Alchemy Emperor of the Divine Dao 946

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 946 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กระทิงเขาเงินพุ่งจู๋โมอีกครั้ง ‘ครืนน’ มันโคจรความสามารถพิเศษของภูผาวารีไปทั่วบริเวณ ก้อนหินรอบๆถูกพลังของมันบดเป็นผุยผง

จะมีจอมยุทธหรือสัตว์อสูรซักเท่าใดเชียวที่สามารถใช้อำนาจของพื้นที่แรงโน้มถ่วงได้?

เมื่อถูกโจมตีใส่ กายหยาบระดับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ของหลิงฮันก็เกิดเสียงเล็กน้อย

หลิงฮันใช้โอกาสนั้นโคจรทักษะจิตเจ็ดสังหารโต้ตอบ กระทิงเขาเงินตกอยู่ในสภาพสภาพไร้สติอีกครั้ง พื้นที่แรงโน้มถ่วงรอบๆก็สลายหายไปทันที

สุ่ยเยี่ยนยวี่ใช้โอกาสนี้แทงดาบเข้าที่บาดแผลเดิมของกระทิงเขาเงิน

บาดแผลของกระทิงเขาเงินฉีกขาดมากกว่าเดิมจนส่งเสียงร้องโอดครวญ ขาทั้งสี่ของมันกระทืบพื้นไปมาจนสั่นสะเทือน

“อีกครั้ง!”

หลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ร่วมมือกันทำเช่นเดิมซ้ำๆ หลังจากผ่านไปสิบครั้ง ในที่สุดกระทิงเขาเงินก็ตกตาย

โชคดีที่สัตว์อสูรตัวนี้มีสติปัญหาไม่สูงนัก ไม่เช่นนั้นหลังจากถูกโจมตีรูปแบบเดิมๆหลายต่อหลายครั้งมันคงเลือกที่จะเผ่นหนีแล้ว ด้วยร่างกายที่ทนทารและความเร็วของมัน โอกาสที่มันจะหนีพ้นนั้นมีมากทีเดียว

สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่อยากชะเชื่อสายตา สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเช่นนั้นตกตายด้วยมือของนางจริงๆรึ?

“เจ้าใช้วิธีใดในการหยุดการเคลื่อนไหวของกระทิงเขาเงิน?” สุ่ยเยี่ยนยวี่ถามด้วยความสงสัย

“ฮ่าๆๆ” หลิงฮันหัวเราะ ตอนนี้เขายังไม่คิดจะเผยไพ่ลับใบนี้ให้ใครรู้

สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่แสดงท่าทีไม่พอใจใดๆ นางกับหลิงฮันแค่แกล้งเป็นคนรักกัน เช่นนั้นแล้วนางมีสิทธิ์อะไรที่จะฝืนบังคับให้หลิงฮันบอกความลับกับนาง?

ถ้าหากหลิงฮันไม่ต้องการเก็บความลับของหอคอยทมิฬเอาไว้ล่ะก็ เขาคงจะทำให้กระทิงเขาเงินหมดสติและนำมันเข้าไปสังหารในหอคอยทมิฬอย่างง่ายดายแล้ว

สุ่ยเยี่ยนยวี่ใช้ดาบยาวในการแร่หนังแร่เนื้อของกระทิงเขาเงิน นางใช้เวลาสักพักจนในที่สุดก็นำก้อนเนื้อขนาดเท่านิ้วก้อยออกมาได้

เนื้อชิ้นนี้แตกต่างจากเนื้อส่วนอื่น ชิ้นเนื้อมีสีขาวนวลและมีกลิ่นหอมในตัวมันเอง

เนื้อพลังปราณ

มันคือส่วนที่ล้ำค่าที่สุดของสัตว์อสูรที่สามารถช่วยเหลือจอมยุทธในการบ่มเพาะพลังได้อย่างดีเยี่ยม

สุ่ยเยี่ยนยวี่ชำแหละกระทิงเขาเงินอีกครั้ง นางไม่ได้ต้องการเนื้อส่วนอื่นแต่นางต้องการเขาสีเงินของมัน

“ข้าได้ยินมาว่าเขาของกระทิงเขาเงินเมื่อบดเป็นผงแล้วสามารถนำไปใช้เป็นยาปลุกนกเขาได้ หรือเจ้าจะให้มันกับข้า?” หลิงฮันพูดแทรก

‘ตูม’ สุ่ยเยี่ยนยวี่ระเบิดอารมณ์โกรธออกมาและเริ่มไล่สังหารหลิงฮันด้วยดาบทันที

หลิงฮันใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะทำให้นางสงบลง ทั้งสองมองหาบริเวณรอบๆอย่างละเอียดแล้วแต่ก็ไม่พบผลึกภูผาวารีเลย

“จะว่าไป แล้วผลึกภูผาวารีมันมีหน้าตาแบบไหนกัน?” หลิงฮันถาม

“ตัวผลึกจะส่องสว่างเล็กน้อย เมื่อเห็นก็จะรู้ทันที” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าว

พวกเขาไม่กินเนื้อพลังปราณทันทีแต่เก็บเอาไว้ก่อน การจะดูดซับพลังงานจากเนื้อชนิดนี้ค่อนข้างใช้เวลา แต่พวกเขาสามารถอาศัยอยู่ในเขตแดนลี้ลับได้ในเวลาจำกัด ดังนั้นเขาจึงต้องรีบตามหาผลึกภูผาวารีก่อนเป็นอันดับแรก

แน่นอนว่าแร่โลหะระดับศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเป้าหมายของพวกเขาเช่นกัน

ถ้าหลิงฮันมาคนเดียวเขาคงหลงทางโดยไม่รู้จะมุ่งหน้าไปทิศไหน แต่ตอนนี้เขาอยู่กับสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่มีแผนที่ที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น

ด้วยแผนที่ที่ละเอียดเช่นนี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าจะหลงทาง

ระหว่างการเดินทาง พวกเขาทั้งสองสังหารสัตว์อสูรไปมากมายและเก็บเกี่ยวเนื้อพลังปราณได้ในจำนวนที่น่าพอใจ สุ่ยเยี่ยนยวี่มีความสุขอย่างมาก นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากเช่นนี้

แต่ก็โชคร้ายที่จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่พบผลึกภูผาวารีเลย

แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ได้ไร้เทียมทานที่สุด เมื่อพบเจอกับสัตวอสูรระดับภูผาวารีขั้นกลาง พวกเขาทำได้เพียงหลบหนีเนื่องจากทักษะจิตเจ็ดสังหารของหลิงฮันแทบจะใช้กับสัตว์อสูรระดับนั้นไม่ได้ผล

ผ่านไปสามวันหุบเขาแห่งหนึ่งก็ปรากฏด้านหน้าพวกเขา

หุบเขานี่คือทางผ่านไปสู่ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ มันคือสถานที่ที่จะสามารถพบเจอผลึกภูผาวารีได้อย่างแน่นอน

“ที่ข้ารู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดในหุบเขาแห่งนี้คืออสูรพงไพร โดยปกติแล้วมันจะไม่ขยับเคลื่อไหวทำให้แยกแยะพวกมันไม่ออก แต่เมื่อมีเหยื่อเดินผ่านมามันจะใช้กิ่งก้านของพวกเขาเข้ารัดตัวเหยื่อทันที พลังของมันคือระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุด การจะหนีจากการรัดหน่วงของพวกมันนั้นทำได้ยากมาก” สุ่ยเยี่ยนยวี่เอ่ยเตือน

“ตระกูลสุ่ยเองก็เป็นตระกูลระดับต้นๆ พวกเขาน่าจะเตรียมอะไรมาให้เจ้าบ้างสินะ?” หลิงฮันถาม

สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้า “ระเบิดเพลิงสามารถคุกคามอสูรพงไพรได้ แต่ข้ามีแค่สามอันเท่านั้น”

“พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวอะไรจากอสูรพงไพรได้บ้าง?” หลิงฮันถามด้วยท่าทีตื่นเต้น

สุ่ยเยี่ยนยวี่ส่ายหน้า “อสูรพงไพรไม่มีเนื้อพลังปราณ แม้ลำต้นของมันจะแข็งกล้าและสามารถนำมาสร้างเป็นอาวุธได้ แต่มันก็มีจุดอ่อนที่ร้ายแรงคือไม่ทนทานต่อเปลวเพลิง”

“งั้นรึ” หลิงฮันหมดความสนใจ

ทั้งสองคนเดินเข้าไปในหุบเขา บรรยากาศภายในหุบเขาทั้งเงียบสงบและน่ากลัว มันไม่มีกลิ่นของแมลงใดๆราวกับว่าเป็นหุบเขาแห่งความตาย

ต้นไม้ในหุบเขาไม่สูงมาก ต้นที่สูงที่สุดมีขนาดยาวสิบฟุตเท่านั้น ที่ด้านล่างของต้นไม้นั้นประดับไปด้วยเถาวัลย์ที่ห่อหุ้มไปด้วยหนามสีดำ

ทั้งสองคนตัดเถาวัลย์เพื่อเปิดทางเดิน แต่เมื่อผ่านไปสักพักที่ด้านหลังของพวกเขาก็มีการเคลื่อนไหวของอะไรสักอย่าง เมื่อหันกลับไปดูก็พบว่ามีใครบางคนกำลังมุ่งหน้ามายังตำแหน่งของพวกเขา

“จำนวนคนของพวกเขาเยอะกว่า ถ้าหากพวกเขามาร่วมมือกับเราบางทีอาจจะสามารถเดินทางได้เร็วขึ้น” หลิงฮันกล่าว

“ระวังตัวด้วย จิตใจของคนเราเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยั่งถึง” สุ่ยเยี่ยนยวี่เตือน

หลิงฮันพยักหน้า “หากใครไม่มาล่วงเกินข้า ข้าก็จะไม่ทำอะไร แต่ถ้าพวกเขาล่วงเกินข้า ข้าก็จะทำให้พวกเขารู้สึกเสียใจ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด