่วนเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนนั้นไม่สนใจและแย่งอาหารกับฮูหนิว นางต่อสู้แย่งชิงอย่างดุเดือดจนไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบฮูหนิว

“หนิวงดงามอยู่แล้ว! หลิงฮันคือของหนิว!” ฮูหนิวกอดหลิงฮันด้วยมือเล็กๆของนาง

เฟิงผั่วหยุนประหลาดใจ เด็กสาวคนนี้ช่างมีความคิดเกินวัยยิ่งนัก เขามองไปยังใบหน้าของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและพูด “น้องชาย เผ่าใต้สมุทรนั้นยากที่จะหยั่งถึงนัก เจ้าต้องระวังตัวให้ดี”

หลิงฮันตกตะลึงและพูด “พี่ชาย ท่านรู้จักตัวตนของสวินเสวี่ยนน้อยด้วย?”

“ตระกูลขุนนางของเผ่าใต้สมุทร ผู้สืบเชื้อสายของมังกรที่แท้จริง” เฟิงผั่วหยุนกล่าวอย่างเรียบง่าย

สมกับที่เป็นตัวตนระดับทลายมิติ ไม่สามารถซ่อนอะไรกับเขาได้เลย

หลิงฮันพยักหน้าและพูด “หญิงสาวผู้นี้สูญเสียความทรงจำ” เขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับเหมืองโบราณของแคว้นเพลิงและแมงมุมยักษ์สีเงินให้เฟิงผั่วหยุนฟัง

“โอ้?” เฟิงผั่วหยุนแสดงสีหน้าสงสัยขึ้นมาทันที “ข้าคงต้องลองไปดูเสียหน่อย”

“พี่ชาย ระวังตัวให้มาก!” กลิ่นอายที่แมงมุมยักษ์สีเงินปลดปล่อยออกมานั้นเรียกได้ว่าไร้พ่ายอย่างแท้จริง เพียงแค่การเคลื่อนไหวของมันก็เกือบจะทำให้วิญญาณของเขาแตกสลาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด