Alchemy Emperor of the Divine Dao 646

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 646 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บ่อน้ำอัสนีมีความขนาดอย่างน้อยสิบฟุต มุมนึงของบ่อน้ำมีปากถ้ำปรากฏอยู่ ครึ่งหนึ่งของปากถ้ำถล่มลงมา ซึ่งสามารถสัมผัสได้ถึงความเก่าแก่

มีผู้คนมากมายยืนดูอยู่โดยรอบ บางคนต้องการจะลงไปที่บ่อน้ำและบุกเข้าไปในถ้ำ แต่เมื่อได้ลองพวกเขาก็ต้องล้มเลิกความคิดทันที ร่างของคนที่ลงไปล้วนแต่ถูกปกคลุมไปด้วยไฟฟ้าสถิตและรอยเผ้าไหม้

หลิงฮันมองไปที่บ่อน้ำและกล่าว “เกรงว่าบ่อสายฟ้านี้จะมีพลังทำลายระดับก้าวสู่เทวา”

ถึงแม้รุ่นเยาว์ในยุคสมัยนี้จะโดดเด่น แต่ขนาดสุดยอดอัจฉริยะอย่างราชันกระบี่น้อยและหลางหยาเทียนที่มีอายุเข้าสู่วัยกลางคนแล้วยังไม่สามารถบรรลุระดับก้าวสู่เทวาได้เลย แล้วคนอื่นล่ะจะทำได้รึ?

แต่ระดับพลังก็ไม่ใช่ทุกอย่าง มันสามารถใช้สมบัติต่างๆมาทดแทนกันได้ หลิงฮันเห็นบางคนนำร่มออกมากางพร้องกับกระโดดลงไปในบ่อน้ำอัสนี เมื่อร่มปะทะเข้ากับสายน้ำอัสนี ร่มคันนั้นก็ส่องแสงสว่างออกมากลายเป็นโล่คุ้มกัน

นางเป็นสตรีที่งดงามแถมยังมีเรือนร่างที่น่าดึงดูด แม่นางจะดูดุดันแต่ก็ยังมีเสน่ห์ราวกับเทพธิดา

“เหวินเหรินเชียนเชียนแห่งนิกายหยางไพศาล!”

“อะไรกัน ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน!”

“โอ้ นั่นเพราะนางเป็นคนที่มักจะทำตัวไม่โดดเด่น แต่พรสวรรค์ของนางนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก นางทั้งมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งและรูปลักษณ์ที่งดงาม นางไม่ได้ด้อยไปว่าไข่มุกงามแห่งตระกูลหวังเลย”

“แข็งแกร่งรึไม่ข้าไม่รู้ แต่นางงดงามมาก”

“แต่ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้าล้มเลิกความคิดแปลกๆดีกว่า ธิดาเหวินเหรินนั้นเป็นเป้าหมายของเจียหมิงแล้ว นอกเสียจากว่าพวกเจ้าจะคิดว่าตนเองสามารถต่อกรกับเจียหมิงได้”

“เจียหมิง!”

ผู้คนมากมายล้วนตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อนี้ เจียหมิงคือรุ่นเยาว์สุดแข็งแกร่งที่สามารถเข้าร่วมกับสำนักสวรรค์ได้โดยตรง เมื่อประมาณสองปีก่อนมีคำกล่าวว่าเขาปลีกตัวไปฝึกฝนอยู่บ่นภูเขาเพื่อต่อสู้กับสัตว์อสูรอย่างบ้าคลั่ง

ด้วยเหตุนี้เจียหมิงจึงเป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก เขาไม่รู้จักคำว่าเมตตาปราณีแม้แต่น้อย ไม่มีใครรู้ว่ามีรุ่นเยาว์กี่คนแล้วที่ต้องตกตายด้วยมือของเขา บางคนที่ตายไปก็เป็นถึงศิษย์ของนิกายใหญ่หรือไม่ก็ทายาทตระกูลใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นเจียหมิงก็ยังหลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้

นั่นเพราะเจียหมิงเป็นศิษย์ของนิกายมังกรปฐพี!

ด้วยสถานะหนึ่งในห้านิหายใหญ่โบราณ ใครจะกล้าทำอะไรเขาหากเป็นการตัดสินกันระหว่างรุ่นเยาว์ด้วยกันเอง? เจียหมิงสังหารรุ่นเยาว์มากมายผ่านการประลองหนึ่งต่อหนึ่งที่ยุติธรรม ใครจะกล้าเอาผิดเขาได้?

ทุกคนหวาดกลัวที่จะพูดอะไรผล่อยๆออกมา เจียหมิงเป็นเทพแห่งความตายที่ไม่อาจไปยั่วยุได้

หลิงฮันยิ้มและพูด “ดูเหมือนจะมีบางคนเข้าไปในถ้ำแล้ว”

“อัสนีบาตเมฆาม่วงสมควรอยู่ในถ้ำนั่น และบ่อน้ำอัสนีแห่งนี้น่าจะเกิดขึ้นมาจากพลังสายฟ้าที่รั่วไหลออกมาจากมัน” เจ้ากระต่ายพยักหน้า

“ไปกันเถอะ!” ฮูหนิวจับมือลากหลิงฮันเดินไปยังบ่อน้ำอัสนีอย่างไม่สนใจรอบข้าง

หลิงฮันไม่ขัดขืน เขาโคจรทักษะอัสนีบาตรเก้าทิวาทำให้ทั่วร่างถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้า แม้เขาจะไม่สามารถต่อต้านสายฟ้าระดับก้าวสู่เทวาได้ แต่ก็น่าจะลดทอดความลำบากได้เยอะ

แต่คาดไม่ถึงเลยว่าร่างของฮูหนิวจะกลายเป็นหลุมอันไร้ที่สิ้นสุด เมื่อสายฟ้าไหลผ่านเข้ามา นางสามารถดูดวับพวกมันเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

นี่คือสายฟ้าระดับก้าวสู่เทวา ไม่ใช่แค่หลิงฮัน แม้แต่ราชันกระบี่น้อยก็ไม่อาจต้านทานได้ เมื่อเจ้ากระต่ายเห็นเช่นนี้มันจึงกระโดดตามมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อฮูหนิวเดินลงไปในแม่น้ำอัสนี ขณะที่นางเดินเบื้องหลังของนางก็เกิดเป็นทางแยกของสายน้ำ แต่เมื่อร่างของฮูหนิวเดินผ่านไป สายน้ำอัสนีก็กลับมาไหลรวมกันเป็นปกติ

ทุกคนล้วนแต่ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น แต่สายตาทุกคู่ก็ตกลงมาอยู่ที่ร่างของหลิงฮัน แน่นอนว่าพวกเขาต่างก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลิงฮันต้องเป็นคนทำแน่นอน ใครกันจะไปสงสัยเด็กสาวที่มีอายุเพียงเจ็ดถึงแปดปีหรือกระต่ายตัวใหญ่?

ด้วยการที่มีฮูหนิวคอยดึงร่างของเขา หลิงฮันจึงข้ามผ่านบ่อน้ำอัสนีมาได้อย่างรวดเร็วและเดินมาถึงทางเข้าของถ้ำ

“หนิวยังกินไม่เสร็จแล้ว!” ฮูหนิวรู้สึกไม่พอใจและมองกลับไปยังบ่อน้ำอัสนีด้านหลัง

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “งั้นเจ้าก็ดูดซับสายฟ้าพวกนั้นต่อซักหน่อยก็ได้”

“ช่างเถอะ หนิวจะช่วยหลิงฮันตามหาอัสนีบาตเมฆาม่วง!” ฮูหนิวตอบกลับไปอย่างเฉลียวฉลาด

เด็กสาวคนนี้เริ่มรู้จักพูดประจบมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

“ฮิฮิ หนิวเป็นเด็กดีแบบนี้ ในอนาคตหลิงฮันจะต้องแต่งงานกับหนิว!” ฮูหนิวเริ่มพูดต่อรอง

ทั้งสองคนเดินเข้าไปในถ้ำโดยที่กระต่ายเดินตามหลัง ที่มันต้องเดินตามหลังก็เพราะมันมักจะถูกฮูหนิวกัด เพราะนางบอกว่ามันชอบไปเดินขวางทางนาง เพราะงั้นเจ้ากระต่ายจึงทำได้เพียงเดินตามหลังพวกหลิงฮันอย่างไม่พอใจ ลองคิดดูสิ มันเป็นสัตว์อสูรระดับตัวอ่อนวิญญาณเชียวนะ ทำไมมันต้องมาเดินตามหลังเด็กน้อยที่มีพลังระดับบุปผาผลิบานด้วย?

ทางเข้าถ้ำไม่ได้มีขนาดใหญ่มากและยังอยู่ในสภาพผุพัง หลังจากเดินผ่านทางเข้าไปสักพัก พื้นที่ด้านหน้าก็กว้างขวางและลึกยิ่งขึ้น

“หืม นั่นมัน!” ตาของหลิงฮันกวาดผ่าน ทันใดนั้นร่างของเขาก็พุ่งออกไปทันที เบื้องหน้าของเขามีซากปรักหักพังตั้งอยู่ มันสมควรจะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดสูงมาก่อน ซึ่งตอนนี้โครงสร้างของมันเหลือไว้เพียงล่างชั้นเดียว กำเนิดของซากปรักหักพังนั้นแตกร้าวจนไม่อาจรู้ได้ว่ามันถูกสร้างมากี่ปีแล้ว

“ตำหนักสันตินิรันดร์?” หลิงฮันพึมพำ

เขาหันไปมองรอบๆและพบกับประตูพังๆบานหนึ่งในซากปรักหักกพัง ซึ่งเหลืออักศรที่ถูกสลักเอาไว้เพียงคำเดียวคือ ‘สันติ’

ต้องเป็นตำหนักสันตินิรันดร์ไม่ผิดแน่!

หลิงฮันมั่นใจมากว่านี่ต้องเป็นตำหนักที่จื่อเสวี่ยนเซียนเรียกว่าตำหนักสันตินิรันดร์แน่นอน ทั้งพลังสายฟ้าโดยรอบ ซากปรักหักพังที่สลักคำว่า ‘สันติ’ เอาไว้ ในโลกนี้คงจะมีเพียงที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

หลังจากกาลเวลาที่ผ่านพ้นไปหมื่นปี สภาพของมันจึงเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง

หลิงฮันอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากไม่มีแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้และไม่มีจิตวิญญาณอัสนีโผล่ออกมา เขาจะหาที่นี่พบรึเปล่า?

ภูเขานี้เป็นผู้เขาขนาดใหญ่มากพื้นที่ภายในถ้ำเองก็กว้างขวาง ตำหนักสันตินิรันดร์นั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในมุมลึกสุดของถ้ำ เนื่องจากด้านหน้านี้ยังมีทางให้ไปต่ออีกยาวไกล

หลิงฮันลังเล สิ่งที่จื่อเสวี่ยนเซียนทิ้งเอาไว้จะอยู่ในตำหนักสันตินิรันดร์หรืออยู่ในส่วนลึกสุดของถ้ำกันแน่?

นั่นเพราะตำหนักสันตินิรันดร์กล่าวเอาไว้เพียงแค่คำว่าภูเขาไร้ขอบเขตกับตำหนักสันตินิรันดร์เท่นั้น นางไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆเพิ่มเติม

เมื่อคิดอยู่นาน หลิงฮันก็ตัดสินใจสำรวจซากปรักหักพังของตำหนักสันตินิรันดร์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด