Alchemy Emperor of the Divine Dao 905

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 905 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถ้าหอคอยน้อยสามารถแสดงสีหน้าออกมาได้ มันคงจะตกตะลึงไปแล้ว

หอคอยน้อยนิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “ลูกหลานของพยัคฆ์ขาวตัวนี้ช่างไร้สมองยิ่งนัก! มันคิดได้อย่างไรว่าตนเองเป็นแมว สมองอันน้อยนิดของมันต้องพังไปแล้วแน่ๆ”

“เจ้าแมวน้อยมานี่มา พี่สาวมีลูกบอลด้วยนะ!” หลี่เหว่ยเหว่ยหยิบลูกบอลไหมพรมจากพื้นขึ้นมาและโยนเล่น

แมวอ้วนไม่อาจต้านทานได้ มันคำรามออกมาอย่างเจ็บใจ ทำไมตัวมันถึงไม่สามารถต้านทานลูกบอลกลมๆนิ่มๆเช่นนี้ได้นะ?

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “เจ้าแมวอ้วน มาเป็นสหายกันเถอะ เจ้าติดใจเนื้อของข้าแล้วไม่ใช่รึ? ถึงแม้ว่าหากเป็นที่นี่เจ้าจะสามารถขโมยมันไปจากข้าได้ แต่ข้าก็สามารถแอบไปกินเองคนเดียวที่อื่นได้เช่นกัน”

ถ้ามันไม่เคยลิ้มรสอาหารจากหอคอยทมิฬมาก่อน แมวอ้วนก็คงจะคิดว่าหลิงฮันกำลังล้อเล่นแน่ๆ คิดจะใช้อาหารมาล่อสัตว์อสูรชั้นสูงเช่นข้างั้นรึ? เจ้าจะดูถูกกันเกินไปแล้ว!

แต่เมื่อพูดถึงอาหารจากหอคอยทมิฬแล้ว ที่มันแอบมาหลบซ่อนๆอยู่ที่นี่ก่อนหลิงฮันมาถึงก็เพราะมันต้องการกินอาหารของหลิงฮันไม่ใช่รึ?

แมวอ้วนอดรู้สึกหดหู่ไม่ได้ ด้วยเกียร์ติของพยัคฆ์ขาวมันย่อมมีนิสัยหยิ่งยโส แต่มันก็ไม่อาจทนต่อการยั่วยุของอาหารที่แสนอร่อยได้เช่นกัน

“หากไม่ใช่สหายกัน ข้าก็ไม่อาจให้อาหารกับเจ้าได้ฟรีๆ” หลิงฮันยิ้ม

“เมี๊ยว!” แมวอ้วนพยักหน้ายอมรับข้อเสนอของหลิงฮัน แค่เป็นยอมสหายด้วย ตัวมันไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว

หลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อตกตะลึง แมวตัวนี้เป็นแมวที่จางเต๋อหมานหวาดกลัวและกล่าวไว้ว่าห้ามไปล่วงเกินเด็ดขาด แต่ตอนนี้แมวที่ว่ากลับยอมเป็นสหายกับหลิงฮัน!

หลิงฮันอาหารออกมาเพิ่ม ไม่ใช่แค่เนื้อย่างแต่ยังมีอาหารอย่างอื่นด้วย

สมุนไพรพันปีนั้น แม้ในโลกใบเล็กมันจะมีมูลค่ามหาศาล แต่หากเป็นบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์มันก็คงไม่ต่างอะไรกับสมุนไพรทั่วไป

เพียงแต่ว่าในด้านของคุณภาพนั้น สมุนไพรที่เก็บเกี่ยวได้จากภายนอกย่อมไม่อาจเทียบกับสมุนไพรของหอคอยทมิฬได้ ดังนั้นถึงแม้หลี่เหว่ยเหว่ยจะเป็นบุตรสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย แต่เมื่อนางเห็นสมุนไพรที่หลิงฮันนำออกมา นางก็อดตกตะลึงไม่ได้

นี่โลกใบเล็กมั่งคั่งขนาดนี้เชียว?

ทุกคนเพลิดเพลินไปกับอาหารมากมาย แมวอ้วนนั้นถึงแม้มันจะเป็นสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่องอาจ แต่เมื่อมันกินอิ่ม มันก็ล้มตัวนอนลงอย่างเกียจคร้าน หลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อต่างก็จบพุงของมันเล่นอย่างสนุกสนาน

ลูกหลานของสัตว์อสูรศักดิ์ศิทธิ์ที่ถูกล่อซื้อได้ด้วยอาหาร… ช่างน่าอับอายยิ่งนัก!

หลิงฮันได้เรียกหนูทองคำออกมาเช่นกัน แต่เขาไม่ให้พวกหลี่เหว่ยเหว่ยพบว่าเขานำมันออกมาจากหอคอยทมิฬแต่เรียกออกมาจากที่พักแทน

เมื่อเห็นหนูทองคำ สัญชาติญาณของแมวอ้วนก็ถูกกระตุ้นในพริบตา มันรีบลุกขึ้นจากพื้นและทำหน้าที่ของแมว… หนูทองคำรีบฟุบลงกับพื้นเพื่อแกล้งตายทันที

หลิงฮันหัวเราะ “หนูนี่คือสัตว์เลี้ยงของข้า อย่าทำให้มันหวาดกลัวนักสิ!”

แมวอ้วนยกอุ้งเท้าขึ้นมาเลีย ในเมื่อสัญญาว่าจะเป็นสหายกันแล้ว มันก็ต้องไว้หน้าหลิงฮันบ้าง

หนูทองคำปันขึ้นไปบนไหล่หลิงฮัน กรงเล็บเล็กๆของมันชี้ไปยังแมวอ้วนและส่งเสียงร้อง ‘จิ๊ด จิ๊ด จิ๊ด’ ราวกับจะฟ้องหลิงฮันว่าเจ้าตัวใหญ่นั่นต้องการจะกินมัน

ทั้งหลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อประหลาดใจ การที่สัตว์อสูรจะมีความคิดที่ฉลาดหลักแหลมนั้นไม่ใช่เรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป แม้ความจริงสัตว์อสูรจะสามารถพูดได้หากบรรลุระดับทลายมิติ แต่พวกมันจะมีความคิดที่ฉลาดได้ก็ต่อเมื่อบรรลุระดับพระเจ้าแล้ว

แถมสัตว์อสูรหนูตัวเล็กเช่นนี้ก็หาได้ยากมากด้วย พวกนางรีบวิ่งไปคว้าหนูท้องคำทันทีจนหนูท้องคำต้องแกล้งทำเป็นตาย มันคิดไปเองว่าสตรีสองคนนี้คิดจะเข้ามาจับมันไปกิน

ในขณะที่กินอาหารหลิงฮันก็ได้ทำข้อตกลงร่วมธุรกิจกับสองสาวโดยสองสาวจะเป็นคนรับหน้าที่หาช่องทางการขายส่วนเขาจะรับหน้าที่จัดหาทรัพยากร รับได้ที่ได้รับนั้นจะถูกแบ่งกันครึ่งต่อครึ่ง หลิงฮันจะได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์และสาวสองจะได้อีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์

หลี่เหว่ยเหว่ยกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก นี่เป็นโอกาสดีที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของนาง

ในสายตาของบิดานาง นางนั้นเป็นคุณหนูที่ดีแต่ผลาญเงิน ดังนั้นหลี่เหว่ยเหว่ยจึงอยากจะทำให้บิดานางเห็นว่านางนั้นไม่ได้เป็นแค่คุณหนูที่เอาแต่พึ่งบารมีของบิดาอย่างเดียว!

จิตใจของนางฮึกเหิมและรีบลากจื่อหยุนเอ๋อไปหาช่องทางขายอย่างรวดเร็ว

เมื่อตกลงกันเสร็จหลิงฮันก็มุ่งหน้าไปยังหอสมุดฝ่ายเหนือ

หอสมุดแห่งนี้มีตำราอยู่นับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทักษะบ่มเพาะ ทักษะยุทธ ทักษะหลอมเม็ดยา ทักษะรูปแบบอาคม แต่สำนักย่อมไม่ให้ใครก็ตามเรียนรู้ฟรีๆ เหล่าศิษย์จะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้แต้มมาและใช้แต้มที่ว่าแลกเปลี่ยนกับทักษะ

แน่นอนว่านั่นมันสำหรับเฉพาะจอมยุทธระดับพระเจ้าขึ้นไปเท่านั้น แต่จอมยุทธระดับทลายมิติสามารถเรียนรู้ทักษะในระดับของตนเองได้ตามใจชอบ

เพราะงั้นหลิงฮันในตอนนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องที่เขาไม่มีแต้มพอ

“แต้มงั้นรึ เรื่องนี้ค่อยคิดทีหลังแล้วกัน” หลิงฮันกล่าวในใจ หากเขาคารวะใครเป็นอาจารย์ เขาก็ต้องใช้แต้มแลกหรือหาวิธีอื่นเพื่อให้ได้ทักษะบ่มเพาะระดับศักดิ์สิทธิ์มาครอง

ทักษะศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถหาได้จากการประมูลโดยจ่ายด้วยผนึกก่อเกิด แต่ทักษะที่จะถูกนำมาประมูลขายได้ย่อมต้องเป็นทักษะที่ล้ำค่า แม้เขาจะเปิดธุรกิจขายอาหารจากหอคอยทมิฬก็เกรงว่าจะไม่สามารถหากำไรเทียบเท่าขุมอำนาจต่างๆของเมืองจักรพรรดิได้

อย่างน้อยก่อนที่ทักษะหลอมเม็ดของเขาจะยกระดับขึ้น เขาก็ต้องหาทางให้ได้แต้มมาเพื่อนำมาแลกทักษะในหอสมุด

เขาไม่อยากคารวะใครเป็นอาจารย์ หลังจากที่เขาได้เป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิต้าหลิง นิสัยของเขาก็เปลี่ยนไป จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความยิ่งยโสไม่ก้มหัวให้ใคร

เขาเดินมาถึงประตูของหอสมุดและพบเห็นชายชรานั่งอยู่บริเวณประตู ผมของเขาเป็นสีขาวยาวปิดหน้าจนไม่อาจมองเห็นใบหน้าของเขาได้ ร่างกายท่อนบนของเขาโอนเอนไปมาราวกับกำลังสัปหงกอยู่

หลิงฮันคิดอะไรชั่วครู่ก่อนจะเดินผ่านชายชราไป

‘พรึบ’ ไม้เท้าถูกยื่นออกมาขวางทางเขาเอาไว้

“เด็กน้อย เจ้าคิดจะขโมยตำรางั้นรึ?” ชายชราเงยหน้าขึ้นมอง

“ข้าย่อมไม่กล้า ข้าแค่ต้องการยืมเท่านั้น” หลิงฮันกล่าว

ชายชราจ้องหลิงฮันเขม็งก่อนจะกล่าว “ใช้นิ้วของสัมผัสแท่นหินเพื่อตรวจสอบว่าเจ้าสามารถขึ้นไปได้กี่ชั้นและตำราเล่มไหนบ้างที่เจ้าสามารถอ่านได้ แผ่นหินนั่นจะบอกเจ้าเอง”

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แจง” หลิงฮันพยักหน้าและมองไปยังแท่นหินด้านหน้า แผ่นหินมีขนาดสูงเท่าครึ่งคนและมีหยกประดับไว้ด้านบน

เขายื่นมือไปสัมผัสและรู้สึกได้ทันทีว่าสติของเขาเกิดอาการมึนงงเล็กน้อยก่อนจะกลับเป็นเปกติ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะจิตวิญญาณของเขามีการรับรู้ที่ไว เขาคงเกิดอาการเช่นนี้

เมื่อเห็นสีหน้าของหลิงฮัน ชายชราก็กล่าวด้วยความแปลกใจ “เจ้าสัมผัสได้ด้วยรึว่าเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของเจ้าถูกดึงออกไป?”

ใบหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนไปทันที จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิต แต่ตอนนี้เศษเสี้ยวของมันกลับถูกดึงออกไปงั้นรึ?

“ไม่ต้องกังวล มันไม่ส่งผลอันใดต่อเจ้าหรอก” ชายชรายิ้มและโบกมือ “เข้าไปข้างในได้!” หลังจากเห็นหลิงฮันเดินเข้าไป ชายชราก็บ่นพึมพำกับตัวเอง “จิตวิญญาณของเจ้าหนูนั่นช่างเฉียบแหลมนัก เขาทำให้ชายชราผู้นี้รู้สึกสนใจและอยากจับตามองเสียแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด