Alchemy Emperor of the Divine Dao 748

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 748 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร!” อดีตจักรพรรดิพิรุณรีบส่ายมือ เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยแทงดาบใส่คนที่มีพระคุณต่อเขา

แม้ก่อนหน้านี้เขามีรูปร่างราวกับคนตายที่อ่อนแรง แต่เขาก็รับรู้ว่ามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น

หลิงฮันไม่รีรอ เขานำจดหมายของจักรพรรดิพิรุณส่งใส่ฉีฉางเย่

ฉีฉางเย่รับจดหมายมาและใช่เวลาชั่วครู่ในการเปิดอ่าน

อดีตจักรพรรดิพิรุณเองก็เดินเข้าใกล้มาเพื่ออ่านจดหมายด้วย หนึ่งชายชราหนึ่งชายหนุ่มกำลังอ่านจดหมายด้วยสีหน้าตึงเครียด

“ท่านพ่อทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณแล้ว!”

“ฮ่าๆๆ ข้ารู้มานานแล้วว่าเจ้านั่นเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก เขาคือบุรุษที่ทำให้ตระกูลของเรารุ่งโรจน์!”

ฉีฉางเย่และอดีตจักรพรรดิพิรุณตื่นเต้น จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคเหนือ ไม่ต้องกล่าวถึงดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวเลย จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณสามารถเหยียบย่ำได้ทุกอาณาเขตของภูมิภาคเหนือ

แต่หลังจากอ่านต่อ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที

จักรพรรดิพิรุณต้องการยกบัลลังก์ให้หลิงฮัน!

แถมจักรพรรดิพิรุณยังไม่อธิบายเหตุผลให้กระจ่างอีกด้วย เขาบอกเพียงว่าเมื่อเวลามาถึงพวกเขาจะเข้าใจเอง

บ้าชัดๆ นี่มันบังลังก์ของแคว้นเชียวนะ!

ชายชราและชายหนุ่มลังเลเล็กน้อย บัลลังก์คือมรดกสืบทอดและรากฐานที่สำคัญที่สุดของตระกูลพวกเขา ด้วยอำนาจของพลังแห่งจักรภพ มันจะทำให้พวกเขาสามารถสร้างอัจฉริยะให้เป็นจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณได้ แถมมันยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ของผู้ครองให้ทัดเทียมกับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานอีกด้วย

มันเกือบจะเรียกว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลจักรพรรดิฉี

แล้วตอนนี้พวกเขาต้องมายกบัลลังก์ให้กับคนอื่นเนี่ยนะ? ไม่ใช่ว่านั่นจะเป็นการทำให้ตระกูลของพวกเขาล่มสลายรึไง?

ถ้าจักรพรรดิพิรุณมาที่นี่ด้วยตนเอง ด้วยนิสัยอันเด็ดขาดและพลังบ่มเพาะระดับตัวอ่อนวิญญาณของเขา อดีตจักรพรรดิรุณและฉีฉางเย่คงไม่คำพูดใดจะโต้เถียง

หลิงฮันมองไปยังทั้งสองคนและกล่าว “จักรพรรดิพิรุณคือพี่ชายของข้า พวกเราพี่น้องเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ ที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะพลังแห่งจักรภพ แคว้นเล็กๆอย่างแคว้นพิรุณคงไม่ได้อยู่ในสายตาข้าแม้แต่น้อย”

“ก้าวแรกคือรวมดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยว ก้าวที่สองคือปกครองภูมิภาคเหนือ และก้าวที่สามคือปฏิรูปสี่ภูมิภาคขึ้นใหม่ จากนั้นก็ก่อตั้งเป็นพันธมิตรช่วยเหลือจักรวรรดิจันทราม่วง” หลิงฮันกล่าวราวกับเป็นเรื่องง่าย

อดีตจักรพรรดิพิรุณและฉีฉางเย่เกือบจะเป็นลม เจ้าพูดความทะเยอทะยานของเจ้าที่จะปฏิรูปสี่ภูมิภาคขึ้นใหม่ราวกับเป็นเรื่องง่าย!

หลิงฮันคร้านจะพูดต่อ เขากล่าวกับฉีฉางเย่ “แม้ครั้งนี้จะดูเหมือนข้ารังแกเจ้า แต่ข้ามีสิ่งชดเชยให้” ‘พรึบ’ หลิงฮันสะบัดมือ ทันใดนั้นบนโต๊ะก็กองเต็มไปด้วยเม็ดยาและทักษะลับมากมาย

ก่อนจะมาที่นี่ เขาเตรียมการมาล่วงหน้าแล้ว

“ทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์!”

“แถมยังเป็นทักษะบ่มเพาะที่สามารถฝึกฝนต่อเนื่องถึงเก้าระดับโดยไม่ต้องเปลี่ยนทักษะด้วย! ถ้าบ่มเพาะพลังด้วยทักษะนี้ พวกเราจะบรรลุระดับสวรรค์แน่นอน!”

“ไม่น่าเชื่อ นอกจากนั้นแล้วยังมีทักษะยุทธระดับสวรรค์อีก!”

“นะ นะ นี่มันเม็ดยาระดับปฐพี!”

อดีตจักรพรรดิพิรุณและฉีฉางเย่อุทานออกมา ใบหน้าของพวกเขากระตุกไปมาไม่หยุด

สมบัติบางอย่างบนโต๊ะเรียกได้ว่าหาค่าไม่ได้ และสมบัติบางอย่างนั้นมีมูลค่าสูงมากกว่าแคว้นแค้วหนึ่งเสียอีก อย่างเช่นทักษะบ่มเพาะ ทักษะยุทธระดับสวรรค์และเม็ดยาระดับปฐพี แต่ตอนนี้สมบัติเหล่านั้นก็มากองอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

สมบัติเหล่ามีค่าเกินพอที่จะซื้อแค้วพิรุณเสียอีก ด้วยทรัพยากรขนาดนี้ พวกเขาสามารถบรรลุระดับสวรรค์ได้แน่นอน ต่อให้ต้องแลกด้วยแคว้นพิรุณหนึ่งร้อยหรือหนึ่งพันแคว้นพวกเขาก็ยอม

หลังจากชายชราและชายหนุ่มหลุดพ้นจากอาการตื่นเต้น พวกเขาก็พบว่าหลิงฮันหายไปแล้ว

“ท่านบรรพบุรุษ พวกเราจะทำอย่างไรดี?” ฉีฉางเย่ถามอดีตตักรพรรดิพิรุณ เป็นเรื่องธรรมดาที่เรื่องใหญ่อย่างการมอบบัลลังก์จะต้องถามกับคนที่มีอำนาจใหญ่ที่สุดในตระกูล

“สละบัลลังก์เดี๋ยวนี้!” อดีตจักรพรรดิพิรุณตัดสินใจอย่างไม่ลังเล ไม่จำเป็นต้องให้หลิงฮันอธิบายเขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นตัวตนที่ทรงพลังขนาดไหน

หากไม่ทรงพลัง เขาจะนำสมบัติมากมายเหล่านี้ออกมาได้?

อดีตจักรพรรดิพิรุณเป็นคนทะเยอทะยานและโลภ แต่เขาก็รู้เช่นกันว่าถ้าหากโลภเกินไปและยื่นข้อเสนอมากกว่านี้ก็จะนำเขาไปสู่ความตาย

แต่ถึงแม้หนึ่งชายชราและหนึ่งชายหนุ่มจะโลภขนาดไหน หลิงฮันก็ไม่มีทางสังหารพวกเขา เพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็นผู้อาวุโสและบุตรของจักรพรรดิพิรุณ ถ้าทั้งสองปฏิเสธหลิงฮันก็ตั้งใจจะซัดทั้งสองให้สลบและนำเข้าไปในหอคอยทมิฬก่อน จากนั้นค่อยนำพวกเขาไปหาจักรพรรดิพิรุณทีหลัง

หลิงฮันกลับตระกูลหลิงเพื่อนำพรรคพวกของเขามาที่แคว้นพิรุณอีกครั้ง โดยให้ทุกคนเข้าไปอยู่ในหอคอยทมิฬ

จูเสวียนเอ๋อ เหยียนเฮิงเหอและคนอื่นๆค่อยๆปรากฏตัวออกมา โดยเฉพาะเมื่ออสูรศิลาและเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนปรากฏตัว กลิ่นหายของตัวตนระดับก้าวสู่เทวาและระดับสวรรค์นั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก

อดีตจักรพรรดิพิรุณหวาดกลัวไปจนถึงขั้วหัวใจ แต่เขาก็รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ต่อต้าน ไม่เช่นนั้นพรรคพวกคนใดคนหนึ่งของหลิงฮันคงสามารถสังหารเขาได้ง่ายๆ เขารีบเร่งเร้าให้ฉีฉางเย่สละบัลลังก์เพื่อไม่ทำให้หลิงฮันเกิดความไม่พอใจ

แต่มันก็เป็นความจริง ด้วยพลังของเขาในตอนนี้เขาสามารถยึดครองภูมิภาคเหนือได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเห็นแก่แคว้นพิรุณและนำสมบัติออกมาชดเชยให้

แต่ถึงแม้ฉีฉางเย่จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี การสละบัลลังก์ก็ใช้ว่าจะทำได้ง่ายๆ มันมีปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะแคว้นที่หลิงฮันต้องการคือแคว้นที่ทุกคนรวมกันเป็นปึกแผ่นเดียวกัน

และในที่สุดฉีฉางเยก็สามารถโน้มน้าวแปดตระกูลใหญ่ของเมืองจักรพรรดิได้อย่างราบรื่น แน่นอนว่านั่นเป็นเพราะอสูรศิลาที่หลิงฮันส่งไปเดินรอบเมือง แล้วแบบนี้ใครกันจะกล้าต่อต้านไม่เห็นด้วย?

ครึ่งเดือนต่อมา พิธีสละบัลลังก์ก็เริ่มขึ้น ฉีฉางเยาละราชบัลลังก์และหลิงฮันเป็นผู้ขึ้นครองแทน สัญลักษณ์ของแคว้นได้เปลี่ยนเป็น ‘หลิง’ และแคว้นถูกเรียกว่า ‘จักรวรรดิต้าหลิง’ (หลิงผู้ยิ่งใหญ่)

หลิงฮันไม่ต้องการเสียเวลา เขาส่งเหยียนเฮิงเหอและหลี่เฟิงหยู่แยกกันออกไปรุกรานแปดแค้วที่เหลือในดินแดนทางเหลืออันโดดเดี่ยว

เป้าหมายของการรุกรานครั้งนี้คือยึดครองไม่ใช่สังหาร และหลีดเรียกความเสียหายให้มากที่สุดเที่ท่จะหลีกเลี่ยงได้

ด้วยพลังบ่มเพาะระดับตัวอ่อนวิญญาณขั้นปลายและบุปผาผลิบานขั้นปลาย ทั้งสองคนจะยังไม่ใช่ตัวตนที่ไร้พ่ายในดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวอีก? เพียงแค่หนึ่งเดือนแปดแคว้นที่เหลือก็ยอมยกธงขาว

หลิงฮันไม่สามารถสะกดระดับพลังบ่มเพาะของตัวเองได้อีกต่อไปและต้องทะลวงผ่านไปยังระดับก้าวสู่เทวา

แม้ที่เขาตั้งใตไว้ เขาจะอยากสะกดระดับพลังเอาไว้ให้นานกว่านี้ นั่นก็เพราะความเร็วในการเลื่อนระดับของเขาในตอนนี้มันเร็วเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องยอมจำใจและเลือกทะลวงผ่านระดับ

สำหรับหลิงฮันการทะลวงผ่านทำได้ง่ายดายมาก เพราะเขาเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้วในชีวิตที่แล้ว

“ข้ากลายเป็นระดับก้าวสู่เทวาแล้ว!” หลิงฮันรู้สึกประทับใจ เขาเคยคิดว่าเขาจะกลับไปเป็นระดับสวรรค์ได้ตอนช่วงอายุสามสิบ แต่จากสถานการณ์ตอนนี้แล้วเป็นไปได้อย่างมากว่าเขาจะบรรลุระดับสวรรค์ได้ในอีกปีหรือสองปี

อย่างแรกเลยเป็นเพราะพลังวิญญาณของยุคสมัยนี้ และอย่างที่สองเป็นเพราะเขาครอบครองหอคอยทมิฬที่ทำให้เขาสามารถเพิ่มจำนวนทรัพยากรได้ และอีกเหตุผลที่คือเขาเป็นจักรพรรดิปรุงยา

“เอาล่ะ ต่อไปถึงเวลามุ่งหน้าไปภูมิภาคเหนือแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด