Alchemy Emperor of the Divine Dao 613

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 613 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฆ่าหูชิ่งฟาง

มันหนีไปแล้วสองครั้ง แต่คิดที่จะหนีอีกครั้ง?

หูชิ่งฟางหลบหนีไปได้สองครั้ง และถ้ามันหลบหนีไปได้อีกครั้งไม่ใช่ว่าครั้งหน้ามันจะพาจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวามาด้วยหรอกหรือ?

หลิงฮันไม่อยากจะเสียเวลากับมันอีกต่อไปแล้ว เขายืนขวางรถม้าพร้อมกับดาบที่อยู่ในมือ

“หล่อเหลา!” ฉินหยีเย่วกล่าวออกมาด้วยความชื่นชม หลิงฮันอายุใกล้เคียงกับนาง ระดับพลังไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ความแข็งแกร่งของเขากับนางนั้นแตกต่างกันมาก และสามารถเอาชนะใจนางได้

แน่นอนว่าตอนนี้นางเพียงแค่เคารพนับถือหลิงฮันเท่านั้น มันไม่เหมือนกับการตกหลุมรัก

“ผู้หญิงอัปลักษณ์อีกคนหลงหลิงฮันอีกแล้ว หรือว่านางอยากตาย?” ฮูหนิวเท้าคางด้วยท่าทางครุ่นคิด

หลิงฮันควบแน่นปราณดาบเป็นกึ่งรัศมีดาบและพร้อมที่จะโจมตีออกไปทุกเมื่อ

“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งจริงๆ แต่ข้าคือนายน้อยแห่งนิกายวายุจันทรา เจ้าแน่ใจแล้วหรือที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้า?” หูชิ่งฟางข่มขู่หลิงฮันด้วยภูมิหลังของมันแสดงให้เห็นว่ามันหมดหนทางแล้ว

หลิงฮันแสยะยิ้มและพูดว่า “นิกายวายุจันทรางั้นรึ ข้าก็แค่ต้องถอนรากถอนโคนให้หมดก็พอ”

“ปากดี!” หูชิ่งฟางกรีดร้อง แม้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งมาก แต่เป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ ขณะที่นิกายวายุจันทรามีจอมยุทธระดับสวรรค์ปกป้องอยู่และมีมากกว่าหนึ่งคน!

แค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาก็สามารถบดขยี้จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณได้แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงจอมยุทธระดับสวรรค์เลย

“ก่อนอื่นข้าจะฆ่าเจ้าก่อนเป็นคนแรก!” หลิงฮันรวบรวมพลังเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเขากวัดแกว่งดาบ ปราณดาบยี่สิบเก้าเล่มที่ถูกควบแน่นกลายเป็นลำแสงสีทองพุ่งเข้าหารถม้า

รถม้าเปิดม่านพลังและป้องกันโจมตีของหลิงฮัน อย่างไรก็ตาม มันสามารถป้องกันได้แค่ชั่วครู่เท่านั้น แคร๊ก ม่านพลังถูกทำลายด้วยปราณดาบของหลิงฮัน และยังคงพุ่งเข้าหารถม้าไม่หยุด จนกระทั่งผ่ารถม้าออกเป็นสองส่วน

น่ากลัว!

ในเรื่องพลังป้องกัน รถม้านั้นสามารถสร้างม่านพลังระดับตัวอ่อนวิญญาณได้ และขับเคลื่อนด้วยผลึกก่อเกิด ตราบใดที่ผลึกก่อเกิดยังไม่หมด ม่านพลังนั้นจะยังคงอยู่และฟื้นฟูตัวเองได้ทันที

แต่ทว่ามันกลับถูกดาบของหลิงฮันทำลาย และไม่สามารถฟื้นฟูได้ทัน เช่นนั้นการโจมตีของหลิงฮันทรงพลังขนาดไหนกัน?

ในรถม้า หูชิ่งฟางกระโดดออกมาด้วยใบหน้าซีดขาว ชายผู้นี้โหดเหี้ยมเกินไป ทั้งที่มันนั่งอยู่ในรถม้าโบราณของนิกายวายุจันทรา ในทางทฤษฎีแล้วไม่มีทางที่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณสามารถทำลายได้

ในภูมิภาคกลาง จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาถือว่าเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง แต่ก็ไม่กล้าที่จะสร้างความไม่พอใจให้กับนิกายวายุจันทรา ดังนั้นหูชิ่งฟางจึงออกอาละวาดไปทั่วตั้งแต่ที่มันครอบครองรถม้าโบราณ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มันได้เตะแผ่นเหล็กสองครั้งติดต่อกัน

ฮูหนิวสามารถกัดม่านพลังของรถม้าได้ แต่หลิงฮันนั้นทรงพลังยิ่งกว่า ดาบของเขาสามารถผ่ารถม้าออกเป็นสองส่วน

“เจ้า…อย่าเข้ามาใกล้!” หูชิ่งฟางสูญเสียไพ่ทั้งหมด และตอนนี้มันสูญเสียความสุขุมไปจนหมดสิ้น

“แม้เจ้าจะตะโกนจนเจ็บคอ มันก็ไม่มีใครเข้ามาช่วยเจ้าหรอก” หลิงฮันพูดเบาๆ

 

“ข้ายอมแพ้แล้ว!” หูชิ่งฟางผลักสาวงามสี่คนไปหาหลิงฮัน ส่วนตัวมันหันหลังกลับและวิ่งหนี

“ช่างเป็นสุภาพบุรุษอะไรขนาดนี้!” ร่างของหลิงฮันหายไป เขากลายเป็นสายฟ้าไล่ล่าหูชิ่งฟางและลงดาบ ฉึก หัวของอีกฝ่ายลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมกับโลหิตที่พุ่งขึ้นไปบนฟ้า

“นายน้อย!” สาวงามทั้งสี่คนอุทานออกมาพร้อมกันด้วยใบหน้าซีดขาว

“คนชั่วย่อมจับกลุ่มรวมตัวกัน!” หลิงฮันหันหลังกลับและลงมือฆ่าสาวงามทั้งสี่คนทันที

“อ่า เจ้าทำมันลงไปแล้ว?’ ฉินหยีเย่วจ้องมองไปที่ร่างของหูชิ่งฟางแล้วถอนหายใจ “แม้ประมุขนิกายวายุจันทรามีภรรยาหลายคน แต่บุตรของมันไม่ได้เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยง ถ้าเจ้าฆ่าเขาได้ มันถึงจะเป็นจุดจบของนิกายวายุจันทรา”

หลิงฮันมองไปที่นางและพูดว่า “คงถึงเวลาข้าแล้วสินะที่จะฆ่าเจ้า?”

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่!” ฉินหยีเย่วรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “อย่าฆ่าข้าเลย”

หลิงฮันส่ายหัวเลิกสนใจนางและเดินไปเก็บแหวนมิติของหูชิ่งฟางและต้วนหม่าต๋าที่หลงเหลืออยู่ เมื่อมองเข้าไปในแหวนแวบแรก พวกมันทั้งสองคนเป็นคนที่มั่งคั่งมาก โดยเฉพาะหูชิ่งฟางที่มีแร่เหล็กระดับเจ็ดที่เขาสามารถนำไปสร้างอาวุธวิญญาณได้

“จริงสิ ตอนนี้ข้าเหลือลูกศรเพียงแค่หกดอก ถึงแม้ว่าแร่เหล็กนี่จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาที่จะสร้างลูกศรห้าดอก”

หลิงฮันเดินกลับมาและพูดว่า “แล้วพวกเจ้าสองคนจะเอายังไงต่อ?” เขาพูดถึงฉินหยีเย่วและเหอหลันหยุน

“ในเมื่อเจ้าต้องการไปที่สำนักสวรรค์ และข้าเองก็ต้องการไปที่นั่นอยู่แล้ว แน่นอนว่าข้าจะไปกับเจ้า!” ฉินหยีเย่วพูดออกมาทันที

เหอหลันหยุนหันไปมองชางเย่และพูดว่า “ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”

สีหน้าของชางเย่เขินอายเล็กน้อย แต่แววตาเปล่งประกายออกมาด้วยความอ่อนโยน ดูเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองคนเปิดใจให้ซึ่งกันและกัน

หลิงฮันหัวเราะเสียงดังและนำเม็ดยาจำนวนมากออกมาจากหอคอยทมิฬเพื่อมอบให้กับเหอหลันหยุน “มานี่ นี่คือของขวัญจากข้า”

ใบหน้าของเหอหลันหยุนกลายเป็นสีแดงทันที แต่นางยังคงยื่นมือออกไปเพื่อรับเม็ดยา และแอบชำเลืองมองชางเย่อย่างลับๆ หัวใจของนางเต็มไปด้วยความอ่อนหวานและรู้สึกอับอายมากจนอยากเป็นก้อนเมฆที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า

เมื่อฉินหยีเย่วเห็น นางก็ยื่นมือของตัวเองออกไปและพูดว่า “มีของข้าไหม?”

ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านมาก!

หลิงฮันเค้นเสียงและพูดว่า “ไม่มี!”

“ขี้งก!” ฉินหยีเย่วพูดพึมพัม

หลิงฮันไม่ได้สนใจนางและพูดว่า “ออกเดินทางกันได้แล้ว”

ทุกคนพยักหน้า ไม่ว่ายังไงก็ตามที่นี่ก็ยังคงเป็นป่า ซึ่งอาจพวกเขาอาจเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งได้ทุกเมื่อ

ในเมื่อไม่มีภัยคุกคามจากหูชิ่งฟางแล้ว พวกเขาจึงกลับไปเดินบนถนน นั่นเป็นเพราะภูมิประเทศในภูเขานั้นซับซ้อน ซึ่งมีผลต่อความเร็วในการเดินทาง

“พี่ชายหลิง ท่านสนใจไปสถานที่แห่งหนึ่งหรือไม่?” ฉินหยีเย่วถาม

“ไม่!” หลิงฮันปฏิเสธทันที

“ท่านยังไม่ฟังที่ข้าพูดเลยว่ามันคือที่ไหน!” ฉินหยีเย่วรู้สึกเศร้าใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางสงสัยในเสน่ห์ของตัวเอง ทำไมหลิงฮันถึงปฏิเสธนางได้ง่ายดายขนาดนี้

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม มันคงไม่ใช่สถานที่ที่ข้าสนใจ” หลิงฮันกล่าว

“แต่ที่แห่งนั่นคือหุบเขาโอสถเชียวนะ!” ฉินหยีเย่วกล่าว

หลิงฮันรู้สึกตกใจ หุบเขาโอสถ? สำหรับเขาที่เป็นจักรพรรดิเม็ดยา หุบเขาโอสถถือว่าน่าดึงดูดมาก และเขาสามารถเพิ่มจำนวนเม็ดยาในมือของเขาได้ ในขณะเดียวกันระดับพลังของเขากำลังจะสูงขึ้นเรื่อยๆและเขาต้องการสมุนไพรระดับสูงมากยิ่งขึ้น

หลิงฮันถามว่า “สมุนไพรที่อยู่ในหุบเขาโอสถมันอยู่ระดับไหนกัน?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด