Alchemy Emperor of the Divine Dao 684

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 684 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ประมุขนิกายเฟิงเย่ว!

หลิงฮันรู้สึกได้ถึงอันตราย ไม่แปลกใจเลยที่เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรง ระหว่างทางไปสำนักสวรรค์ เขาได้สังหารชายที่ชื่อว่าหูชิงฟางบุตรชายของประมุขนิกายเฟิงเย่ว

และเขาเป็นบุตรชายเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

ฝ่ายตรงข้ามปรากฏตัวในกลางดึกและกำลังจ้องมองไปที่หลิงฮัน ดูเหมือนว่าเขากำลังยืนยันตัวตนของหลิงฮันอยู่

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสัญชาตญาณของฮูหนิวแน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่มีทางหลบพ้นสายตาของนาง และไม่ใช่เรื่องง่ายที่นางจะอดทนไหว

หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ประมุขนิกายหู่อุตส่ามารอข้าที่นี่ในกลางดึกเช่นนี้ ท่านอยากจะเชิญข้าไปดื่มชาหรือสุราอย่างนั้นหรือ?”

“โอ้ว แล้วปรมาจารย์หลิงสนใจจะไปไหมล่ะ?” หู่เจียนอี่มองหลิงฮันด้วยรอยยิ้ม แต่ยังคงปลดปล่อยจิตสังหารออกมา

“ถ้าประมุขนิกายหู่เป็นฝ่ายเปิดปากพูด ทำไมข้าจะไม่ไปกันล่ะ?” หลิงฮันถาม

“ฮ่าฮ่าฮ่า ปรมาจารย์หลิงช่างอ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งนัก เช่นนั้นได้โปรด!” หู่เจียนอี่แสดงท่าทางเชื้อเชิญ

หลิงฮันไม่กลัวว่าจะถูกหู่เจียนอี่ลอบฆ่า ตอนนี้เขามีสองตัวตน ไม่ได้เป็นแค่นักปรุงยาระดับสวรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในกองกองทัพของห้านิกายด้วย ถ้าหู่เจียนอี่กล้าที่จะสังหารเขา มันจะเทียบได้กับการท้าทายห้านิกายโบราณ

ดังนั้น หลิงฮันจึงรู้สึกปลอดภัยมาก

พวกเขาเดินไปที่ร้านน้ำชาและสั่งอาหาร ในไม่ช้าคนรับใช้ภายในร้านก็นำชามาเสิร์ฟและมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายออกมา

มันแปลกมาก พวกเขาทั้งสองคนสมควรที่จะเป็นศัตรูต่อกัน แต่ทว่าพวกเขากลับนั่งดื่มชาด้วยกันราวกับพวกเขารู้จักการมานานหลายปีแล้ว

“ปรมาจารย์หลิง ลูกชายของข้าตายด้วยน้ำมือของท่าน?” หลังจากที่หู่เจียนอี่จิบชาไปได้สักพัก เขาก็ถามออกมาอย่างกะทันหัน

หลิงฮันไม่ปฏิเสธ เขาพยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว”

“ข้ามีบุตรชายเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แล้วท่านปรมาจารย์หลิงจะชดใช้สิ่งที่เกิดขึ้นให้กับข้าได้อย่างไร?” หู่เจียนอี่จ้องเขม็งไปที่หลิงฮันอย่างเย็นชา

หลิงฮันเข้าใจทันทีว่าหู่เจียนอี่ต้องการแก้แค้นอย่างแน่นอน แต่เขาก็มีศีลธรรมอยู่บ้าง นั่นเป็นเพราะเขายังคงมีสถานะเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์อยู่

“อย่างไรก็ตาม บุตรชายของข้าก็ได้ตายไปแล้ว เช่นนั้นพวกเรามาคุยเรื่องผลประโยชน์กันเถอะ” หู่เจียนอี่กล่าว

หลิงฮันยิ้ม หรือว่าอีกฝ่ายคิดจะขู่กรรโชกเขา?

“ประมุขนิกายหู่ ท่านคิดผิดแล้ว!” หลิงฮันส่ายหัว “คนอย่างลูกชายท่าน มีชีวิตอยู่มีแต่จะเปลืองอาหาร ทรัพยากรบ่มเพาะพลังและเอาแต่สร้างปัญหาทุกวัน โชคดีที่อีกฝ่ายตายด้วยน้ำมือของข้า มิฉะนั้นถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงจะทำลายนิกายวายุจันทราของท่านด้วย –ประมุขหู่อย่าได้โทษข้าเลยที่ข้าพูดตรงไปตรงมา ข้าแค่เป็นคนที่ชอบพูดความจริงเท่านั้น”

“ข้าได้แก้ไขปัญหาให้กับท่านแล้ว มันสมควรหรือไม่ที่ประมุขหู่จะขู่กรรโชกข้า?”

ช่วยไม่ได้ที่ใบหน้าของหู่เจียนอี่จะกระตุก เขาเคยเห็นผู้คนที่พูดตรงไปตรงมาหลายคน แต่คนที่พูดออกมาด้วยความกล้าหาญอย่างหลิงฮันมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

นี่อีกฝ่ายจะหยุดทำตัวไร้ยางอายได้แล้วหรือยัง? ฆ่าลูกชายของข้าแล้วยังต้องการให้ข้าขอบคุณเจ้าด้วยงั้นรึ?

ช่วยไม่ได้ที่หู่เจียนอี่จะวางแก้วชาลงและปลดปล่อยพลังปราณของจอมยุทธระดับสวรรค์ออกมา และทำให้สีหน้าของจูเสวี่ยนเอ๋อกลายเป็นซีดขาวทันที

เมื่อเห็นเช่นนั้น หลิงฮันดึงจูเสวี่ยนเอ๋อเข้ามาในอ้อมแขนของเขา ทำให้ฮูหนิวไม่พอใจที่เห็นหลิงฮันโอบกอดจูเสวี่ยนเอ๋อ นางหันไปมองหู่เจียนอี่ทันที แววตาของนางดุร้ายราวกับเสือและปลดปล่อยจิตสังหารออกมา

หู่เจียนอี่ไม่เห็นฮูหนิวอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเป็นแค่เด็กสาวตัวน้อยอายุเจ็ดหรือแปดปีแล้วด้วยเขาจะหวาดกลัวไปทำไม? มันจะเป็นเรื่องตลกแค่ไหนกันถ้าเขาถูกเด็กสาวอายุประมาณเจ็ดหรือแปดปีสามารถทำให้เขาเกิดความรู้สึกไม่สบายใจได้?

“ปรมาจารย์หลิง มันจะดีกว่าถ้าท่านจะฟังคำพูดของข้า กระบี่นั้นไม่มีตา บางทีท่านอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างสงคราม” เขาไม่สนใจฮูหนิวแม้แต่น้อย และจ้องมองไปที่หลิงฮันเพียงคนเดียวเท่านั้น

หลิงฮันไม่ได้กังวลอะไรและพูดว่า “ข้าล่ะสงสัยยิ่งนักว่านิกายอย่างนิกายวายุจันทราจะดำรงอยู่ได้นานแค่ไหน?”

“โอ้ว ดูเหมือนว่านั่นจะไม่ใช่คำร้องขอชีวิต!” หู่เจียนอี่แสยะยิ้ม เดิมทีเขาไม่คิดจะปล่อยหลิงฮันไว้อยู่แล้ว ในตอนแรกนิกายวายุจันทราจะติดตามกองทัพไปทางทิศตะวันออก แต่ตอนนี้พวกเขาถูกเปลี่ยนให้มาที่ทิศตะวันตก

ด้วยเหตุผลนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะลอบสังหารหลิงฮัน

ยิ่งไปกว่านั้้น ท่ามกลางความโกลาหลของสงคราม ใครจะสังเกตเห็น?

แม้จะถูกคนอื่นเห็น เขาสามารถที่จะพูดได้ว่ากระบี่ไม่มีตา การโจมตีที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญเป็นเหตุทำให้หลิงฮันตาย ใครขอให้เขาเป็นฝ่ายแข็งแกร่งกว่าล่ะ?

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลิงฮันและหู่เจียนอี่หัวเราะออกมาพร้อมกัน ราวกับว่าต่างฝ่ายต่างพบเจอเรื่องตลกที่สุดในโลก

แต่ทว่าเสียงหัวเราะของพวกเขาก็หยุดคงทันที หู่เจียนอี่ลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันและเปิดประตูเดินจากไป

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน!”

หลิงฮันตะโกนเรียกอยู่ด้านหลัง

หู่เจียนอี่รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที หรือว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจแล้ว? เขาแแกล้งทำเป็นไม่สนใจและไม่หันหลังมองย้อนกลับไป

“ประมุขหู่ นี่ท่านคงไม่คิดที่จะกินแล้วไม่จ่ายหรอกใช่ไหม?” เสียงของหลิงฮันดังมาจากด้านหลัง

หู่เจียนอี่แทบจะสะดุดล้ม ใบหน้าของเขากลายเป็นโกรธเกรี้ยว

“ประมุขหู่ ท่านจะกินแล้วหนีอย่างนั้นรึ?” หลิงฮันยังคงตะโกน ทำให้ผู้คนในร้านน้ำชาหันไปมองหู่เจียนอี่ด้วยสายตาดูถูก

หู่เจียนอี่โกรธมากจนเขาอยากจะลงมือฆ่าใครสักคน เขาเดินกลับไปและโยนผลึกก่อเกิดออกไปอย่างไม่พอใจ

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิงฮันค่อยๆจางหายไป เขาตัดสินใจว่าจะลบนิกายวายุจันทราออกไป แต่ความแข็งแกร่งของเขายังไม่เพียงพอและไม่สามารถลงมือทำได้ทันที

หลิงฮันคิดว่าเมื่อเขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่าจอมยุทธระดับสวรรค์ สิ่งแรกที่เขาจะทำคือจัดการกับนิกายวายุจันทรา

หลังจากใช้เวลาอยู่ภายในเมืองไม่กี่วัน กองทัพจักรวรรดิจันทราม่วงก็จะเดินทัพมาถึง

กองทัพของพวกเขาสมควรที่จะถูกเรียกว่ากองทัพขนาดใหญ่ กองทัพของพวกเขามีความเป็นระเบียบมากและมีจำนวนคนมากกว่าหนึ่งล้านคนพร้อมกับถือธงตราสัญลักษณ์ ทั้งยังมีทหารม้าและรถม้าศึก ซึ่งแตกต่างจากกองทัพของห้านิกายโบราณที่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการรวมกลุ่มกันของจอมยุทธและกองทัพ

หลิงฮันและคนอื่นขึ้นไปอยู่บนกำแพงเมือง ซึ่งได้รับการป้องกันจากรูปแบบอาคมและสามารถต้านทานการโจมตีของจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาได้

ธงของจักรวรรดิจันทราม่วงเป็นการรวมกันของตราสัญลักษณ์สองอย่างคือดวงจันทร์สีม่วง และราชสีห์เพศผู้ แต่ทว่ามันกลับมีหกขา สี่ปีกและหางเจ็ดหาง ซึ่งดูแปลกมาก!

หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ เขาจดจำสิงโตตัวนั้นได้ มันเป็นสัตว์อสูรโบราณ หมีอ๋าง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด