Alchemy Emperor of the Divine Dao 641

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 641 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย่าวหุยเยว่รู้สึกโศกเศร้ามาก

นี่คือจูเสวี่ยนเอ๋อของเขาจริงหรือ?

เมื่อเขาอยู่ในภูมิภาคเหนือ จูเสวี่ยนเอ๋อเป็นตัวตนที่ทำให้เขารู้สึกลุ่มหลง เขาเต็มใจที่จะอยู่แทบเท้าของนาง แต่ตอนนี้เมื่อเขาเห็นหน้าอีกฝ่ายแล้วมันเหมือนกับมีมีดกรีดหัวใจของเขา

นี่เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมาก

รักแรกของเขากลายเป็นฟองสบู่ไปเสียแล้ว

หลิงฮันหัวเราะและกอดไหล่ย่าวหุยเยว่แล้วพูดว่า “ย่าวน้อย พวกเราค่อยต่อสู้กันวันหลังก็ได้ สำหรับวันนี้ ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้ามาก พวกเรามาดื่มกันเถอะ ไม่เมาไม่เลิก”

แม้ย่าวหุยเยว่จะไม่อยากดื่ม แต่ตอนนี้เขาแค่อยากเมาและลืมเรื่องเจ็บปวดนั่นไปซะ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ฟุบหลับอย่างรวดเร็ว

“เจ้าไวน์นี่ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก!” จักรพรรดิพิรุณหัวเราะ

หลิงฮันยิ้มอย่างมีความหมายและพูดว่า “ไวน์นี่จะยิ่งเมาง่ายเมื่อมีเรื่องทุกข์ใจ”

ในวันต่อมา เมื่อย่าวหุยเยว่ตื่นขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนก้อนหินเพียงลำพัง และทันทีที่เขาลุกขึ้นยืน เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เขาจึงใช้มือกุมขมับและพูดกับตัวเองว่าจะไม่เมาอีกแล้ว

เขาเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าและช่วยไม่ได้ที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

ก่อนหน้านี้ เมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้าจูเสวี่ยนเอ๋อ เขาจะรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมาก หรือว่าเขาจะตกหลุมรักนางเข้าให้แล้ว? ผู้หญิงที่เขาไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าจะมีความรู้สึกที่แท้จริงได้อย่างไร?

มันเป็นแค่ความรู้สึกที่หลอกลวงตัวเอง และจิตนาการว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงสาวที่ไม่มีใครเทียบที่เขาทำได้แค่ชื่นชม และตอนนี้ความฝันของเขาได้พังทลายลงแล้ว

ตั้งแต่นี้ไปข้าจะมุ่งไปที่วิถีวรยุทธเพียงอย่างเดียว!

สีหน้าของย่าวหุยเยว่เผยให้เห็นถึงความปิติยินดี เพราะเขาสัมผัสกำแพงปราณดาบเล่มที่สามสิบได้แล้ว! ความผันผวนของอารมณ์ที่รุนแรงมีอิทธิพลอย่างมากต่อความก้าวหน้าของเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาพยายามที่จะทะลวงปราณเล่มที่สามสิบ

“ข้าจะต้องเป็นอันดับหนึ่งในรุ่นเยาว์!” เขาพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ และลืมเรื่องความรักไปจนหมด แน่นอนว่าอัจฉริยะที่แข็งแกร่งจะต้องมีความสามารถในการควบคุมตัวเอง

……

หลิงฮันรออีกห้าวัน แต่ชางเย่ก็ยังไม่กลับมา ในระหว่างนั้นมีข่าวว่าเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นที่ภูเขาต้าหมิง มันดูเหมือนว่าจะมีสมบัติปรากฏออกมา และมีสายฟ้าปกคลุมไปทั่วชั้นฟ้า

ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คนจำนวนมากมุ่งหน้าเดินทางไปที่ภูเขาต้าหมิง นั่นเป็นเพราะจากแคว้นบุปผาลอยล่อง พวกเขาเดินทางไปแค่วันหรือสองวันก็ไปถึงแล้ว

หลิงฮันรอคอยอย่างอดทน แต่จักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิงนั้นได้ออกเดินทางไปก่อนแล้ว และพวกเขากล่าวว่าถ้ามีสมบัติเกี่ยวกับสายฟ้า พวกเขาจะนำกลับมาให้หลิงฮันเพื่อให้บ่มเพาะพลังสายฟ้า

พี่ชายทั้งสองคนพูดออกมาด้วยความจริงใจ หลิงฮันจึงไม่อาจปฏิเสธคำพูดของพวกเขาได้ และปล่อยให้พวกเขาไป

อย่างไรก็ตาม หลิงฮันต้องการที่จะสร้างกายาสายฟ้าที่แท้จริง ตอนนี้เขาทำได้แค่ใช้พลังของสายฟ้าเพื่อเพิ่มความเร็ว แต่ถ้าเขามีกายาสายฟ้าที่แท้จริง ความเร็วของเขาจะยกระดับขึ้นและจะเทียบได้กับฮูหนิว

“ภูเขาต้าหมิงซานคงไม่ใช่หนึ่งในยี่สิบภูเขาที่สงสัยว่าเป็นภูเขาไร้ขอบเขตหรอกใช่ไหม?” จูเสวี่ยนเอ๋อพูดกับหลิงฮัน

หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก!”

มันเป็นไปไม่ได้เพราะจื่อเสวี่ยนเซียนนั้นบ่มเพาะพลังสายฟ้า และภูเขาต้าหมิงเกิดปรากฏการณ์สายฟ้าขึ้น ซึ่งมันบังเอิญเกินไป

“ถ้าอีกห้าวันชางเย่ยังไม่นำข่าวกลับมา พวกเราจะมุ่งหน้าไปที่นั่น” หลิงฮันตัดสินใจที่จะไปดู

อย่างไรก็ตาม ในตอนกลางคืนชางเย่ก็กลับมา แต่เขากลับมาพร้อมกับข่าวร้าย ศิษย์ของนิกายดาบสวรรค์ไม่สามารถนำแผนที่โบราณออกมาได้ เขากล่าวว่านิกายเก็บมันไว้อย่างมิดชิด

บัดซบ!

ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะสบถคำหยาบออกมา แผนที่นั่นมันมีค่ามากขนาดนั้นเลยหรือ?

หรือว่านิกายดาบสวรรค์กลัวว่าความลับจะถูกเปิดเผย? ความลับที่จื่อเสวี่ยนเซียนทิ้งไว้คืออะไรกันแน่? และมันไม่มีทางเป็นไปได้ที่พวกเขาจะรู้ว่าจื่อเสวี่ยนเซียนทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ บางทีวิหารที่เขากำลังตามหาอยู่อาจถูกฝังอยู่ใต้ดิน หรือถูกทำลายไปแล้วก็เป็นได้

ดูเหมือนข้าจะเอาแผนที่โบราณจากห้านิกายไม่ได้แล้ว!

จากนั้น หลิงฮันมุ่งหน้าไปที่ภูเขาต้าหมิงทันทีอย่างไม่ลังเล พร้อมกับจูเสวี่ยนเอ๋อและฮูหนิว แน่นอนว่าต้องมีกระต่ายติดสอยห้อยตามมาด้วย ซึ่งทั้งที่มันได้กินโสมพันปีทุกวันแต่ยังบ่นว่าไม่เพียงพอกับดอกเบี้ยที่หลิงฮันเอาโสมโลหิตราชามังกรทรราชของมันไป

ผลที่ตามมาจากการปากมากมันจึงถูกฮูหนิวกัดและส่งเสียงกรีดร้องออกมา แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะสั่งสอนมันได้

ตลอดทางพวกเขาพูดคุยกัน ส่งเสียงหัวเราะ และเอะอะโวยวาย ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงภูเขาต้าหมิง

แคว้นบุปผาลอยล่องไม่ได้เป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคกลาง แต่เป็นแคว้นที่มีภูเขามากที่สุด และภูเขาต้าหมิงนี่เป็นภูเขาที่กินพื้นที่กว้างหลายร้อยไมล์ มันดูน่าทึ่งมาก

ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังปราณ สัตว์อสูร และผู้คน

เมื่อหลิงฮันเหลือบมองล้อมตัว ต้นไม้ที่นี่ดูเหมือนดาบ มันมีความสูงกว่าต้นไม้ทั่วไป ตั้งตรงและมีกิ่งน้อย ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่น

ส่วนทางด้านตะวันออกของภูเขา มีกลุ่มเมฆสายฟ้าลอยอยู่บนอากาศกระจายไปทั่วภูเขา

“ลองไปดูกันเถอะ” พวกหลิงฮันทั้งสามคนบินไปที่นั่น

ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงตีนเขา เมื่อพวกเขาจ้องมองไปที่ยอดเขา มันจะมีสายฟ้าแลบเป็นครั้งคราว นี่คือต้นกำเนิดของสายฟ้า ซึ่งส่งผลให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้

หลิงฮันอ้าปากด้วยความตกใจ “อสนีเมฆาม่วง!”

“หืม นี่เจ้ารู้จักอสนีเมฆาม่วงด้วยงั้นรึ?” เจ้ากระต่ายรู้สึกประหลาดใจและคิดว่านี่ค่อนข้างเป็นเรื่องแปลกทีเดียว “นี่เป็นหนึ่งในสิบภูเขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่สมัยโบราณ”

“ภูเขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่สมัยโบราณคืออะไรงั้นหรือ?” จูเสวี่ยนเอ๋อรู้สึกสงสัย

เมื่อได้ยินจูเสวี่ยนเอ๋อถาม เจ้ากระต่ายทำเป็นวางท่าที แต่เมื่อเห็นฮูหนิวจ้องมองมาที่มันอยากดุร้าย มันเผลอจับไปที่ก้นที่เต็มไปด้วยบาดแผล และไม่กล้าที่จะเล่นตัวอีกต่อไป แล้วพูดออกมาว่า “สวรรค์และโลกนั้นมีจิตวิญญาณ ลำธารนี่ ภูเขานี่ หินนี่ ไฟนี่เป็นไปได้ที่จะมีสติปัญญาและกำเนิดเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษ”

“หืม หรือว่าพวกมันจะเป็นจิตวิญญาณเปลวเพลิง จิตวิญญาณศิลา จิตวิญญาณวารี?” จูเสวี่ยนเอ๋อรู้สึกแปลกใจ นางปรบมือและพูดว่า “หรือว่ามีจิตวิญญาณสายฟ้าอยู่ที่นี่?”

หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว มันน่าจะเป็นแบบนั้น”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด