Alchemy Emperor of the Divine Dao 954

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 954 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ใบหน้าของทั้งหกคนตกตะลึง

พวกเขาหวาดกลัวอย่างมาก เจ้าหนูนี่เพิ่งจะทะลวงผ่านระดับภูผาวารีแท้!

นี่มันอัจฉริยะสี่ดาวหรืออาจจะห้าดาว?

หลิงฮันยิ้มอย่างพึงพอใจ ตอนนี้เขามีพลังต่อสู้เท่ากับอัจฉริยะสี่ดาว แต่ถ้าหากเขาใช้เนตรแห่งสัจธรรม สามดาบเร้นลับและทักษะศักดิ์สิทธิ์อื่นๆล่ะ?

“เข้ามาๆ มาให้ข้าสนุกเพิ่มอีกหน่อยสิ!” เขาตื่นเต้นและอดใจรอที่จะทดสอบพลังของตนเองไม่ไหวแล้ว

“เกรงว่าเจ้าจะไม่ได้สนุกอย่างที่หวัง!” ทั้งหกคนคำราม ฉื่อหาวที่ได้รับบาดเจ็บนำเม็ดยาออกมากินเพื่อฟื้นฟูกระดูกที่แตกหัก แม้จะไม่สามารถฟื้นฟูได้สมบูรณ์แต่เขาก็ยังพอสู้ต่อได้ในช่วงระยะสั้นๆ

พวกเขานำอาวุธออกมา อาวุธของพวกเขาแต่ละคนไม่ใช่ดาบก็เป็นกระบี่ที่รู้เรียบง่าย

หลิงฮันหัวเราะและเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน กายหยาบของเขาในตอนนี้คือแร่โลหะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง ในเขตแดนลี้ลับนี้ใครจะสามารถคุกคามเขาได้?

ทั้งหกคนไม่กล้าปะทะกับหลิงฮันตรงๆ พวกเขากระโดดหลบไปด้านข้างก่อนจะลงมือตอบโต้

กระบี่และดาบในมือของพวกเขาถูกกวัดแกว่งพร้อมกับมีอักขระศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายออกมา

อาวุธเหล่านี้ไม่ใช่แค่หลอมขึ้นจากแร่โลหะระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังสลักอักขระศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ด้วย

อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์!

หลิงฮันพยักหน้าในใจ ถึงแม้เขาจะมีกายหยาบที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่กล้าประมาท

เขาลองนำชามพลิกสวรรค์ออกมาเพื่อลองดูว่าเขาจะดูดกลืนอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นได้หรือไม่

‘พรึบ’ รูปแบบอักขระศักดิ์สิทธิ์บนชามพลิกสวรรค์ส่องสว่าง มันลอยขึ้นเพื่อปะทะกับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ชิ้นอื่น

พวกมันมีพลังอำนาจเท่ากัน!

หลิงฮันถอนหายใจ ดูเหมือนว่าประโยชน์ของชามพลิกสวรรค์จะมาได้แค่นี้ การที่มันไม่สามารถดูดกลืนอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่งของทั้งหกคนได้ก็หมายถึงมันมีระดับเท่ากัน

บนโลกใบเล็ก ชามพลิกสวรรค์กับขวดต้องสาปทำประโยชน์ให้เขาอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าพวกมันเป็นเพียงอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งซึ่งจัดอยู่ในระดับล่างสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

4

หลิงฮันลองคิดคำนวณพลังต่อสู้ของตนเอง

ถ้าหากไม่ใช้ทักษะยุทธใดๆและพึ่งเพียงพลังของเขาเพียวๆ พลังต่อสู้ของเขาจะเป็นสี่ดาว แต่ถึงแม้เขาจะโคจรทักษะอัสนีบาตเก้าทิวาหรือสามดาบเร้นลับ พลังของเขาก็ยังคงเป็นสี่ดาวอย่ดี ไม่สามารถบรรลุห้าดาว

มีเพียงการใช้ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์หลายๆทักษะพร้อมกับเท่านั้นพลังต่อสู้ของเขาถึงจะเป็นห้าดาว

เขาเข้าใจแล้วว่าการสู้ข้ามระดับเมื่อบรรลุระดับพระเจ้าแล้วมันยากเย็นขนาดไหน หลิงฮันคือว่าโชคดีมากที่ขัดเกลาพลังต่อสู้ระดับทลายมิติจนถึงยี่สิบดาวได้ ดังนั้นพลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้จึงเป็นสี่ดาว

“ข้ายังไม่ได้ลองใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราอันใหม่เลย” หลิงฮันกล่าวในใจ แต่เขาก็ไม่คิดจะใช้ทักษะนี้ออกไปตอนนี้เนื่องจากการยิงทักษะนี้ออกไปจะสิ้นเปลืองพลังในร่างขอเขาจนเกือบหมด หากใช้ออกไปก็คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าพลังของเขาจะฟื้นกลับมา

นอกจากนั้นพลังของทั้งหกคนก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร พวกเขาไม่ควรค่าที่เขาจะใช้ทักษะที่ทรงพลังขนาดนั้น

“ข้าเบื่อจะเสียเวลากับพวกเจ้าแล้ว!” หลิงฮันออกแรงโจมตีมากขึ้นและลงมือสังหารศัตรูจนเหลือเพียงสองคนในพริบตา

สองคนที่เหลือจ้องมองหน้ากัน พวกเขามองเห็นความหวาดกลัวอันล้นพ้นจากใบหต้าของแต่ละฝ่าย พวกเขารีบขยับเท้าเผ่นหนีกันไปคนละทางทันที

“ฮึ่ม!” หลิงฮันใช้งานทักษะจิตเจ็ดสังหารใส่จอมยุทธที่หนีไปทางซ้าย เมื่ออีกฝ่ายชะงักเขาก็ใช้ทักษะผนึกพลิกปฐพีโมตีใส่ศีรษะอีกฝ่ายจนตกตาย

แต่ในขณะเดียวกันคนที่หนีไปฝั่งขวาก็เคลื่อนที่ไปไกลกว่าร้อยฟุตแล้ว

หลิงฮันนำคันศรและลูกศรออกมาพร้อมกับยิงทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราออกไป

เขาไม่ได้ใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราอันใหม่ แต่แค่ทักษะศรอันนี้ก็ทรงพลังมากพอแล้ว

‘ฉัวะ’ ลูกศรแทงทะลวงผ่านหัวใจของชายคนนั้น

ชายคนนั้นหันหน้ากลับมาราวกับต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หน้าอกของเขาก็ระเบิดออกและตกตายไปเสียก่อน

หลิงฮันเดินไปยังตำแหน่งของขายคนนั้นและเก็บลูกศรกลับมา ลูกศรดอกนี้เขาได้มาจากนักฆ่าของสมาคมราตรีนิรันดร์ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สังเกตมาก่อน แต่ลูกศรดอกนี้ก็สลักรูปแบบอักขระศักดิ์สิทธิ์เอาไว้เช่นกัน

เขาเก็บอุปกรณ์มิติของทั้งหกคนมาแบบไม่ตกหล่น รวมๆแล้วอุปกรณ์มิติของพวกเขามีผลึกก่อเกิดอยู่หนึ่งร้อยก้อน นี่เป็นเพียงผลประโยชน์เล็กน้อยเท่านั้น ที่ทำให้หลิงฮันตื่นเต้นคือยังมีเนื้อพลังปราณสามชิ้นและผลึกภูผาวารีสองก้อน!

“ไม่น่าแปลกใจทำไมผู้คนถึงชอบการฆ่าเพื่อช่วงชิงสมบัติของผู้อื่น”

“แต่ว่าหากคิดจะสังหารคนอื่น คนอื่นก็มีสิทธิ์ที่จะสังหารกลับเช่นกัน”

“แม้ข้าจะไม่ลงมือปล้นชิงคนอื่นก่อน แต่ถ้าพวกเขามีความคิดเช่นนั้นกับข้าล่ะก็… เหอๆ”

นอกจากของที่ว่าเขาก็ยังเก็บอาวุธของคนทั้งหกมาด้วย แต่เขาไม่กล้าใช้มันที่นี่ หากเขาทำเช่นนั้นก็เหมือนเป็นการประกาศว่าเขานั่นเองก็เป็นคนสังหารคนทั้งหก

“ไว้เมื่อกลับจักรวรรดิข้าค่อยนำออกมาใช้แล้วกัน”

หลิงฮันเริ่มตรวจสอบทิศทางที่เขาควรจะมุ่งหน้าไป ในเขตแดนลี้ลับนี้ไม่มีทั้งพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ทำให้ไม่สามารถดูทิศเหนือหรือใต้ได้

แต่ก่อนหน้านี้เขาได้จดจำแผนที่ของสุ่ยเยี่ยนยวี่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเปรียบเทียบภูมิประเทศของพื้นที่รอบๆกับแผนที่ที่จำมา เขาก็มุ่งหน้าไปยังทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์

“ฮือออ” ขณะที่เขาออกเดินทางได้ไม่นานเขาก็ได้ยินร้องไห้ดังมาจากดงป่าด้านข้าง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด