Alchemy Emperor of the Divine Dao 833

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 833 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หม่าตั๋วเป่าไม่เก็บมาสนใจและพูดว่า “เข้ามาพร้อมกันให้หมดนั้นแหละ!”

“เจ้าไม่ต้องพูดแบบนั้นออกมาหรอก ยังไงพวกข้าก็คิดที่จะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว!” ฉัวชี่ฟง อู่เกาเหยียนและอิจฉริยะจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือ บวกกับราชันซากศพสิบแปดตาต่อแถวเรียงหน้ากระดาน

“ฮ่าฮ่าฮ่า การต่อสู้ของจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้ยี่สิบดาวแม้แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังหาได้ยากมาก ข้าอยากเห็นจริงๆ”

“แต่ยังไงซะหลังจากวันนี้ มันจะไม่มีจักรวรรดิจันทราม่วงอีกต่อไป!”

พวกของฉัวชี่ฟงทั้งสี่คนเย้ยหยัน

หลิงฮันส่ายหัว มันเป็นเพราะดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีระดับพลังที่สูงขึ้นไปอีก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องยกระดับพลังต่อสู้ให้ถึงขีดสูง

และที่ฉัวชี่ฟงพูดแบบนั้นออกมาเพราะพวกเขาไม่มีพลังต่อสู้ถึงยี่สิบดาวเหมือนกับหม่าตั๋วเป่า

แต่อย่าได้ดูถูกพวกเขาเชียว ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีพลังต่อสู้ยี่สิบดาว แต่ก็สามารถกวาดล้างทวีปฮงเทียนได้ แต่บางทีห้านิกายโบราณบนดินดินแดนศักดิ์สิทธิ์อาจไม่ใช่ขุมพลังอันดับต้นๆ ดังนั้นรุ่นเยาว์ที่พวกเขาสามารถปั้นได้จึงไม่มีพลังต่อสู้สูงสุด

อย่างไรก็ตาม แค่พลังต่อสู้สิบแปดดาวก็เป็นเรื่องที่น่าทึ่งแล้ว อย่างน้อยในทวีปฮงเทียนก็ไม่มีใครเหนือพวกเขานอกจากสัตว์ประหลาดอย่างหม่าตั๋วเป่าและเฮ่อเหลียนเทียนหยุน

หม่าตั๋วเป่ายกนิ้วขึ้นมายั่วยุและเดินเข้าไปหาฝั่งตรงข้ามทั้งเจ็ดคน

“หึ่ม!” อัจฉริยะทั้งห้ากระโจนออกไปพร้อมกัน แต่เมื่ออู่เกาเหยียนโจมตีออกไปด้วยขวานภูผาวารี บรรยากาศที่มันพาดผ่านถูกฉีกกระชากทันที และในขณะเดียวกันราชันซากศพสิบแปดตาสองตัวก็ไม่หวาดกลัวพลังของหม่าตั๋วเป่าแต่อย่างใด และพุ่งเข้าไปเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง

ตู้ม ราชันซากศพสิบแปดตาสองตัวกระเด็นไปด้านหลังทันทีเมื่อปะทะ แต่แรงระเบิดดังกล่าวของหม่าตั๋วเป่าถูกลบล้างไปมากทำให้ฉัวชี่ฟงและคนอื่นไม่ได้รับผลกระทบ

เห็นได้ชัดว่าหม่าตั๋วเป่าแข็งแกร่งกว่ามาก แต่อีกฝ่ายนั้นเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้าที่มีพลังต่อสู้สิบแปดดาวเจ็ดคน

ในไม่ช้าพวกเขาก็กลับมารวมกลุ่มกันใหม่อีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ใช้กลอุบายอะไรและเผชิญหน้ากับซึ่งๆหน้า พวกเขาต่อสู้กันตั้งแต่ตีนเขาขึ้นไปบนยอดเขาและบนท้องฟ้า และยังมีสะเก็ดดาวนับไม่ถ้วนตกลงมาไม่หยุด

แต่โชคดีที่ดาวพวกนั้นถูกควบแน่นโดยพลังของสวรรค์และปฐพี ไม่เช่นนั้นพวกมันลงจะตกลงมาหมดแล้ว

“หึ่ม แล้วพวกเจ้าล่ะล้างคอรอไว้แล้วหรือยัง?” ราชันมหาดวงดาราเย้ยหยัน

แม้ว่าพวกเขาจะมีกันแปดคนเท่านั้น แต่พวกเขาก็มีความมั่นใจมากที่จะเก็บกวาดจอมยุทธระดับทลายมิติทั่วไปห้าสิบกว่าคน

“ปากดี!” ชายชราผมขาวหลายคนปรากฏตัวออกมาและเริ่มเผาผลาญโลหิตของตัวเอง มันทำให้พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นในพริบตาและมีพลังต่อสู้อยู่ที่สิบสี่ดาว

อย่างที่คิด!

ปกติแล้วพวกเขาทั้งห้าจะปกปิดตัวเองจนกว่าจะเสร็จสิ้นการชำระล้าง เมื่อการชำระล้างจบลงพวกเขาจะเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และฝึกฝนบ่มเพาะพลังต่อที่นั่นที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายคนที่จะไม่เผยตัวตนของตัวเองและยังคงผนึกร่างของตัวเองไว้ในผลึกหยุดเวลา

พวกเขาเหล่านั้นมีชื่อเรียกว่าราชันผู้พิทักษ์!

หากมีเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่เป็นภัยคุกคามต่อนิกายโบราณทั้งห้า – แม้จะไม่เกิดขึ้นจริง พวกเขาก็จะถูกปลุกให้ตื่นและกำจัดภัยคุกคามนั้น แต่เนื่องจากพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งกว่าราชันทั้งแปดคน พวกเขาจึงต้องเผาผลาญโลหิตทุกวินาทีที่ต่อสู้ นี่คือค่าตอบแทนของที่จะได้มาซึ่งพลัง และมันจะทำให้อายุขัยของพวกเขาสั้นลง แม้พวกเขาจะได้ขึ้นไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็อาจมีเวลาไม่พอที่จะทะลวงผ่านระดับต่อไป

การกระทำของพวกเขาจะต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก ดังนั้นราชันผู้พิทักษ์จึงเป็นที่เคารพนับถือจากทุกคน

มีราชันผู้พิทักษ์ทั้งหมดห้าคน สี่คนมีพลังต่อสู้สิบสี่ดาว ส่วนอีกคนหนึ่งมีพลังต่อสู้สิบห้าดาว แต่ถ้าพวกเขาร่วมมือกันความแข็งแกร่งของพวกเขาจะสูงขึ้นไปอีก

“ตาย!” แม้ว่าราชินีหยินจะเป็นผู้หญิง แต่จิตสังหารที่นางปล่อยออกมานั้นรุนแรงมาก และยังเป็นคนแรกที่กระโจนออกไป

“หยินแปดวิถี!”

เมื่อนางตะโกน มีฝ่ามือยักษ์สองข้างถูกบดขยี้ลงมาจากท้องฟ้าทันที

ในขณะเดียวกัน ราชันที่เหลืออีกเจ็ดคนก็ไม่ได้ยืนดูอย่างเดียว พวกเขาเองก็กระโจนออกไปร่วมต่อสู้ด้วย

ในทางกลับกัน หลิงฮันดูไม่มีอะไรทำ เขาลูบคางและพูดกับตัวเองว่า “นี่ข้าต้องเข้าไปช่วยพวกเขาหรือไม่?”

ดาบสังหารในมือมันไม่ส่องแสงอีกต่อไป แท้จริงแล้วเมื่อครู่มันอยู่ภายใต้การควบคุมของหม่าตั๋วเป่า และตอนนี้หม่าตั๋วเป่ากำลังต่อสู้กับศัตรูของเขาอยู่ เขาจึงไม่มีเวลามานั่งควบคุมดาบสังหารอีกต่อไป

ถึงแม้ว่าหลิงฮันจะมีพลังป้องกันที่น่าตกตะลึง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่ต่างก็เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติ มันไม่มีที่ว่างให้เขายื่นมือเข้าไปและเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้

“หลิงฮัน ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เจ้าเอง!” ฉือชิ่วเหรินกระโจนออกมาพร้อมกับกระบี่ไร้เทียมทาน

หลิงฮันโบกมือปฏิเสธและพูดว่า “ข้าขี้เกียจที่จะเล่นกับเจ้าตอนนี้ เจ้ามันอ่อนแอเกินไป!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉือชิ่วเหรินรู้สึกโกรธจนตัวสั่น ยังไงเขาก็ยังเป็นรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดของโลกเบื้องล่าง ถึงแม้เขาจะขึ้นไปอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ การที่เขาเข้าใจแก่นแท้แห่งกระบี่ก็เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะอยู่ดี แต่ไม่ใช่อัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากอีกต่อไปก็แค่นั้น

เจ้ากล้าดูถูกข้า!

“และถ้าข้าขอเข้าร่วมด้วยล่ะ?”

“ข้าด้วย!”

“ข้าด้วย!”

ตงหลิงเอ๋อ ราชันดาบน้อยและบุตรแห่งสายฟ้า พวกเขาทุกคนเดินออกมายืนข้างหน้าด้วยสายตาเย็นชา

หลิงฮันยกดาบสังหารขึ้นมาและพูดว่า “ก็ได้ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าเพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับผู้คนบริสุทธิ์ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกเจ้า!”

“พวกเขาก็เป็นแค่มดปลวกหรือไม่จริง?” บุตรแห่งสายฟ้ายิ้มเยาะและพร้อมที่จะโจมตีใส่หลิงฮันด้วยขวานภูเขาวารีของเลียนแบบ

หลิงฮันชี้ดาบไปที่บุตรแห่งสายฟ้าและพูดว่า “เจ้ากล้ามากที่พูดแบบนั้นออกมา ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”

“มันขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า!” บุตรแห่งสายฟ้าหัวเราะและโจมตีออกไปด้วยขวานภูผาวารีที่ฟื้นสภาพกลับมาเป็นปกติแล้ว อนุภาพของมันน่ากลัวมาก

แต่น่าเสียดายที่ดาบสังหารไม่ตอบสนอง!

หรือว่าอีกฝ่ายจะอ่อนเกินไป มันเลยไม่ตอบสนองอย่างนั้นรึ?

เป็นไปไม่ได้ ขวานภูผาวารีเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในโลก เมื่ออู่เกาเหยียนใช้มันน่าสะพรึงแค่ไหน? อย่างไรก็ตาม มันก็ยังถูกดาบสังหารปัดป้อง ถึงแม้ว่าหม่าตั๋วเป่าจะเป็นคนควบคุม แต่มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเลยทำให้ตอนนี้มันเลยไม่สามารถใช้งานได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ช่วยไม่ได้ที่ฉือชิ่วเหรินจะหัวเราะออกมา ถ้าดาบใช้ไม่ได้อีกฝ่ายจะเป็นศัตรูของพวกเขาได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น กระบี่ไร้เทียมทานของเขาเองก็ฟื้นสภาพกลับมาเป็นปกติแล้ว

อาวุธวิญญาณทั้งสองหลังจากที่ฟื้นสภาพแล้วทำให้มันมีพลังระดับทลายมิติอย่างน้อยสิบดาว ซึ่งเหนือกว่ารูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งทลายปฐพีซะอีก และยังเหนือกว่าระดับพลังของหลิงฮันหลายขุม!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด