Alchemy Emperor of the Divine Dao 656

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 656 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิพิรุณและมู่หรงชิงทั้งหวาดกลัวและโกรธแค้น

ถ้าคนอื่นเป็นคนพูดพวกเขาคงไม่มีทางเชื่อ แต่หลิงฮันนั้นเป็นพี่น้องของพวกเขา สิ่งที่เขาพูดจะต้องเป็นความจริงแน่นอน

“มีเพียงแค่การเปิดสวรรค์เท่านั้นพวกเราถึงจะต่อกรด้วยได้” จักรพรรดิพิรุณและมู่หรงชิงพยักหน้า สีหน้าของพวกเขาดูจริงจังมาก แม้ว่าพวกเขาจะออกไปเที่ยวเดินข้างนอก พวกเขาไม่อาจปั้นหน้ายิ้มได้อีกต่อไปเมื่อเผชิญหน้ากับความจริงเช่นนี้

หลิงฮันรู้สึกมีความสุขและพูดว่า “พี่ใหญ่ท่านสนเป็นจักรพรรดิหรือไม่?” เดิมทีจักรพรรดิพิรุณเป็นผู้นำของแคว้นพิรุณ และความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ในระดับแคว้นของเขานั้นมากกว่ามู่หรงชิงหรือแม้แต่เฟิงโป๋วหยุน

จักรพรรดิพิรุณคิดชั่วครู่ เขาส่ายหัวและพูดว่า “ไม่มีทาง! ไม่ใช่เพราะข้าไม่ต้องการแบกรับภาระอันหนักหน่วงนี้ แต่ข้าไม่มีความสามารถที่จะทำ น้องสามเรื่องของแคว้นนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าคิด”

“ใช่แล้วน้องสาม ในหมู่พวกเราสามพี่น้อง เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุด เจ้าต้องเป็นจักรพรรดิ ส่วนตัวข้าและพี่ใหญ่มีหน้าที่ช่วยเหลือเจ้า แล้วพวกเราสามพี่น้องจะร่วมพลังกันเพื่อรวมทวีป” มู่หรงชิงหัวเราะ

“ถ้าน้องสามไม่ต้องการแบบนั้น คงมีแค่ฮูหนิวเท่านั้นที่สามารถทำได้” จักรพรรดิพิรุณหัวเราะ เขารู้ว่าหลิงฮันไม่สนใจเรื่องอำนาจ ดังนั้นเขาจึงพูดถึงฮูหนิว

ฮูหนิวไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือและพูดว่า “ถ้างั้นพวกเจ้าทุกคนสามารถเรียกหนิวว่าจักรพรรดินีได้ในอนาคต!”

หลิงฮันหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นและพูดว่า “ถ้าเด็กสาวตัวน้อยกลายเป็นจักรพรรดิ วันถัดไปแคว้นคงจะตกอยู่ในความสบสนวุ่นวาย”

“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วน้องสาม” จักรพรรดิพิรุณพยักหน้าและนั่งลง เขาไม่ใช่คนที่ลุ่มหลงในอำนาจ มิฉะนั้นด้วยพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของเขา มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะรวมดินแดนทางตอนเหนืออันโดดเดี่ยวให้กลายเป็นหนึ่ง

พวกหลิงฮันทั้งสามคนนั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดบางอย่างของการก่อตั้งแคว้นและการเปิดสวรรค์

การก่อตั้งแคว้นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับจักรพรรดิพิรุณ เพราะเขาดำรงอยู่ในสถานะจักรพรรดิมาหลายปี ความแตกต่างเป็นเพียงเรื่องของขนาดของดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองและความแข็งแกร่งของผู้ปกครอง

ซึ่งการเปิดสวรรค์นั้นยากกว่ามาก

เพื่อทำให้ทวีปเทียนฮงไปอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นจะต้องแข็งแกร่งขนาดไหน?

ยิ่งพี่น้องทั้งสามคนพูดคุยกันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น ถ้าพวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาจะมีชื่อเสียงและกลายเป็นตำนาน

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราจะต้องฝึกฝนให้หนักขึ้น”

“และใช้ประโยชน์จากสำนักสวรรค์ ดึงดูดอัจฉริยะจากทุกขุมพลังจนกว่าจะถึงเวลาสุกงาม แล้วก่อตั้งแคว้นและนำคนเหล่านี้มารวมกัน!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า การต่อสู้กับห้านิกายโบราณเพียงแค่คิดแบบนั้นก็ทำให้จิตวิญญาณต่อสู้ของข้าเดือดพล่านแล้ว”

หลิงฮันนำเม็ดยาล้ำค่าจำนวนมากออกมาและมอบให้กับพี่ชายทั้งสองคน อย่างแรกคือเพื่อให้พวกเขาสร้างความก้าวหน้าให้กับตัวเอง อย่างที่สองคือให้พวกเขาใช้เม็ดยาพวกนั้นเป็นใบเปิดทางเพื่อทำความรู้จักอัจฉริยะคนอื่นๆ

พวกหลิงฮันทั้งห้าคนออกจากหอคอยทมิฬและการทดสอบเข้าสำนักสวรรค์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

พวกเขาไม่ได้เกาะกลุ่มอยู่ด้วยกัน จักรพรรดิพิรุณและมู่หรงชิงแยกตัวออกไป การประเมินนี้เป็นก้าวแรกสำหรับพวกเขาที่จะซื้อและชนะใจผู้คน โดยพวกเขาจะแยกตัวออกไปเพื่อขยายขอบเขตอิทธิพล

ส่วนฮูหนิวและจูเสวี่ยนเอ๋อยังคงอยู่กับหลิงฮัน พวกเขาทั้งสามคนเดินมาถึงประตูสำนักสวรรค์ ซึ่งเพิ่งถูกสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน และมีศิษย์รุ่นเยาว์หลายคนออกมาคอยทำหน้าที่ต้อนรับ

ศิษย์รุ่นเยาว์พวกนั้นล้วนมาจากห้านิกายใหญ่ พวกเขามีความเย่อหยิ่งอยู่บนใบหน้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าร่วมสำนักสวรรค์ได้ แต่พวกเขายังคงทนงตัว

ขั้นตอนแรกคือการทดสอบอายุของกระดูกและระดับพลัง ถ้าไม่ผ่านเงื่อนไขขั้นต่ำ แม้แต่การทดสอบแรกก็จะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม

จูเสวี่ยนเอ๋อขึ้นไปก่อนคนแรก นางเหยียดมือที่ละเอียดอ่อนราวกับหยกออกไป ทำให้ศิษย์ที่รับผิดชอบในการทดสอบอายุกระดูกหน้าแดง และมือที่จับเข็มทองสั่นไหวไปมา

มือของนางงดงามมาก ราวกับพระเจ้าแกะสลักขึ้นมา

เขาพยายามทำจิตใจให้สงบหลายครั้ง แต่ไม่อาจหยุดยั้งชั่งใจได้ และในที่สุดเขาก็ขอให้ศิษย์ที่เป็นสตรีคนหนึ่งเป็นคนตรวจสอบอายุของกระดูกแทน

“อายุยี่สิบสองปี” ศิษย์หญิงประกาศ ใบหน้าของนางดูตกใจ

อายุยี่สิบสองปีแต่เป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานแล้วถือว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่ห้านิกายใหญ่ นางอาจติดหนึ่งในห้าสิบอันดับแรก หรือสามสิบอันดับแรกเลยด้วยซ้ำ นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก

ชายร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านข้างใช้มือลูบเคราตัวเอง เขาดูเหมือนจะมีความสุข ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับต้นกล้าที่ดี เขาเหลือบมองไปที่จูเสวี่ยนเอ๋อและรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางดูธรรมดามาก

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอายุของกระดูก ไม่มีใครกำหนดว่าต้องเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้คนอื่นเห็น ดังนั้นนี่จึงเป็นการกระทำที่ไม่ได้ทำลายกฎ

คนต่อไปคือฮูหนิว

“เด็กสาวตัวน้อยรึ?” ศิษย์หลายคนไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง บางคนถึงขั้นหัวเราะออกมา ที่แห่งนี้คือสำนักสวรรค์ไม่ใช่สนามเด็กเล่น

ในขณะนั้นทุกคนที่กำลังต่อแถวเพื่อทดสอบอายุกระดูก ใครบางคนตะโกนโห่ร้องออกมาทันทีว่า “อย่าทำให้พวกข้าต้องเสียเวลาเลย ออกไปจากที่นี่ซะ!”

“เด็กน้อยอย่างเจ้ากลับบ้านไปดูดนมเถอะ!”

“พี่ชายมีอมยิ้มอยู่ตรงนี้ เจ้าอยากจะดูด-“

ปัง!

ชายคนนั้นกำลังพูดคำพูดสกปรก ทำให้ฮูหนิวรู้สึกโกรธ ร่างเล็กๆของนางปรากฏอยู่ด้านหน้าอีกฝ่ายและปล่อยหมัดเล็กๆที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้าใส่อีกฝ่าย

ร่างของชายคนนั้นล้อมรอบไปด้วยแสงของสายฟ้า และกรีดร้องออกมาอย่างน่าสยดสยอง

ในขณะนั้น บรรยากาศโดยรอบกลายเป็นเงียบงัน

พวกเขาจะไม่ตกใจจนนิ่งเงียบได้อย่างไร เมื่อจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานถูกฆ่าตายภายในไม่กี่วินาที?

ฮูหนิววางมือเท้าเอวและพูดว่า “คนที่พูดจาไม่ดีกับฮูหนิวจะต้องมีจุดจบเช่นนี้!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด