Alchemy Emperor of the Divine Dao 844

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 844 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและกล่าว “เจ้ามีกลิ่นที่น่ารังเกียจ แม้จะอยู่ห่างออกไปร้อยไมล์ข้าก็ได้กลิ่น เช่นนั้นแล้วการหาตัวเจ้าพบจะเป็นเรื่องยากอันใด?”

นั่นเป็นสิ่งที่เขากล่าวออกไปเล่นๆ ที่จริงแล้วเป็นเพราะเขาควบคุมอำนาจแห่งจักรภพอยู่ ตราบใดที่เขาต้องการ เขาก็สามารถรับรู้ทุกการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในทุกๆเมืองผ่านธงที่ปักหอคอยเอาไว้ได้

“เหอะ ก็แค่จอมยุทธระดับสวรรค์ที่ไม่รู้จักถึงความห่างชั้น ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าวันนี้เจ้าจะหลบหนีไปได้อย่างไร?” เซียวเมี่ยวเหยียนแสยะยิ้ม

นางโกรธแค้นหลิงฮันเป็นอย่างยิ่ง

“เจ้าหนู สตรีผู้นั้นไม่เลวเลย เจ้าต้องให้นางมาเป็นคนรับใช้ของข้า!” เจ้ากระต่ายคำรามดังขึ้นจากพื้นเบื้องล่าง

เซียวเมี่ยวเหยียนกลายเป็นเกรี้ยวกราดทันที แต่เมื่อนางมองไปที่เจ้ากระต่ายนางก็อุทานออกมา “ทายาทของเผ่าชิงอี?”

“เจ้ากล้าเอ่ยเรียกบรรพบุรุษของข้าเช่นนั้นได้อย่างไร!” เจ้ากระต่ายตะโกนเสียงดัง

ใบหน้าอันงดงามของเซียวเมี่ยวเหยียนกระตุกเพราะความตกตะลึง เผ่าชิงอีคือเผ่าที่น่าสะพรึงกลัวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นนางจึงไม่อยากจะสร้างความบาดหมางกับทายาทของพวกเขาเสียเท่าไหร่ ถ้าหากนางลงมือจริงๆเจ้ากระต่ายคงจะตายไปแล้ว

นางเมินเฉยเจ้ากระต่ายและจ้องมองหลิงฮัน “กายหยาบที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบของเจ้านั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่ตราบใดที่ข้าเป็นคนลงมือ ข้าก็ยังมีวิธีที่จะทำลายพลังป้องกันของเจ้า!”

“ข้าเริ่มจะกลัวขึ้นมานิดหน่อยแล้วสิ” หลิงฮันหัวเราะ “พวกเจ้าฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตมากมายเพื่อหลอมโลกเบื้องล่างให้เป็นเม็ดยา วันนี้หัวของเจ้าจะต้องถูกตัดขาดเพื่อสังเวยต่อชีวิตเหล่านั้น”

“เจ้าหนู ห้ามทำเช่นนั้น นำนางมาเป็นคนรับใช้ของข้า!” เจ้ากระต่ายตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง

“การที่พวกเจ้าทั้งสามคนมาปรากฏตัวที่นี่ในวันนี้พร้อมกัน ถือว่าเป็นการช่วยให้ข้าจัดการปัญหาที่ใหญ่ที่สุดทิ้งได้พอดี!” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชา เซียวเมี่ยวเหยียนและกวนหยางนั้นมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติสิบแปดดาว ทั้งสองเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของโลกนี้ไม่ผิดแน่ ถ้าเขาสามารถกำจัดทั้งสองทิ้ง ภัยคุกคามอื่นๆคงจะปล่อยให้แปดราชันเป็นคนจัดการได้

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจว่าตัวเองแข็งแกร่งเสียเหลือเกิน!” จักรพรรดิจอมอสูรยิ้มและหัวเราะไปพร้อมๆกัน เขากับพวกเซียวเมี่ยวเหยียนนั้นไม่ได้วางแผนว่าจะมาบุกเมืองจักรพรรดิด้วยกัน

ดังนั้นเมื่อเขาเห็นการปรากฏตัวของเซียวเมี่ยวเหยียน เขาจึงเกิดความคิดที่จะแอบซุ่มอยู่เงียบๆและคอยลอบโจมตี แต่เขาไม่คาดเคยเลยว่าจะโดนหลิงฮันเปิดโปงซะก่อน

หลิงฮันจ้องมองไปยังเซียวเมี่ยวเหยียนและกวนหยางโดยเมินเฉยของจักรพรรดิจอมอสูรอย่างสิ้นเชิง การกระทำของเขาทำให้จักรพรรดิจอมอสูรโกรธมาก ข้าเป็นถึงตัวตนสุดแข็งแกร่งที่เคยเหยียบย่ำทวีปฮงเทียนมาแล้ว เพื่อที่จะแยกร่างของเขาออกเป็นเก้าส่วน จอมยุทธนับไม่ถ้วนต้องยอมแม้แต่สละชีวิตของตนเอง แต่ตอนนี้หลิงฮันกลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย!

บัดซบ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องยับยั้งพลังเอาไว้เพื่อทำภารกิจที่สำคัญ เขาคงระเบิดอำนาจของพระเจ้าออกมาเพื่อสังหารหลิงฮันแล้ว

“หอคอยน้อย!”

หลิงฮันกล่าวในใจ ‘ครืนน’ หอคอยทมิฬสั่นไหวและมอบพลังให้กับเขา ภายในพริบตาพลังบ่มเพาะของเขาก็ทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเขาก็โคจรอำนาจในจักรภพเสริมไปอีก

“อะไรกัน!”

ทั้งสามคนตกตะลึงและอุทานออกมาพร้อมๆกัน ทำไมแค่พริบตาเดียวกลิ่นอายของหลิงฮันถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้? ทำไมจู่ๆพวกเขาถึงสัมผัสได้ถึงอำนาจที่น่าขนลุกจากตัวหลิงฮัน?

แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติสิบแปดดาวอย่างพวกเขายังขนลุก นี่เกิดอะไรขึ้นกับหลิงฮันกันแน่?

หลิงฮันเค้นเสียงเย็นชาและนำดาบสังหารออกมา มือของเขาสั่นไหวเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นใช้งานอำนาจของดาบสังหารที่ได้ชื่อว่าเป็นดาบอันดับหนึ่งภายใต้สวรรค์ ตอนนี้พลังบ่มเพาะของหลิงฮันกลายเป็นระดับทลายมิติแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้งานอำนาจของดาบเล่มนี้ได้

“ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด!” เซียวเมี่ยวเหยียนคำราม ปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่งปราฏขึ้นด้านหลังของนางและกระพือไปมา กลิ่นอายของนางทรงพลังขึ้นอย่างมาก นางนำดาบสีแดงโลหิตออกมาและโจมตีใส่หลิงฮัน

นางโคจรพลังสายเลือดเพื่อรีดเค้นพลังต่อสู้ออกมาถึงขีดสุด

ตูม!

ดาบสองเล่มเข้าปะทะกันก่อให้เกิดคลื่นแสงที่รุนแรง ปราณดาบที่ปะทะกันทะยานขึ้นสูงเสียดฟ้าจนดวงดาวแหลกสลาย ‘ปัง’ ร่างหนึ่งถูกกระแทกกระเด็นออกมาจากคลื่นแสงและชนเข้ากับภูเขาลูกที่ตั้งอยู่ห่างไกล

‘ครืนนน’ ภูเขาลูกนั้นถล่มลงมาทันทีก่อให้เกิดเสียงสนั่นสั่นไหวไปทั่วปฐพี

กวนหยางจ้องมองและเห็นได้ชัดว่าร่างที่กระเด็นออกไปคือเซียวเมี่ยวเหยียน!

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!

เซียวเมี่ยวเหยียนที่ทรงพลังเช่นนั้นไม่สามารถหยุดดาบของหลิงฮันได้?

ร่างของจักรพรรดิจอมอสูรสั่นสะท้าน นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงของหลิงฮันเมื่อครู่ทำให้พลังต่อสู้ของเขาทะยานขึ้นสูงถึงระดับทลายมิติยี่สิบดาว! พลังต่อสู้ระดับนี้คือจุดสูงสุดของมวลมนุษย์

ต้องหนี!

จักรพรรดิจอมอสูรล้มเลิกแผนการที่เคยคิดเอาไว้และต้องการจะล่าถอย

หลิงฮันยืนนิ่งและจับดาบไว้แน่น เซียวเมี่ยวเหยียนที่พุ่งเข้าปะทะกับเขาซึ่งๆหน้าเช่นนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการแซ่หาความตายรึไงกัน?

ด้วยพรศักดิ์สิทธิ์ของหอคอยทมิฬและอำนาจแห่งจักรภพ พลังต่อสู้ของเขาได้เพิ่มขึ้นเป็นระดับทลายมิติยี่สิบดาว!

ด้วยพลังต่อสู้เช่นนี้แม้เขาจะไม่ใช่ทักษะยุทธใดๆ เขาก็ยังเป็นตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในโลก

แล้วถ้าหากเขาใช้ทักษะอย่างสามดาบเร้นลับกับทักษะผนึกพลิกปฐพี พลังต่อสู้ของเขาจะเป็นเท่าใดกัน?

“คิดจะหนี?” หลิงฮันแสยะยิ้มและใช้ดาบโจมตีใส่จักรพรรดิจอมอสูร

‘ตูม’ ร่างของจักรพรรดิจอมอสูรขาดกระจุยทันทีอย่างไม่อาจต่อต้าน

พลังต่อสู้สิบห้าดาว ต่อหน้าหลิงฮันตอนนี้แล้วจะนับเป็นอันใดได้? เพียงแต่ว่าจักรพรรดิจอมอสูรนั้นไม่มีทางตายง่ายๆ ในขณะที่ร่างของเขาขาดกระจุย หมอกสีดำก็ลอยออกมาและหมุนวนรวมกันในจุดจุดเดียว หมอกสีดำไม่ได้เปลี่ยนรูปร่างเป็นอะไรแต่แค่เข้ามารวมกันเฉยๆ

เขาไม่มีร่างกายที่แท้จริง แต่ตัวตนของเขาคือปราณอสูร

หลิงฮันใช้ดาบโจมตีอีกครั้ง ปราณอสูรถูกผ่าออกเป็นสองส่วนแต่ก็กลับมาผสานรวมกันใหม่อย่างรวดเร็วราวกับว่าไม่มีวันตาย

“ฮ่าๆๆ ราชาผู้นี้คือปราณอสูร สิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะ ถ้าเจ้าคิดจะสังหารราชาผู้นี้มันยังเร็วไปล้านปี!” จักรพรรดิตอมอสูรใช้สัมผัสสวรรค์กล่าว ในเมื่อเขาไม่มีร่างกายแล้วเขาก็ไม่สามารถใช้เสียงพูดตามปกติได้

หลิงฮันเค้นเสียง ร่างของเขาพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วและโคจรแก่นแท้แห่งดาบจู่โจมจักรพรรดิจอมอสูร

“อะไรกัน!” สัมผัสสวรรค์ของจักรพรรดิจอมอสูรส่งเสียงร้องโอดครวญ แก่นแท้แห่งดาบนั้นไม่ใช่แค่สามารถจู่โจมได้แค่วิญญาณ แต่มันยังใช้จัดการสิ่งมีชีวิตจำพวกอสูรได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพอีกด้วย

หลิงฮันใช้ช่วงโอกาสสั้นๆนั้นคว้าปราณอสูรของจักรพรรดิจอมอสูรเอาไว้และนำเข้าไปในหอคอยทมิฬ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด