Alchemy Emperor of the Divine Dao 648

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 648 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

รูที่ฮูหนิวกัดเอาไว้แม้จะเล็ก แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน

หลิงฮันหันหลังและเห็นชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา ในทางเดินอันมืดมิด ร่างของชายคนนั้นส่องแสงสว่างออกมา เขามีร่างมีผอมบางและคิ้วที่คมกริบราวกับใบดาบ คิ้วและตาของเขาก็แหลมคมราวกับใบดาบเช่นกัน ริมฝีปากบนและล่างของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับใบดาบสองเล่ม

คนเช่นนี้สามารถบอกได้อย่างเดียวคือแปลกประหลาด!

ยิ่งกว่านั้นหากเป็นคนอื่น พวกเขาก็จะเก็บอาวุธเอาไว้ในแหวนมิติ เพราะอย่างไรพวกเขาก็สามารถเรียกออกมาใช้ได้ทันทีอยู่แล้ว แต่คนผู้นี้กลับถือดาบเอาไว้ในมือราวกับว่าไม่อาจปล่อยมือจากดาบได้แม้แต่วินาทีเดียว

ชายคนนั้นมองเห็นหลิงฮัน ฮูหนิวและเจ้ากระต่ายเช่นกัน แต่ตาของเขากลับจ้องเขม็งไปยังดอกบัวสายฟ้าและกล่าวขึ้นมา “พวกเจ้าออกไปได้แล้ว”

“บัดซบ เจ้าคือใครกันถึงได้ทำมาเป็นสั่งนายท่านกระต่าย?” ขนของเจ้ากระต่ายตั้งฟูด้วยความโกรธ

ชายคนนั้นไม่รู้สึกโมโหหรือตกตะลึงที่เห็นสัตว์อสูรพูดได้ “ข้าคือหลูหยวนจือผู้คลั่งดาบ ข้ากำลังสร้างทักษะดาบธาตุสายฟ้าอยู่ ซึ่งข้าจำเป็นต้องใช้จิตวิญญาณอัสนีในการเสริมแกร่งให้กับเจตจำนงดาบของข้า”

หลิงฮันรู้สึกไม่สมอารมณ์และกล่าวออกไป “เจ้ากำลังสร้างทักษะดาบสายฟ้า แต่ข้าเองก็กำลังฝึกฝนกายาสายฟ้าอยู่เช่นกัน เพราะงั้นคงให้เจ้าไม่ได้”

“งั้นก็ช่วยไม่ได้ ข้าคงต้องสังหารเจ้าซะ หากเจ้าตายเจ้าก็จะไม่จำเป็นต้องใช้ผลสายฟ้านั่น!” หลูหยวนจือพูดอย่างสงบนิ่ง น้ำเสียงของเขาช่างไร้ความดุดัน เมื่อมองไปในแววตาของอีกฝ่าย หลิงฮันมองไม่เห็นจิตสังหารของหลูหยวนจือเลยซักนิด

ผู้บ้าคลั่งดาบ… อีกฝ่ายคลั่งไคล้ดาบจนสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อพัฒนาทักษะของของตน!

ในสายตาของเขา การสังหารหลิงฮันไม่ใช่ความต้องการของเขา แต่เป็นเพียงการกำจัดเสี้ยนหนามในการฝึกฝนทักษะดาบของตนเอง เพราะงั้นเขาจึงไม่มีจิตสังหารใดๆปรากฏให้เห็น เพราะไม่ว่าใครก็จำเป็นต้องกำจัดหินที่กำลังขวางทางที่กำลังเดินอยู่

ซึ่งหลิงฮันก็คือหินก้อนนั้น

หลิงฮันหวักแกว่งดาบกำเนิดมารในมือและถอนหายใจ การปะทะกันครั้งนี้คงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

“เป็นดาบที่ดี!” หลูหยวนจือจ้องมองมายังดาบกำเนิดมาร ดวงตาของเขาส่องประกายและพูด “ขอข้าดูดาบเล่มนั้นได้หรือไม่?”

ใบหน้าของหลิงอันกระตุก พวกเราต้องสู้กัน และเจ้าก็บอกเองว่าเจ้าจะสังหารข้า  แต่เจ้ายังคิดจะขอดาบข้าไปดูอีกรึ สติของเจ้ามีปัญหารึเปล่า? หลิงฮันส่ายหัวและพูด “ไม่!”

“ทำไมล่ะ?” หลูหยวนจือสงสัย ในความคิดของเขา ดาบของหลิงฮันนั้นยอดเยี่ยมและมีค่าที่จะให้นักดาบทั่วโลกได้ชื่นชมมันอย่างแท้จริง

หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูด เมื่อพบเจอกับคนเช่นนี้เขาควรจะพูดออกไปอย่างไรดี? เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วขระก่อนจะตอบกลับไป “ถ้าเจ้าชนะข้าได้ ข้าจะให้เจ้าชื่นชมมัน ถ้าหากเจ้าแพ้ เจ้าคิดว่าตนเองมีคุณสมบัติเพียงพอ?”

หลูหยวนจือชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่จะพยักหน้าไม่หยุด “ใช่แล้วๆ ดาบนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถชื่นชมได้ ข้าต้องพิสูจน์พลังของข้าเป็นอันดับแรก!”

หลูหยวนจือชักดาบออกมา หลิงฮันตกตะลึงเป็นอย่างมาก นั่นเพราะดาบของชายผู้นี้ถูกสร้างขึ้นจากไม้

“ฮ่าๆๆๆ!” เจ้ากระต่ายหัวเราะจนท้องแข็ง “นายท่านกระต่ายหัวเราะจนจะขาดใจตายแล้ว มีคนที่นำดาบไม้มาสู้จริงๆด้วยรึ? นี่เจ้าจะไปไล่ผีรึไง?”

สีหน้าของหลูหยวนจือยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อถือดาบอยู่ในมือ ใบหน้าของเขาได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจพร้อมกับเจตจำนงแห่งดาบที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

หลิงฮันไม่กล้าประมาท ถึงแม้อีกฝ่ายจะดูบ้าๆบอๆ แต่ความสำเร็จในวิถีแห่งดาบของอีกฝ่ายนั้นสูงส่งมาก หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าอัจฉริยะและคนบ้ามีเพียงเส้นบางๆขั้นอยู่

“นี่คือทักษะดาบไม้สามกระบวนท่าที่ข้าคิดค้นขึ้น” เมื่อหลูหยวนจือกล่าวจบ ดาบไม้ในมือของเขาก็สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จะพุ่งโจมตีด้วยความเร็วสูงจนทิ้งเงาเอาไว้

หลิงฮันตกตะลึงมากที่ดาบของอีกฝ่ายรวดเร็วได้ขนาดนี้ นั่นเพราะร่างกายของคนเรามีขีดจำกัด กระดูกและกล้ามเนื้อที่ไม่ทนทานย่อมไม่อาจรองรับแรงสั่นที่รวดเร็วได้

ซึ่งวิธีแก้ปัญหานั้นก็คือการทำให้กายหยาบแข็งแกร่งและมีความสามารถที่เกินกว่าขีดจำกัดเดิม

เห็นได้ชัดว่าหลูหยวนจือนั้นไม่ได้บ่มเพาะทักษะกายา แต่เขากลับออกกระบวนท่าดาบได้เร็วเกินขีดจำกัด ซึ่งเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมาก

และนั่นคงเป็นอีกเหตุผลที่เขาใช้ดาบไม้เพราะดาบไม้มีน้ำหนักมีเบา ไม่เช่นนั้นหากใช้ดาบที่สร้างขึ้นจากแร่เหล็กระดับหกหรือเจ็ด น้ำหนักของดาบจะมากกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัม ในขณะที่ดาบไม้หนักเพียงหนึ่งหรือสองปอนด์เท่านั้น หากโจมตีด้วยความเร็วที่เท่ากัน แรงสั่นที่เกิดขึ้นต่อร่างกายย่อมต่างกัน

หลิงฮันสูดหายใจลึกและเตรียมใช้ทักษะสามพันดาบลึกลับ “งั้นก็ลองดูซักตั้ง”

หลิงฮันเค้นเสียงและปลดปล่อยทักษะดาบลึกลับสามเล่มออกไป

‘ตูม ตูม!’

ประกายแสงแห่งดาบระเบิดออกเกิดเป็นแสงที่น่าสะพรึงกลัว คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นทำให้ถ้ำเล็กๆแห่งนี้สั่นไหว แต่โชคดีที่ถ้ำแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยจอมยุทธระดับทลายมิติ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงถูกถ้ำถล่มทับทั้งเป็นไปแล้ว

เมื่อแสงเริ่มสลายไป หลิงฮันกับหลูหยวนจือก็ยืนอยู่ห่างกันสามฟุต เสื้อผ้าของทั้งสองคนฉีกขาดและมีโลหิตไหลออกมา แต่พวกเขาก็เมินเฉยต่อบาดแผลบนร่างของตน

หลิงฮันตกตะลึง อีกฝ่ายสามารถต้านทานทักษะดาบลึกลับสามพันเล่มได้!

แม้อีกฝ่ายจะมีระดับพลังที่สูงกว่าเขา นั่นคือระดับตัวอ่อนวิญญาณขั้นห้า แต่หลิงฮันก็ใช้ทักษะสามพันเล่มออกไปด้วยดาบกำเนิดมารซึ่งสมควรจะสามารถสังหารจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณทุกคนได้

แข็งแกร่ง แข็งแกร่งยิ่งนัก!

ยิ่งกว่านั้นดาบไม้ของอีกฝ่ายก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย บางทีมันอาจจะไม่ใช่ไม้แต่เป็นวัสดุระดับสูงบางอย่าง และที่สำคัญก็คืออีกฝ่ายควบแน่นปราณดาบให้กลายเป็นรัศมีดาบที่แท้จริงได้แล้ว แถมยังไม่ใช่ปราณดาบเพียงแค่สิบเล่มอีกด้วย ดังนั้นเพลงดาบของอีกฝ่ายจึงน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก

เมื่อใช้ทุกอย่างรวมกัน หลูหยวนจือจึงสามารถต้านทานทักษะดาบลึกลับสามพันเล่มได้

สีหน้าของหลูหยวนจือยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ตกตะลึงเลยที่หลิงฮันสามารถสู้กับเขาได้สูสีทั้งๆที่มีพลังบ่มเพาะเพียงระดับบุปาผาผลิบาน

หลิงฮันโคจนทักษะอัสนีบาตรเก้าทิวาและใช้ทักษะเคลื่อนที่ ร่างของเขาขยับถอยหลังมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับสะสมพลังปราณเพื่อใช้ทักษะหมื่นแปรผันเป็นหนึ่ง

หลูหยวนจือไม่เคลื่อนไหว สีหน้าของเขาประดับไว้ด้วยความน่าเกรงขาม แววตาของเขาจดจ้องไปยังหลิงฮันพร้อมกับดาบในมือที่ยกขึ้นสูงเล็กน้อย ทันใดนั้นปลายดาบของเขาก็ส่องประกายแสงสีฟ้าอันสว่างไสวออกมา “กระบวนท่าที่สาม ‘ย่องตาม’ ความเร็วของเจ้าจะไร้ประโยชน์อีกต่อไป ดาบของข้าจะไล่ตามเจ้าไปทุกที่ แม้เจ้าจะหลบหนีไปถึงขอบโลก ดาบนี้ก็จะติดตามเจ้าไปและฟาดฟันร่างของเจ้า”

หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูด เจ้าจะคิดชื่อที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด