Alchemy Emperor of the Divine Dao 583

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 583 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลูกศรสังหาร

“มีร่างกายที่แข็งแกร่งมันมีประโยชน์ทีเดียว” หลิงฮันรู้สึกแบบนั้น มิฉะนั้น เขาคงจะต้องใช้พลังก่อเกิดมหาศาลกับคันศรและเมื่อใช้ศรฆ่ามังกรทะลวงดาราพลังที่ต้องใช้จะลดลงกว่ามาก

“ข้าไม่รู้ว่าถ้าจักรพรรดิดาบบ่มเพาะกายามันจะเป็นยังไง” หลิงฮันรู้สึกอยากรู้อยากเห็น

เสียบลูกธนู น้าวสาย และยิงลูกศร แต่มันยังมองเห็นลูกศรด้วยตาเปล่า แต่หลังจากนั้นไม่นาน มันก็เร่งความเร็วถึงจุดสูงสุดราวกับเป็นลำแสง

ในระยะไกล เป้าหมายที่หลิงฮันเล็งไว้กลายเป็นก้อนกรวดทันที

“ระยะที่ไกลสุดคือสามร้อยไมล์ ถ้าหากเป้าหมายอยู่ไกลออกไปอีก พลังและความเร็วของมันก็จะเริ่มลดลง” หลิงฮันพูดกับตัวเอง “อย่างไรก็ตาม จากระยะที่ยิงไกลออกไปได้สามร้อยไมล์ภายในหนึ่งลมหายใจ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตั้งตัวได้ทัน”

“หลังจากที่ก้าวเข้าสู่ระดับบุปผาผลิบาน มันจะมีการแจ้งเตือนอันตรายถ้าจะเกิดอันตราย แต่การแจ้งเตือนนั้นไม่ได้บอกว่าการโจมตีมาจากทิศทางไหนและมันคือการโจมตีจากอะไร”

“สำหรับข้า ถ้าข้าไม่มีหอคอยทมิฬ หัวใจของข้าก็จะเตือนถ้ามีอันตราย ปฏิกิริยาแรกนั้นแน่นอนว่าจะต้องเป็นรวบรวมพลังก่อเกิดปกป้องร่างกาย แต่ด้วยศรสังหารมังกรทะลวงดาดรา แม้แต่การป้องกันของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณก็ยังถูกเจาะทะลุ ถ้าโคจรพลังก่อเกิดไปทั่วร่างกาย แทนที่จะโคจรไว้ที่จุดสำคัญไม่กี่จุด มันจะป้องกันศรสังหารมังกรทะลวงดาราได้หรือไม่?”

“แต่ข้าไม่ใช่เพียงคนเดียวที่สามารถยิงธนูได้ และอาวุธวิญญาณบางอย่างอาจมีประสิทธิภาพที่คล้ายคลึงกัน แน่นอนว่าการเข้าไปในหอคอยทมิฬนั้นปลอดภัยแน่นอน แต่บางครั้งถ้าเจอสถานการณ์ที่ไม่อาจเข้าไปในหอคอยทมิฬได้ เช่นนั้นมีแค่ทางเดียวนั้นคือใช้ปราณก่อเกิดห่อหุ้มร่างกายและหลบหนี”

“โชคดีที่ข้ามีกายาเหล็กไหล และการที่จะคุกคามข้านั้นคนธรรมดาไม่สามารถทำได้ และถ้าข้ามีกายาเพชร ข้าเชื่อว่าแม้แต่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณที่ใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราก็ไม่อาจทำให้ข้าบาดเจ็บได้!”

หลิงฮันสรุปว่าทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราจับคู่กับคันศรตะวันยอแสงและเนตรแห่งสัจธรรมดา มันจะทำให้เขากลายเป็นนักฆ่าที่สามารถสังหารผู้คนที่อยู่ห่างออกไปร้อยไมล์ได้อย่างง่ายดาย

“แต่ทว่าลูกศรนั้นมีน้อยเกินไป มันเป็นถึงแร่เหล็กระดับเจ็ด ซึ่งมันล้ำค่ามาก แล้วเขาจะไปหาที่ไหนมาเพิ่ม?”

“เกิดอะไรขึ้น?”

ทันใดนั้น หลิงฮันรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป รถม้าถูกโจมตี คนขับสองคนถูกฆ่า และท่ามกลางฝุ่นที่ตลบอบอวลมีชายชราสวมหน้ากากสามคนปรากฏตัวออกมาพร้อมกับกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัว

“แล้วพวกมันล่ะ?” ชายชรากล่าว

“มันเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจและเพื่อดึงดูดความสนใจของเรา แต่แท้จริงแล้วพวกมันอาจใช้เส้นทางอื่นก็เป็นได้?” ชายชราคนที่สองกล่าว

“เป็นไปได้” ชายชราคนที่สามกล่าว

“แม้ว่าฮันหลิงอาจจะไม่ใช่หลิงฮัน แต่มันเกี่ยวข้องกับมรดกของสิบสองพระราชวัง แม้จะผิดคนแต่ก็ไม่อาจปล่อยไปได้!” ชายชราคนแรกกล่าว

“อืม!” ชายชราอีกสองคนพยักหน้า

“ไปได้แล้ว!” ชายชราทั้งสามคนจากไป

หลิงฮันออกมาจากหอคอยทมิฬ จากน้ำเสียงของชายทั้งสามคน พวกมันน่าจะมองการปลอมตัวของเขาออก แต่ยังไม่มั่นใจ ทั้งสามคนนั้นเป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก แม้จะไม่มั่นใจในตัวตนของเขาแต่ก็ยังลงมือฆ่า

จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ?

หลิงฮันจ้องมองไปที่คนขับรถม้าทั้งสองคน ดวงตาของเขากลายเป็นเยือกเย็นและนำคันศรตะวันยอแสงออกมาอย่างไม่ลังเลพร้อมกับเริ่มใช้เนตรแห่งสัจธรรม ชายชราทั้งสามคนที่อยู่ในระยะไกลปรากฏอยู่ในสายตาของเขาทันที

หลิงฮันโคจรพลังและนำคันศรออกมา เขาจับสายธนูไว้แน่นและเกร็งกล้ามเนื้อแขน หลิงฮันกำลังใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารา ลูกศรนั้นถูกสร้างขึ้นจากแร่เหล็กระดับเจ็ดและลงอักขระไว้บนลูกศร ทำให้ลูกศรทั้งหมดราวกับมีชีวิต

“ไป!” หลินฮังปล่อยลูกศร ทันใดนั้นลูกศรที่ยิงออกไปกลายเป็นลำแสงทันที และหลิงฮันใส่ลูกศรดอกที่สองและยิงออกไปอีกครั้ง

หลิงฮันยิงลูกศรออกไปทั้งหมดสามดอก มันทำให้เขารู้สึกเหนื่อและใบหน้ากลายเป็นซีดขาว

เขายิงลูกศรทั้งสามดอกออกไปติดต่อกัน ซึ่งมันกินพลังมหาศาล

ห่างออกไปร้อยไมล์

ชายชราทั้งชายคนหยุดชะงักพร้อมกัน และรู้สึกได้ถึงอัตรายที่กำลังใกล้เข้ามา ด้วยสัญชาตญาณที่ถูกกระตุ้น พวกมันทั้งสามคนโคจรพลังก่อเกิดทั้งหมดออกมาและสร้างเกราะป้องกันไว้ด้านหน้า

ลำแสงพุ่งเข้าหาชายชราทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว โดยที่พุ่งเข้าหาชายชราคนกลางก่อน พวกมันทั้งสามคนแทบจะตอบโต้ไม่ทัน และลำแสงยิงไปที่อกด้านซ้ายของชายชรา เมื่อมันหยุดลง มันกลับมาเป็นลูกศรปกติที่ห่อหุ้มไปด้วยแสง

พลังก่อเกิดของพวกมันไม่อาจหยุดลูกศรไว้ได้ นั้นเป็นเพราะหลิงฮันใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราบวกกับลูกศรที่ทำมาจากแร่เหล็กระดับเจ็ดทำให้มันมีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว และง่ายมากที่จะเจาะผ่านเกราะพลังก่อเกิด

เมื่อเกราะพลังก่อเกิดถูกทำลาย ร่างของชายชราจึงไร้ซึ่งการป้องกัน และโลหิตสาดกระเซ็นไปทั่ว

ทันใดนั้น ดวงตาของชายชราเริ่มเลือนราง ร่างกายของมันสั่นเล็กน้อยและในที่สุดมันก็ทรุดตัวลงกับพื้น

หนึ่งดอกหนึ่งศพ!

“น้องเจ็ด!” ชายชราอีกสองคนอุทานออกมา แต่ก็ไม่มีเวลาที่ให้พวกมันหลบหนี ลูกศรดอกที่สองได้มาถึงแล้ว

“พี่ห้า!” ชายชราคนที่สามอุทานออกมา แม้มันจะต้องการที่จะช่วยเหลืออีกฝ่าย แต่ทว่าศรดอกที่สามเองก็พุ่งมาหามันเช่นกัน

มันกรีดร้องออกมาและโคจรพลังทั้งหมดไว้ด้านหน้า มันถูกโจมตีเป็นคนสุดท้ายจึงมีเวลาเตรียมตัว

อึก!

ลูกศรทะลุผ่านมือของชายชราและหยุดอยู่ที่เปลือกตาของมัน

ในความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณทั้งสามมีทั้งบาดเจ็บและถูกฆ่าตาย ถ้าพวกมันรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน พวกมันจะทำใจเชื่อได้หรือไม่?

ชายชราที่เหลือรอดอยู่สองคนไม่ลังเลที่จะดึงลูกศรออกมา และตั้งท่าป้องกันลูกศรดอกที่สี่

พวกมันไม่กล้าหลบหนี เพราะถ้าหลบหนีมันจะป้องกันตัวได้ยากยิ่งขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด